[Eataholic] KuKKuuK Yakiniku Cafe ร้านนี้มีมากกว่าปิ้งย่าง

สวัสดีครับ ห่างหายกันไปนานกับการรีวิวด้านอาหาร Eataholic ตอนนี้เป็นตอนที่ 4 แล้วครับ

ในครั้งนี้ผมจะพาไปทานปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นซึ่งร้านนี้จะมีกิมมิคที่ค่อนข้างโดดเด่นน่าสนใจ แตกต่างจากร้านปิ้งย่างทั่วๆไปที่ผมเคยไปทานมาครับ

มารู้จักกับ " KuKKuuK Yakiniku Cafe " กันเลยดีว่าครับ



ก่อนอื่นแนะนำกันก่อนครับว่าร้าน " KuKKuuK Yakiniku Cafe " (น่าจะอ่านว่าคุกคู) ตั้งอยู่ในซอยเอกมัย 5/1 ครับป้ายทางเข้าอาจจะเล็กไปหน่อยแต่ก็หาไม่ยาก เข้าซอยมาแค่ประมาณ 50 เมตรก็ถึงแล้วล่ะครับ



ที่นี่บริการจอดรถเป็น Valet Parking เท่านั้นนะครับ จอดรถที่ใต้อาคารได้เลย

ตัวของอาคารจะมี 2 ชั้นครับ ชั้นล่างจะเป็นส่วนของ DND หรือ Do Not Disturb ผับของคนรักเพลงสนุกๆ ตัวของร้าน KuKKuuK จะอยู่ที่ชั้นสองครับ



แค่การตกแต่งหน้าร้านก็รู้แล้วครับว่าร้านนี้ไม่ธรรมดาแน่ๆ

เมื่อเดินขึ้นมาถึงด้านบนก็จะเจอในส่วนที่เป็นบาร์ Outdoor กันก่อนเลยครับ ซึ่งส่วนนี้สามารถปิดหลังคาและเปิดเครื่องปรับอากาศได้เช่นกัน



สำหรับคนที่สูบบุหรี่หรือไม่ชอบนั่งห้องแอร์ก็เลือกที่นั่งตรงโซนนี้ได้เลยครับ



เห็นแว๊บแรกไม่นึกจริงๆครับว่านี่คือร้าน Yakiniku เพราะมันดูเหมือนร้านนั่งเล่น มีบาร์เครื่องดื่มให้เรานั่งชิลๆแฮ้งเอ้าท์กับเพื่อนๆหรือกับคนรู้ใจได้เลย



บรรยากาศร้านดีมากๆครับ ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่กลางสนามหญ้าแล้วก็มีสวนหินสวยๆตั้งอยู่ข้างๆ มีบาร์เครื่องดื่มให้บริการอยู่ด้วยนี่ล่ะใช่เลย





เข้าไปดูภายในร้านกันบ้างครับ ด้านในนี้เป็นห้องปรับอากาศแบ่งโซนร้าบประมานอาหารไว้ประมาณ 4 โซนครับ โซนเด่นๆก็จะเป็นโซนโต๊ะยาว



อารมณ์ประมาณขับรถเวสป้าเที่ยวมีฉากหลังภูเขาไปฟูจิ



หนึ่งสิ่งที่ผมชอบมากร้านนี้มากๆเลยก็คือเก้าอี้ครับ หลายๆมุมจะมีเก้าอี้ที่ทำมาจากรถเวสป้าเห็นแล้วอยากมีที่บ้านซักตัวคงเก๋ไม่เบาเลย



อีกโซนที่เก๋ไม่แพ้กันคือโซนห้องอาบน้ำรวมครับ



โซนนี้จะมีโต๊ะยาวสำหรับลูกค้าประมาณ 8 ท่านอยู่ 2 โต๊ะฮะ ฉากหลังออกแบบเก๋ๆจำลองห้องอาบน้ำรวมของชาวญี่ปุ่นมาที่สำคัญคือพร็อบเพียบครับสามารถทานไปถ่ายรูปเล่นไปได้สบายเลย





