BMW 4 Series Convertible รับลมด้วยหลังคาแข็งพับได้
ซีรีส์ 4 กลายเป็นรถยนต์ที่ทางบีเอ็มดับเบิลยูให้ความสนใจในการรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง เพราะคล้อยหลังการเปิดตัวรุ่นธรรมดา และตัวแรงในรหัส M4 ยังไม่ทันครบครึ่งปีเลย ค่ายใบพัดสีฟ้า เผยโฉมตัวถังที่ 2 จากรถยนต์ตระกูลนี้ และก็เป็นไปตามคาดกับรุ่นเปิดประทุน หรือ Convertible
| | ซีรีส์ 4 ถือเป็นรหัสเกิดใหม่ที่แตกไลน์ออกมาจากซีรีส์ 3 โดยเป็นนโยบายในการปรับทัพ รุ่นรถยนต์ของบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งรถยนต์รุ่นหลักจะแบ่งกลุ่มกันอย่างชัดเจนด้วยตัวเลข ถ้าเป็นเลขคี่จะหมายถึง รถยนต์ที่ใช้ตัวถังปกติ เช่น ซีดาน แฮทช์แบ็ก หรือแวกอน รวมถึง GT ส่วนเลขคู่จะเป็นกลุ่มรถสปอร์ต เช่น เปิดประทุน แกรน คูเป้ และคูเป้ สำหรับตัวถังเปิดประทุนถือเป็นทางเลือกที่ 2 ในแง่ของตัวถังจากซีรีส์ 4 และแน่นอนว่า แนวทางในการพัฒนาและสร้างจุดเด่นให้กับรถก็ยังอ้างอิงกับเปิดประทุนรุ่นเดิมที่ใช้รหัสซีรีส์ 3 ในการทำตลาด โดยเน้นความสปอร์ตปราดเปรียวในแบบ 4 ที่นั่งซึ่งพกพาความสะดวกของหลังคาแข็งพับเก็บได้ด้วยไฟฟ้า และให้ความสนุกสนานในการขับด้วยความยอดเยี่ยมในการกระจายน้ำหนักด้านหน้าและหลังที่สมดุลในระดับ 50:50 และมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นเดิมที่ยังขายในชื่อซีรีส์ 3 เปิดประทุนแล้ว ในรุ่นนี้มีการขยายขนาดขึ้น ทั้งในแง่ความยาง 4,638 มิลลิเมตร หรือเพิ่มขึ้น 26 มิลลิเมตร ส่วนระยะฐานล้อก็ยาวขึ้นถึง 50 มิลลิเมตร ขณะที่หลังคาแข็งแบบพับเก็บได้ด้วยไฟฟ้าเป็นแบบ 3 ชิ้นหรือ 3-Piece Retractable Roof ใช้เวลาเพียง 20 วินาทีในการสั่งงาน สามารถทกงานด้วยความเร็วไม่เกิน 18 กิโลเมตร/ชั่วโมง และเมื่อกางออกแล้วจะมีผลต่อหลักอากาศพลศาสตร์ที่ดีขึ้น ด้วยค่า Cd ลดลงจาก 0.33 มาเป็น 0.28 | | | ตามปกติเมื่อหลังคากางออก พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายจะมีความจุในระดับ 370 ลิตร เพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม 20 ลิตร และจะลดลงเหลือ 220 ลิตรหลังจากหลังคาถูกพับเก็บลงมา 3 ทางเลือกของการขับเคลื่อนเป็นเบนซิน 2 รุ่น คือ 428i และ 435i ซึ่งรุ่นแรกใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2,000 ซีซี เทอร์โบ มีกำลังสูงสุด 245 แรงม้า ที่ 5,000-6,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 35.7 กก.-ม. ที่ 1,250-4,800 รอบ/นาที ส่วน 435i ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ 6 สูบเทอร์โบคู่ 3,000 ซีซี รีดกำลังออกมาได้ 306 แรงม้า ที่ 5,800-6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 40.7 กก.-ม. ที่ 1,200-5,000 รอบ/นาที ปิดท้ายด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลในรหัส 420d บล็อก 4 สูบ 2,000 ซีซี ที่มาทั้งความประหยัด และความเร้าใจ กับตัวเลขแรงม้า 184 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 38.7 กก.-ม. ที่ 1,750-2,750 รอบ/นาที โดยที่ความประหยัดจากการทดสอบตามมาตรฐานของ EU อยู่ที่ 19.6 กิโลเมตร/ลิตร | | | | ทุกรุ่นส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะเป็นอุปกรณืมาตรฐาน และมีเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะเป็นออพชั่น ส่วนในแง่สมรรถนะของการขับเคลื่อนถือว่าพกกันมาแบบเต็มที่ ในรุ่นดีเซล ใช้เวลา 8.2 วินาทีสำหรับอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนรุ่นเบนซินจะอยู่ที่ 6.4 และ 5.6 วินาทีตามลำดับ โดยที่มีความเร็วสูงสุด 235 กิโลเมตร/ชั่วโมงในรุ่นดีเซล และล็อกเอาไว้ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมงสำหรับเบนซินทั้ง 2 รุ่น ในยุโรปเปิดตัวแล้ว และจะเริ่มขายในเดือนมีนาคมนี้ ส่วนบ้านเราน่าจะมีโอกาสได้สัมผัสกัน อย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าจะเปิดราคาออกมาที่เท่าไร คงต้องรอดูกันต่อไป
credit : //www.manager.co.th
| |
Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2557 |
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2557 17:02:42 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2977 Pageviews. |
|
|
|
|
|