ถ้าพูดถึง Makeup Artist คนดังของเกาหลี
ทุกคนก็พอจะรู้จักกันเป็นอย่างดีกับ "Jang Saem Mool"
และถ้าใครได้ติดตามผลงานการแต่งหน้าผ่านทาง YOUTUBE ของเค้าแล้วล่ะก็
จะต้องหลงใหลในฝีมือ การวาดสีสันบนใบหน้านางแบบ
เวลาส้มดูทีไร รู้สึกเหมือนเค้ากำลังวาดภาพลงผืนผ้าใบอยู่ทุกที
ดูไปเรื่อยๆ ก็เริ่มหาข้อมูลเยอะขึ้น
จนกระทั่งได้ทราบว่า เค้าได้ผลิตเครื่องสำอางค์ของตัวเองขึ้นมา
ภายใต้แบรนด์ Mule (อ่านว่า มูล)
แล้วก็เริ่มเห็นเค้านำมาใช้ในคลิปวีดีโอสอนแต่งหน้ามากขึ้น
ทำให้กิเลสค่อยๆพุ่งทีละนิดๆๆๆๆ จนกระทั่งพุ่งพรวด!
ทนไม่ไหว...พยายามหาซื้อแล้วร่วมปี ก็ไม่มีใครเอาเข้ามาขาย
เพราะของเค้ามีขายที่เกาหลีที่เดียว ไม่มีวางจำหน่ายทั่วไป
จนกระทั่งส้มไปเจอโดยบังเอิญ เมื่อเดือนที่แล้ว
ว่ามีการจัด Special Set ของรายการ Get It Beauty
ผ่านทางเวป koreadepart.com ในราคาทั้งเซต USD 93.58
รวมค่าส่งอีกประมาณ 100 บาท ก็เฉลี่ย 3,000 บาททั้งเซต
ซึ่งจะบอกว่าคุ้มมากกกกกกก
ส้มเห็นก็รีบกดสั่งซื้อมาโดยทันที
และรอของประมาณ 8 วันก็ได้ของตามต้องการ
มาดูหน้าตากล่องกันเลยว่าสั่งมาจากเวปนี้แล้วเป็นอย่างไรบ้าง
ก็มาในกล่องพัสดุสีน้ำตาลปกติค่ะ
หลายคนจะต้องถามส้มแน่ๆว่า "โดนภาษีมั้ยคะ"
บอกได้เลยค่ะว่า "ไม่โดน แต่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม 7 บาทจ้า"
โชคดีมากๆเลย
แกะกล่องออกมา ก็จะได้ของตามที่สั่งเลยค่ะ
ส่วนนี่ก็คือของแถม ... ดีใจมาก ไม่คิดว่าจะมีของแถมมาให้ด้วย 
เอาล่ะ...เนื่องจากของค่อนข้างเยอะ
วันนี้ส้มเลยขอเลือกที่จะรีวิวตัวนางเอกของ MULE เค้าก่อนเลยละกันนะคะ
ส่วนที่เหลือค่อยมารีวิวอีกทีวันหลัง
กับ MULE ER Treatment Oil (ขนาด 30 ml)
ใน Special Set นี้จะมีทั้งหมด 6 ขวดด้วยกันค่ะ
คำเคลมจากทางแบรนด์
: Water oil with quick absorption like water. : Light like water and moisturize like oil. : Can be mixed with makeup and basic skin care products. : 24 angle Safety Cutting and UV coating container to protect from the sun. : One Drop System for clean pump. : Tasmania Lavender oil, Songjin oil
How to Use: After makeup spray like a mist. * Mix with basic skin care products or instead of essence. * Apply on dry skin area. * Apply before and after the makeup. * Apply on dry hair and body oil, multi use.
ลักษณะของผลิตภัณฑ์
มาในขวดแก้ว 24 มุม ขวดเคลือบด้วยสารกันรังสียูวี
ขวดจะออกสีม่วงอ่อนใสค่ะ ด้านบนเป็นฝาสีน้ำตาลเอาไว้หมุนเปิดออก
พอเปิดฝาออกมาแล้ว จะพบว่าด้านบนขวดเพื่อเท water oil ออกมานั้น
จะเป็นรูแบบปากเปิดออกเพื่อสะดวกต่อการเท
ลักษณะจะดูเหมือนน้ำมันใสๆ มีกลิ่นหอมลาเวนเดอร์อ่อนๆ
เวลาใช้ให้หยดลงบนมือ 1-2 หยด แล้ววอร์มที่มือ
ในช่วงเวลาที่ถูบนมือนั้น จะรู้สึกเหมือนน้ำมัน รู้สึกถึงความมัน
แต่พอนำมาทาบนใบหน้าแล้ว water oil นี้จะซึมสู่ผิวและแห้งไปกับผิว
แต่ยังคงมีความชุ่มชื้นอยู่ค่ะ
แต่นี่ส้มได้ทดลองทาบนหลังมือให้เห็นว่า
ใช้แล้ว ผิวจะชุ่มชื้น จะดูอิ่มน้ำมากขึ้น ไม่แห้งกร้าน
เมื่อทดสอบบนใบหน้า หลังจากที่ได้แต่งหน้าเสร็จแล้ว
จะทำให้ผิวดู Glow ดูอิ่มน้ำ และดูชุ่มชื้นมากขึ้น
ผิวจะเป็นเงาๆอย่างที่เห็นในรูปด้านล่างนี้ค่ะ
ข้อดีและข้อเสีย
ข้อดี - เป็น Water Oil ที่ทำให้ผิวชุ่มชื้น ไม่ทำให้ผิวหน้ามัน
- ซึมสู่ผิวทันทีหลังใช้มือกดเบาๆลงใบหน้า
- กลิ่นหอมลาเวนเดอร์ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
- สามารถใช้กับส่วนอื่นๆของร่างกายได้เช่น ผิวกาย ผม เป็นต้น
- สามารถใช้ก่อน หรือ หลังแต่งหน้าก็ได้
- เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแห้ง
ส่วนคนผิวมัน อาจจะใช้ในปริมาณที่น้อย หากกลัวว่าระหว่างวันจะเยิ้มเกินไป
ข้อเสีย - หาซื้อยาก ไม่มีวางจำหน่ายในไทย
- หากใช้เยอะ จะทำให้หน้าดูฉ่ำวาวมากเกินไป
หากใครสนใจ อาจจะลองคลิกไปดูที่
ที่ส้มสั่งซื้อมา ตอนนี้ไม่มีจำหน่ายแยก เพราะอย่างที่บอกคือมันเป็น
Special Set ค่ะ ซึ่งมีจำนวนจำกัด ถ้าอยากได้ต้องรีบสั่งซื้อมาค่ะก่อนที่จะหมด
วันนี้ขอรีวิวแต่เพียงเท่านี้ แล้วครั้งหน้าจะมารีวิวตัวอื่นๆที่เหลือให้ได้ดูกันค่ะ
หรือ อาจจะดูในคลิปวีดีโอนี้ก่อนก็ได้ค่ะ ส้มรีวิวคร่าวๆให้ได้ดูแล้ว
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวครั้งหน้านะคะ
หรือแวะมาคุยทักทายกันได้ที่
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 132 คน [