"Wall in your heart!"
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728 
 
9 กุมภาพันธ์ 2550
 
All Blogs
 
14 มกราคม 2550 อ๋อ...ฮาวาย

ก็วันนี้เป็นวันที่เราจะต้องเดินทางไกลแบบไกลจริง ๆ เป็นครั้งแรก คุณแม่ พี่สาว พี่เขย พร้อมหลาน ๆ วัยน่ารักอีก 3 นาย มาส่งกันแต่เช้า ตื่นกันตั้งแต่ตี 3 ครึ่งแน่ะ โธ่...หลานของน้า ตื่นกันแบบไม่งอแงกันเลยนะลูก

ส่วนแม่ก็เห็นว่าจะดีใจมากอยู่ เพราะเมื่อคราวที่แล้วไปพาไปดูเครื่องบินที่ดอนเมือง จนกระทั่งปิดตัวลง (พอพาแม่ไปสุวรรณภูมิ ได้ข่าวมาจากเมืองไทยว่า สุวรรณภูมิก็จะปิดซ่อมสนามบินซะงั้น) แม่จะบอกใคร ๆ ว่าลูกชั้นจะไปอเมริกา ฮ่า ๆๆๆ โก้เชียวนะเนี่ย แกถามเพื่อนบ้านด้วยว่าถ้าลูกไปควรซื้ออะไรดี

แม่มาบอกว่าแม่อยากได้ลิปสติกยี่ห้อคลินิกอ่ะลูก จะหาซื้อได้ไหมเนี่ยตรู

ก่อนจะไปก็ถ่ายรูปกันยกหนึ่ง เพราะตื่นเต้นกับสุวรรณภูมิ สวยมาก ๆ ทำไมเป็นสิ่งก่อสร้างที่อลังการเหลือเกินเนี่ย



จนมาถึงช่องตรวจบัตรโดยสารและมีป้ายบอกว่าสำหรับผู้โดยสารเดินทางไปต่างประเทศ ก็ชักรูปกันตรงนี้ก่อนร่ำลากันอย่างเป็นทางการอีกครั้ง (ทำไมต้องมาถ่ายตรงนี้ด้วยฟ่ะ อ้าว...ก็จะได้รู้ไงว่าตรูไปเมืองนอกนะ แหะ ๆ)

เข้าไปปุ๊บก็เจอ ตม. ไม่มีอะไรมากตรวจเอกสารแค่นั้นเอง ช่วงนี้ เห็นคุณผู้ชายมาด้อม ๆ มอง ๆ เรา แอบส่งสายตาปิ๊ง ๆๆ กันสักพัก (สงสัยมาตามมองว่าเราไปเมืองนอกจริงแน่ ๆ นะ จะได้หาสาวใหม่ได้สะดวก...ว่ะฮะฮ่า ๆๆๆ)

เดินเข้าไปขึ้นเครื่องนี่ไกลโขอยู่ อ้อเราไปด้วยสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ JL708 ออกเดินทางจากสุวรรณภูมิ 08.15 น. ถึงนาริตะ 16.00 น. (5h45) แค่คิดก็เมื่อยตรูดแว้ว




เวลาเครื่องออกไปนาริตะ




โอ้โห ใหญ่โตจริง ๆ กว่าจะเดินถึงตรงนี้ได้ไกลมาก ๆ




ประตู 5 (บ้าเห่อค่ะ)




ลำนี้แหละ เค้าล่ะ




เหินฟ้า




โอ๊ะ โอ ทีวีส่วนตัวกับอุปกรณ์หลังที่นั่ง




ขึ้นไปได้แป๊บ เขาก็แจกขนมขบเคี้ยวให้ แอร์ให้มาสองห่อเลย




และนี้ก็คืออาหารมื้อแรกบนเครื่องจ้า




พลันสวมบทเป็นนางมณีเมขลา ตรวจดูดินฟ้าอากาศ




แว้ก ๆ เห็นภูเขาไฟฟูจิด้วย แหะ ๆ เมื่อกี๊กับปิตันประกาศ




ประชากรยังหลับไหล




โอ้โห...หิมะเกาะที่หน้าต่าง (ขอให้เรียกหิมะหน่อยนะ)




