โลงต่อตาย : Death is Beautiful



ผมไม่อาจออกหน้าปกป้องผู้กำกับเอกชัย เอื้อครองธรรม ได้ว่าผลงานชิ้นใหม่เรื่องนี้สมบูรณ์ไร้รอยตำหนิ โชคดีที่ผมไม่ใช่พวก Perfectionist จึงยังเหลือคำชมเป็นการปลอบใจ โดยเฉพาะความรู้สึกสั้นๆ ว่าโลงต่อตายเป็นหนังที่ผมชอบ

หากใครเคยอ่านธรรมะมาบ้างโดยไม่ต้องถึงขั้นศึกษาลึกซึ้ง คงเข้าใจความคิด “การตายก่อนตาย” มาพอสมควรและอาจเห็นว่าประเด็นนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าโลงต่อตายคือครั้งแรกที่ประเด็นนี้ถูกพูดถึงในรูปแบบภาพยนตร์



โลงต่อตายว่าด้วยความหวาดกลัวและความน่าขยะแขยงต่อสภาวะธรรมชาติที่เรียกว่า “ความตาย” ความกลัวที่ถูกแสดงออกชัดผ่านสัญลักษณ์ของผีอันเป็นรูปแบบความกลัวสากล ก่อนที่จะพัฒนาไปสู่ความเข้าใจและยอมรับได้ในท้ายที่สุด จุดเปลี่ยนของความคิดจากที่เคยต้านทานเป็นยอมรับ คือความตายของอวิชชาสู่การรู้แจ้งก่อนที่กายเนื้อนี้จะตายลงจริงๆ

โดยเนื้อเรื่องแล้ว การนอนโลงก่อนตายและการบรรจุศพใส่โลงเมื่อตายลงแล้วจริงๆ สอดคล้องกับความคิด “การตายก่อนตาย” อย่างเหมาะเจาะสวยงาม แต่โลงต่อตายเรื่องนี้ก็ไม่ได้ขับเน้นการนอนโลงให้มีความหมายลึกขึ้นยิ่งกว่าการนอนโลงสะเดาะเคราะห์ธรรมดาๆ



หนังแสดงแนวคิดเชิงบวก Death is beautiful หรือความตายเป็นสิ่งสวยงามเข้างัดข้อกับความเชื่อฝังหัวว่าด้วยความรักตัวกลัวตายของมนุษย์ การชื่นชมความงามของภาวะธรรมชาติแบบนี้เป็นทัศนะที่เห็นกันไม่บ่อยนักในหนังไทยและโลงต่อตายก็สื่อออกมาได้ค่อนข้างสวยงามดังข้อความคิดที่เกริ่นไว้ข้างต้น

หนังเล่าเรื่องความเชื่อของคนไทยในการนอนโลงสะเดาะเคราะห์เพื่อต่อชีวิตให้กับตนเองตลอดไปถึงบุคคลอันเป็นที่รัก ทว่าชีวิตหลังการตายหลอกนั้นยังมีความน่ากลัวย้อนกลับมาหลอกหลอนให้ต้องทุกข์ใจหนักไปกว่าเก่า เหมือนว่าชีวิตที่เหลือไม่มีแล้วซึ่งความน่าอภิรมย์ใดๆ เป็นการมองมุมกลับของ Life is Beautiful หรือการมีชีวิตคือสิ่งสวยงามอย่างชัดเจน



หนังเดินเรื่องคู่ขนานระหว่างคริส ( อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม กับชื่อในหนังที่อดคิดไม่ได้ถึงแง่มุมทางศาสนา ) หนุ่มไทยซึ่งแฟนสาวชาวญี่ปุ่นชื่อมาริโกะ ( อากิ ชิบูย่า ) กำลังอยู่ในอาการโคม่า และเรื่องของซู ( คาเรน ม็อค ) นักโภชนาการสาวชาวฮ่องกงที่พบว่าตนเองเป็นมะเร็งก่อนเข้างาน วิวาร์กับแฟนหนุ่มชื่อแจ็ค ( แอนดรู ลิม ) ในสถานการณ์ที่เผชิญหน้ากับความตายและไม่มีอะไรต้องเสีย คริสและซูร่วมพิธีนอนโลงซึ่งจัดขึ้นในประเทศไทย คนหนึ่งทำเพื่อคนที่รักในขณะที่อีกคนทำเพื่อตนเอง หนังชี้ให้เห็นว่าผลข้างเคียงของพิธีกรรมนั้นไม่แตกต่างกัน พร้อมเฉลยชั้นเชิงในการเล่าเรื่องที่เล่นแง่มุมกับเงื่อนเวลาในตอนท้ายได้น่าสนใจ



