|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ต้อนรับ April Fool Day ด้วยการไปดู " Knowing " - - - - > หนังที่มีบรรยากาศแทบทุกแบบ
1 เมษายน
เป็นวันโกหกสากล หรือ April fool Day นั่นเอง
เหอะๆๆ
พอเข้า 00:01 น. ของวันที่ 1 นี้ คุณเพื่อนก็เริ่มกันเลยคร้า
"แก....(ชื่อเพื่อน)...ขาหัก"
แล้วไอ้เรา ก็เชื่อ ด้วยความสนิทใจ ย้ำ สนิทใจมากกกกกกกกกกกก
ตกอกตกใจกันหลายคนทีเดียว
แล้วหลังจากนั้นผ่านไปได้ซักสองชั่วโมงจากคำบอกเล่า สมองที่รอยหยักน้อยๆ นี้ ก็เริ่มทำงาน จึงเริ่มตระหนักได้ว่า "แล้วมานมาบอกตอนเที่ยงคืนกว่าเนี่ยนะ!!!!" หลังจากนั้นสายตาก็เหลือบไปเห้นนาฬิกา และวันที่ บนDesktop
=== 1 เมษายน ===
...........................
"กรูว่าแล้ว" เหอะๆๆๆ แล้วเรื่องราวก็เอวังด้วยประการละฉะนี้ (ต่อมฉลาดเพิ่งทำงาน โฮะๆๆๆๆ)
แล้วที่เล่ามา เกี่ยวอะไรกับ Knowing มั๊ยยย
แหะๆๆๆ ไม่เกี่ยวเลยคร่ะ
โอเค! เข้าเรื่องดีกว่า
ตัดสินใจดูเรื่องนี้ เพราะ หนึ่ง ชอบลุงเคจ อยู่แล้ว และก็คาดเดา(ไปเอง) ว่าหนังเรื่องนี้ของลุงคงเป้นแนวล่าขุมทรัพย์สลับซับซ้อนเหมือนเรื่องก่อนๆ เพราะเห็นว่ามีรหัสอะไรซักอย่างเป็นตัวเลขเสียด้วย น่าจะสนุก
สอง....ประทับใจฉากรถไฟฟใต้ดินที่เห็นในโฆษณามากกกกกกกก
เหตุผลที่ตัดสินใจดูหนังเรื่องนี้มีเท่านี้จริงๆ
[ Spoil นะคร้า]
และเมื่อได้เข้าไปชมจริงๆ นู๋บินไม่คิดเลยว่าเค้าจะเริ่มเรื่องด้วยการย้อนเวลากลับไปเมื่อ 50 ปีก่อน ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งมีการฝังแคปซูลกาลเวลา และให้นักเรียนวาดสิ่งต่างๆแล้วเก็บลงในแคปซูลนั้น เพื่อเปิดในอีก 50 ปีต่อมา (ซึ่งก็คือเวลาปัจจุบัน) ซึ่งในการฝังแคปซูลการเวลานี้ มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งไม่ยอมวาดอะไร แต่กลับเขียนตัวเลขติดๆ กันเป็นพรืดสองหน้ากระดาษ ซึ่งอิตัวเลขแผ่นนั้นนั่นเองที่ทำให้เกิดเนื้อเรื่องต่อๆ มา
ขอบอกว่า อื้มมม ชอบบบบบบ ชอบการเปิดเรื่องแบบนี้ เพราะถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้แน่ชัดว่าเด็กคนนั้นเขียนรหัสมาได้ยังไง แต่ว่ามันมีที่มาที่ไปที่รหัสนี้จะถูกส่งต่อ ทำให้รู้สึกว่ามันเป็นความบังเอิญที่ดูดี๊ ดูดี
แล้วพระเอกก็ได้รับส่งต่อรหัสนี้มาเพราะลูกชาย
แล้วลุงเคจพระเอกของเราก็อ่านรหัสนั้นออก ซึ่งรหัสนั้นเป็นรหัสที่ทำนายการเกิดโศกนาฏกรรมบนโลกที่บอกวันเดือนปี พิกัดที่เกิด และจำนวนผู้เสียชีวิต ซึ่งในรหัสแผ่นนั้นได้มีโศกนาฏกรรมที่ตรงตามคำทำนายแล้วเกือบหมด แหลือไว้เพียง 3 เหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น
และลุงเคจพระเอก ก็ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมเหล่านั้น โดยที่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้
ขอบอกว่า.............
