<<
กันยายน 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
21 กันยายน 2554
 
 

วันกิจกรรมสัมพันธ์ครูสมาธิรุ่น 29 ครั้งที่ 1 @ วัดธรรมมงคล

อาทิตย์ 18 กันยายน 2554



เวลาผ่านไปเร็วจริง เผลอแพล็บเดียวหน้าปฏิทินถูกฉีกออกไปแล้ว 1 แผ่น 1 เดือนเต็มๆ นับจากวันปฐมนิเทศและไหว้ครูเข้าเรียนหลักสูตรครูสมาธิเมื่อ 14 สิงหาคมจนถึงวันนี้ นี่ก็ใกล้จบเล่ม 1 ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้

เหลือเชื่อที่สามารถเข็นตัวเองออกจากบ้านมาเรียนสมาธิอย่างเป็นจริงเป็นจังได้ทุกเสาร์-อาทิตย์ กิจกรรมสร้างสรรค์หลายอย่างถูกตัดออกหมด ในสมุดนัดหมายวันเสาร์-อาทิตย์จดคิวให้กับการมานั่งเรียนทำสมาธิยาวไปจนถึงสิ้นเดือนมกราคม ซ้ำถ้ารู้ว่าสัปดาห์ไหนต้องขาดเรียนแน่ๆ ก็จะหาเวลาเรียนชดเชยแทนอีกแน่ะ นี่นู๋เมี่ยงก็ไปเรียนชดเชยที่สาขาวชิรมกุฏ กับวัดธรรมมงคลตอนเย็นมาแล้วเหมือนกันนะ (จะโอ่ว่าเดินสายเรียนแล้วล่ะ )

เข้าเรื่องกิจกรรมของวันนี้เสียนี้ (โม้มาเสียตั้งแยะ) วันนี้หลายสาขาในกรุงเทพงดเรียน 1 วัน เพื่อให้นักศึกษาครูสมาธิมาทำกิจกรรมร่วมกันที่วัดธรรมมงคล (ดีจัง อยากมาเที่ยวๆๆ ) ครูและพี่เลี้ยงของสาขาม.เอเชียฯ นัดเวลา 6.30 น. ที่ปั้มน้ำมันข้างๆ มหาวิทยาลัย แบ่งกลุ่มขึ้นรถกันเรียบร้อยแล้ว



ทีมพี่เลี้ยงและรถบัส 2 คันจอดรอพวกเราอยู่แล้ว แจกอาหารเช้า (ขนมปัง ซาลาเปา และน้ำดื่ม) นู๋เมี่ยงนั่งอยู่คัน 2 ค่ะ ขึ้นรถพอได้ที่นั่งสัปปายะ ก็ฟรี้ เข้าสู่ภวังค์อย่างรวดเร็ว (รู้สึกเป็นหวัด ไม่สบายด้วยแหระ ) ทุกคนต่างมาถึงตรงเวลา พร้อมออกเดินทาง 7 โมงล้อหมุน

แต่มีหรือพี่เลี้ยงจะปล่อยให้นักศึกษาเล่นเกมหลับตาซ่อนตาดำกันง่ายๆ พอล้อหมุนไม่ทันไร ก็ให้พวกเราสวดมนต์ และร้องเพลงอรุณทอแสง เสร็จแล้วจึงค่อยปล่อยให้พวกเราสงบตามแต่อัธยาศัย



8 โมงมาถึงสถาบันใหญ่วัดธรรมมงคล มีการตั้งแถวจัดเป็นกลุ่มย่อย 9 กลุ่มก่อนเดินเข้าห้องประชุม นู๋เมี่ยงอยู่กลุ่ม 8 ค่ะ เมื่อเดินเข้าไปในห้องประชุมกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็นั่งรอสาขาอื่นๆ ที่กำลังทยอยเดินทางมาถึง


- นักศึกษาครูสมาธิ สาขา 33 ม.เอเชียอาคเนย์ -


สาขาของมหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์นั่งกันเรียบร้อย ส่วนนู๋เมี่ยงหรือคะ ถูกเตะไปนั่งอยู่ปลายแถวโน่นเลย โทษฐานที่น่ารักกว่าใครเพื่อน (ความจริงมัวแต่โอ้เอ้ถ่ายภาพตั่งหาก )


