|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
งานศพ (อีกแล้ว) - More Love, More (Ost.The Classic คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต)
งานศพ (อีกแล้ว) - More Love, More (Ost.The Classic คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต)
More Love, More (Sarang Ha Myun Hal Soo Rok) - Instrumental - The Classic Melody - Ost.The Classic คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
สวัสดีค่ะ กลับมาแล้วค่ะ คราวนี้กลับจากเดินทางไประยองมาค่ะ ไปร่วมงานศพตั่วโกว หรือคุณป้าคนโตมา เมื่อเดือนเมษายนก็เพิ่งจัดงานศพอาม่าไป ซึ่งก็คือแม่ของโกวทั้งสามคน ตั่วโกว หยี่โกว โส้ยโกว ตั่วโกวก็มานอนค้างที่บ้าน ช่วยจัดงานอยู่เลย ใครจะรู้ว่าการเจอกันครั้งนั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกัน ไม่น่าเชื่อว่าคนที่ดูแข็งแรงดี ไม่กี่เดือนต่อมากลับหมดแรงไปเฉย ๆ หลังจากบ่นว่าเพลีย ๆ แล้วก็นอนพักผ่อน ตกเย็นก็ไม่รู้สึกตัวอีกแล้ว ส่งเข้ารพ.ระยองอยู่ 1 อาทิตย์ ปั๊มหัวใจไป 2 รอบ และก็จากไป
การจากไปของคนใกล้ชิดในครอบครัวเริ่มดำเนินมาเรื่อย ๆ ในช่วงหลายปีมานี้ ซึ่งก็พยายามเข้าใจสัจจะของชีวิตที่คนเราจะต้องมีเกิด แก่ เจ็บ และตาย จากกันไปในที่สุด ไม่มีผู้ใดที่หนีพ้นไปได้ และการได้ไปร่วมงานศพถี่ขึ้นเรื่อย ๆ ในระยะหลัง คนรุ่นก่อนหน้าค่อย ๆ หายจากกันไปทีละคน ทีละคน ก็ยิ่งย้ำเตือนให้ตระหนักถึงความไม่ประมาทของชีวิต และใช้ชีวิตอยู่ให้คุ้มค่าที่สุดอยู่เสมอ การเข้าวัดบ่อยขึ้นทำให้ปล่อยวางและพิจารณาชีวิตอยู่เสมอได้บ่อยยิ่งขึ้น การไปร่วมงานศพ และได้ฟังพระอภิธรรมทุกครั้งที่ฟังจะพิจารณาตามไปด้วยอยู่เสมอ ว่าชีวิตคือของไม่เที่ยง ชีวิตคืออนิจจัง ร่างกาย สังขาร ย่อมมีวันเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดานั้นเป็นความจริง และงานศพมากมายที่ไปมากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งตอกย้ำสิ่งเหล่านี้เสมอ ครอบครัวใหญ่ซึ่งเป็นครอบครัวขยายแบบคนจีนของเราที่นับญาติพี่น้องที่รู้จักคุ้นเคยกันดี ทั้งหมด 15 คน ภายใน 7-8 ปีมานี้จากไปแล้วเกือบครึ่ง คนรู้จัก ญาติที่สนิทค่อย ๆ หายกันไปทีละคน และอยู่รอบตัวเราทั้งนั้น ทำให้เราต้องมาใคร่ครวญและพิจารณาว่า เมื่อไหร่จะถึงคิวของเรานะ เราก็ย่อมหนีไม่พ้นสิ่งนี้เช่นกัน
การต้องมาแต่งหน้าศพคนตายทำให้พิจารณาว่า คนเราตอนมีชีวิต จิตวิญญาณอยู่ในร่าง และหลังจากตายไปแล้วแตกต่างกันอย่างไร พิธีป้อนข้าวศพมีเพื่ออะไร เขากินไม่ได้แล้วยังต้องป้อนอีก เปรียบได้ว่าเมื่อตอนอยู่พ่อแม่ ปู่ย่า ท่านนั้นเคยเลี้ยงดูป้อนข้าวป้อนน้ำเรา ตอนตายเราก็ต้องป้อนท่านจนวาระสุดท้าย การเปิดฝาโลงศพให้ดูหน้าเป็นครั้งสุดท้าย การเอาน้ำมะพร้าวล้างหน้าศพและขึ้นเมรุเผาศพ ล้างไปทำไม คนตายแล้วไม่ต้องห่วงหล่อห่วงสวยอีกแล้ว แต่แท้จริงต้องการให้ลูกหลานได้พิจารณาดูสภาพร่างกายอีกครั้ง