จุดด้อยของโลงต่อตายคือการพยายามเป็นหนังผีทั้งที่ผู้กำกับไม่ได้ศรัทธาต่อแนวทางนี้อย่างจริงใจ ต่างจากสองผู้กำกับชัตเตอร์ฯ ซึ่งผลงานที่ผ่านมาเห็นอย่างชัดเจนถึงจังหวะจะโคนการจับอารมณ์คนดูได้อยู่มือ เล่นกับความหวาดระแวงที่ผู้ชมสร้างขึ้นภายใต้การชี้นำของหนังอย่างได้ผล ไม่รู้เป็นพรสวรรค์หรือเทคนิคส่วนตัวแต่ผมถือว่าพวกเขาเกิดมาเพื่อสิ่งนี้

โลงต่อตายขาดจุดยืนที่มั่นคงระหว่างทางแพร่งของเรื่องดราม่าและผี เราจะเห็นความไม่แน่ใจตลอดเวลาฉายที่เดินเรื่องแบบกั๊กๆปล่อยๆ ประมาณน้องตุ้มใน Beautiful Boxer ที่ไม่ชัดเจนว่าตัวเองจะยืนอยู่ฝั่งไหนของสังเวียนดี ความเป็นดราม่าหรือแง่มุมทางศิลปะของผู้กำกับถึงวันนี้คงไม่มีใครสงสัย แต่การจับงานให้เหมาะกับตัวก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าความสามารถที่มีนั้น ผมเชื่อในความคิดที่ว่า Anyone can cook จากหนังการ์ตูนเรื่องโปรด Ratatouille แต่ผมกลับไม่เชื่อว่าผู้กำกับที่ดีจะต้องทำหนังได้ดีในทุกแนว



นักแสดงหลักทุกตัวทำหน้าที่ได้สมบทบาท จะขัดใจอยู่บ้างก็ตัวประกอบทั้งหลายที่สวยหล่อเกินธรรมชาติ แย่งความเด่นของตัวหลักให้เลือนลงอย่างน่าเสียดาย ผมคิดว่าหน้าตาเกรดนี้ไม่เหมาะกับหนังที่ผูกโยงตัวเองกับเรื่องราวทางไสยศาสตร์นัก มันต้องหน้าตาแบบสัปเหร่อหรือศพนอนรอเผาในเมรุนั้นที่แหละเหมาะสุดๆ แล้วกับหนังในอารมณ์นี้

หนังจัดแสงโทนเย็นอย่างจงใจ (นึกถึงแสงในหนังของเอกชัย เอื้อครองธรรมโดยเฉพาะ Beautiful Boxer ซึ่งเด่นมากจนเรียกว่าแสงก็ยังเล่าเรื่องได้ เป็นความขัดแย้งรุนแรงของโทนร้อนและเย็นที่ปรากฏซ้อนกันในตัวน้องตุ้ม น้ำเงินและแดงที่เข้ากันดีกับสีของกีฬามวย แต่เมื่อสองสีนั้นผสมกันเองกลับกลายเป็นสีของสถาบันรักร่วมเพศไปซะงั้น… จุดนี้ถือเป็นข้อได้เปรียบของผู้กำกับละครเวทีที่เอาทั้งศาสตร์ของแสงมาใช้ในหนังได้อย่างลงตัว) สีฟ้า น้ำเงิน ไปจนถึงสีดำที่บางครั้งให้อารมณ์ยะเยือกชวนสยอง บางครั้งก็ทำให้รู้สึกถึงการรำงับของกิเลสสู่ความสงบเย็นในจิตใจ