มาที่โซนด้านนอกอีกโซนอันนี้หลายๆคนน่าจะชอบโดยเฉพาะแฟนๆการ์ตูนญี่ปุ่นครับ อีกหนึ่งกิมมิคของร้าน KuKKuuK นี้ก็คือเหล่าตัวการ์ตูนของญี่ปุ่นที่เราเคยดูสมัยเด็กๆกันมาแล้วแทบทั้งนั้น





ขนกันมาเยอะมากครับไม่ว่าจะเป็น โดราเอม่อนและเพื่อนๆ ปาร์แมนและเพื่อนๆ คินนิคุแมน ด๊อกเตอร์สลัม นินจาฮาโตริ ฯลฯ









ไม่เว้นแม้แต่หน้าห้องน้ำ





การตกแต่งร้านด้านในนี้ค่อนข้างเป็นญี่ปุนมากขึ้นหน่อยครับ สังเกตได้จากสิ่งของรอบๆตัว







คุยเรื่องการตกแต่งร้านกันไปแล้วคราวนี้มาคุยกันเรื่องของอาหารบ้างครับ ร้านเป็น Yakiniku ก็จริงแต่ก็ไม่ได้เป็นปิ้งย่างจ๋าซะทีเดียวครับ ยังมีอาหารอื่นอย่างพวกอาหารสไตล์ยุโรปและอาหารสไตล์ฟิวชั่นอีกหลานชนิดอยู่ด้วยฮะ



มาดูส่วนของ Yakiniku กันก่อนครับ

จานแรกเป็น Wagyu (940บาท) ลายเนื้อเหมือนหินอ่อนเลยครับตัวนี้ย่างสุกกำลังดี แล้วลองทานโดยไม่ต้องจิ้มซอสอะไรเลยยังอร่อยมากๆฮะตัวนี้





จานที่สองเป็น Tokujo Karubi หรือเนื้อติดมันคัดพิเศษ (380บาท) เนื้อคุณภาพอาจจะด้อยกว่าจานแรกนิดหน่อย แต่ก็ยังถือว่าเป็นเนื้อคุณภาพดีมากอยู่ครับทานแล้วแทบจะละลายในปากเช่นกัน





จานที่สามก็ยังคงเป็น Karubi แต่อันนี้เป็นเนื้อติดมันธรรมดา (180บาท) จะเป็นเนื้อติดมันเกรดล่างสุดของทางร้านครับ



มาดูเนื้อลายคัดพิเศษหรือ Mizuji (330บาท) กันบ้างครับ



เนื้อ Ribeye (380บาท) ชิ้นใหญ่พอสมควรเลยล่ะครับ



นอกจากเนื้อริบอายแล้วก็ยังมีส่วนของ สันนอกหรือ Strip Loin (240บาท) อีกด้วยครับ



นอกจากเนื้อแล้วที่ร้านก็ยังมีหมูให้บริการด้วยครับ อย่างจานนี้ก็เป็น Kurobuta Set หรือหมูดำรวม (890บาท)



หรือจะเป็นพวกซีฟู้ดส์ก็มีเช่นกันครับโดยเฉพาะ Ikagesu หนวดปลาหมึก (200บาท) และ Ebi กุ้งลายเสือ (165บาท) ที่ย่างแล้วรู้สึกเลยว่าสดจริงๆ



ทานกับเครื่องเคียงเป็นผักรวม (150บาท) เสียบไม้มาให้เลยครับ



ส่วนของเตาย่างที่นี่ใช้เป็นเตาลอยนะครับไม่ใช่เตาฝังเหมือนร้านปิ้งย่างทั่วๆไป ตัวถ่านที่ให้ความร้อนเองก็ดีมากครับไฟแรงและอยู่ได้นานมาก





