Group Blog
 
<<
มีนาคม 2556
 
12 มีนาคม 2556
 
All Blogs
 

"ซี"เคลียร์ข่าวกิ๊ก"กระแต"ย้ำรัก"เอมี่"เหมือนเดิม



เลยเถิดกันไปใหญ่แล้วสำหรับข่าวที่ “กระแต อาร์สยาม” กลายเป็นมือที่ 3 ของคู่รัก “เอมี่ กลิ่นประทุม” และ “ซี-ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์” เพราะมีข่าวว่าหนุ่ม “ซี” ไปตามเฝ้าสาว “กระแต” ที่คอนเสิร์ต แถมยังเม้ากันว่าตามไปถึงบ้านด้วย ซึ่งในเวลาไล่เลี่ยกันก็เหมือนสาว “เอมี่” โพสต์ข้อความเหมือนจะว่าสาว “กระแต” ด้วยเช่นกัน ภายหลังทั้งสองสาวก็เหมือนได้มีการโพสต์ข้อความตอบโต้กันทางอินสตาแกรมอีกด้วย เมื่อหนุ่ม “ซี” เปิดในแถลงข่าวที่เกิดขึ้น ที่ สตูดิโอ 1 เจเอสแอลฯ ลาดพร้าว 107 โดยหนุ่ม “ซี” เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นให้ฟังว่า

“ก็ไม่มีอะไรครับ ขอเคลียร์เรื่องทำไมเพิ่งจะออกมาแถลงก่อน คือไม่คิดว่าจะต้องแถลงอะไรเพราะอยู่ในวงการมาตั้งนาน เวลามีข่าวสาวๆ มันก็จะเป็นเรื่องธรรมดา ผมก็เลยคิดว่ามันคงไม่ต้องแถลงอะไร ครั้งแรกที่ได้ยินผมรู้สึกว่าตอนนั้นผมอยู่ที่หัวหิน กำลังซ้อมขึ้นเวทีอยู่ แล้วมีพี่นักข่าวท่านหนึ่งโทรมาถามเรื่องข่าวกระแต ตอนแรกผมก็เฉยๆ ไม่ได้อะไร ก็บอกเขาไปว่าไม่มีอะไร เขาก็ถามว่าปกติผมเป็นคนสนุกสนานแต่ทำไมเสียงเครียดจัง ผมก็บอกไม่ได้เครียด ผมแค่กำลังจะเตรียมตัวขึ้นเวทีแล้วบอกเขาว่าถ้าเจอเดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังก็วางสายไป มาอีกทีก็เจอพี่แจ็คทีวีพูลถามเรื่องกระแตอีก ผมก็ปฏิเสธไปเพราะว่ามันไม่มีอะไรขนาดนั้นจริงๆ ก็เลยไม่ได้คิดว่าจะต้องแถลงข่าวอะไร

เราคิดว่าถ้าเราไปอีเว้นท์ที่ไหนแล้วได้เจอพี่ๆ ก็คงจะพูดทีเดียว แล้วกลายเป็นว่างานที่จะได้เคลียร์ก็ไม่ได้ไป มันก็เลยเป็นกระแสอีกว่าผมหนีพี่ๆ นักข่าว จริงๆ แล้วจะบอกว่าไม่ได้หนี คืออยากจะเคลียร์อยู่แล้ว อยากจะให้มีคุณเอมี่ด้วย คือใจไม่ได้อยากจะให้สัมภาษณ์คนเดียวเลย ที่ไม่ออกมาสักทีคือรอให้คิวเราตรงกันและก็ออกอีเว้นท์ในเมือง แต่ส่วนใหญ่แล้วถ้าติดตามก็จะรู้ว่าผมมักออกงานต่างจังหวัดซะส่วนใหญ่ก็เลยไม่ได้เข้ามาในเมือง ไม่ได้มีเจตนาอยากจะหนีพี่ๆ นักข่าวเลย งานที่ได้นัดแล้วไม่ได้ไปคือมันเป็นเหตุสุดวิสัยที่เกี่ยวกับลูกค้าว่าเขาไม่มีนโยบายจะให้ดาราเดินแบบในงานๆ นั้น ก็เลยไม่ได้ไป เพราะฉะนั้นบอกตรงนี้เลยว่าผมไม่ได้หนี ไม่อย่างนั้นแล้วพี่เก๋ก็คงไม่กล้านัดพี่ๆ นักข่าว แต่บังเอิญจะว่าซวยของผมหรือเปล่าก็ไม่ทราบที่ทางลูกค้าเขาไม่มีนโยบายให้ดาราเดินแบบในงานนั้น ผมก็คิดว่าไม่เป็นไร ก็รองานหน้า รอมาเรื่อยๆ มันก็ไม่มีสักทีจนพี่เขาบอกว่าจะมีอีเว้นท์วันที่ 19 นี้

