|
"ดีเจเจ๊แหม่ม-บอย" แต่ง 12 ก.ค. ลั่นไม่เอาสินสอด ให้คำมั่นจะรักกันไปจนแก่!
ดีเจเจ๊แหม่ม ควง บอย เปิดใจ ยันแต่งจริง 12 ก.ค. จัดงานเรียบง่ายเชิญดารา 15 คน เล็งนำเงินจากงานแต่งไปทำบุญทั้งหมด รับจดทะเบียนเก๊แปะฝาบ้านไว้เป็นเครื่องเตือนใจ ไม่เอาสินสอดอยากได้แค่ความสุข แพลนฮันนีมูนแค่ปทุมธานี มั่นใจเป็นคู่รักเก้งกวางคู่แรกที่จะอยู่ด้วยกันจนแก่ แม้จะมีภาพแต่งงานเรียบง่ายตามพิธีแบบไทยไปเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (10 ก.ค.) แต่ล่าสุด ดีเจเจ๊แหม่ม วินัย สุขแสวง ก็ได้ควงหวานใจ บอย พัชรวัสส์ คงถวิล ซึ่งคบหาดูใจเกือบ 2 ปี มาเปิดใจ ณ สตูดิโอ โมเดิร์นไนน์ ทีวี โดยเผยว่างานแต่งจริงคือวันที่ 12 ก.ค.โดยตนเชิญเพื่อนดาราแค่ 15 คนเท่านั้น อยากให้เป็นงานแต่งที่เรียบง่าย และอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า เจ๊แหม่ม : ตั้งใจไว้ตั้งนานแล้วว่าวันที่ 12 ก.ค. เราจะแต่งงานกัน เราก็คุยกันว่าเราควรจะหาฤกษ์ดีๆ ไปทำบุญกันเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ให้เรามีสิริมงคลกับตัวเราเอง ก็คุยกันงั้นเราตื่นเช้าไปทำบุญหน่อยดีกว่า เราก็ลางานไปทำบุญกัน เราก็ทำกับข้าวใส่ปิ่นโตไปถวายพระ พร้อมเครื่องสังฆทาน กับท่านพระครูที่เรานับถือมาตลอด เวลามีเรื่องไม่สบายใจ มีงานมงคลใดๆ หรือจะไปครอบครูท่านก็จะคอยให้ศีลให้พรตลอด เมื่อเช้าท่านบอกว่าในเมื่อเป็นสิริมงคลที่เราตั้งใจจะไปตักบาตรกันอยู่แล้ว ท่านก็ทำน้ำมนต์ให้ รดน้ำมนต์ให้กับเรา เราก็ถวายสังฆทาน ถวายปัจจัยสร้างโบสถ์สร้างวิหาร เรียกว่าเราได้ทำบุญในหลายๆ ต่อก็สบายใจดี เมื่อเช้าก็ไม่มีแขกอะไร มีแต่น้องๆ ที่เขามาช่วยถ่ายภาพเพราะเราอยากจะเอาภาพงานวันนี้ไปใช้ในวันที่ 12 ด้วย บอย : ท่านก็ให้พรว่าอยู่ด้วยกันอย่างมีสติ อยู่ด้วยกันด้วยความเข้าใจ เจ๊แหม่ม : ท่านก็เตือนสติ เราเห็นตัวอย่างในหลายๆ คู่แล้วเรารู้สึกว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีเรื่องของอารมณ์เข้ามาเป็นหลักกับการใช้ชีวิตไม่ว่าจะเป็นชีวิตคู่หรือแบบไหนก็แล้วแต่มันก็มักจะพัง เวลามีอะไรเราต้องหันหน้าคุยกัน เอาอารมณ์ออกไปให้หมดให้ได้ มันเป็นการดำเนินชีวิตขั้นพื้นฐานที่ทุกคนต้องรู้และทุกคนก็ทำกันลำบาก เราก็ยังคุยกันอยู่เลย พอท่านพูดมาแบบนี้เราก็มองหน้ากัน เออๆๆ นะ เราก็แว้บคิดว่าเราเคยทะเลาะกันหรือเปล่า ก็จะมีงอนกันแล้วก็เงียบๆ กันไป มันก็ไม่มีอะไรรุนแรง งานเราจะจัดวันที่ 12 ก.