ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญของค่ายรถยักษ์ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการรองรับตลาดในประเทศและส่งออกทั่วโลก จึงมีการผลิตหลากหลายรุ่น แต่ถึงอย่างนั้นยังไม่ครอบคลุมทุกเซกเม้นท์ หรือไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เพราะปัจจุบันความต้องการของผู้บริโภคมีความหลากหลาย ทำให้บริษัทรถมีการพัฒนารถรุ่นใหม่ๆ เพื่อโฟกัสหรือเจาะเฉพาะกลุ่มมากขึ้น เหตุนี้ค่ายรถในไทยจึงขึ้นไลน์ผลิตรถรุ่นใหม่ หรือไม่ก็นำเข้ามาตอบสนองลูกค้า ให้ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์มากที่สุด อย่างเช่น ฮอนด้า และ นิสสัน ที่ดำเนินกลยุทธ์ดังกล่าวนี้...
ในปีนี้นอกจาก ฮอนด้า ซิตี้ โฉมใหม่ ยังจะมีการเปิดตัวรถใหม่อีกเป็นจำนวนมาก เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกไลฟ์สไตล์ แม้ภาพรวมตลาดจะชะลอตัวลงก็ตาม แต่ไม่ได้มองว่าจะเป็นปัญหา หรือต้องการรักษายอดขายอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์นั่ง หรือเก๋งต่อไปแต่อย่างใด เพราะฮอนด้าชัดเจนในการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า
|
นั่นเป็นการให้สัมภาษณ์ของ พิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ที่แย้มถึงแนวทางการรุกตลาดรถไทยในปีม้าคะนองศึกนี้ แม้จะไม่เปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดออกมา นอกจากซับคอมแพ็กต์ ฮอนด้า ซิตี้ โฉมใหม่ ที่ประเดิมเปิดตัวสู่ตลาดปีนี้ เมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา
โดยฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 4 ของรถรุ่นนี้ หลังจากรุ่นแรกเปิดตัวที่ไทยครั้งแรกในโลกเมื่อปี 2539 ซึ่งโฉมใหม่ล่าสุดมีการออกแบบให้โฉบเฉี่ยวปราดเปรียวมากขึ้น ส่วนภายในล้ำสมัยและมีความสปอร์ต พร้อมกับเครื่องยนต์ SOHC i-VTEC แม้จะเป็นบล็อกเดิม 1.5 ลิตร 117 แรงม้า แต่ได้มีการติดตั้งเกียร์CVT ใหม่ ที่รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม จึงทำให้อัตราเร่งที่ตอบสนองได้เร็วขึ้น ขณะที่ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น พร้อมกับรองรับพลังงานทางเลือก E85 ซึ่งซิตี้ใหม่มีให้เลือกทั้งหมด 6 รุ่นย่อย ราคาเริ่มต้น 550,000 - 749,000 บาท
|
นี่จึงเป็นรถใหม่โมเดลแรกปีนี้ ซึ่งเป็นรุ่นสำคัญที่จะช่วยผลักดันยอดขายหลักของฮอนด้า และแน่นอนยังมีรุ่นอื่นๆ ที่จะทยอยตามมาต่อเนื่อง ตามที่รองประธานกรรมการบริหารอาวุโสของฮอนด้าแย้มไว้ หรือแทบจะมีการเปิดตัวรถใหม่ทุกเดือนของปีนี้ก็ว่าได้ โดยเฉพาะอีกรุ่นไฮไลต์ของปีนี้ ฮอนด้า แจ๊ซ หรือในญี่ปุ่นเรียกว่า ฟิต (Fit) ที่ตามรายงานข่าวมีกำหนดจะเปิดตัวอีกไม่นาน หรือเป็นทางการในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2014 ช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้