ซึ่งกระแสในอินเตอร์เน็ตก่อนที่ผมจะโพสต์ในอินสตาแกรมวันนั้น คุณเอมี่เขาเอาข่าวจากกระทู้อินเตอร์เน็ตมาให้ผมดู ภายในนั้นก็พูดกันด่ากันเป็นกระแสที่แรงมากจนผมรู้สึกว่ามันรอไม่ได้แล้ว ก็เลยออกมาโพสต์ในอินสตาแกรม แต่หลังจากผมโพสต์ไปก็ยังไม่จบอีก เฉพาะฉะนั้นผมรอจนถึงวันที่ 19 ไม่ได้แล้ว ผมคิดว่ามันสมควรที่จะต้องออกมาให้สัมภาษณ์กับพี่ๆ นักข่าว แต่ถามว่าจริงๆวันนี้ผมอยากออกมาให้สัมภาษณ์ไหมผมไม่ได้อยากออกมาให้สัมภาษณ์ ผมอยากให้สัมภาษณ์คู่ทั้งผมกับเอมี่ด้วย เพราะฉะนั้นแล้วออกมาคนเดียวแบบนี้มันเหมือนแก้ตัว เพราะระยะเวลามันก็นานพอควรแล้ว แต่ทั้งหมดทั้งมวลมันไม่ได้เกิดขึ้นแค่ตัวผมคนเดียว มันเกิดขึ้นกับครอบครัวของคุณเอมมี่ด้วย คุณพ่อคุณแม่ ญาติๆ ของเขา และตัวผมด้วย และที่สำคัญมันเกิดขึ้นกับน้องกระแตด้วย เพราะฉะนั้นแล้วในฐานะที่ผมเป็นผู้ชาย ผมก็ควรออกมาแถลงข่าว ที่พูดยาวแบบนี้เพื่อจะให้เข้าใจตรงกันนะครับ ผมขอเคลียร์เลยว่าผมไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้เรื่องราวมันเลยเถิดมาขนาดนี้ จริงๆ แล้วเรื่องที่เป็นประเด็นมันเป็นอยู่นิดเดียวเท่านั้นเอง”

แล้วสนิทกับกระแตได้ยังไง
“ทำงานด้วยกันหลายครั้งพอสมควรครับ ก็ได้มีโอกาสได้เจอน้องกระแตและน้องกระต่ายโดยผมเป็นพิธีกรในงาน ก็ยังชื่นชมน้องเขาว่าเป็นคนสนุกดี และก็ได้มีโอกาสร่วมงานกันหลายครั้ง”

พูดถึงเรื่องข่าวที่เป็นอยู่
“จริงๆ มันไม่ได้มีกระแสอะไรเลย จนกระทั้งมีอินสตาแกรมเกิดขึ้น พี่ๆ ก็คงสงสัยว่าอินสตาแกรมของเอมี่กับกระแตมันแปลกๆ แล้วเข้าไปดูในอินเตอร์เน็ตว่ามีท่านหนึ่งถ้าย้อนกลับไปดูผมคิดว่าพี่ๆ น่าจะทราบแล้วว่าเขาได้คอมเม้นท์ข้อความลงเฟสบุ๊คว่า “เห็นซีไปดูคอนเสิร์ตกระแตที่พัทยา อยากรู้ว่าสนิทกันเหรอ” ซึ่งผมได้ดูแล้วว่ามีเขียนบอกผมไปหลังเวทีด้วย ผมขอพูดเลยว่าถ้าผมไปเฝ้ากระแตจริง ผมจะบ้าพอที่จะเดินเข้าไปในร้านเพื่ออะไร ผมไปนั่งในรถดีกว่าไหม ผมไมได้บอกว่าตัวผมนั้นโด่งดังหรืออะไร แต่วันนั้นพอผมเข้าไปทุกคนเห็นผมหมด แล้วผมจะเล่าเหตุการณ์ให้ฟังเลยว่าอันนี้ขอพูดถึงกองละครอาหลองจูเนียร์นะครับ ไปดูคิวได้เลยว่าผมถ่ายละครอยู่ที่พัทยาจริงหรือไม่