ค. เป็นฤกษ์ที่เราวางไว้ตั้งนานแล้ว แต่เมื่อเช้าเป็นฤกษ์มงคล เราตั้งใจว่าถ้าฤกษ์มงคลมันอยู่ในจังหวะเดียวกัน ท่านก็บอกว่ายูก็มาทำบุญกันอยู่แล้วก็มาทำบุญเสียเลย ก่อนที่จะไปอยู่บ้านใหม่ ใช้ชีวิตใหม่ ถือว่าได้ทำบุญชุดใหญ่ในฤกษ์ที่มันดีจริงๆ 12 ก็คืองานแต่ง จะมีญาติผู้ใหญ่กลุ่มหนึ่งมารดน้ำให้พรเรา งานก็จัดที่บ้านของเรา ธีมงาน Gray good party บอย : เป็นแนวปาร์ตี้ เจ๊แหม่ม : การจัดงานของเราเราคุยกันตลอดว่าเราจะทำให้กวนคนอื่นน้อยที่สุด ก็เลยเชิญแต่ครอบครัวและเพื่อนสนิท บ้านที่ใช้จัดงานอยู่ที่สาทรเป็นบ้านของบอย แต่เรือนหออยู่ที่นนทบุรี เผยเจิมหน้าผากคล้องพวงมาลัยเป็นเรื่องปกติ ปัดพูดไม่เต็มปากแต่งแล้ว แค่ไม่อยากให้เอิกเกริก เจ๊แหม่ม : ท่านจะเจิมให้ศีลให้พรแบบนี้อยู่แล้วส่วนมาลัยท่านก็ประพรมน้ำมนต์ให้ ก็ปกติ เหมือนเราครอบครูท่านก็ทำให้แบบนี้ ท่านก็จัดเต็มให้เรา ท่านว่าอะไรถือว่าดีเรารับหมด เราไม่อยากทำอะไรให้มันเอิกเกริกไง แล้วเราเองมีเพื่อนสนิทน้อย เรียกว่านับหัวได้เลย เราเลยไม่อยากจะไปจัดอะไรให้วุ่นวาย ต้องเชิญแขกให้เหนื่อย ขนาดงานจัดเล็กๆ ที่บ้านยังยาก เหนื่อยขนาดนี้ เราไม่มีความรู้สึกอยากจะทำให้มันยิ่งใหญ่ เว่อร์วัง ความสุขลึกๆ จริงๆ ของเราสองคนเราอยากให้มันเริ่มจากที่บ้าน ไม่อยากให้จบงานแล้วทุกคนกลับ แล้วความสวยมันยังอยู่ในโรงแรม เราเอากลับบ้านไปไม่ได้ ฉันอยากได้นั้นได้นี่นะ งั้นแปลว่าเราจัดที่บ้านเราดีกว่า ยังมีดอกไม้ไว้มองดูอีกตั้ง 2-3วันไม่เสียดายเงิน มันตอบโจทย์เราแบบนี้มากกว่า แขกที่จะมาก็มีแค่ 15 คนเอง อยากเชิญแค่นี้จริงๆ มันจะมีคำถามถามมาว่า อุ้ยไม่เชิญเหรอ แล้วอยากจะฝากซองช่วยงาน ก็จะลำบากเขาอีกแต่ถ้าอยากฝากมา เราก็จะเอาเงินไปทำบุญให้หมดเลย เราไม่เอาสักบาทเดียว เรารู้สึกว่าความสุขของเราคือการไม่ทำให้คนอื่นเขาต้องมาเดือดร้อน มีเครื่องหมายคำถามว่าแล้วจะต้องใส่ซองกลับคืนกี่บาทเพราะเราเองก็คิด เราไม่อยากให้ความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้น ถ้าเรียกว่าต่อบุญกันไป ได้ทำบุญร่วมกัน แฟนเราเองเขาก็โลกส่วนตัวสูงด้วย เขาจะวางตัวลำบากเวลาต้องเจอเพื่อนๆ ที่สนิทมากเขาไม่รู้ว่าต้องวางตัวยังไง เราเองก็มีเพื่อนสนิทกันไม่กี่คนจริงๆ อย่างเพื่อนดาราที่สนิทก็นับหัวได้เหมือนกัน เราเองก็รู้ว่าเขาคงติดถ่ายละคร ก็เรียกว่าแทบจะไม่ได้เชิญใครเลยจริงๆ บอย : ผู้ใหญ่ก็ให้พร ท่านบอกให้คุยกันให้รู้เรื่องทุกวัน บอกไม่เอาสินสอดเพราะมีครบแล้ว ตายไปเอาอะไรไม่ได้สักอย่าง แค่ฝ่ายชายให้ความสุขตนก็เพียงพอแล้ว