ไฟแรงๆโดนเนื้อติดมันเข้าไปทั้งกลิ่นทั้งเสียงที่มันโดนไฟแทบจะรอให้เนื้อสุกไม่ไหวเลยล่ะครับ



เนื้อสุกกำลังดีจิ้มกับซอสอร่อยๆของทางร้านไม่อยากจะอธิบายเลยล่ะครับ



ทีนี้มาดูอาหารแบบอื่นๆที่ไม่ใช่ปิ้งย้างกันบ้างดีกว่าครับ จานแรกผมแนะนำเลยครับถ้ามาทานร้านนี้แล้วห้ามพลาด สเต๊กเนื้อจิ้มแจ่ว (330บาท) เนื้อหั่นเป็นลูกเต๋าทำมาได้นุ่มมากๆครับ ยิ่งมาคลุกเคล้ากับน้ำจิ้มแจ่วสูตรพิเศษของทางร้านอร่อยมากจริงๆสำหรับจานนี้ครับ



จานต่อมาเป็นปลากระเบนหวานย่าง (220บาท) อาจจะเหนียวไปซักนิดแต่รสชาติก็อร่อยดีเหมือนกันครับ



จานต่อมาเป็นของทอดกันบ้างครับกับ หนวดปลาหมึกชุบแป้งทอด บีบน้ำมะนาวลงไปซักหน่อยอร่อยเลยครับ



อีกจานที่ขาดไม่ได้สำหรับอาหารญี่ปุ่น Unagi Salad หรือยำปลาไหลญี่ปุ่น (320บาท)



ดูของที่ต้องทานสดๆกันบ้างครับ ทูน่าวาซาบิ (350บาท)



ปลาหมึกคลุกวาซาบิ (120บาท)



ทานแต่ของแห้งๆก็สั่งอะไรที่เป็นน้ำๆมาบ้างฮะ ซุปไข่ (120บาท)



หรือจะเป็นซุปพริกไทยกรรเชียงปูก็อร่อยมากเช่นกัน



หรือจะทานเนื้อย่างกับ ข้าวผัดไข่ (90บาท) ก็มีนะครับ



หรือว่าจะเลือกนั่งแทะถั่วแระญี่ปุ่นเพลินๆ (140บาท)



หรือจะเปลี่ยนแนวไปเป็นอาการอิตาเลี่ยนอย่าง สปาเก็ตตี้หมึกดำผัดเบค่อน ซึ่งจานนี้ก็อร่อยดีทีเดียวครับ



นอกจากนี้ผมเห็นทางร้านกำลังจัดอาหารชุดซีฟู๊ดส์มาถ่ายรูปก็เลยขออนุญาตเค้าถ่ายเอาไว้ ทางร้านบอกว่าอีกไม่เกิน 2 อาทิตย์จะมีเมนูนี้ออกมาขายซึ่งตอนที่ผมไปถ่ายก็ยังไม่ได้กำหนดราคาขายฮะ รู้แต่ว่าสั่งชุดนี้ก็จะมีน้ำจิ้มซีฟู๊ดส์มาให้ทานแกล้มกันด้วย





เมื่ออิ่มของคาวกันเรียบร้อยก็จะมีผลไม้มาให้เป็น complimentary จากทางร้านให้กับทุกโต๊ะ โต๊ะผมมาทนกันทั้งหมด 5 คนก็ได้ 5 ไม้ครับ



ถ้ายังไม่อิ่มอีกทางร้านก็ยังมีขนมอีกหลายอย่างให้ลองชิมกันครับ เช่น Newyork Cheesecake อร่อยๆจานนี้ครับ





ทานกันอิ่มแล้วก็ออกมาสูดอากาศด้านนอกกันดีกว่าครับ

ที่ KuKKuuK Yakiniku Cafe ในช่วงเวลาตั้งแต่ 3 ทุ่มเป็นต้นไปยังมีดนตรีสดเล่นอยู่บริเวณ Cafe ด้านนอกนี้ด้วยนะครับ