ก่อนหน้านั้นช่อง 7 มีโปรเจ็กต์คอนเสิร์ตซี-ศิวัฒน์จัดเต็มซึ่งผมมีเวลาทั้งหมด 55 นาที แล้วผมเป็นคนแรกที่จะต้องขึ้นไปร้องคอนเสิร์ตสด ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้คือไม่มีเวลาซ้อมเลยเพราะต้องถ่ายละคร มันก็กดดันเหมือนเพราะเราไม่ได้มีทีมงานที่เหมือนแกรมมี่เหมือนอาร์เอสที่คอยจัดการอีเว้นท์เหล่านี้ขึ้นมา ก็ถามช่อง 7 ดูได้นะครับ คือผมต้องเป็นคนเลือกศิลปินเองแล้วผมยังคุยกับเอมี่เลยว่าผมเห็นป้ายกระแตเล่นอยู่ที่อินซอมเนียผับก็เลยไปคุย จริงๆ ตอนนั้นผมกำลังเลือกศิลปินหลายท่าน ไม่ใช่อยู่ๆ ชี้ไปที่กระแต อยากร้องกับกระแตใจจะขาดอย่างที่ในกระทู้บอก เพราะฉะนั้นอยากจะบอกว่า 55 นาทีนี้เราไม่รู้เลยว่ามันจะออกมาเป็นยังไง ดังนั้นผมก็ต้องเลือกคนที่เคยร่วมงานกันมาก่อน คือพี่ยิ่งยง พี่ฮาย พี่เอกชัย แต่พี่เอกชัยเขาไม่ว่างเลยขาดคน ผมก็เลยต้องเลือกคนที่เคยร่วมกันมาและแน่นอนต้องร้องเพลงได้ กระแต กระต่ายก็เป็นหนึ่งในนั้น เมื่อได้เห็นป้ายว่าเขาเล่นอยู่ที่นี่ก็เลยบอกว่าจะไปดูน้องเขาหน่อยซึ่งเอมี่เขาก็รับทราบดี นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่อยากให้เอมี่มาพูดด้วยเพราะเขาสามารถยืนยันได้ว่าผมพูดจริงหรือเปล่า

จริงๆ ผมก็มีเบอร์ของเขาอยู่แล้ว ทั้งเบอร์คุณแม่และเบอร์กระต่าย แต่ไปถามเขาได้เลยว่าเวลาคุยผมมักจะโทรถามแม่มากกว่าน้องด้วยซ้ำ พอเข้าไปในร้านก็มีคนดูแลเรียบร้อย ผมยังถ่ายรูปกับพีอาร์ในร้านและถ่ายรูปกับคนในร้านด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นผมก็ไม่เข้าใจเพราะเวลามันก็ล่วงเลยมานานแล้วและก็มีแค่คอมเม้นท์เดียวที่โพสต์แบบนั้น พอมีกระแสในอินสตาแกรมก็เอามาโยงกันว่าผมไปเฝ้ากระแตอยู่หลังเวที คุยกันสองต่อสอง ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ถ่ายรูปมาให้ดูหน่อยเถอะ ก็ไม่ได้โกรธนะแต่ที่พยายามพูดนี่ไม่ใช่จะทำให้เรื่องมันยืดยาวไปกว่านี้ ผมต้องพูดแบบละเอียดจริงๆ เพื่อให้ทุกคนมองเห็นภาพว่าเรื่องราวมันไมได้อยู่ตรงไหนเลย มันอยู่ที่คำพูดของคน ถ้าคุณจะพูดเรื่องดีมันก็ดี ถ้าพูดให้ไม่ดีมันก็ไม่ดี ถ้าคุณพูดว่าไปนั่งคุณกันสองต่อสองมันก็เป็นเรื่องแปลก แต่ถ้าผมบอกว่าเราไม่ได้คุยกันสองต่อสองยังมีคนอื่นอีกเยอะแยะ แวะเวทีอินซอมเนียมันก็ไม่ได้มีอะไร มันเป็นอีเว้นท์ธรรมดาแล้วกางผ้าใบ น้องเขาก็อยู่ห้องแต่งตัวข้างบนผมก็อยู่ข้างล่าง ผมจะเล่าแบบละเอียดเลยนะ ลงมาเสร็จผมเจอใครผมอยู่หน้าห้องน้ำเลย จริงๆ มันก็แอบหงุดหงิดเหมือนกัน”