เจ๊แหม่ม : เราเป็นคนที่มีอะไรครบหมดแล้ว เรามีบ้านมีรถ เราสบายแล้วเราไม่อยากจะได้อะไรที่มันเยอะไปกว่านี้แล้ว เขาให้เราก็ไม่เอา เรารู้สึกว่าตายไปก็เอาไปไม่ได้ สมบัติของเขาถึงเขายกให้เราแต่ยังไงมันก็เป็นของเขาอยู่วันยังค่ำ เราอยู่ในที่ของเราสบายใจกว่า ถามเขาจะให้อะไรเราบ้าง เขาให้เราคือความสุข เข้ามาดูแลจัดการบริหารชีวิตเรา เขาเข้ามาช่วยจัดการ ตบให้ชีวิตเรามีระเบียบขึ้น ตรงนี้มันมีค่ามากกว่าพวกทรัพย์สิน แหวนเพชรที่เราเองก็ไม่ได้จะใส่ในชีวิตจริง ชายแต่งงานกับชาย จริงๆ ก่อนหน้านี้มีตั้งเยอะ บางทีเราเจอน้องๆ นะ เขาก็บอกเขาแต่งมาแล้ว เราก็แอบถามเขาว่าเขาแต่งยังไง เขาก็บอกเขาแต่งง่ายๆ ไปทำบุญ ไม่อยากจะเอาเงินไปตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ให้มันฟุ้งเฟ้อ แต่พอมาเป็นเรา คนเลยคิดว่ามันเป็นการจุดประกายอะไรหรือเปล่ามากกว่า บอกจดทะเบียนหลอกๆ ไว้เตือนใจว่าแต่งงานกันแล้ว แปะไว้ข้างฝาบ้านไว้เตือนสติเวลาโกรธ-งอนกัน เจ๊แหม่ม : เราทำกันขึ้นมาเอง เราคิดกันว่าโดยธรรมชาติของทะเบียนสมรสของคนทั่วไปที่เขาแต่งงานกัน เขาก็จะจดทะเบียนแล้วถ่ายรูปโชว์กัน หลังจากวันนั้นเขาก็จะเอาไปเก็บไว้ในตู้ต่างๆ ไม่ค่อยจะได้เห็นเขาเอามาโชว์กัน เราเลยรู้สึกว่าเราอยากจะมีของแบบนี้ไว้ตั้งโชว์ที่บ้าน เปิดประตูเข้าบ้านมาแล้วก็เจอ เป็นของแต่งบ้านชิ้นหนึ่ง เหมือนกรอบรูป เวลาหงุดหงิดกันทะเลาะกันเวลาเห็นจะได้รู้สึกว่า อุ้ยตายนี่ไงมันแปะหน้ากูอยู่ มันเป็นเครื่องเตือนสติให้เราสองคน เวลาที่งอนกันไม่พูดกันเข้าบ้านมาก็จะเห็นก่อนเลยอันดับแรก จะได้คิดได้ เราเลยทำขึ้นมา มันไม่มีความสำคัญใดๆ ทางกฎหมายเลย แต่มันเป็นของแต่งงานของเราสองคนชิ้นหนึ่งว่าอันนี้ดูไว้นะเธอเวลาเธองอนฉัน เธอต้องดูจะได้จำได้ถึงเวลาที่เราเริ่มต้นชีวิตดีๆ มาด้วยกัน ถามว่าอยากให้มีกฎหมายรอบรับจริงๆ ไหมมันก็เป็นเรื่องที่ดี เราไม่ได้ลุกขั้นมาเปลี่ยนกฎของโลกหรือว่าอะไร มันจะดีอย่างหนึ่งที่คู่ของเรา เขาเหนื่อยเขาสร้างกันมา วันหนึ่งใครคนหนึ่งตายไปคนที่อยู่ควรจะมีส่วนในการได้รับสิ่งเหล่านั้น มันเป็นของเขาส่วนหนึ่งนะ เราเป็นอะไรไปเขาก็ควรจะมีสิทธิ์ในบ้านที่เราเคยอยู่ด้วยกัน เพราะเขาก็เหนื่อยมาด้วย แต่บ้านก็จะต้องกลับไปอยู่กับญาติลำดับที่เท่าไหร่ไม่รู้ ไม่ได้ลบหลู่พ่อแม่พี่น้องเรา แต่เรามองว่าส่วนนี้ก็สำคัญ ถ้ามันมีก็ดี แต่ถ้าจะต้องไปพยายามให้มันมีเราว่ามันก็เกินไปสำหรับเรา เขาเดินหน้ายังไงเราก็เดินตามดีกว่า ถ้าวันหนึ่งมันมีกฎหมายรองรับจริงๆ เราว่าเราก็ควรจะทำ มันเป็นการปกป้องสิทธิ์ของกันและกันในครอบครัวมากกว่า ไม่ใช่อยากให้โลกรับรู้ว่าฉันแต่งงานแล้ว บอย : ถ้ามีก็อยากจดที่ประเทศไทยนี่แหละครับ เจ๊แหม่ม : ครอบครัวเขาเองก็อยู่ที่อเมริกา เราเองไม่รู้นะ เราเห็นบางคนไปใช้ชีวิตในประเทศเสรีกันเราไม่รู้ว่าลึกๆ มันต้องมีเหตุและผลอะไรอีกเยอะแยะ ต้องดำเนินการยังไง เราว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ทะเบียนของเราเป็นอะไรที่ง่ายสุดแล้ว มันเป็นความสุขของเราสองคน เราคิดเสมอว่าเราทำอะไรก็ได้ที่จะไม่ไปกระทบกระเทือนกับของที่เขาเป็นของสำคัญจริงๆ เราก็ทำเป็นของสำคัญในแบบที่เรารู้กันสองคน รับอยากฮันนีมูนแค่ปทุมธานี อยากนำเงินไปทำบุญเลี้ยงคนอีกร้อยชีวิต บอย : ให้เขาเลือกเองดีกว่า เจ๊แหม่ม : งกไง รู้สึกว่านางเที่ยวมาเยอะแล้ว เลยไม่อยากไปเที่ยวไหน เราคุยกันเรื่องทำบุญมากกว่าเรื่องของฮันนีมูนอีก ในความตั้งใจของเราเราอยากไปฮันนีมูนที่ปทุมธานี เพราะไม่ต้องเดินทางไปไกล เก็บกระเป๋าให้เหนื่อย เราเคยไปที่นี่แล้วชอบเพราะมีความหลังฝังใจ เราเคยไปทำบุญที่บ้านกึ่งราชวิถีหญิง เป็นบ้านที่เขาดูแลคนป่วยที่มีปัญหาทางจิตใจ บางคนเสียสติจากความรัก บางคนติดยาก็มี เราไปมาแล้วเรารู้สึกว่าตายแล้วเงินของเราสามารถเลี้ยงคนได้อีกเป็นร้อยชีวิตเลย แต่เราไปเที่ยวหัวหนึ่งก็แสนบาท แต่เงินแสนบาทเราสามารถเลี้ยงพวกเขาได้เป็นสิบวัน ถ้าเราจะมีความสุขกับของสวยๆ งามๆ มันเป็นโลกทัศน์ใหม่ของเรา แต่เราไม่ต้องการตรงนั้น ความสุขของเราคือการเห็นคนอื่นยิ้ม บอย : เรามีความตั้งใจว่าจะเอาเงินส่วนหนึ่งของการจัดงานไปซื้อหนังสือให้เด็ก เผยฝ่ายชายรักเด็กอยากมีลูก 3 คนแต่ตนคงไม่รับเด็กมาเลี้ยง บอกฝืนธรรมชาติเกินไป เจ๊แหม่ม : เขารักเด็กมาก เห็นเด็กไม่ได้เลย เวลาเห็นเด็กเขาจะบอกกับเราตลอดว่าถ้ามีลูกได้จะมีลูก 3 คน ให้เธอเป็นคุณนายบ่าวตั้งอยู่บ้าน(หัวเราะ) บอย : มีแซวเขาบอกว่าคุณมีลูกให้ผม 3 คนนะแล้วจะไปไหนก็ไปเลย จริงๆ ก็มีแอบคิดบ้าง แต่มันก็เป็นไปไมได้แน่นอน เราเอื้อมมือไปช่วยเขานิดๆ หน่อยๆ เท่าที่เราช่วยได้ เขามีความสุขเราก็มีความสุขแค่นี้พอแล้ว เจ๊แหม่ม : เราไม่มีความคิดที่จะรับเด็กมาเลี้ยงเลย มีแต่รับแมว เรารู้สึกว่าอะไรที่มันผิดธรรมชาติ มันยากมันเหนื่อยอยู่แล้ว ยิ่งไปทำให้สวนทางกับธรรมชาติเข้าไปอีกมันจะเหนื๊อยเหนื่อยเกินไป มุมเขาเขาชอบเด็ก เขาจะหาเวลาไปเล่นกับเด็กทุกวัน แต่ถ้าจะรับเด็กมาเลี้ยงที่ไม่มีในหัวเราสองคนเลย เรารู้สึกว่ามันพยายามเกินไป