อืมชอบความอลังการ และความมน่ากลัวของฉากโศกนาฏกรรมมาก โดยเฉพาะฉากรถไฟใต้ดิน น่ากลัวได้อีก อืมเหตุการณ์แบบนี้มันจะเกิดกะ MRT บ้านเรามั๊ยน้อ แอบกังวลในใจเล็กๆ
แต่ฉากโศกนาฏกรรมที่บีบคั้นจิตใจคือ ฉากเครื่องบินตกซึ่งเป็นฉากแรก ดูแล้วเศร้าจัง อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่จริงจริง
แต่ความรู้สึกที่สำคัญที่สุดที่ได้รับจากการดูหนังเรื่องนี้
คือ
"แม่เจ้า!!!! เค้ากล้าเนอะ" กล้ามากค่ะ
ที่ว่ากล้าคือ หนังเรื่องนี้รวมอะไรต่อมิอะไรไว้เต็มไปหมด วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ปรัชญา ศาสนา (โดยเฉพาะในเรื่องของความเชื่อ ความศรัทธา สิ่งนี้ผู้สร้างเข้าเล่นกับความคิดผู้ชมได้ดีจริงๆ อาจเป็นเพราะนู๋บินมีโอกาสได้เรียนวิชาปรัชญามาบ้าง เลยยิ่งทำให้เข้าใจมากขึ้นอีกนิดนึงค่ะ กับวิธีการคิด และเชื่อ ในหลายๆ แบบ) แถมยังไซไฟด้วย โอ้แม่เจ้า คนสร้างเค้ากล้าจริงๆ ที่จับเอาสิ่งเหล่านี้มารวมในหนังเรื่องเดียวกัน ทำได้
ตอนที่มียานอวกาศ มารับลูกชายของลุงเคจไป ตอนนั้นมันให้ความรู้สึกกึ่งศาสนา กึ่งไซไฟสุดๆ ไม่คิดเล้ยจริงๆ ว่าจะมาอยู่ในหนังเรื่องนี้ เพราะนึกว่าจะเป้นหนังแนววิทยาศาสตร์สุดๆ หรือไม่ก็อาจมีเรื่องราวลึกลับผสมอยู่บ้าง
แต่นี่....
มีกระทั่งยานอวกาศคร้า มีกงล้อโชคชะตา พระเจ้า ผู้พยากรณ์ ผู้ถูกเลือก มากมาย ไม่คิดจริงๆ เหอะๆ
โดยเฉพาะฉากสุดท้าย ที่ลูกชายลุงเคจกะเด็กสาวซึ่งเป้นหลานของเจ้าของรหัสตัวเลขได้ไปอยุ่ในโลกใหม่ (ให้ความรู้สึกศาสน๊า ศาสนา จริงๆ นะคะ ไม่รู้ว่านู๋บินเข้าใจถูกมั๊ย ว่าเด็กสองคนเหมือนเป็นอดัมกับอีฟเลย) ฉากนี้ไม่คาดคิดเล้ยว่าจะมี นึกว่าจะจบลงที่ฉากที่ลุงเคจและครอบครัวกอดคกันยอมยอมรับความตายที่เกิดจาการประทุ(รึอะไรซักอย่าง) ของดวงอาทิตย์ซะอีก ซึ่งส่วนตัวนู๋บินเอง นู๋บินว่าถ้าจบที่ลุงเคจ หนังน่าจะดูมีมิติมากกว่า น่าจะทิ้งอะไรให้ได้คิดมากกว่านี้.....
................................
แต่ถามว่าคุ้มมั๊ย
โห!!! คุ้มสิคะ หนังตั้งสองชั่วโมงกว่า ได้มั้ง แถมฉากพินาศก็ดูดีซะขนาดนั้น แค่นี้ก็คุ้มแล้วค่ะ อันที่จริงหนังเค้าก็ให้แง่คิดอะไรอีกหลายๆ อย่างผ่านตัวละคร ผ่านบรรยากาศ (ซึ่ง โห มีหลายอย่างมาก ให้ความรู้สึกเหมือนหนังสยองขวัญ โดยเฉพาะบ้านของลุงเคจในเรื่อง ยังกะบ้านผีสิง มีดราม่า ฯลฯ ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว) ผ่านบทสนทนา ซึ่งนู๋บินว่าข้อคิดพวกนั้นมันจะซึมเข้าไปในใจของคนดูเลย
สรุปแล้ว ถือเป็นหนังดี ที่ไม่เสียดายเงินถ้าคิดจะไปดูคร้า
Create Date : 02 เมษายน 2552 |
|
2 comments |
Last Update : 2 เมษายน 2552 3:46:12 น. |
Counter : 445 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
แวะมาทักทาย ตอนอรุณสวัสดิ์นะคะ