ยืนยันว่าไม่ได้เฝ้าใช่ไหม
“ไม่ได้นั่งเฝ้าครับ ตอนนี้เคลียร์แล้วนะว่าสนิทกัน แต่ไม่ได้ถึงขนาดสนิทกันหลายปีครับ คือรู้จักกันมาก่อนแล้วเริ่มมาสนิทตอนซ้อมเต้นด้วยกัน ก็อยากให้เข้าใจปัญหาตรงกันว่ามันไม่มีอะไรจริงๆ”

แล้วกรณีเรื่องตักบาตรกับเราหละ
“ทำไมหละ ตักบาตรมันผิดตรงไหนแล้วรู้ได้ไงว่าไปตักบาตรทุกวัน เขาไปก็จริงแต่ไม่ได้ไปทุกวัน ไม่อยากจะบอกว่าไปทุกวันหรือไม่เพราะเราก็ไม่ได้นับ มีคนอื่นที่ไปตักบาตรกับผมมากกว่าเขาอีก แบบนี้ก็แปลว่าคนที่ตักบาตรกับผมมากๆ เขาก็ต้องเป็นเมียผมด้วยสิ ผมว่าเรื่องการทำบุญนี่แล้วแต่ใครจะคิดนะ”

เอมี่เข้าใจหรือเปล่า
“เข้าใจครับ คือหลังจากที่กระแสเกิดขึ้นซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยมีปัญหากันเลยนะ แต่พอมีกระแสมีคอมเม้นท์แล้วก็มีเรื่องราวต่างๆ มากมายซึ่งจะมีใครถามผมหรือเปล่าว่าไปดูหนังทานข้าวกัน เป็นใครก็ต้องรู้สึก ผมจึงจำเป็นต้องออกมาพูดเพราะจากที่ไม่เคยมีปัญหาเรื่องความรักกันเลย วันนี้เป็นใครก็ต้องรู้สึก มันจึงเป็นที่มาของการโพสต์อินสตาแกรมเอมมี่ ผมบอกเลยว่าขอขอบคุณผู้หวังดีทั้งหลายในการเป็นห่วงเป็นใยเหลือเกินที่มาบอกเรื่องราวต่างๆ ผมอยากจะถามว่าเห็นกับตาหรือเปล่า แล้วก็ช่วยหาให้ผมหน่อยเถอะว่าคนที่พูดว่าเขาๆ เนี่ย เป็นใคร อยากรู้จัง ช่วยพามาตรงนี้หน่อยจะได้ถามว่าเห็นจริงเหรอ ถ้าเห็นจริงอย่าเห็นอย่างเดียวถ่ายรูปเก็บไว้ด้วย”

แปลว่าเอมี่ก็หวั่นไหวกับข่าวที่เกิดขึ้นเหมือนกัน
“แน่นอนสิครับแต่ไม่ได้รุนแรง ก็มีการเคลียร์กันแน่นอนว่าไม่ได้เป็นแบบนั้น ไม่ได้เฝ้า เพราะตัวเขาอยู่กรุงเทพฯไงครับ แล้วมีคนบอกว่าตามคุยกันมานาน แล้วแถมมีคอนเสิร์ตก็มารักอะไรไม่รู้เต็มไปหมดเลย แล้วยังมีบอกว่ากระแตไปงานบวชอยากจะถือหมอนใจจะขาดแต่ก็ต้องไปแอบอยู่ในรูทั้งๆ ที่คนสนิทกันไม่เห็นจะต้องไปแอบ ผมก็อยากถามว่าถ้าเขาอยู่ในรูจริงทำไมคุณเห็นเขา วันนั้นเขาเอาข้าวต้มไปแจกเยอะแยะแบบนี้คนที่กินข่าวต้มไม่ใช่ว่าต้องลงไปในรูก่อนถึงจะกินข้าวต้มหรือไง ผมคิดว่ามันเยอะไปหรือเปล่า พออ่านแล้วรู้สึกเศร้าใจนะ”