มะ มาถึงญี่ปุ่นแล้วก๊า




มาถึงนาริตะต้องรอทรานซิทที่นั่นอีก 4 ชั่วโมง ต่อด้วย JL076 เวลา 20.25 ถึงสนามบินฮอนโนลูลูเวลา 08.00 น.ของวันที่ 14 มกราคม 2550 เอ...มาถึงก่อนเวลาออกจากประเทศไทยอีกนะเนี่ย เป็นวันเดียวกันซะด้วย

เที่ยวบินที่ต่อจากญี่ปุ่นไม่ได้หลับไม่ได้นอน ก็อาการปวดกระดูกนี่จิคะ มันทำให้เราต้องเดิน ๆ เหยียดขา เป็นตะคริว เรียกว่า 6 ชั่วโมง กับอีก 35 นาทีนี่ทรมานสุด ๆ



ประชากรหลับคร่อกฟี้อย่างกะโดนรมควัน ส่วนเรานอนไม่หลับ เพราะปวดกระดูกพร้อมเป็นตะคริว ทรมานจัง



>
ขอบฟ้านั่น หรือจะเป็นฮาวายนะ




อ๋อ...ฮาวาย จริง ๆ ด้วย กับปิ๊ตันประกาศแล้ว ตื่นเต้น ๆ




พอถึงสนามบินฮอนโนลูลู ความตื่นเต้นค่อย ๆ หายไป แต่ความกังวลใจมาแทนที่ จะอะไรเสียได้ ก็น้องลาบราดอร์สีดำ มันวนไปวนมาในทุก ๆ กระเป๋าเลย ที่กังวลก็กลัวว่ากลิ่นปลาสลิดมันจะเล็ดรอดออกมา แต่โชคดีที่เจ้าหนูนั่นคงเป็นหวัด มันไม่ได้กลิ่นแน่ ๆ ว่ะฮะฮ่า

แต่ที่ไหนได้ พอเปิดออกมาทำไมมันมีกลิ่นเน่าก็ไม่รู้ เล่นเอาเซ็งเลยอ่ะ

อ้อ ผ่านด่านน้องหมา มาเจอด่านคนอีก ตอนนี้ต้องผ่าน ตม. เจอคนเอเชียสัญชาติไม่ปรากฏ อารมณ์ดีเชียว ร้องเพลงให้ฟัง ถามว่าเรามาทำไม สวยนะเนี่ย (จ๊าก) ชวนคุยนานมาก ๆ แล้วก็ถามว่าเอาอาหารมาด้วยเหรอ ไม่ต้องเอามาก็ได้ ไม่อดตายหรอก เดี๋ยวเขาจะพาไปเลี้ยง แหะ ๆ ขำค่ะ ไม่เครียดเลยสำหรับ ตม. เขาก็บอกว่าเดี๋ยวไปเอกซเรย์กระเป๋าหน่อยนะฮับ เพราะเช็กว่าเอาอาหารมา

พอจะออกจากสนามบิน ไอ้เราก็หาแท็กซี่ว่ามันจอดอยู่ตรงไหน สักพักก็เจอ Taxi Stand ใจก็ตุ๊บ ๆ ต่อม ๆ ว่าจะโดนหลอกไหมเนี่ย แต่คงไม่นะ เราคงไม่โชคร้ายถึงขนาดนั้นดอก



คนนี้เขาล่ะ โชเฟอร์



สภาพบ้านเรือนริมทาง





เอาล่ะ เรามาถึงปลอดภัยแล้วนะ ค่อนข้างเหนื่อยเล็กน้อย แต่ก็ยังมีแววของความตื่นเต้นอยู่ แล้วค่อยติดตามตอนต่อไปดีกว่า




Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 22 พฤศจิกายน 2556 9:44:10 น. 9 comments
Counter : 839 Pageviews.

