ฉันเป็นดั่งนกไร้ขา บินไปบินมาไร้จุดหมาย โอกาสลงดินนั้นไซร้ ต่อเมื่อความตายมาเยือน
Group Blog
 
 
มกราคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
30 มกราคม 2550
 
All Blogs
 
*****โลกของเรา"กว้างยาว"ไม่เท่ากัน*****(ตอนที่1)

ไม่ได้อัพบลอกมานาน...น้าน...นาน


นานจนถ้ามันส่งกลิ่นได้ บล็อกนี้ก็คงมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวหรือกลิ่นตุๆ ออกมาแล้วล่ะ


ยิ่งเมื่อคิดถึงเป้าหมายแรกที่เคยตั้งไว้ว่า จะอัพบลอกให้ได้อย่างน้อย 2 วันครั้งก็ยิ่งก่อให้เกิดความละอายใจต่อตัวข้าพเจ้าเป็นยิ่งนัก


พ้นจากความละอายใจ สุดท้ายก็มานั่งคิดหาคำแก้ตัวให้ตัวเองเสร็จสรรพ ตามภาษาคนดีชอบแก้ไขแล้ว คนอะไรชอบแก้ตัวแล้วได้ความว่า


ช่วงนี้ชีวิตผมมันช่างยุ่งวุ่นวาย เต็มไปด้วยความไม่สบายใจจนไม่รู้จะเอาอะไรมาเขียนดี


เอ๊ะหรือพอไม่ได้เขียนเรื่องเกี่ยวกับความรักแล้วมันเขียนไม่ออกก็ไม่รู้นะ (ฮา)


ที่ยุ่งวุ่นวายไม่ใช่อะไร พอดีช่วงนี้เพิ่งย้ายงานใหม่ครับ


จากที่เคยทำงานในรพ.ชนบท เป็นไอ้หนุ่มลูกทุ่ง
ตอนนี้ผมได้ขยับขยายย้ายมาอยู่ในกทม.กลายเป็นลูกจ้างร้านขายยาในห้างสรรพสินค้าสุดหรูเรียบร้อยแล้ว


ไม่ได้เปลี่ยนแค่งานเท่านั้น มันยังมีปฏิกิริยาลูกโซ่ตามมาอีกเยอะ ทั้ง เปลี่ยนหอ ต้องย้ายของ เปลี่ยนสังคม เปลี่ยนลักษณะงาน เปลี่ยนเพื่อนร่วมงาน เปลี่ยนเพื่อนร่วมก๊วน เปลี่ยนเพื่อนร่วมสังคม โอ๊ย เยอะแยะ


คนที่เคยเปลี่ยนงานมาก่อนคงนึกออกว่ามันยุ่งยากยุ่งเหยิงเพียงใด


ลำพังแค่เปลี่ยนอย่างที่เขียนข้างบนก็แย่แล้ว ที่ร้ายยิ่งกว่าคือ มีอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนการมองโลกของผมต้องเปลี่ยนแปลงไป 360 องศา ลบล้างสิ่งที่ผมเชื่อไปเกือบหมด

ด้วยความสนใจส่วนตัว ผมเป็นคนค่อนข้าง "ซ้าย" คือ ชอบอะไรที่มันออกแนวสังคมอยู่แล้ว ความฝันอย่างหนึ่งในชีวิตคือ อยากเห็นคนทั้งโลกเท่าเทียมกัน เชื่อว่าคนเรามีเจตจำนงเสรี และชอบดูหนัง อ่านหนังสือฟังเพลงที่สะท้อนสังคมเป็นพิเศษ


เอาง่ายๆ ถ้าต้องเลือกระหว่าง คนที่ประสบความสำเร็จ ไล่ตามความฝันตัวเองจนสำเร็จ กับคนตัวเล็กที่อุทิศชีวิตเพื่อพัฒนาสังคมแล้ว


แม้ทั้งคู่จะน่ายกย่องพอกันแต่ผมก็ปลื้มคนที่สองมากกว่าคนแบบแรกอยู่


อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าผมเกิดเร็วกว่านี้ 30 ปี และเป็นคนที่มีอุดมการณ์กว่านี้ แข้มแข็งกว่านี้ ขยันกว่านี้คงได้จับปืนเข้าป่าไปแล้วมั้ง