แล้วตอนนี้เคลียร์กับเอมี่แล้วหรือยัง
“เรียบร้อยแล้วครับ ตอนนี้ไม่มีอะไรเลย ตอนนี้ขอยืนยันชัดเจนเลยว่ายังรักกันอยู่ ยังดีกันเหมือนเดิม ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน แล้วตัวกระแตเองก็หวั่นไหวกับข่าวบ้างเพราะคนสิบคนพูดเหมือนกันหมดทุกคนก็ต้องตกใจ ตอนนี้มันไม่รู้ว่าอะไรจริงหรือไม่จริง ดังนั้นผมถึงต้องเล่าก่อนว่ามันมีที่มาที่ไปยังไง ทุกคนจะได้เข้าใจตรงๆ กันว่าเราสนิทกันเพราะอะไร แล้วไม่ได้สนิทแค่คนเดียว เรื่องการโพสต์ลงอินสตาแกรมแล้วเหมาะหรือไม่เหมาะอันนี้ก็เป็นความคิดของคุณ ผมจะบอกว่าทุกคนมีสิทธิ์ออกความคิดเห็นได้ทั้งนั้นแหละครับ ตราบใดที่นิ้วมือมันไม่เท่ากันความคิดของคนเราก็แตกต่างกัน แต่คุณต้องอย่าลืมว่าเราจะพูดจะตัดสินอะไรคุณต้องรับผิดชอบคำพูดนั้นด้วย ถ้าหากพี่ๆ ถามว่าเรื่องมันบานปลายมาขนาดนี้ได้อย่างไรก็จะบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องของเขาไง เขาจึงสามารถพูดอะไรก็ได้ที่เขาพอใจ อย่าลืมว่าคุณเล่นกับความรู้สึกของคนอยู่ เราไม่ใช่เครื่องจักร เรามีความรู้สึก เรื่องอะไรที่มันจริงเราก็ยอมรับกับผลที่จะตามมา ความจริงเป็นยังไงมีผม กระแต และเอมี่เท่านั้นที่รู้ สิ่งที่คุณตัดสินใจที่คุณพูดว่ามันเป็นแบบนั้นแบบนี้ผมขอถามคุณว่ามั่นใจกี่เปอร์เซ็น คุณเห็นกับตาหรือเปล่า”

ส่วนตัวเราได้คุยกับกระแตเรื่องข่าวหรือยัง
“ตั้งแต่ที่มีข่าวก็โทรไปหาตั้งแต่แรกเลยครับ แล้วหลังจากนั้นก็ไมได้พูดอะไรเพราะว่ามันไม่มีอะไรที่จะต้องเคลียร์กัน เวลาที่ผมมีข่าวกับเพื่อนสาวที่ร่วมงานกันก็ไม่เคยที่จะต้องเคลียร์ข่าวอะไร ผมก็มักจะออกมาพูดกันให้เข้าใจแบบชิลๆ แต่วันนี้คือมันไม่ชิลแล้วด้วยคอมเม้นท์ที่เข้าไปอ่าน จริงๆ ผมก็ไม่น่าเข้าไปอ่านเลยเพราะมันทำให้ผมรู้สึกว่ามันไม่แฟร์และไม่ยุติธรรมทั้งผม เอมี่ และกระแต วันที่คุยกับกระแตมันยังไม่ได้รุนแรงขนาดนี้ วันนั้นที่คุยกันก็ถามว่าแม่เครียดหรือเปล่า เขาก็บอกว่าไม่มีอะไรเพราะเราสนิทกัน เดี๋ยวข่าวก็จบ ผมกลัวว่าหลังจากนี้ใครที่จะมาร่วมงานกับผมก็จะกลายเป็นว่าต้องมานั่งเกร็ง นั่งลำบาก ไม่อยากไปไหนมาไหนด้วยกัน มันจะมีปัญหา”