ว่าสิ่งที่เรายึดติดว่าสวยว่างาม คนที่เรารัก ชอบ ผูกพันนั้น แท้จริงแล้วก็ไม่คงอยู่ถาวร ในที่สุดก็ต้องเสื่อมสลายไป ร่างกายคนก็เช่นเดียวกัน การนั่งมองเปลวไฟที่ค่อย ๆ มอดไหม้จนเป็นเถ้าถ่าน และนั่งรอเก็บกระดูกไปลอยอังคาร หรือเก็บไว้บูชา นั่งทำอะไรกัน จับกลุ่มพูดคุย หรือนั่งฆ่าเวลาไปเฉย ๆ แต่แท้จริงแล้วควรนั่งพิจารณาความเสื่อมสลายไปต่อหน้าต่อตา ว่าท้ายที่สุดแล้วร่างกายคนก็เท่านี้ เหลือแค่เพียงเถ้ากระดูกกองเล็ก ๆ กองหนึ่งเท่านั้นเอง
แล้วเวลานี้ ท่านทั้งหลายกำลังทำอะไรกันอยู่ กำลังดำเนินชีวิตให้เป็นไปตามวัฏจักรที่หนีไม่พ้นต่อไปโดยไม่คิดอะไรเลย หรือดำเนินชีวิตให้มีสตินึกถึงความตายอยู่ทุกขณะจิต ทุกลมหายใจ.....
สุดท้ายนี้ ขอนำบทกลอนที่ได้จากวัดมาฝากให้พิจารณากันค่ะ
เมื่อเจ้ามามีอะไรมาด้วยเจ้า เจ้าจะเอาแต่สุขสนุกไฉน เมื่อเจ้ามาตัวเปล่าเจ้าจะเอา อะไร เจ้าก็ไปตัวเปล่าเหมือนเจ้ามา
นู๋ Beee เองค่ะ
Create Date : 02 พฤศจิกายน 2551 |
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2551 12:31:26 น. |
|
10 comments
|
Counter : 1427 Pageviews. |
|
|
|
โดย: นู๋ Beee เองค่ะ (Beee_bu ) วันที่: 2 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:16:26 น. |
|
|
|
โดย: นู๋ Beee เองค่ะ (Beee_bu ) วันที่: 2 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:18:45 น. |
|
|
|
โดย: hs_olj วันที่: 2 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:47:18 น. |
|
|
|
โดย: lastmoon วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:10:15:18 น. |
|
|
|
โดย: ดราก้อนวี วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:28:55 น. |
|
|
|
โดย: ลุดวิก IP: 202.57.150.199 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2551 เวลา:8:40:07 น. |
|
|
|
โดย: ความเจ็บปวด วันที่: 4 พฤศจิกายน 2551 เวลา:18:53:16 น. |
|
|
|
โดย: Narisza! IP: 58.64.106.209 วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:17:46:43 น. |
|
|
|
โดย: air IP: 223.205.209.137 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2554 เวลา:11:55:41 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
MY VIP Friend
width=40 height=40 align=middle vspace=2 hspace=2 border=0 title="cilladevi"> |
|
|
|
แบบแรก บอกว่าเป็นของหลวงพ่อโต
ยศและลาภ หาบไป ไม่ได้แน่
มีเพียงแต่ ต้นทุน บุญกุศล
ทรัพย์สมบัติ ทิ้งไว้ ให้ปวงชน
แม้ร่างตน เขาก็เอา ไปเผาไฟ
เมื่อเจ้ามา มีอะไร มาด้วยเจ้า
เจ้าจะเอา แต่สุข สนุกไฉน
มามือเปล่า แล้วเจ้า จะเอาอะไร
เจ้าก็ไป มือเปล่า เหมือนเจ้ามา"
//- บทกลอนคำเทศน์ของหลวงพ่อโต
(สมเด็จพระพุฒาจารย์ พรหมรังษี)
ต่อ พระปิยมหาราช เมื่อท่านยังทรงพระเยาว์
ในขณะที่หลวงพ่อโตอยู่ในวัยชรา
และ เป็นช่วงเวลาแผ่นดินที่ 5 แผ่นดินสุดท้ายของท่าน