ระบบการสอนในมหาวิทยาลัยก็เป็นการสอนแบบทฤษฏีจ๋า โลกอุดมคติเลย คือ คุณต้องดูแลคนไข้อย่างดี จ่ายยาดีที่สุดโดยที่ให้คนไข้เสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด พอได้ไปใช้ทุนที่รพ.ชนบทยิ่งแล้วใหญ่


ใครที่มีนิสัยหลงแสงสี ชอบในวัตถุ ไม่ชอบยุ่งกับใคร หรือชอบเอาเปรียบผู้อื่น อย่างที่ผมเป็นเมื่อก่อน (แต่ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่) พอไปอยู่รพ.ชนบท รับรองนิสัยเหล่านั้นของคุณจะเบาบางลงไปทันที
เพราะต่อให้หลงแสงสีขนาดไหน ไปอยู่โน่นไฟตะเกียงสักดวงก็ไม่มีให้เห็น ห้างไกไม่มีให้ซื้อของ อยากเอาเปรียบใครก็ไม่มีใครที่มี "เปรียบ" มากมายจนให้เราเอาเปรียบจากเขาได้บางคน 30 บาทยังไม่มีให้เลยครับ


ทำงานก็อย่างที่รู้ๆ คือ จ่ายยาทีต้องคิดแล้วคิดอีก จ่ายยาให้น้อยที่สุดและถูกที่สุดที่ทำให้คนไข้หายได้ ไม่จ่ายยาแพงถ้าไม่จำเป็น - ยกเว้นถ้าเบิกได้ก็จ่ายให้เยอะๆ เข้าไว้ ที่รัฐบาลเก่าบอกไว้ว่า ได้ยาเท่าเทียมกันนั้น ผมขอชูจั๊กแร้ไม่เห็นด้วยคนนึงล่ะ


แถมอยู่ที่นั่นคนก็นิสัยง่ายๆ มีความเป็นครอบครัวสูง บางอาทิตย์ผมแทบไม่ต้องซื้อข้าวกินเลยเพราะข้างบ้านชวนตลอด ฮ่าๆๆ


อยู่ที่นั่นก็ได้เป็นใหญ่เป็นโต มีอำนาจค่อนข้างเยอะ รพ.เขาก็มีโครงการดูแลผู้ป่วยตามบ้าน ต้องไปหาเขา แนะนำการดูแลร่างกาย


แต่พอได้ย้ายมาทำงานที่ร้านยาในกทม.ในห้างสุดหรูแห่งหนึ่ง เป็นอีกเรื่องนึงไปเลยครับ...


ตอนมาใหม่ๆ ผมก็กระมิดกระเมี้ยนจ่ายยาเม็ดละ 2-3 บาทอยู่ จนพี่หัวหน้าเขาเรียกไปว่า น้อง ลูกค้าที่นี่รวยทุกคนแหละ เขายิ่งชอบซะอีก ที่เขามาหาเรานี่เขาต้องการยาดีๆ แพงๆ ที่กินแล้วหายเลย อยากมาซื้อกับผู้รู้โดยตรง ไช่ไปซื้อยากับอาม่าที่ไหนก็ไม่รู้


แถมเผลอๆ ถ้าให้เขาเลือกระหว่างยาถูกกับยาแพง เขาก็เลือกยาแพงนั่นแหละ


หลังๆ ผมเริ่มปรับตัว จ่ายยาเม็ดละ 40 บาทให้ลูกค้า แทนที่จะเป็นเม็ดละ 5 บาท


ผมสังเกตว่าลูกค้าก็ไม่สะดุ้งสะเทือน แถมบางคนยังซื้อ วิตามินเม็ดละ 70 บาท (ย้ำว่าเม็ดละ!) กลับไปเคี้ยวเล่นอีกด้วย


ซึ่งก็ดีต่อผลกำไรของร้านดี แต่มันกลับทำให้ผมกลับไปนั่งคิดถึงเรื่องนี้อยู่หลายวัน


ถ้าเป็นสมัยก่อนผมคงจะโยนบาปให้เป็นเรื่องของความดีปะทะความชั่ว


แต่หลังจากผ่านอะไรมาเยอะพอสมควร ผมเริ่มมองกลับกัน ผมว่ามันไม่มีอะไรดีจัดหรือแย่จัดหรอก