- ทีมพี่เลี้ยงจาก ม.เอเชียอาคเนย์ -


สักพักก็เริ่มมีนักศึกษาสาขาอื่นทยอยเดินเข้ามาในห้องประชุมต่อท้ายแถว ปิ๊ง... ว้าวอะไรนั่น อุแม่เจ้า นั่นมัน นั่นมัน เจสัน ยัง เดินมาต่อท้ายนู๋เมี่ยง อ้ายยยย (เธอจะกรี๊ดอะไรนักหนายะ วันปฐมนิเทศเขาก็นั่งเก้าอี้อยู่ข้างหน้าเธอ ซ้ำตอนเรียนชดเชยเมื่อพฤหัสกะศุกร์ที่ผ่านมานี้ก็ยังเห็นเขาเดินจงกรมใกล้ๆ อีกด้วย)



แต่งานนี้พลาดไม่ได้แล้ว รีบตะครุบ เอ๊ย หันหน้าเข้าไปประชิด ยกมือไหว้ทักทาย แล้วขออนุญาตถ่ายรูป ... ครับ ได้เลยครับพี่ (แป๋ว เอ้า ... พี่ก็พี่วะ ดีที่ไม่เรียกเป็นป้า)



สัก 9 โมงเช้าก็เริ่มเปิดงาน โดยพระอาจารย์ (ขอโทษค่ะนู๋เมี่ยงไม่ทราบชื่อ) เดินขึ้นมากล่าวต้อนรับ และให้ทั้งหมดร่วมกันสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย (บทอิติปิโส สวากขาโต และสุปฏิปันโน) 6 รอบ มีความหมายคือ รอบที่ 1 บูชาคุณพระพุทธ รอบที่ 2 บูชาคุณพระธรรม รอบที่ 3 บูชาคุณพระสงฆ์ รอบที่ 4 บูชาคุณบิดา-มารดา รอบที่ 5 บูชาคุณครูบาอาจารย์ และรอบที่ 6 เพื่อมอบให้แก่ตนเอง จากนั้นท่านก็ให้นั่งสมาธิ 6 นาที ระหว่างนั่งสมาธินั้นนู๋เมี่ยงได้ยินเสียงเอะอะดังขึ้น แล้วก็เงียบหายไป

หลังจากนั้นก็เป็นรายการนำเที่ยวแล้ว เย้ นู๋เมี่ยงก็เดินๆ ตามกลุ่มที่เขาพาไปนั่นแหละค่ะ แม๊... ถ้าคนนำกลุ่มเดินถือธงเหลืองโบกเรียกล่ะก็ น่าจะเข้าบรรยากาศทัวร์เลยนะเนียะ

จุดแรกที่เข้าชมก็คือ เข้ามาสักการะพระพุทธรูป ภ.ป.ร หรือหลวงพ่อองค์ดำ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จมาเททองหล่อองค์พระ ณ วัดธรรมมงคลในปี พ.ศ. 2519 ประดิษฐานอยู่บนชั้น 2 ของวิหารพระวิริยะมงคลมหาเจดีย์ศรีรัตนโกสินทร์


- พระพุทธรูป ภ.ป.ร หรือหลวงพ่อองค์ดำ -


กราบท่านเสร็จก็นั่งสมาธิสักเล็กน้อยต่อหน้าองค์พระ จากนั้นก็ต้องรีบเดินไปชมฐานอื่นต่อ (เอ... อันนี้เริ่มเหมือนทัวร์จิ้มจุ่มหรือทัวร์น้ำจิ้มแระ ประเภทแตะๆ แล้วก็ไป)

ออกจากวิหารจะเดินต่อไปยังศาลาหลวงพ่อหยก สายตาของนู๋เมี่ยงก็ดันแว๊บอ่านเจอข้อความบนบอร์ด บรรยายใต้ภาพเหตุการณ์ตอนหนึ่งประมาณว่า หลวงพ่อวิริยังค์ เป็นผู้ริเริ่มให้มีการบวชชีพราหมณ์ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย จัดขึ้นที่จังหวัดจันทบุรี ขณะนั้นท่านเพิ่งมีอายุได้เพียง 30 ปีเศษเท่านั้น ว๊าววว สุดยอดเลย หลวงพ่อฯ ท่านช่างมีเมตตาต่ออิสตรี โยมเพศแม่มากนัก พวกเขาอยากเข้ามาทำบุญถือศีลปฏิบัติ แต่ยังไม่สามารถโกนผมออกบวชประพฤติเยี่ยงแม่ชีได้ สาธุ สาธุ สาธุ