ฉากจบของโลงต่อตายทำให้ผมนึกถึงเรื่อง American Beauty อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นภาพกลีบกุหลาบแดงฉานที่ร่วงปนอยู่กับเถ้ากระดูกซึ่งถูกจัดวางเป็นรูปมนุษย์ สื่อข้อความสุดท้ายสรุปหนังทั้งเรื่องว่าความตายตามวาระนั้นเป็นสิ่งสวยงาม

หนังโฟกัสตาลปัตรอันสุดท้ายที่เขียนข้อความ “หนีไม่พ้น” ไว้ในฉากนอนโลงสะเดาะเคราะห์หมู่ครั้งยิ่งใหญ่ ทั้งที่ทุกคนรู้ว่านั่นคือสัจธรรมแต่เราก็ยังคงหนีตายและยื้อกันทุกทางเพื่อให้วาระนั้นถอยห่างออกไปให้ไกลที่สุด เรายินดีและรักชีวิตที่อยู่ด้วยความกลัวตาย ? ทั้งกลัวความตายของตนเอง กลัวความตายของคนที่เรารัก



ผมไม่อาจคิดแทนคนที่รู้ตัวว่ากำลังจะตายได้ว่าเขาควรจะต้องรู้สึกอย่างไร ขนาดทำใจยอมรับความจริงว่าบุคคลอันเป็นที่รักได้จากโลกนี้ไปแล้วยังเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง ความคิดที่ว่า “ความตายเป็นสิ่งสวยงาม” ไม่ว่าใครก็คงพูดได้ถนัดปากและเข้าใจได้ไม่ยากนักในยามมีสติ แต่เมื่อต้องยืนเผชิญหน้ากับความตายของตัวเองจริง ๆ ความเข้าใจที่เคยมีต่อความคิดนี้อาจต่างออกไปอย่างสุดขั้ว

ฉากจบของโลงต่อตายเป็นตัวแทนที่ดีของความตายหรือการสิ้นสุดที่แสนจะสวยงาม หวังว่าวันนึงเราจะเข้าใจมันอย่างถ่องแท้และดับความกลัวนั้นลงได้ก่อนที่ความตายจริงๆ จะมาเยือน





Create Date : 25 สิงหาคม 2551
Last Update : 26 สิงหาคม 2551 10:45:32 น. 4 comments
Counter : 2502 Pageviews.

 
แค่รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ต้องไปดูอีกรอบค่ะ :) ดูมันมีอะไรมากกว่าที่เห็นในหนัง ต้องไปดูอีกที เก็บรายละเอียด

ผิดหวังกับความเป็นหนังผี
แต่ชอบกับหนังดราม่าค่ะ :D


โดย: My Lullaby วันที่: 26 สิงหาคม 2551 เวลา:21:33:34 น.  

 
เรื่องนี้หน้ากลัวและซึ้งมากชอบมากมากเลย


โดย: looknam IP: 58.8.45.248 วันที่: 11 กันยายน 2551 เวลา:14:36:05 น.  

 
ประทับใจกับหนังเรื่องนีมากมากอยากดูอีกรอบ


โดย: นางฟ้าไร้ปีก IP: 58.8.45.248 วันที่: 11 กันยายน 2551 เวลา:14:43:10 น.  

 
อยากให้มะหมี่เป็นนางเอกมากกว่านะ แต่ฉันคิดว่ามะหมี่นั้นดูเหมาะสมกับบทนี้ ดีกว่าบทนางเอกของเรือ่งด้วยซ้ำไป
เบือ่หน้าอนันดามากเลย บลอคนี้ก็ดีนะ ตัวอักษรโตดีอ่านง่ายๆ ตา ไม่เห็นโอลิเวอร์ พูพารตนานแล้ว


โดย: กอกล้วยสีฟ้า IP: 223.204.144.55 วันที่: 8 สิงหาคม 2555 เวลา:16:48:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

beerled
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
25 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add beerled's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.