ถ้าอยากจะเลี้ยงเด็กจริงๆ ก็คงเป็นการไปทำบุญกับเด็กดีกว่า เราก็จะมีลูกเป็นร้อยเป็นพันคน ลั่นห้ามความคิดคนแอนตี้ไม่ได้ ซึ้งใจฝ่ายชายอยากดูแลไปจนแก่ เจ๊แหม่ม : เราไปบังคับเขาไม่ได้อยู่แล้ว แต่ในมุมของเราเราเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่เราใช้ชีวิตอยู่แบบไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ต่อให้เราลุกขึ้นมาแต่งงานกัน ใช้ชีวิตด้วยกันเราก็ไม่ได้ไปทำให้เขาต้องลำบาก ไปเบียดเบียนให้เขาไม่สบายใจ มันก็เป็นเรื่องปกติที่เขาจะแสดงความคิดเห็นได้ เราไปห้ามเขาไม่ได้ เหมือนที่เวลาเราเห็นข่าวใครเราก็เข้าไปแสดงความคิดเห็น แต่เราก็มีลิมิตในการแสดงความคิดเห็น แต่เราไม่ได้ไปรู้ลึกๆ ในการใช้ชีวิตของเรา เราเข้าไม่ถึง นี่ก็เหมือนกัน คนที่ยินดีด้วยเราก็ขอบคุณ เรามองความรักเป็นสิ่งที่มีค่าและยิ่งใหญ่จริงๆ เราไม่ได้รักกันแค่เธอรักฉัน ฉันรักเธอ แต่เรารักกันแค่อยากมีใครสักคนหนึ่งที่จะอยู่กับเราไปนานๆ วันหนึ่งเราล้มหัวฟาดพื้นก็มีคนอุ้มเราไปส่งมากกว่าจะเห็นเรานอนตายเป็นข่าวหน้า 1 เราอยากได้คนแบบนั้น ซึ่งเขาเป็นคนหนึ่งที่เป็นตรงนี้ให้เราได้ เมื่อก่อนเราเป็นคนไม่เอาใครเหมือนกัน แต่วันหนึ่งมีคนเข้ามาทำให้เรารู้สึกว่าเขาทำดี๊ดี เราก็ต้องให้เขากลับไปเหมือนกัน ไม่ใช่จะเอาแต่ได้ เราก็ต้องดูแลเขาเหมือนกัน มันมาเจอกันที่คนหนึ่งอยากได้ อีกคนมีเยอะอะไรแบบนี้มันเลยไปด้วยกันได้ในการใช้ชีวิต บอย : คำสัญญาก็บอกเขาทุกวัน เจ๊แหม่ม : เขาก็จะบอกตลอดว่าให้เราอยู่กันไปจนแก่จนเฒ่า ให้เราเหลาแหย่(หัวเราะ) เราเหี่ยว เขาก็จะดูแลป้อนข้าวป้อนน้ำ เช็ดขี้เช็ดเยี่ยว มันไม่มีใครมาพูดกันแบบนี้นะ ในบรรดาเก้งกวางมันไม่มีใครพูดนะ จะมีแต่ฉันอยากได้รถ อยากได้นั้นได้นี้ แต่บอยเขาเป็นคนแบบนี้ เราเลยเออ
ถ้าเราไม่หาคนแบบนี้ไว้ในชีวิตแล้วเราจะไปได้คนแบบนี้อีกตอนอายุเท่าไหร่ เราอาจจะไม่ได้ก็ได้ มันเป็นคำมั่นสัญญาที่เขาให้กับเราตลอด ซึ่งเราไม่ได้หวังว่าเขาจะทำให้ได้ตลอดทั้งชีวิต เราคนเปลี่ยนแปลงกันได้เสมอเราเข้าใจกฎเกณฑ์ตรงนี้ดี ก็ให้มันดีที่สุดในทุกวันคือพอแล้ว บอย : ประทับใจที่เขาเป็นคนดื้อ แต่เขาสวย น่ารักด้วย ทำอาหารอร่อยทุกมื้อ ขยัน อยากให้เขาสุขภาพแข็งแรงตลอด
|
|
|
|
|
|
| |
Create Date : 11 กรกฎาคม 2558 |
Last Update : 11 กรกฎาคม 2558 2:36:52 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1399 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์
|
|
|
|
|
|
|