ออกจากวิหารพระมหาเจดีย์เดินเข้าไปยังอาคารพระพุทธมงคลธรรมศรีไทย หรือศาลาหลวงพ่อหยก หรือศาลา ภ.ป.ร. ด้านในประดิษฐานพระพุทธรูปหยกเขียวขนาดใหญ่ที่สุดในโลก น้ำหนักกว่า 32 ตันนำมาจากประเทศแคนาดา เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิสูง 2.20 เมตร หน้าตักกว้าง 1.60 เมตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า “พระพุทธมงคลธรรมศรีไทย”


- ศาลาหลวงพ่อหยก -



- พระพุทธมงคลธรรมศรีไทย -


ด้านบนพระหยกนั้น เมื่อแหงนศีรษะขึ้นไปดูใต้หลังคา จะเห็นว่าหลังคามีลักษณะโค้งเป็นรูปโดมและมีภาพแกะสลัก? ประดับอยู่ ชื่อว่า “วงกลมสังสารวัฏ” ความที่เวลามีจำกัด วิทยากรก็เลยไม่ได้บรรยายต่อว่าอะไรเป็นอะไร


- วงกลมสังสารวัฏ -


ถัดจากกราบนมัสการหลวงพ่อหยกแล้ว ด้านในจะเห็นเจ้าแม่กวนอิมหยก ประทับยืน สูงขนาด 2.20 เมตร ซึ่งเป็นหยกก้อนเดียวกันกับหลวงพ่อหยกนั่นเอง



- พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ (เจ้าแม่กวนอิม) –


เช้าวันนี้อากาศแจ่มใส ฝนฟ้าไม่ตก แดดก็ไม่แรงจัดมากนัก ออกมาจากศาลาภ.ป.ร. เห็นพระเจดีย์ตั้งสูงสง่าท่ามกลางฟ้าแจ่ม ยังงี้ฟ้าสวย น่าออกไปถ่ายรูปแฮะ



เสียงพี่เลี้ยงร้องเรียกเป็นระยะๆ เวลามีน้อย เดี๋ยวไม่ทันนะคะ.... จ้า จ้า ไปแล้วจ้า .... รีบจ้ำเดินต่อไปอีกจุดนึงแล้ว คือถ้ำวิปัสสนา ....

มาถึงทางเข้าปากถ้ำ เอี๊ยด.... คนติดจ้า ตั้งแถวรอให้กลุ่มอื่นทยอยเดินออกมากันก่อน


- ปากทางเข้าถ้ำวิปัสสนา –


ใกล้ๆ กันนั้น จะเห็นศาลากลางน้ำตั้งอยู่ พี่เลี้ยงอธิบายว่านั่นคือที่ทำงานเขียนหนังสือของหลวงพ่อ



เอาล่ะ .... นู๋เมี่ยงเดินเข้าถ้ำแล้วล่ะนะ ภายในถ้ำประดิษฐานพระเมตตาพุทธเจ้า หลวงพ่อท่านเห็นนิมิตพระพุทธเจ้าลอยมาจากท้องฟ้า ปางนั่งประทานพร หลวงพ่อฯ และพระภิกษุสามเณรวัดธรรมมงคล พร้อมด้วยสาธุชนได้มาร่วมพิธีเททองหล่อองค์พระในปี 2544


- พระเมตตาพุทธเจ้า ภายในถ้ำวิปัสสนา –


จุดสุดท้าย คือพระอุโบสถภายในกว้างขวางสามารถบรรจุผู้คนได้มากกว่า 500 คน หลังคาทรงสูงระบายสีฟ้าสว่างสดใส ด้านข้างประดับด้วยกระจกใสแบบฝรั่ง ดูคล้ายศิลปะโกธิค ก็ได้นึกถึงวัดนิเวศธรรมประวัติ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่วนภาพกิจกรรมฝาผนังนั้นมีทั้งส่วนที่เป็นพุทธประวัติ และส่วนที่เป็นภาพพระอริยสงฆ์ ภาพจิตรกรรมฝาผนังนี้หลวงพ่อฯ ท่านให้ช่างวาดออกมาเป็นพิมพ์บนกระดาษอย่างดี มีความทนทานไม่สึกกร่อนง่าย และยังย่นเวลาการตบแต่งอีกด้วย