แล้วที่กระแตกับเอมี่เขาตอบโต้กันในอินสตาแกรมหละ
“ลองถามเขาดูดีกว่าไหมครับว่ามันเป็นยังไง แต่ว่ามันไม่มีอะไรจะต้องเคลียร์อยู่แล้วเพราะว่าจริงๆ ผมเป็นคนที่สนิทมากกว่า พอได้คุยกันแล้วเขาก็รู้ว่ามันเป็นแบบนี้ แล้วเรื่องอินสตาแกรมผมไม่อยากจะแก้ตัวแทนใครด้วย เพราะวันนี้ที่ผมออกมาพูดคือมันไม่ใช่เรื่องจริง และต้องการที่จะฟันธงไปเลยสำหรับครอบครัวของเอมี่ด้วย เพราะยังไงผมก็ต้องห่วงความรู้สึกคนของผมก่อน แต่ถ้าถามถึงอินสตาแกรมของน้องเขานี่ ผมก็อยากจะถามว่ามั่นใจขนาดไหนว่าน้องเขาพูดถึงเอมี่ ที่ผมไม่อยากจะชี้นำเพราะถ้าได้ไปตามดูจริงๆ น้องเขาเป็นคนที่ลงธรรมทานมาตั้งนานแล้ว ซึ่งหลังจากนั้นผมก็ไม่ได้สนใจว่าเขาจะลบหรือเปล่า มีหลายคนที่เข้าไปพูดว่าจะทำบุญสร้างภาพทำไม ถ้าผมบอกพี่ทำบุญสร้างภาพพี่จะรู้สึกอะไรไหม เป็นใครก็ต้องรู้สึก แต่เอมมี่กับกระแตเขาไม่ได้เคลียร์กันนะ เพราะไม่เห็นว่าจะต้องมีอะไรเคลียร์กันเลย มันไม่ใช่เรื่องจริง มันเป็นความเข้าใจผิดกัน ผมก็เคลียร์ข่าวไปแล้ว ถ้าจะมีเคลียร์จริงผมก็ควรจะเคลียร์กับเอมี่มากว่า ถ้าพูดถึงอินสตาแกรมผมไม่อยากให้มองว่ากระแตกระแนะกระแหนเอมมี่ ถ้าพูดถึงอินสตาแกรมนี่มันเป็นการสื่อความคิดของคนก็จริง แต่สิ่งที่มันไม่เหมือนคำพูดจริงๆ ก็คือคุณไม่ได้ฟังน้ำเสียงเขา คุณไม่ได้ดูสีหน้าท่าทางของเขา แล้วทำไมจะต้องคิดว่ามันเป็นการกระแนะกระแหนด้วย”

แต่หลายคนมองแล้วว่าเขาสองคนโพสต์ตอบโต้กัน
“ถ้าดูกันจริงๆ เอมี่มีอันเดียว แต่อันที่เป็นอุปสรรคนี่คือหลังจากที่เราเคลียร์กันแล้วเขาก็ต้องพูดเลยว่าคนเราคบกันแน่นอนว่าความรักมันก็ต้องมีอุปสรรคเป็นธรรมดาซึ่งผมก็เห็นว่ามันเป็นเรื่องปกติ อันที่เขียนว่าทำบุญสร้างภาพมันเป็นอันแรกที่มีปัญหาครับ เราโพสต์หลังจากที่มีคนมาบอกไงครับ ก็อย่างที่ผมพูดในเรื่องผู้หวังดีใจ เพราะว่าเป็นใครก็รู้สึกอยู่แล้ว มันเป็นการเข้าใจผิดครับ ไม่ใช่เป็นการต้องตอบกัน”

แต่ว่าเรื่องมันไม่จบซักทีจนหลายๆ คนมองว่ากระแตก็ชอบเรา
“(ส่ายหัว) หน้าตาดีมากเลย ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ ผมเคลียร์เลยดีกว่าว่าไม่ได้มีอะไรแบบนั้น และตอนนี้ผมเรื่องให้ฟังหมดแล้ว และเคลียร์ปัญหาหมดแล้ว ผมเคลียร์กับเอมี่แล้ว ผมโทรไปหากระแตแล้ว มันก็ไม่จำเป็นจะต้องมีอะไรอีก น้องเขาก็ยังทำงานของน้อง ผมก็ยังทำงานของผมอยู่ เอมี่ก็ยังทำงานของเอมมี่อยู่ ถ้าวันหนึ่งผมจะกลับมาร่วมงานได้ไหมนี่ไม่มีปัญหาเลย เพราะเราไม่ได้มีปัญหาอะไรจริงๆ แต่หลังจากนี้ก็คงต้องระวังเรื่องความสนิทมากขึ้น ตอนนี้ก็ไม่ได้คุยกันเลยด้วยซ้ำเพื่อความสบายใจของเอมมี่ครับ แต่ว่าถ้ามีโอกาสก็คงจะได้พูดคุยกัน ตัวน้องเขาเองก็ไม่ได้ติดต่อมาหาผมเหมือนกัน เขาก็คงเกรงใจ แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรครับ”