บรรยากาศชิลๆถ้าหน้าร้อนอาจจะร้อนไปซักหน่อยแต่ถ้าเป็นช่วงหน้าหนาวคงจะชิลมากๆครับ







ไหนๆก็ไหนๆแล้วแนะนำค็อกเทลเด็ดๆของที่นี่ให้ซัก 2 แก้วครับ



แก้วแรก "DARUMA" the Signature Cocktail ของทางร้านครับ



อีกแก้วสำหรับคนที่ชอบอะไรแรงๆต้องแก้วนี้เลยครับ "SAMURAI" อีกหนึ่ง Signature Cocktail จาก KuKKuuK ครับ


บทสรุป ..

ร้าน KuKKuuK Yakiniku Cafe นอกจากจะเป็นร้านอาหารสไตล์ปิ้งย่างของญี่ปุ่นแล้วที่นี่ยังมีกิมมิคที่เป็นกลิ่นไอของญี่ปุ่นอยู่หลายอย่าง ทั้งการตกแต่งที่ธีมหลักจะพาคุณย้อนกลับไปสมัยเอโดะ การนำตัวการ์ตูนที่เราๆรู้จักมาตกแต่งซึ่งมันก็ไม่ได้เข้ากับรูปแบบของร้านเท่าใดนักหรอกครับ แต่มันก็ไม่ได้ขัดแถมยังกลายเป็นกิมมิคหลักของร้านไปด้วยซ้ำ ร้านเก๋ๆก็มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะครับ ทีวีที่นี่ก็เปิดแต่การ์ตูนญี่ปุ่นพวกคินนิคุแมน ปาร์แมนอะไรแบบนั้น ตัวคาเฟ่บาร์ภายนอกบรรยากาศน่านั่งไม่แพ้กันครับ เราสามารถมานั่งปิ้งย่างกันภายนอกได้เช่นกันแถมมีดนตรีสดๆเล่นให้ฟังอีกด้วย

เรื่องของอาหารสำหรับตัวผม ผมว่าที่นี่เด่นในเรื่องเนื้อครับ หมูก็พอใช้ได้ อาหารอื่นๆที่มีให้เลือกนอกจากปิ้งย่างก็อร่อยพอสมควร เรื่องของราคาผมว่าไม่ถูกไปและก็ไม่แพงเกินไปครับ ราคาพอรับได้ถ้าเทียบว่าร้านอยู่ในโซนเอกมัย-ทองหล่อ และความน่านั่งของร้าน ถ้าจะติก็คงติว่าอาหารอาจจะมีให้เลือกน้อยไปซักหน่อยครับ เนื้อหรือหมูก็มีเมนูให้เลือกไม่กี่ชนิด

การบริการ พนักงานบริการดีมากครับคอยดูเตาว่าควรจะเปลี่ยนตะแกรงตอนไหน ควรเติมน้ำตอนไหน

สรุปว่าที่นี่เหมาะสำหรับมาแฮ้งค์เอ้าท์กับเพื่อนๆครับ คนชอบถ่ายรูปก็คงจะสนุกกับพร็อบต่างๆที่ทางร้านจัดไว้ ถ้าถามว่ามีโอกาสจะกลับไปอีกมั๊ย ที่นี่เป็นอีกหนึ่งร้านที่ผมจะกลับไปอุดหนุนอีกแน่นอนครับ

ขอบคุณสำหรับการติดตามรับชมจนจบครับ ขอบคุณมากครับ

ฝากติดตามแฟนเพจผมได้ที่ https://www.facebook.com/travelholicbigboy นะครับ

Create Date : 20 มีนาคม 2558		3 comments
Last Update : 20 มีนาคม 2558 22:12:29 น.
Counter : 6540 Pageviews.
Share Tweet