พระประธานในพระอุโบสถคือพระพุทธสุพิโนภาสศาสดา หรือหลวงพ่อใหญ่ สร้างด้วยทองสัมฤทธิ์หน้าตักกว้าง 8 เมตร สูง 16 เมตร หลวงพ่อฯ เป็นผู้ออกและแนะนำการออกแบบเอง หลวงพ่อวิริยังค์ท่านเป็นผู้ทำพิธีเบิกเนตรหลวงพ่อใหญ่เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2551 (ซึ่งตรงกับวันเกิดท่านพอดี)


- พระพุทธสุพิโนภาสศาสดา (หลวงพ่อใหญ่) -


วิทยากรเล่าให้ฟังว่า ตอนที่หลวงพ่อวิริยงค์ดำริที่จะสร้างพระประธานองค์นี้นั้น นายช่างปั้น/หล่อพระได้ถามหลวงพ่อว่าอยากได้พระศิลปะแบบไหน เชียงแสน สุโขทัย อู่ทอง หลวงพ่อฯ ตอบว่าเราอยู่ในยุครัตนโกสินทร์ ก็สมควรออกแบบพระพุทธรูปให้มีหน้าตาเป็นแบบคนรัตนโกสินทร์สิ เอ.... ไม่มี นายช่างตอบ งั้นไม่เป็นไร หลวงพ่อให้นายช่างออกแบบมาให้ดูก่อน เสร็จแล้วค่อยส่งภาพถ่ายไปให้ท่านดู (หลวงพ่ออยู่ที่แคนาดา) วิทยากรเล่าต่อว่า พอหลวงพ่อเห็นภาพเท่านั้นแหละร้องจ๊ากเลย เพราะว่าหน้าตาของพระพุทธรูปนี่ถอดแบบเหมือนคนปั้นชัดๆ เลย ซ้ำรูปร่างก็ผิดสัดผิดส่วน นายช่างก็ตอบว่า ก็ผมเป็นคนสมัยรัตนโกสินทร์เหมือนกันนี่ (ทำนองนั้น ) เอ้า.. ว่างั้น หลวงพ่อก็เลยออกแบบหลวงพ่อใหญ่เสียเอง

แต่นู๋เมี่ยงคุ้นๆ นะคะว่าในสมัยรัชกาลพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) หรือสมัยรัชกาลพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) นี่แหละ ที่พระพุทธรูปมีลักษณะจำเพาะ ว่าเป็นลักษณะของรัตนโกสินทร์ (ไม่แน่ใจว่าตรงพระเกศโมลีรึเปล่า และการครองจีวร) เพราะยุคอื่นๆ จะไม่มีแบบนี้ เรื่องนี้ต้องสืบค้นดูอีกทีค่ะ แต่นู๋เมี่ยงไม่ใช่นักประวัติศาสตร์ศิลปะ คงให้คำตอบเรื่องนี้ไม่ได้แน่ชัด

จากนั้น พวกนั่งสมาธิต่อหน้าหลวงพ่อใหญ่ แล้วก็ทยอยเดินออกจากพระอุโบสถ 11 โมงกว่า ได้เวลารับประทานมื้อกลางวันแล้วค่ะ พี่เลี้ยงมือไม้ระวิงหยิบจับตักอาหารให้นักศึกษาทุกท่านได้ทานอาหารกันอย่างเต็มที่



อิ่มกันแล้ว เดินย่อยอาหารสักพัก ก่อนบ่ายโมงพวกเราก็กลับเข้าห้องประชุม ได้นั่งตามกลุ่มที่ได้แบ่งกันไว้แต่ต้นแล้ว พอบ่ายก็เริ่มกิจกรรมสันทนาการ มีการเก็บคะแนนด้วย กลุ่มไหนได้คะแนนสูงสุดจะได้รางวัล



เกมแรก คือทายภาพที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ presentation ว่าคือสิ่งใด โดยพิธีกรจะเปิดทีละแผ่นป้าย แค่เปิดเพียงแผ่นป้ายแรกก็รู้กันหมดแล้ว เก่งมากเลยใช่ไหมคะ ครูสมาธิรุ่นที่ 29 นี่

เกมต่อมาก็คือ ตอบคำถามเกี่ยวกับสถานที่ และสิ่งมงคลในวัดธรรมมงคลว่ามีชื่อเรียกว่าอะไรบ้าง เกมชุดนี้นู๋เมี่ยงว่าน่าจะได้คะแนนเต็มกันทุกกลุ่มค่ะ

เกมสุดท้ายแระ คือการต่อภาพจิ๊กซอว์ แต่ละกลุ่มจะได้ภาพต่อจิ๊กซอว์กัน 3 ภาพ นู๋เมี่ยงก็ขอแว๊บไปถ่ายภาพกลุ่มโน้นกลุ่มนี้บ้าง แต่ละกลุ่มเหมือนกันค่ะคือความสามัคคี ช่วยกันคนละไม้คนละมือ แม้จะดูชุลมุนไปบ้าง มะรุมมะตุ้มกันสนุกดีค่ะ ดูพวกเขาช่วยกันขันแข็งแบบนี้


- เกมต่อภาพจิ๊กซอว์ –


นู๋เมี่ยงขออนุญาตเป็นผู้สังเกตการณ์อยู่ห่างๆ นะคะ (อนุญาตตัวเองเสร็จสรรพ ) ยิ่งแต่ละกลุ่มเหลืองานต่อภาพสุดท้าย ก็ยิ่งมะรุมมะตุ้ม ล้อมวงกันเข้ามาช่วยกัน ช่วยกัน วงก็เลยดูใหญ่แบบนี้ค่ะ



ตอนนี้ยิ่งต้องรีบแข่งกันเวลา เพราะบางกลุ่มก็ต่อภาพทั้ง 3 ภาพสำเร็จเรียบร้อยไปแล้ว กลุ่มไหนยังไม่เสร็จ ต้องรีบๆ เข้า



กิจกรรมเล่นเกมเสร็จสิ้นประมาณบ่าย 3 โมงเศษ จากนั้นก็มีการประกาศกลุ่มผู้ชนะได้รับรางวัล รู้สึกว่ารางวัลเป็นล็อกเกตหลวงพ่อนะคะ

กลุ่มนู๋เมี่ยงอดค่ะ ฮือๆๆๆ (คนแพ้ก็อยากได้รางวัลเหมือนกันน้า)

ก่อนจากลากันในวันนั้น ก็ประสานมือกันร่วมกันร้องเพลงอรุณทอแสงค่ะ แล้วจึงแยกย้ายกันกลับขึ้นรถ .... แล้วพบกันใหม่ในกิจกรรมคราวหน้าค่ะ


บันทึกจากภาพความทรงจำ
อังคาร 20 กันยายน 2554





 

Create Date : 21 กันยายน 2554
6 comments
Last Update : 21 กันยายน 2554 17:26:26 น.
Counter : 6134 Pageviews.

 

แหมน่าสนุกนะครับอิจฉาจัง สักวันคงได้เจอกันครับ เราศิษย์สำนักเดียวกันอยู่แล้ว.....(แต่คนละสาขา)

 

โดย: เอกครับ IP: 119.63.93.129 21 กันยายน 2554 18:23:29 น.  

 

เรียนสนุก เที่ยวสนุก ....ดีใจด้วยจ้าาาาา

 

โดย: นัทธ์ 21 กันยายน 2554 21:32:17 น.  

 

เก็บภาพและลายละเอียดได้ดีจังค่ะ

 

โดย: ผู้มีส่วนเข้าร่วมกิจกรรม IP: 125.24.66.139 26 กันยายน 2554 8:13:16 น.  

 

แวะมาทักทายค่ะ

 

โดย: amonrat27 11 ธันวาคม 2554 11:06:49 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: นัทธ์ 31 ธันวาคม 2554 21:39:25 น.  

 

ทำได้ดีเน๊อะ นู๋เมี่ยง

 

โดย: โก IP: 180.214.211.250 18 มกราคม 2555 15:39:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

มามะ.. เมี่ยงเองค่ะ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




[Add มามะ.. เมี่ยงเองค่ะ's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com