หนิง : ตอนแรกไม่คิดว่าจะลงประกวด แต่พี่ที่สนิทกันบอกว่าเราควรจะมาลองดู อย่างน้อยมีชื่อติด 1 ใน 30 คนก็ยังดี ก็เลยตัดสินใจลองเข้าประกวดดูค่ะ
เคล็ดลับในการดูแลตัวเอง
เจเล่ : เจเล่ดูแลตัวเองตั้งแต่อายุ 15 คอยทาครีมบำรุงผิว หลีกเลี่ยงการโดนแดด ผิวเจเล่ค่อนข้างแห้ง เวลาทาผิวตามร่างกายจึงใช้ออลย์ทาตัวก่อนแล้วตามด้วยโลชั่นค่ะ ให้ผิวดูเนียนขาวกระจ่างใส จะมาร์กหน้าบ้างครั้งหรือสองครั้งของสัปดาห์
หนิง : ก่อนเข้าประกวดก็เตรียมตัวอยู่นานค่ะ ต้องลดน้ำหนัก ดูแลผิวพรรณ เพราะในการประกวดต้องเก็บตัวทำกิจกรรม จะมีการนอนน้อยก็ต้องทานวิตามินบำรุง ส่วนใบหน้าทำทรีตเมนท์บ้าง มาร์กหน้าบ้าง ปกติไม่ชอบทาครีมก็ต้องขยันทาเพื่อสวยสู้กับเขาบ้าง (หัวเราะ)
อัพเดทความรักที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้
เจเล่ : ตอนนี้เรื่องรักยังไม่มีค่ะ (หัวเราะ) เจเล่ไม่ค่อยมีประสบการณ์เรื่องความรัก แต่ถ้ารักใครก็จะรักจริง เพราะรักครั้งหนึ่งเจเล่จะให้ความรักอย่างเต็มที่ มีรักครั้งแรกก็ตอนอยู่มัธยม 1 เป็นการแอบชอบฝ่ายเดียวกับพี่ชายที่อายุมากกว่าเราหลายปีมาเจอกันอีกครั้งก็ตอนมัธยม 3 เลยเริ่มคุยกัน จากการเป็นพี่น้องก็เริ่มกลายเป็นแฟนกัน เป็นรักใสๆ
หนิง : ยังไม่เคยมีความรักจริงๆ เลยค่ะ อยู่ที่โรงเรียนเคยเห็นเพื่อนมีความรัก มันเป็นเรื่องใหญ่ในตอนนั้นมาก แต่เราไม่มีเพราะรู้สึกว่ายังไม่สวย (หัวเราะ) พอเข้ามหาวิทยาลัยก็เห็นเพื่อนๆ รักกันเลิกกัน ทำให้คิดว่าผู้ชายจะมารักเราได้เหรอ เพราะขนาดผู้หญิงยังถูกทิ้งไปก่อนเลย เพื่อนก็เสียใจ ร้องไห้ เราได้แค่คอยปลอบว่าต้องเผื่อใจไว้บ้าง เวลาใครมารักเราก็อย่าเพิ่งให้ไปเต็ม 100 เคยมีคนมาสนใจลองโทร. คุยกันดู แต่แค่ไม่กี่เดือนเราก็ไม่อยากรับโทรศัพท์แล้ว ชอบอยู่กับเพื่อนมากกว่า
ถ้าวันนี้มีหนุ่มมาสารภาพรัก
เจเล่ : ถ้ามีคนมาสนเจเล่ในแบบที่เจเล่เป็นตอนนี้ จะถามใจตัวเองก่อนว่าชอบเขาในแบบไหน ชอบที่หน้าตาหรือจิตใจ ดูด้วยว่าเขาดูแล ปกป้องเราและครอบครัวเราได้ รูปร่างหน้าตาภายนอกทำได้แค่มองแล้วมีความสุขทางสายตา แต่การดีจากภายในสู่ภายนอก มีคุณค่ากว่าค่ะ
หนิง : มีคนมาจีบตอนนี้คงยังไม่สนใจ เป็นคนไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเองเท่าไร มองความรักเป็นเรื่องไกลตัว บางครั้งเหงาแต่พออยู่กับเพื่อนๆ ก็สนุก มีความสุขแล้ว มีบ้างเห็นแล้วชอบ เห็นรุ่นพี่แล้วเขาดูปกป้องเราได้นะ แต่แค่ปลื้มเท่านั้น
เป็นสาวสวยขนาดนี้แล้วเคยมีทอมเข้ามาจีบไหม
เจเล่ : เป็นแบบหยอกเล่นมากกว่าเพราะเป็นเพื่อนๆ ในกลุ่มกัน ถ้ามีมาจริงๆ ก็จะรับไว้พิจารณากันอีกทีค่ะ (หัวเราะ)