ยืนยันว่าเรากับกระแตเป็นพี่น้องกัน
“เป็นพี่น้องกันครับ ไม่มีการชู้สาวแน่นอน”

กระแตเขามีท่าทีว่าชอบเราบ้างหรือเปล่า
“ก็ไม่นี่ครับ มันหมายความว่าเขาจะต้องมาจูบผมเหรอ แล้วก็มีเรื่องนี้อีกอัน ไอ “อยากกอดที่รัก” ในไลน์นี่ รู้ได้ยังไง เอามาให้ดูหน่อย ที่บอกเขาส่งมาหาผมแต่มันไม่มี คือมันมีอันหนึ่งในเน็ตเขียนเขียนยาวมากถึงที่มาที่ไปเรื่องความรักระหว่างซีกับเอมมี่ ผมอยากบอกว่าตอนนี้เราไม่รู้แล้วว่าอะไรจริงหรือไม่จริง ทั้งหมดทั้งมวลมันไม่ได้อยู่ที่ตรงไหนเลย มันอยู่ที่ใจอย่างเดียว มันอยู่ที่คุณจะมองจะพูดยังไง ถ้าคุณมองว่าผมกับน้องเป็นพี่น้องกัน ตัวผมเองก็เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว ถ้าได้รู้จักผมจริงๆ ผมเป็นคนแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่แน่นอนผมยืนยันตรงนี้เลยว่าผมไม่เคยทำอะไรเกินเลย ผมรู้ลิมิทของผมว่าผมทำอะไร เพราะฉะนั้นกับน้องกระแตนี่ไม่ได้มีความสัมพันธ์เกินเลยอย่างที่เป็นข่าวจริงๆ”

แล้วทำไมเอมี่ไม่มาด้วยวันนี้
“ก็เพราะว่างานไม่ตรงกัน ก็อย่างที่บอกว่าผมรอวันที่ 19 ไม่ได้แล้ว แค่นี้ผมก็ทุเรศตัวเองแล้วว่าเป็นผู้ชายแต่ไม่ออกมาพูดอะไร เพราะว่าก่อนหน้านี้ผมคิดว่ามันไม่มีอะไรจะต้องเคลียร์เพราะว่ามันไม่เป็นความจริง แต่คนก็เอามาพูดกันจนเป็นเรื่องราวใหญ่โต มันเลยทำให้ผมคิดว่ามันไม่ได้แล้วนะ คงรอไม่ได้แล้วจริงๆ”

แต่มันมีอีกข่าวหนึ่งที่บอกว่าเราไปหากระแตถึงบ้าน
“ก็ต้องถามว่ามันมาจากไหน ผมไมได้ไปเลย เอาจริงๆ นะผมไม่ได้เบี่ยงนะแต่โกรธอะ ทำไม ผมไม่เข้าใจ อาจะเป็นเพราะว่าผมไม่เคยมีข่าวแบบนี้เลยทำให้ผมไม่เข้าใจ พอมีข่าวของผมว่าเห็นไปทานข้าว ไปดูหนัง ไปช้อปปิ้ง ถ้าเห็นก็ถ่ายรูปมาสิ ผมก็ไม่ค่อยอยากออกมาเพราะถ้าหากผมบอกว่าไม่ได้ไปมันก็จะกลายเป็นว่าผมแก้ตัว การไปสองต่อสองกับน้องเขานี่ไม่มีเลย”

แล้วที่มีรูปไปร่วมปาร์ตี้กันละ
“อันนั้นเป็นปาร์ตี้ของเพื่อนผมเองครับ ผมได้ค่าจ้างในการร้องเพลงวันนั้น ส่วนตัวน้องเองนี่ต้องไปถามน้องครับ คือถาพเป็นตอนเดียวกันหรือคนไปผูกเรื่องเอาเองผมของไม่พูดนะ แต่ผมบอกได้เลยว่าไม่ได้ไปด้วยกัน คือไปเจอที่งานครับ แล้วก็ไม่ได้ไปปาร์ตี้กันต่อด้วยครับ”