ฮอนด้า แจ๊ซ นับเป็นรุ่นหลักที่ใช้พื้นฐานตัวถัง ในการพัฒนารถรุ่นใหม่ๆ ของฮอนด้าหลายรุ่น รวมถึงซิตี้โฉมใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวสู่ตลาดไทย ดังนั้นรายละเอียดหลักๆ จึงไม่แตกต่างกันมาก รวมถึงขุมพลังเครื่องยนต์ และแน่นอนคงจะต้องมีรุ่นไฮบริดตามมา ซึงอาจรวมถึงฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ด้วย ที่นอกจากจะมีรุ่น CNG ตามออกมาภายหลัง ดังนั้นเฉพาะรุ่นทางเลือกพลังงานของ ฮอนด้า ซิตี้ และแจ๊ซ แทบจะทยอยเปิดตัวออกมาต่อเนื่องตลอดทั้งปีเลยทีเดียว
|
รถที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานตัวถังร่วมกับแจ๊ซ อีกรุ่นเป็นรถโมเดลใหม่ ฮอนด้า วีเซล (Vezel) เอสยูวีขนาดเล็กที่กลายเป็นตลาดใหม่มาแรง เพราะแทบจะทุกยี่ห้อต่างพัฒนาออกสู่ตลาดทั่วโลก ซึ่งในไทยมีเปิดตัวไปกับ ฟอร์ด เอคโค่ สปอร์ต และ นิสสัน จู๊ค โดยรุ่นวีเซลเผยโฉมครั้งแรกในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ 2013 และขายเป็นทางการในญี่ปุ่นช่วงปลายเดือนธันวาคที่ผ่านมา ทำตลาดทั้งรุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร และรุ่นไฮบริดที่ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้มีกำลังรวม 152 แรงม้า ตามกระแสรถรุ่นนี้จะเข้ามาทำตลาดในไทย เร็วสุดน่าจะภายในช่วงปลายปีนี้
เกี่ยวกับการเปิดทางเลือกใหม่ๆ ให้กับลูกค้าในไทยของฮอนด้า อีกรุ่นเป็น ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด หลังจากเปิดตัวรุ่นเครื่องยนต์ปกติเมื่อต้นปีที่แล้ว ซึ่งนี่จะเป็นอีกทีเด็ดเพื่อท้าชนกับ โตโยต้า คัมรี ไฮบริด และยังเป็นการขยายฐานลูกค้าที่ชื่นชอบรถพลังงานทดแทนด้วย โดยวางเครื่องยนต์สันดาปบล็อก 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 2.0 ลิตร 137 แรงม้า ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 6.7 kWh รวมกำลังกันได้ 196 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ e-CVT สามารถทำอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 30 กม./ลิตร (ตามโหมด JC08 ของญี่ปุ่น)
ส่วนอีกรุ่นที่จะตอบสนองไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ของลูกค้า เห็นจะเป็น ฮอนด้า โมบิลิโอ (Honda Mobilio) มินิเอ็มพีวีที่พัฒนาจากพื้นฐานตัวถังของ ฮอนด้า บริโอ้ โดยรถรุ่นนี้ผลิตในอินโดนีเซีย และเปิดตัวทำตลาดอย่างเป็นทางการมกราคมนี้ ส่วนไทยน่าจะนำเข้ามาทำตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง ด้วยการวางเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร บล็อกเดียวกับฮอนด้า ซิตี้ และแจ๊ซ ขณะที่โมเดลอื่นๆ จะเป็นการกระตุ้นตลาด ด้วยฮอนด้า บริโอ้ และซีวิค ใหม่ หรือเป็นรุ่นไมเนอร์เชนจ์
|
นอกจากฮอนด้าที่แนะนำรถรุ่นใหม่ๆ เพื่อตอบสนองลูกค้าครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์แล้ว นิสสัน เป็นอีกค่ายรถที่ดำเนินกลยุทธ์ดังกล่าวชัดเจน และล่าสุดยังตอกย้ำกับการให้สัมภาษณ์ของ ประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ได้ระบุชัดเจนว่า...