มันอยู่ที่การมองโลกที่แตกต่างกันต่างหาก


ผมไม่เคยมองว่า คนในเมืองที่คลั่งวัตถุ ซื้อแต่ของแพงๆ ไม่สนใจสังคม นั้นเป็นคนไม่ดี ตราบใดที่เขาไม่ไปทำความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน


และคนชนบทนั้นก็ใช่ว่าจะเป็นคนดีทุกคนซะที่ไหน


คนที่เป็นทุนนิยมใช่ว่าจะเลวเสมอไปและคนที่เป็นคอมมิวนิสต์ใช่ว่าจะเป็นคนรักในเพื่อนมนุษย์ทุกคน


ร้านเอกชนที่ขายอาหารเสริม เขาก็มีความคิดของเขาว่า กินดีกว่าไม่กิน และตัวคนซื้อก็มีความคิดว่า ก็ฉันมีจ่าย


ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนมิใช่หรือ


ชีวิตจริงไม่ใช่เรื่องโรแมนส์ ความดีชนะความชั่วเสมอไป


และการที่เป็นอย่างนี้ อาจเกิดจากความคิดของผมนั้นสวนกระแสกับสังคมอย่างมาก


บางทีการที่เราเห็นทางซ้ายดี เราเหมาะกับทางนั้น แต่คนอื่นบอกตรงกันว่า ไปทางขวาดีกว่า แม้จะแน่วแน่แค่ไหน ก็ต้องมีลังเลใจกันบ้าง


สิ่งที่น่าเจ็บปวดคือ เราจะยืนหยัดเป็นตัวเองในสังคมที่แปรปรวนได้หรือไม่


เราจะยังอยู่เป็นคนช้าๆ อยู่เฉยๆ ในสังคมที่รวดเร็วได้หรือไม่


เราจะเป็นคนดีในสังคมที่ไม่ดีได้หรือไม่


บางทีการตกอยู่ในสภาพนี้ก็น่าเจ็บปวดจริงๆ


เวลาคุณไปซื้อยาตามร้านใหญ่ๆ คุณชอบ-ไม่ชอบอะไรในร้านขายยา และระหว่างยาดี-แพง แต่ยาพอรักษาได้แต่ถุก คุณจะเลือกอะไร


ระหว่างอุดมการณ์กับความอยู่รอด คุณจะเลือกอะไร


รบกวนบอกผมทีได้ไหมครับ อยากทราบความคิดเห็นของทุกคน


แล้วผมจะมาเขียนเรื่องเกี่ยวกับการทำงานของผมตอนที่สองให้อ่านในอีก 3-4 วันครับ


ขอบคุณมากครับ





Create Date : 30 มกราคม 2550
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2550 22:42:25 น. 28 comments
Counter : 437 Pageviews.

 
มาทักทาย และพอดีถือสเปย์มาดับกลิ่นให้ด้วย


โดย: saengjan วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:2:24:05 น.  

 
ของอิชั้นกลับแปลกกว่า..เวลาสบายใจ ไม่ค่อยจะมีอะไรให้อัพ แต่พอมีเรื่องวุ่นวายขึ้นมาทีไร..อัพบล้อกกระจายซะงั้น..


โดย: i'm not superman วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:8:39:46 น.  

 
.. มาฟังคนบ่นค่ะ


โดย: printcess of the moon วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:11:39:41 น.  

 
ลป. บีจีนี้สวยสบายตาดีจังค่ะ


โดย: printcess of the moon วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:11:40:18 น.  

 
สวัสดีค่ะ มาเยี่ยมเยียนค่ะ
ทานข้าวหรือยังค่ะ
สบายดี นะค่ะ
(@^_^@)


โดย: STAR ALONE (STAR ALONE ) วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:12:06:41 น.  

 
หวัดดีจ้า ..


โดย: แมงป่องไร้พิษ วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:12:36:32 น.  

 
ย้ายงานแบบเปลี่ยนถิ่นเลยจะยิ่งวุ่นวายกว่าย้ายงานธรรมดานะคะ

แต่ขอให้สนุกกับงานใหม่นะคะ


โดย: หัวใจสีชมพู วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:13:55:55 น.  

 
มีความสุขกับการทำงานที่ใหม่น่ะ


โดย: Link_conner55 (Link_conner55 ) วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:14:52:40 น.  

 
หยุดเล่าตอนสำคัญซะด้วย


โดย: เจ้าชายไร้เงา วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:16:05:02 น.  

 
อะไรหรือ...

คืนนี้ต้องมาติดตามอ่านซะแร้ววว


โดย: ทาสบอย วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:16:54:39 น.  

 
เกือบเป็นนกไร้ขาจริง ๆ ซะแล้ว

ทำงานที่ร้านขายยา ก็อย่าลืมดูแลสุขภาพนะคะ....คุณพ่อนกไร้ขา


โดย: อนันตลัย วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:22:15:04 น.  

 
แวะมาดู...แต่ยังไม่ได้อ่านนะ
เอาไว้วันหลังคับ...เดี๋ยวตามมาอ่าน


โดย: room-mate IP: 58.8.83.66 วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:0:05:21 น.  

 
ถ้ามีโอกาส ...ซักวันจะกลับไปอีก
แม้ว่า ถ้ากลับไปแล้ว บรรยากาศ ความรู้สึกจะไม่เหมือนเดิมแล้ว แต่สิ่งที่มันยังอยู่เสมอก็คือ มิตรภาพ ความอบอุ่น ความใจดี และริมฝั่งโขง


โดย: mapp IP: 203.157.185.2 วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:9:38:27 น.  

 
เข้ามาแว้ววว...

ตามคำเรียกร้อง...

แล้วจาติดตามผลงานต่อไปนะ


โดย: ทายาทอสูร IP: 61.90.246.19 วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:13:02:25 น.  

 
เราขอเลือกในอุดมคติของนาย

ในเรื่องการจ่ายยาที่มีคุณค่า

สามารถรักษาให้หายเร็ว ๆ

และประหยัดมากกว่าที่จะ

รักษาฐานะทางการเงินให้ตัวเองดูดีในสังคม


โดย: อนันตลัย วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:21:40:32 น.  

 
เฮ้!!!!..หวัดดีเจ้านกไม่มีขา(พิการนั่นเอง)


โดย: ขล้า...เอง IP: 124.157.184.176 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:17:43:15 น.  

 
คนเรา"ไม่"เท่าเทียมกันตั้งแต่อยู่ในท้องแม่แล้ว...อันนี้แค่จุดเริ่มต้นนะ
แล้วยังต้องมีชีวิตอีกตั้งไกล(หรือเปล่า)...เลยไม่รู้ว่ามันจะสิ้นสุดที่ไหน....
ขนาดตายแล้วงานศพยังต่างกันเลย
แต่ความตายคงเป็นคำตอบสุดท้าย
ย้ายเข้ามาอยู่ในกรุง แบบนี้ก็ดูหนังเปรมเลยล่ะซิ
ปล.รูปใน Profile ใช่ที่ภูกระดึงหรือเปล่า


โดย: ~pie~doki_doki IP: 203.188.13.55 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:20:12:10 น.  

 
โอ๊ะ มาอ่านเอนทรีนี้ถึงได้รู้ว่าเราทำงานสายงานใกล้ชิดกันค่ะ อ่านแล้วเข้าใจเป็นอย่างดี เราเป็นคนกทม.ที่ไปทำงานอยู่ร.พ.ชนบทถึง7ปี จนย้ายสำเนาทะเบียนบ้านและเด็จพ่อเด็จแม่ไปอยู่ที่โน่นกันหมดเลย แต่ด่วยความเบื่อรถอีแต๋นและทุ่งนา ตอนนี้เราเลยลงมาอยู่กทม.ชั่วคราวค่ะ (แต่ก็คิดจะไปใช้ชีวิตที่เหลือที่ชนบทค่ะ) มาอยู่กทม.ก็ทรมานไปอีกแบบ ตอนแรกมาอยู่เอกชนใหม่ๆก็ช่วยคนไข้ประหยัดเต็มที่ค่ะ อธิบายซะยืดยาวว่าของดีไม่จำเป็นต้องแพง ทำงานเสร็จกลับมาเสียงแหบทุกวัน
1ปีผ่านไป เริ่มชินระบบเอกชนกทม.ละ บริการสุขภาพก็เหมือนบริการในห้างสรรพสินค้าประเภทหนึ่ง อยากได้อะไร เดี๋ยวจัดให้ค่ะ
เฮ้อ


โดย: walk in dream (walkin ) วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:23:28:42 น.  

 
หากอุดมการณ์ของคุณมีความยืดหยุ่นได้
เราก็สามารถอยู่รอดได้ไปพร้อม ๆ กัน
แต่ต้องไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนด้วยนะ
ส่วนวิธีในการยืดหยุ่นอุดมการณ์ของคุณ
คุณคงทราบดีที่สุด (เพราะคุณได้เจอะเจอกับสถานการณ์อยู่เป็นประจำที่ร้าน)

สู้....สู้....นะ


โดย: อนันตลัย วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:22:04:23 น.  

 
ไม่ว่าอุดมการณ์หรือความอยู่รอด
มันคือความพอใจในการเลือกวิถีชีวิตของตัวเอง ถ้าไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนก็ดีไป แต่ถ้าบังเอิญทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนก็โดนด่าน่ะซิครับ
(หรือมากกว่านั้นแล้วแต่วีรกรรมที่สร้างไว้) แต่อย่างน้อยต้องยืนหยัดในความคิดครับ มันเป็นธรรมดาที่คนเรามองโลกต่างกัน............งุงิ งุงิ


โดย: ~pie~doki_doki IP: 203.188.39.44 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:0:28:35 น.  

 
คุณ saengjan
- ยังไม่เน่าครับ

คุณ I'm not Superman
- ความจริงผมก็เหมือนคุณครับ แต่คราวนี้ไม่รู้เป็นไร อาจจะเยอะจนไม่รู้จะเขียนอะไรก็ได้

คุณ printcess
- ขอบคุณครับ ถ้าไม่ได้คุณช่วยล่ะแย่เลย

คุณ STAR ALONE
- ขยันมาเยี่ยมบล็อกคนอื่นดีนะครับ นับถือๆๆ

คุณแมงป่องไร้พิษ
- เช่นกันจ้า

คุณหัวใจสีชมพู
- สนุกมากจนแทบหัวใจวายเลยครับ ช่วงนี้

คุณ Link_conner55
- ครับ

คุณเจ้าชายไร้เงา
- ผมเริ่มเข้าใจคนเขียน Hunter x Hunter แล้วครับว่า เขียนๆ ไปแล้วหมดมุกเป็นไง ฮ่าๆๆ

คุณทาสบอย
- รออีกหลายคืนหน่อยนะครับ(ฮา)





โดย: ฟ้าดิน วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:2:01:11 น.  

 
คุณอนันตลัย
- ผมยังสงสัยอยู่เลยว่า ทุกวันนี้อุดมการณ์ยังเป็นสิ่งที่มีความหมายในสังคมสมัยใหม่นี้อยู่หรือเปล่า

คุณ room-mate
-ครับ

คุณ mapp
-การเก็บรักษาสิ่งนั้นที่ดีที่สุด คือ เก็บมันไว้ในความทรงจำ

คุณทายาทอสูร
-ขอบคุณครับ

คุณขล้า...เอง
-พิการรัก...(อ้วก)

คุณ~pie~doki_doki
- คุณบัณฑิต อึ้งรังษี บอกว่า โลกนี้ไม่เคยมีความยุติธรรมอยู่แล้ว
ปล.ใช่ครับ

คุณ walkin
-ไม่ทราบมีอาชีพเดียวกับผมหรือเปล่าครับ









โดย: ฟ้าดิน วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:1:50:23 น.  

 
.. ระหว่างอุดมการณ์กับความอยู่รอดเหรอคะ ..

.. ใจเราย่อมเลือกที่จะทำตามอุดมการณ์กันทั้งนั้น ...

..แต่ในโลกของความเป็นจริง มันไม่สามารถทำได้ ... เพราะชีวิตไม่ได้ขึ้นอยู่กับเราคนเดียว ยังมีพ่อแม่ ครอบครัวของเรา .. ที่คาดหวังว่าเราจะประสบความสำเร็จ มีงานมีการทำ ..

.. ใจแมงป่องไม่อยากทำงานประจำที่ทำอยู่เล้ยย .. แต่ จะยอมตกงานก็ไม่ได้ ..

กลัวพ่อกะแม่ จะไม่สบายใจ .. คนรอบข้างที่เป็นห่วงเราอีก เฮ้ออ!

.. ไม่รู้เพ้อฝันหรือเปล่านะ ..

แมงป่องอยากจะเดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ .. ไปภูเขา ไปน้ำตก หรือเข้าป่าไปเลย.. 5555

..( ถ้าไม่ต้องรับผิดชอบอะไรอ่ะนะ )..

.. ความฝันก็ทำให้ชีวิตกระชุ่มกระชวยเนอะคะ ..



โดย: แมงป่องไร้พิษ วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:7:55:30 น.  

 
พยายามต่อไปคับ ทุกวันนี้ผมก็พยายามทำตามอุดมการณ์ของตัวเองอยู่ ถึงแม้มันจะโดน หลายๆสิ่งหลายๆอย่างทำให้มันค่อยๆหายไปก็ตามเหอะ...


โดย: Amnesia IP: 58.8.84.164 วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:20:18:58 น.  

 
คุณฟ้าดินก็ยิ้มก่อนซิ...
แล้วเราจะบอกว่าอุดมการณ์ในสมัยนี้
มีจริงรึเปล่า...(มีคะ)
ก็อย่างน้อยคุณก็ต้องการช่วยเหลือ
คนอีกหลายคนเรื่องการซื้อยาที่ชนบทไง
แต่พอเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ คุณก็ได้เห็น
ความแตกต่างนั้นดีแล้วนิ
อย่าเคลียดนะคนดี...ยิ้มซิจ๊ะ
หน้าตาจะได้สดใส ลูกค้าจะได้เยอะ ๆ


โดย: อนันตลัย วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:21:28:38 น.  

 
"คนบางคน ภายนอกอาจดูต่างกับเรามาก แต่ภายในอาจจะคิดเหมือนเราที่สุดก็ได้"...

เป็นเหมือนกัน เวลาที่เราอยู่กทม.นานๆแล้วไปอยู่ต่างจังหวัดได้สัก 2 ปี เราถึงจะรู้ว่า กรุงเทพในวันนี้ไม่เหมือนกับในวันนั้น...สมัยเรียนเราไม่รู้สึกอะไรเพราะเราอยู่แต่กับเพื่อนๆ ไม่ได้ต้องทำงาน... พริบตาเดียว กรุงเทพก็คล้ายจะเป็นที่ๆไม่คุ้นเคยสำหรับเราไปเสียแล้ว เดี๋ยวนี้วัตถุนิยมเกินไป


โดย: Grey IP: 203.188.33.95 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:19:49:25 น.  

 
อ่านแล้วรู้สึกว่างานที่ทำนี่มันแย่มากเลย
ยุยงให้หมอจ่ายยาแพงๆให้คนไข้
นี่เราทำผิดจรรยาบรรณเภสัชหรือเปล่าเนี่ย


โดย: MataroN IP: 125.24.28.116 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:20:58:35 น.  

 
ผมเป็นมนุษย์ทุนนิยมครับ
แล้วผมก็ว่านะ ... ว่าผมเป็นคนดี

ระหว่างอุดมการณ์กับความอยู่รอด ผมว่าผมเลือกอุดมการณ์นะ
คือผมสามารถปฏิเสธลูกค้าได้ทันที ถ้ารู้สึกว่าไม่สะดวกใจที่จะทำงานกับเขา
ทั้งๆ ที่หลายคนบอกว่า ทำๆ ไปก็เสร็จแล้ว ไม่เห็นต้องคิดมาก

หรือว่ามันไม่ใช่อุดมการณ์
แต่มันเป็นแค่การเอาแต่ใจตัวเองของผม


โดย: พลทหารไรอัน วันที่: 3 เมษายน 2550 เวลา:1:25:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ฟ้าดิน
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




ความจำสั้น ความฝันยาว.....
Friends' blogs
[Add ฟ้าดิน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.