 
มาแอบอ่านค่ะ น่าตื่นเต้นจัง


โดย: Cookie Kids IP: 58.10.64.246 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:10:44:22 น.  

 
โห น่าสนุกจังค่ะ ไปฮาวายด้วย ขอเที่ยวด้วยคนนะคะ เราก็จะเดินทางไปนิวยอร์กปลายเดือนมีนาคมนี้ ตื่นเต้นจังค่ะ กลัวภาษาอังกฤษที่แบบงูๆ ปลาๆ จะเอาตัวรอดได้มั้ยเนี่ย

รอดูภาพสวยๆ จากฮาวายนะคะ


โดย: smo วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:33:14 น.  

 
ขอบพระคุณนะคะที่เข้ามาเยี่ยม

ตอนนี้ยังนั่งทำงานหัวฟูอยู่เลยค่ะ ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหนเลย แง้ก ๆๆๆๆ

พรุ่งนี้เราจะทำต้มยำกุ้ง ใน International Food Festival ค่ะ จะแสดงสุดฝีมือเลย หลังจากนั้นก็กลับมานั่งทำงานต่อ

แว้ก เศร้าจัง


โดย: biebie999 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:15:04:16 น.  

 

ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ .. คุณ biebie เล่าเรื่อง
ได้สนุกเชียว ตอนแรกสงสัยว่าทำไมต้องผ่าน
ด่านน้องหมาด้วย ตอนหลังถึงได้ถึงบางอ้อว่า
เป็นด่านตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายนั่นเอง

ตอนนี้ยังทำภารกิจอยู่ที่ฮาวายรึเปล่าคะ
รออ่านเรื่องและชมภาพที่น่าสนใจตอนต่อไป
ด้วยนะคะ ..


โดย: ป้าติ๋ว (nature-delight ) วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:12:30:07 น.  

 
ป้าติ๋ว หนูจะปั่นงานให้เสร็จสิ้น แล้วจะรีบอัพบล็อกของตัวเองต่อนะคะ

ขอบพระคุณมากค่ะ


โดย: biebie999 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:8:59:10 น.  

 
มาฮาวาย มาเที่ยว หรือ มาเรียนคะ เล่าเรื่องได้ดีค่ะ เราก็อยู่ฮาวาย ยังไปเที่ยวไม่เยอะเลย ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ


โดย: Hula Girl IP: 70.95.86.126 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:29:30 น.  

 
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

เรามาศึกษางานค่ะ เพื่อนำไปพัฒนาองค์กรค่ะ เรานี่ไม่ค่อยได้เที่ยวเหมือนกัน ไปก็แป๊บ ๆ ก็กลับแล้ว เรียนหนักหรือเปล่าคะ จะจบหรือยัง เราจะกลับวันที่ 10 มีนานี้แล้วล่ะค่ะ

หากเจอกันทักทายกันบ้างนะคะ


โดย: biebie999 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:47:34 น.  

 
แวะเข้ามาอ่านคะ สนุกมาก
ตอนนี้คุณbiebie คงกลับมาถึงกรุงเทพฯแล้วโน๊ะ
ไปอีกเมื่อไหร่บอกนะคะ


โดย: katkoota IP: 203.146.208.46 วันที่: 16 มีนาคม 2550 เวลา:15:12:54 น.  

 
เพิ่งมาอ่าน ป่านนี้ก็กลับมาแล้วซินะ ......ดีจังอยากไปบ้างเขียนหนุกดีเดี๋ยวอ่านทุกหน้าก่อน


โดย: poppysin (poppysin ) วันที่: 1 เมษายน 2550 เวลา:18:06:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

biebie999
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




"Erised stra ehru oyt ube cafru oyton wohsi"

"I show not your face but your hearts desire"
"ฉันไม่ได้แสดงภาพใบหน้าของคุณ แต่แสดงถึงความปรารถนาภายในใจ"

"เราเข้าใจว่าความรักของแม่และลูก เป็นความรักแบบหาที่สุดมิได้ แต่ความรักแบบคู่รัก เป็นความรักที่ช่วยหล่อเลี้ยงการดำเนินชีวิต"

พล่าม
เวลานี่ไวเหลือเกิน เผลอแป๊บ ๆ ก็ 36 แล้ว ชีวิตที่ผ่านมาได้ทำในสิ่งที่อยากทำมาเกือบหมดแล้ว สิ่งที่อยากทำล้วนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากความรู้สึกในวัยเด็ก

ทุกครั้งที่แหงนมองฟ้า เห็นเครื่องบิน ตอนเด็กคิดว่าเราไม่มีทางขึ้นได้หรอก เพราะที่บ้านไม่มีเงิน

อยากขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ก็ได้ขึ้น

อยากไปต่างประเทศ ก็ได้ไป

อยากไปเที่ยวบ้าง ก็ได้ไป

อยากนั่งรถไฟ รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน ก็ได้นั่ง

อยากบวชพราหมณ์ ก็ได้บวช

อยากวาดรูป ก็ได้ทำ

อยากมีบ้านของตัวเอง ก็ได้มี

ชีวิตที่เหลือตอนนี้ ขอปลดหนี้ให้หมดก่อนตายและอยากทำให้แม่สบายกว่านี้

นั่งเพลิน ๆ ถามตัวเองว่าเรามาถึงช่วงปลายทางหรือยัง บางทีก็ตอบว่ามาถึงแล้ว ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว แต่อีกใจก็ยังอยากรู้ต่อไปอีกว่า ในอนาคตจะมีอะไรให้ได้ตื่นเต้นอีกไหม

หากเปรียบเป็นกราฟ ชีวิตเราตั้งแต่เกิดมีสูงมีต่ำและติดลบ ปัจจุบันนี้กราฟเป็นเส้นเรียบ ๆ ไม่สูงไม่ต่ำ แต่...ก็ไม่แน่นะ อาจจะเป็นเส้นตรงที่มีองศาต่ำลงก็ได้

เรียนรู้ตัวเองเมื่ออายุครบ 32
รักครอบครัว / รักแม่ / รักสันโดษ / ไม่ชอบสังคม / ขอมีเพียงเพื่อนที่เรียกว่ามิตรแท้สัก 1 คน ก็พอ / ความรักคือความผูกพันและการให้อภัย / เราสามารถอยู่คนเดียวได้ทั้งวันโดยไม่พูดกับใคร / ไม่สนใจคำนินทาใด ๆ รอบข้าง / ไม่ทนกับคนที่เราไม่อยากอยู่ด้วย

บ้าต้นไม้ / เลี้ยงสุนัข / ฟังเพลง POP, Jazz, Classic / คลั่งงานศิลปะ / อ่านหนังสือ / ชอบเสียงกีตาร์ / ไม่บ้าแฟชั่น / ไม่ชอบเสียงดัง / ชอบทำสมาธิ / ไม่ชอบแชต / ไม่ชอบคุยโทรศัพท์ / โลกส่วนตัวสูง / เพื่อนน้อย / อารมณ์ขัน / ดูหนังตลก / ชอบทำกับข้าว / ไม่ชอบล้างจาน / กลัวการขึ้นเครื่องบิน / ไม่ดื่มกาแฟ / ไม่ชอบบุหรี่ / ไม่ชอบดูละคร / ชอบกินผักผลไม้ / ไม่ชอบความเร็ว / ไม่เสแสร้งแกล้งโกหก / ไม่ชอบคนพูดปดปกปิด / ไม่ชอบเล่นเกม!

.....ขอใช้ชีวิตแบบสมถะ แบบนี้ตลอดชีวิต
Friends' blogs
[Add biebie999's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.