นโยบายของนิสสันต้องการที่จะแนะนำรถยนต์ ให้ตอบสนองความต้องการลูกค้าครอบคลุมทุกเซกเมนท์ เห็นได้จากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ ในช่วงที่ผ่านมา และปีนี้จะมีการเปิดรถใหม่หลายรุ่น แต่จะไม่เป็นการทับรถไลน์ผลิตภัณฑ์เดิมๆ ที่ทำตลาดอยู่ อย่างในเดือนมีนาคมนี้จะส่งโมเดลใหม่ นิสสัน ลิวิน่า รถอเนกประสงค์แบบเอ็มพีวี 7 ที่นั่งสู่ตลาดไทย เพื่อเข้ามาเสริมในตลาดที่เราขาดไป
สำหรับนิสสัน ลิวิน่า (Nissan Livina) ที่จะเข้ามาทำตลาดในไทย น่าจะเป็นรุ่นแกรนด์ ลิวิน่า ที่เป็นเอ็มพีวีขนาดเล็กแบบ 7 ที่นั่ง โดยผลิตในประเทศอินโดนีเซีย เช่นเดียวกับนิสสัน จู๊ค ซึ่งเข้ามาเปิดตลาดกลุ่มเอสยูวีขนาดเล็กในไทย เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และตามรายงานข่าวเอ็มพีวีรุ่นลิวิน่า จะวางเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร บล็อกเดียวกับ นิสสัน ซิลฟี และจู๊ค แม้ในอินโดนีเซียจะทำตลาดกับรุ่น 1.5 และ 1.8 ลิตรก็ตาม
|
ไม่เพียงเท่านี้นิสสันยังจะรุกตลาดเอสยูวีอีก ด้วยการเปิดตัว นิสสัน เอ็กซ์-เทรล (Nissan X-Trail) โฉมใหม่ ซึ่งตามกระแสข่าวจะเป็นการขึ้นไลน์ผลิตในไทย คาดว่าจะวางเครื่องยนต์ขนาด 2.0 และ 2.5 ลิตร บล็อกเดียวกับนิสสัน เทียน่า ใหม่ กำหนดเปิดตัวช่วงประมาณปลายปีนี้ ต่อจากปิกอัพ นิสสัน นาวารา โฉมใหม่ ที่จะย้ายไลน์การผลิตไปยังโรงงานแห่งใหม่ ที่จะเริ่มเดินสายการผลิตอย่างเป็นทางการ ประมาณช่วงเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้
|
แต่นำร่องเปิดตัวสู่ตลาดรุ่นแรกในปีนี้แล้ว นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ที่มีการปรับเปลี่ยนบางส่วน ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าโครเมียมดีไซน์ใหม่ ไฟหน้าโฉมใหม่ พร้อมกันชนหน้าและไฟตัดหมอกรูปลักษณ์ใหม่ตกแต่งด้วยโครเมียม ส่วนกันชนหลังและล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขณะที่ภายในห้องโดยสารมากับแผงคอนโซลออกแบบใหม่ ตกแต่งสีดำเปียโนแบล็ค แผงประตูและมือจับตกแต่งโครเมียม เบาะสีดำบุผ้าลายใหม่ พวงมาลัย 3 ก้านสไตล์สปอร์ตดีไซน์ใหม่ พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย หน้าปัทม์แสดงข้อมูลการขับขี่ Multi Information Display (MID) แบบเรืองแสงสีขาวโดดเด่น และเสริมด้วยระบบนำทางในรถยนต์ (Navigation System) เป็นต้น โดยวางราคา 433,000 - 608,000 บาท
เรียกว่า... นิสสันเปิดเกมรุกไม่ยอมคู่แข่งแต่อย่างใด ทั้งการรักษาฐานลูกค้าเก่าและขยายสู่ตลาดใหม่ๆ เป็นกลยุทธ์เดียวกับค่าย ฮอนด้า ที่ซอยย่อยผลิตภัณฑ์เจาะกลุ่มลูกค้าคลุมทุกไลฟ์สไตล์ให้มากที่สุด!... |
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [
