ในวงการสาวทรานส์เจนเดอร์ ไม่มีเวทีไหนยิ่งใหญ่ไปกว่า ‘มิสทิฟฟานี่ ยูนิเวิร์ส’ เวทีที่สาวข้ามเพศทุกคนอยากมายืนสักครั้งในชีวิต

และในปี 2016 นี้ ผู้ที่ได้มงกุฎไปครองก็คือ โม-จิรัชยา ศิริมงคลนาวิน สาวข้ามเพศตัวเก็งที่เพียบพร้อมไปทั้งความสามารถและความสวยเป๊ะหัวจรดเท้า ที่เธอการันตีว่าผ่านการศัลยกรรมมาแค่ 3 อย่างเท่านั้น และไม่อยากให้คนชมว่าสวยเหมือนผู้หญิง แต่สวยเพราะเป็นผู้หญิงต่างหาก ซึ่งทาง Lisa Guru เราก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับเธอถึงเรื่องการเตรียมตัวลงประกวด สังคมของชาวสาวทรานส์เจนเดอร์ ตลอดไปจนถืงเรื่องข้อคิดจากการศัลยกรรมจาก โม-จิรัชยา มิสทิฟฟานี่ 2016 มาฝากกันค่ะ

เส้นทางการประกวด เธอมีการเตรียมตัวอะไรบ้าง?

เคยประกวดครั้งแรกตอนอายุ 22 เมื่อปี 2014 เข้ารอบ 30 คนสุดท้าย ตอนนั้นเพื่อนสนิทประกวด แล้วเพื่อนได้ที่ 3 มา เราก็เลยคิดว่าเราเองก็น่าจะทำได้ ตอนนั้นเลยได้แค่เข้ารอบ 30 คนสุดท้าย ส่วนครั้งนี้โมคิดว่ามันเป็นโอกาสที่ดี เพราะว่าเรามีการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายหลายๆ อย่าง เว้นเวลามา 1 ปี เราก็มาลงปี 2016 ก็เตรียมตัวเยอะมาก ดูแลตัวเอง ลดน้ำหนัก คุมอาหาร เรียนเดินแบบ บุคลิกภาพ เรียนการตอบคำถามทุกด้าน เพื่อที่จะมาคว้ามงกุฎ มาครั้งนี้เราตั้งใจมาก เพราะงานประกวดเขาจำกัดอายุอยู่ที่ 25 ปี แล้วก็เป็นจังหวะสุดท้ายที่เราครบ 25 ปีพอดีด้วย

สิ่งที่ชอบและประทับใจในเวทีมิสทิฟฟานี่?

คือการเรียนรู้ที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหน จะไปเรียนก็ไม่ได้แบบนี้แน่นอน เพราะบุคคลแต่ละท่านเป็นที่สุดของแต่ละสายงาน อย่างท่าน ดร. เสรี ก็มาให้ความรู้ทางด้านความคิด สมอง แบบคิดอย่างไรให้ดี คิดอย่างไรให้เป็น จิตใจเราก็จะดี บุคลิกภาพเราก็จะดี ปีนี้มีการทำกิจกรรมร่วมกันเยอะมาก เป็นกิจกรรมที่พัฒนาได้หมดทุกอย่างทั้งภายนอก ภายใน ทั้งจิตใจและสมอง

สำหรับคำว่าเราเป็นตัวเต็งมิสทิฟฟานี่ มีความรู้สึกว่าอย่างไร?

โมเห็นมาจากรูปที่เข้ารอบ 30 คน เขาก็แชร์รูปกัน ตอนแรกก็ยังไม่รู้ เค้าก็แชร์ๆ กันว่าทำไมปีนี้สวยจังอะไรอย่างนี้ เรายังไม่ได้เปิดดูโซเชียลเลย เพราะมัวแต่ประกวด อยู่กับกองทั้งวันเพราะเข้ารอบ 30 คนแล้ว แล้วพอหลังจากวันนั้นเสร็จ เราก็เริ่มดู กระแสมันก็เริ่มมีมาเรื่อยๆ ก็รู้สึกว่าเราได้การตอบรับดี คิดว่าสิ่งที่กรรมการมองเห็น นอกจากการตอบคำถามก็น่าจะเห็นพัฒนาการ แล้วก็กระแสนี่แหละค่ะ เพราะกระแสมันก็มีมาในระดับหนึ่ง แต่เราก็คงเส้นคงวาให้เป็นกราฟขึ้นๆ เค้าก็จะได้รู้ว่าเรามีการพัฒนาขึ้นไป ไม่ใช่ว่ากระแสมาเสร็จปุ๊บกราฟเราดิ่งลง เราก็ต้องคงเส้นคงวาให้เค้าเห็นว่าเรากระแสดี เพราะเราทำดี เพราะเรามีความตั้งใจ

มิสทิฟฟานี่ ตัวแทนของสาวทรานส์เจนเดอร์

เราเป็นตัวแทนทุกคน ก็อยากเป็นตัวอย่างให้แก่รุ่นน้องและเป็นกระบอกเสียงให้กับทุกคน ไม่อยากให้มองว่าเราเป็นสาวประเภทสอง เราอยากเป็นผู้หญิง คือเราไม่อยากสวยกว่าผู้หญิงหรือแบบสวยจนผู้หญิงตาย คือเราอยากสวยเหมือนผู้หญิง เราไม่ได้สวยกว่า อาจจะสวยน้อยกว่าแต่เราอยากสวยเหมือนผู้หญิง อยากเป็นเพศที่สอง ไม่ได้อยากเป็นเพศที่สาม ไม่อยากให้ใครมาจำกัดความว่าเราเป็นสาวประเภทสอง เป็นกะเทย หรือข้ามเพศ เราอยากใช้คำว่าเราเป็นผู้หญิง โมเชื่อว่าถ้าเราคิดว่าเราเป็นผู้หญิงเราก็จะเป็นผู้หญิง แต่ถ้าเราคิดว่าเราเป็นสาวประเภทสอง เราก็จะเป็นสาวประเภทสอง ถ้าเราอยากเป็นผู้หญิงเราก็ต้องทำตัวให้เป็นผู้หญิง โมเชื่ออย่างนั้น

การดูแลตัวเอง ต้องเตรียมพร้อมอะไรบ้าง?

ช่วงประกวดต้องลดของทอดของมัน เพราะว่ามันจะเป็นไขมันสะสม ก็ไม่อยากมีฟองน้ำที่มันจะเป็นไขมัน ก็ดูแลเรื่องอาหารในระดับนึง แล้วก็หมั่นออกกำลังกาย จะเน้นไปที่การซิตอัพ การวิ่ง ยืดเส้นยืดสาย แล้วก็ดูแลตัวเองโดยการทานอาหารครบ 5 หมู่ และก็มีการทานอาหารเสริม วิตามินซี วิตามินรวม และวิตามินผิวเพื่อทำให้ร่างกายเราได้รับวิตามินมากขึ้น และผิวพรรณเราก็จะได้ดี

สวยด้วยการศัลยกรรม ตัวของเราทำอะไรมาบ้าง?

ทั้งร่างกายหัวจรดเท้าโมทำแค่สามอย่าง คือ หน้าอก ผ่าตัดแปลงเพศ แล้วก็เสริมจมูก เจ็บที่สุดคือหน้าอก แต่ที่ทรมานที่สุด แบบเจ็บไม่จบไม่สิ้นโมว่าแปลงเพศ ก็ไม่คิดจะทำอะไรอีกแล้ว ความสวยมันต้องมีความพอดี สังคมสมัยนี้คนชอบคิดว่า สาวประเภทสองสวยกว่าผู้หญิง เพราะว่าเหมือนตอนนี้สังคมมันเปลี่ยนไป สาวประเภทสองอยากทำตัวให้เป็นผู้หญิง ทำอะไรก็ให้พอดี เสริมหน้าอก ทำให้มี ทำให้ได้รูป ทำให้สวย แต่ตรงข้ามกับผู้หญิงสมัยนี้ คือเค้ามีความต้องการที่จะทำให้มีเยอะเกินไป อย่างเช่นเสริมหน้าอก บางคนใหญ่เลย ซึ่งมันก็แล้วแต่คนชอบ แล้วแต่คนมอง แต่บางคนเค้าก็ชอบยกตัวอย่างเอาผู้หญิงกับสาวประเภทสองไปเทียบกันว่าเนี่ยเหมือนผู้หญิง เนี่ยไม่เหมือนผู้หญิง เค้าก็จะหาว่าแบบเราไปบลัฟกับผู้หญิงกันเอง ซึ่งมันก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลมากกว่า”

ศัลยกรรมคือดาบสองคม

โมคิดว่าสมัยนี้ใครก็ทำได้ แต่อยู่ที่เราอยากทำเพื่อปรับเปลี่ยนตัวเองให้ดูดีขึ้นรึเปล่า โมเข้าใจว่ามันต้องมีด้านนึงที่คนแอนตี้ว่าสวยก็สวยเพราะศัลยกรรม คนที่พูดจะมีกรอบของตัวเอง เกิดมาแล้วพอใจกับสิ่งที่เป็น อันนี้ก็เรื่องของเค้า แต่ของเราถ้าสมมติว่าเราอยากสวย แต่ถ้าเราอยู่เฉยๆ เราจะสวยได้มั้ย มันต้องมีการเปลี่ยนแปลง มีการพัฒนา ถามว่า คนบอกว่า อยากสวยจังเลย อยากดูแลตัวเองจังเลย ทำยังไงดี โมก็แบบเข้าใจค่ะ ทุกคนอยากสวย อยากหล่อ แต่อยู่ที่ใจคุณ คุณรักตัวเองรึเปล่า ถ้าคุณรักตัวเองคุณจะสวยแน่นอน ถ้าคุณรักตัวเองอยากให้ตัวเองสวย บุคลิกภาพดี อยากมีคนมอง มีออร่า แต่ถ้าเรายังกินเหมือนเดิม ใช้ชีวิตเหมือนเดิม เราเหมือนตีกรอบตัวเอง แต่ถ้าคุณลองศัลยกรรมมั้ย คือเราไม่ได้แนะนำนะคะ เราแค่ถามใจตัวเองดูถ้าสมมติ เราอยากสวย เช่น เรามีดวงตาที่สวยแล้วเราก็ดูองค์ประกอบหน้าเราว่าอะไรที่มันเป็นจุดด้อย เราแก้แค่จุดด้อย เราไม่ต้องไปเสริมเติมแต่งจนเยอะเกินไป เพราะว่าบางคนเขาก็เสพติดจนเป็นพิษ มันเป็นดาบสองคม”

สังคมทรานส์เจนเดอร์ที่เปิดกว้างมากขึ้น ในมุมมองของเราคิดว่าเป็นจริงหรือไม่?

มันเปิดกว้างมากขึ้น คนรู้จักเราเยอะขึ้น แต่ถามว่าเปิดใจมั้ยโมว่าก็ยังไม่หมด เพราะทัศนคติของคน เหมือนคนไม่กินเนื้อวัว เค้าก็จะไม่กิน บอกว่าอร่อยนะ เนื้อติดมันเลิศมาก แต่ถ้าเค้าไม่กิน เค้าก็ไม่กิน คือเราจะไปเปลี่ยนความคิดคน จะไปจับมือเค้ากินก็ไม่ได้ เราได้แต่พรีเซนต์ตัวเองว่าเนื้อวัวมีดียังไง มีประโยชน์อย่างไร ซ่อมแซมนู่นนี่นั่น ก็เหมือนโม คือพรีเซนต์ตัวเราออกมา นอกจากการที่เราเป็นมนุษย์แล้ว เราอยากให้เค้าเคารพสิทธิ์เราที่เราเป็นมนุษย์ไม่ใช่เคารพสิทธิ์ที่เราเป็นเพศอะไร ก็เหมือนต้นไม้ ต้นไม้เกิดมาก็ไม่เห็นมีใครบอกเลยว่าต้นเพศผู้ อันนี้ต้นเพศเมีย ไม่มีใครตราหน้าว่าต้นไม้เป็นตุ๊ดหรือเป็นเพศอะไร เราก็เหมือนกันค่ะ เราก็คือมนุษย์คนนึง อยากให้ทุกคนมองว่าเราเป็นมนุษย์ ไม่ใช่มองว่าเราเป็นเพศอะไร”

เป้าหมายในอนาคตของโมคืออะไร?

ตอนนี้โมก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด แล้วก็เป็นตัวแทนไปประกวด Miss International Queen เดือนพฤศจิกายน อีกความฝันนึงถ้าเป็นไปได้อยากมีห้องเสื้อเป็นของตัวเอง มีกิจการเป็นของตัวเอง เพราะเราเรียนทางด้านนี้มา ตอนนี้ก็เป็นดีไซเนอร์ด้วย”

ฝากถึงคนที่อยากประกวดมิสทิฟฟานี่

เวทีมิสทิฟฟานี่สุดยอดที่สุดแล้ว ถือว่าสุดยอดที่สุดในโลกด้วยเพราะว่าทุกคนก็ยกให้ไทยเป็นประเทศที่สาวประเภทสองสวยที่สุด อยากฝากคนที่ตั้งใจอยากมาประกวดจริงๆ ให้เตรียมตัวดูว่าตัวเองพร้อมเมื่อไหร่ อย่างเช่นตอนนี้เรา 22 สวยแล้ว ผอมแล้ว มาเลยค่ะ อย่าปล่อยให้โอกาสผ่านไปเรื่อยๆ มาแล้วต้องทำให้เต็มที่ เราจะได้ไม่มีคำว่าผิดหวังกลับไป

“ไม่อยากให้ใครมาจำกัดความว่าเราเป็นสาวประเภทสอง เป็นกะเทย หรือข้ามเพศ อยากใช้คำว่าเราเป็นผู้หญิง โมเชื่อว่าถ้าเราคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิง เราก็จะเป็นผู้หญิงจริงๆ”

Create Date : 24 มิถุนายน 2559
Last Update : 24 มิถุนายน 2559 13:13:59 น.		0 comments
Counter : 1931 Pageviews.
Share Tweet