โรคใบจุดตานก(Bird’s eye spot) มักเกิดในแปลงกล้ายางที่ปลูกไว้เป็นต้นตอ และต้นยางในแปลงกิ่งตาสำหรับขยายพันธุ์ ทำให้ใบร่วง ต้นยางชะงักการเจริญเติบโต และต้องใช้เวลานานกว่าต้นยาง จะได้ขนาดติดตา
สาเหตุของโรคใบจุดตานก
เกิดจากเชื้อรา Drechslera (Helminthosporium) heveae (Petch) M.B. Ellis.
ลักษณะอาการของโรคใบจุดตานก
ถ้า เชื้อราเข้าทำลายใบในระยะที่ใบยังอ่อนมาก จุดแผลที่เกิดจะไม่แตกต่างจากการเข้าทำลายของเชื้อราชนิดอื่นๆ แผ่นใบจะหงิกงอเน่าดำ และร่วง เหลือแต่ยอดที่มีลักษณะบวมโต ใบยางที่มีอายุมากขึ้นจะปรากฏจุดแผลค่อนข้างกลม ขอบแผลมีสีน้ำตาลล้อมรอบซึ่งโปร่งแสง ถ้าเชื้อเข้าทำลายใบยางแก่จะมีลักษณะเป็นรอยจุดสีน้ำตาลเท่านั้น
การแพร่ระบาดของโรคใบจุดตานก
ระบาด รุนแรงในแปลงกล้ายางที่ปลูกในพื้นที่ดินทราย หรือที่ดินมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ โรคนี้แพร่ระบาดโดยลม ฝน หรือการสัมผัสระหว่างต้นยางที่เป็นโรค
การป้องกันกำจัดโรคใบจุดตานก
หลีกเลี่ยงการปลูกต้นกล้ายางในพื้นที่ดินทราย
ใช้ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยคอกช่วยปรับสภาพดินให้อุ้มน้ำได้ดีขึ้น
ใช้สารเคมีพ่นใบยางเมื่อเริ่มพบอาการของโรค
แมน โคเซบ(mancozeb) ที่พบและมีจำหน่ายในชื่อการค้า เช่น แมนโคเซบ 75% WP หรือ ไดเทนเอ็ม 45 80% WP โดยใช้ในอัตรา 48 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นใบยางอ่อนทุก 7 วัน
โปรพิเนบ (propineb) ที่พบและมีจำหน่ายในชื่อการค้า เช่น แอนทราโคล 75% WP โดยใช้ในอัตรา 48 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นใบยางอ่อนทุก 7 วัน
คลอโรธาโลนิล(chlorothalonil) ที่พบและมีจำหน่ายในชื่อ การค้า เช่น ดาโคนิล 75% WP โดยใช้ในอัตรา 48 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นใบยางอ่อนทุก 7 วัน
============