หนิง : เคยมีมาจีบค่ะ(หัวเราะ)ตอนนั้นปิดเทอมไปเที่ยวที่ขอนแก่นกับเพื่อนๆ ก็เจอทอมคนหนึ่ง ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร แต่เขาไปขอเบอร์กับเพื่อนเรามา แล้วโทร. มาคุยทั้งที่รู้ด้วยว่าเราเป็นแบบนี้และตอนนั้นยังไม่ได้แปลงเพศด้วย ทำให้รู้สึกว่ามันไม่ใช่ เพราะมันเป็นไปไม่ได้ เคยอ่านข่าวเรื่องที่ทอมคบกับสาวประเภทสอง จะมีลูกด้วยกัน เราก็ดีใจด้วย แต่ตัวเราคงทำแบบนั้นไม่ได้
รักที่อยากเจอและไม่อยากเจอที่สุด
เจเล่ : เจเล่ชอบคนโรแมนติค ใจเย็น เป็นผู้ใหญ่ รู้จักดูแลร่างกาย ดูแลสุขภาพ ทำให้เรารู้สึกว่าเขาแข็งแรงสามารถปกป้องเราได้ ขอให้แค่รักในตัวเราที่เป็นแบบนี้ รักในครอบครัวของเราก็เพียงพอแล้วค่ะ ไม่ชอบผู้ชายแว้นซ์ (หัวเราะ) ไม่กล้าฝากชีวิตไว้กับเขา แล้วก็หนุ่มอารมณ์รุนแรง ฉุนเฉียวง่าย ไม่รู้เขาจะทำร้ายร่างกายเราเวลาคุยกันไม่เข้าใจหรือเปล่า ไม่อยากเจอรักเห็นแก่ตัวเอาแต่ได้ ไม่ให้เกียรติเรา เจเล่รับไม่ได้ค่ะ
หนิง : เคยเห็นเพื่อนมีรักประทับใจแบบรักเธอนานเท่านาน ไม่ว่าจะเขียนจดหมาย ทำเซอร์ไพรส์ ที่หวานจนเรายังแปลกใจ (หัวเราะ) เคยคิดอยากมีเหมือนกัน เวลาเห็นคนอื่นแต่งงานก็มองนะ แต่ไม่คิดมาก คุณแม่จะเตือนเสมอว่าอย่าไปหวังมากเพราะเราเป็นแบบนี้ ตอนนี้เลยอยากจะอยู่กับพ่อกับแม่มากกว่า เป็นคนไม่ชอบคนเรื่องเยอะ ขี้เก็ก คิดว่าตัวเองหล่อเป็นพระเอกตลอดเวลา ชอบคนเฮฮา
รู้ตัวตอนไหนว่าใจเรานั้นคือผู้หญิง
เจเล่ : รู้ตัวชัดเจนก็ตอนมัธยมปลาย ตอนมัธยมต้นมีแฟนเป็นผู้ชายก็จริง แต่เจเล่ก็ยังสับสนอยู่ในหลายๆ อย่าง ยังแสดงกริยาอาการเป็นผู้ชายธรรมดาทั่วไป ไม่กล้าบอกใครเพราะกลัวถูกรังแก ถูกดูถูก แล้วพอมีผู้หญิงมาชอบ เจเล่ก็ชอบเขากลับแบบเพื่อนมากกว่า ไม่สามารถชอบเขาในแบบที่เขาหวังได้ จนวันหนึ่งเมื่อมั่นใจชัดเจนแล้วว่าเราอยากเป็นผู้หญิงจริงๆ เลยรวบรวมความกล้าบอกความจริง เขาก็กลายมาเป็นเพื่อนสนิทเราทุกวันนี้ (ยิ้มหวาน)
หนิง : รู้ตัวตั้งแต่อนุบาลว่าเราไม่ใช่ผู้ชายค่ะ ชอบเล่นแต่กับเพื่อนผู้หญิง เล่นกระโดดยางด้วยกัน เพื่อนผู้ชายก็มีแกล้งกันใจมันบอกชัดตั้งแต่ตอนนั้นว่ามันมีความสุขที่ได้เล่นเหมือนกันกับผู้หญิง
อนาคตหลังจากนี้ไป
เจเล่ : เจเล่ถือว่าโชคดีที่เจอพี่ๆเอ็นดู ไม่รังเกียจและให้โอกาสเราทั้งเรื่องงานและอนาคต คิดว่าเรียนจบปริญญาตรีแล้วอยากจะไปต่อโทที่อังกฤษ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือตั้งใจจะซื้อบ้านให้คุณแม่ค่ะ ตอนนี้คุณแม่ก็อายุมากแล้ว ไม่รู้ว่าจะอยู่กับเราได้นานเท่าไร มันเป็นความฝันของคุณแม่และตัวเจเล่เอง เลยตั้งใจทำงานเก็บเงินเพื่อซื้อบ้านและเรียนต่อ
หนิง : หลังจากประกวดก็มีคนจำได้ มาขอถ่ายรูป ทำให้ต้องดูแลตัวเอง เตรียมตัวให้สวยก่อนออกจากบ้านเป็นประจำ (หัวเราะ)ต่อจากนี้ก็วางแผนไว้เรียนจบแล้วกลับไปทำธุรกิจกับครอบครัวค่ะ อยากกลับไปอยู่กับที่บ้านเพราะเป็นคนติดบ้าน