แปลว่าไม่มีผลกับเรื่องการแต่งใช่ไหม
“ไม่มีครับ ไม่ใช่ปีนี้ครับแต่ปีหน้า แต่ไม่อยากจะพูดตอนนี้เดี๋ยวมันจะกลายเป็นกลบข่าว ให้มันเป็นไปตามระบบแล้วเดี๋ยวผมจะบอกอีกทีครับ”

ที่บอกส่งผลกระทบกับครอบครัวเพราะว่าผู้ใหญ่ได้มาคุยกับเราใช่ไหม
“ไม่มีเลยครับ ที่ผมพูดว่าส่งผลกระทบผมเชื่อว่าเป็นใครก็ต้องรู้สึกเพราะว่าข่าวมันค่อนข้างแรง ตอนนี้ยังไม่มีโอกาสได้เข้าไปคุยอย่างเป็นทางการเพราะตอนนี้ผมมีถ่ายละครต่างจังหวัดตลอด เพราะฉะนั้นเลยไม่ได้เคลียร์อะไร เอมี่เขาก็ได้เล่าให้แด๊ดฟังบ้างแล้ว คือถ้าให้ผมเข้าไปขอโทษผมก็ไม่รู้จะขอโทษอะไรเพราะว่ามันไม่ได้มีอะไรจริงๆ ซึ่งแด๊ดเขาก็น่าจะเข้าใจเพราะผมกับแด๊ดค่อนข้างสนิทกันครับ ยังไงซะวันนี้ก็ต้องกราบขอโทษครอบครัวฝั่งเอมี่ด้วย ถ้าเกิดทำให้ไม่สบายใจ รวมทั้งครอบครัวฝ่ายกระแตด้วย หลังจากนี้ถ้าเกิดมีอะไรยังไม่เคลียร์ก็มาถามที่ผมได้ เพราะว่าอย่องน้อยผมก็เป็นผู้ชาย เพราะอีกฝ่ายเป็นผู้หญิงอย่างทางฝั่งเอมมี่เขาเชื่อมั่นในความรักที่เราคบกันมาหลายปี และอีกฝั่งคือกระแตเขาก็ทำงานของเขาแล้วพอมาร่วมงานกับผมจึงมีปัญหาซะจนคนทั้งประเทศไปตัดสินเขาขนาดนั้นมันก็ไม่แฟร์”

คิดว่าทั้งสองคนอยากจะเคลียร์กันหรือเปล่า
“ผมว่ามันคงไม่มีอะไรจะต้องเคลียร์กัน แต่ถ้าเกิดเขาเจอกันก็คงคุยกันโดยที่ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วครับ”

ฝากบอกอะไรแฟนๆ ของทั้งสองฝ่ายไหม
“เอาเป็นว่ามนุษย์ทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะออกความคิดเห็นได้ทั้งนั้นแหละครับ แต่อย่าลืมว่าคนเราจะพูดอะไร จะคิดอะไร จะตัดสินอะไร เราต้องมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นก่อนว่า เรื่องที่เรารู้มา เราเห็นกับตาเอง มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่ถ้าคุณฟังจากคนอื่น หรือคุณได้ข่าวมาเพียงเล็กน้อยแต่เอามาตัดสินคนอื่น ผมอยากจะบอกว่าให้ลองใจเย็นๆ ลองคิดดูว่าถ้ามันไม่ได้เป็นแบบนั้นหละ มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่เลวร้ายหรือยิ่งใหญ่อะไรเหมือนอย่างเป็นข่าวมือที่สามเลยจริงๆ”

คบกับเอมี่กี่ปีแล้ว
“คบกัน 8 ปีแล้วครับ”




 

Create Date : 12 มีนาคม 2556
1 comments
Last Update : 12 มีนาคม 2556 0:24:12 น.
Counter : 2068 Pageviews.

 

ขี้เกียจอ่านข่าวมันยาวมาก แต่ได้ยินข่าวนี้มาพักนึงแล้ว ตกลงว่าฝ่ายชายไม่รู้จักพอ หรือฝ่ายหญิงต้องการจนไม่รู้จักพอ หรือว่ายังไงกันคะ

 

โดย: สนมเอก IP: 223.204.149.163 12 มีนาคม 2556 6:42:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.