<เรื่องเล่าจากแม่ I ช่วงนี้คุณแม่รู้สึกขี้เกียจมาก งานบ้านไม่ทำ มือไม่จับ เท้าไม่กระดิก ก้นไม่ขยับ กอร์ปกับจิตว่างเลยหาอะไรใส่สมองให้มันวุ่นๆดูบ้าง ที่จริงคุณแม่มีเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเองมากมาย ที่อยากเล่าให้ลูกฟัง แต่ก็ไม่รู้ว่าลูกจะเล็กจนเกินไปที่จะรับรู้สิ่งที่แม่ ถ่ายทอดให้ฟังได้หรือเปล่า? แต่มันก็เหมือนสิ่งมหัศจรรย์นะเวลาแม่นึกถึงเรื่องดีๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต มันทำให้แม่รู้สึกมีความสุข เหมือนร่างกายหลั่งสารบางอย่าง ส่งผลไปถึงลูกน้อยของแม่ให้ได้รับความสุขอันนั้นไปด้วย ทำให้แม่กินอิ่ม นอนหลับ ได้บ้างหลายต่อหลายวัน แต่อีกหลายวันลูกแม่ก็เกเรซะไม่มี
เรื่องแรกที่แม่อยากเ่ล่าให้ฟังมันคงเป็นความโชคดีของแม่และพ่อ ที่พวกเราได้มีโอกาสมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน อันนี้คงต้องยกผลประโยชน์ให้คุณพ่อเขาแหล่ะที่ทำให้ หัวใจของแม่พองโตทุกๆวัน คุณพ่อเป็นผู้ชายอารมณ์ขัน เป็นสุภาพบุรุษมากในสายตาแม่ เป็นแฟมิลี่แมน รักครอบครัว และอีกอย่างเป็นคนจริงใจเกินร้อย
ตอนคุณแม่อยู่เมืองไทยคุณพ่อคอยรับคอยส่งหัวใจดวงนี้ แทบทุกวินาที (ดูเหมือนเว่อร์นะ แต่เรื่องจริงไม่อิงนิยายเลยแหล่ะ) และคุณพ่อแสดงให้เห็นว่า รักแม่จากใจจริง จนทำให้แม่ต้องกระโดดลงหลุมพรางเบ่อเร้อที่พ่อขุดไว้ หลุมอาจจะใหญ่เกินไปทำให้แม่ปืนขึ้นมาไม่ไหว แต่แม่ก็เต็มใจที่จะอยู่ในหลุมในตลอดไปนะ ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักคุณพ่อจนกระทั่งทุกวันนี้ไม่มีแม้แต่วันไหน ที่แม่รู้สึกเสียใจที่ได้เดินร่วมทางกับผู้ชายคนนี้ คุณพ่ออลันยังเป็นผู้ชายคนเดิมไม่มีเปลี่ยน มีก็แต่จะเปลี่ยนให้ความรักที่เพิ่มพูนขึ้นจริงๆแล้วแม่อยากบอกว่า คุณพ่อเป็นคนเอาใจเก่งต่างหากล่ะ แม่ถึงได้ตายรังอยู่แบบนี้
แต่....ก็มีอยู่วันหนึ่งนะที่แม่รู้สึกแต่ใจเสีย ที่ทำร้ายจิตใจผู้อกสามสี่ศอกอย่างคุณพ่อให้ต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่า เพียงเพราะความสับสนในตัวแม่ เพราะการจะ Say Yes กับใครสักคนแบบจริงจัง จริงๆแล้วมันไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกันนะ พอถึงเวลานั้นจริงแม่ก็คิดใหญ่เลย เฮ้ย.....เรารีบอยากมีสามีเร็วเกินไปหรือเปล่าว่ะ? เอ๊ย... แก่กว่าเราตั้ง 14 ปี จะไปกันรอดเหรอ? คิด....คิด.....คิด สับสนวุ่นวายอยู่คนเดียว แต่พอแม่ตัดปัญหาที่ไร้สาระออกไปแล้วลองมานั่งชั่งใจ ตัวเองดูว่าผู้ชายคนนี้เป็นแบบที่เราต้องการหรือป่าว.... สรุปแล้วแม่ก็ต้องร้องเพลงพี่ไทย ใช่เลย....คือคนนี้เลย พอคุณพ่อถามอีกทีโอ๊ย...แม่รีบ Say Yes ดังๆเลยลูก ( เอาว่ะ ไหนๆ ก็มีโอกาสลงจากคานแล้วนี่ )
ความรักของพ่อกับแม่ไม่เหมือนวัยรุ่นหวือหวา รักๆ เลิกๆ แต่มันเป็นความเข้าใจ ห่วงใจ ที่เราจะมีให้กันและกัน ตลอดไป
เรื่องที่สองซึ่งแม่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังแม้แต่เพื่อนๆ ก็มีแต่ครอบครัวของแม่เท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ ที่จริงก็ไม่ใช่ความลับอะไรนักหนาหรอกเพียงแต่คงยัง ไม่ถึงเวลาที่จะบอกหรือเล่าให้ใครฟังมั้ง จริงๆแล้วลูกแม่มีพี่สาวอีกหนึ่งคนนะ ชื่อ อแมนด้า เป็นลูกสาวของคุณพ่อเขาแหล่ะ
อแมนด้าเป็นลูกเสี้ยวจีน+อเมกันตอนนี้ก็น่าจะ 20 ปีนะ เธอก็โอเคกับแม่นะเคยมาที่นี่สามครั้งแล้ว แต่แม่ก็ไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่เพราะเธอไม่ค่อยมาอีกอย่าง คงเป็นช่วงวัยรุ่นมั้งที่มักจะอยากทำอะไรอย่างที่ใจตัวเองต้องการและอีกอย่างเด็กอเมกันกับเด็กที่เมืองของแม่ก็ค่อนข้างแตกต่างกัน วัฒนธรรมขนบธรรมเนียมก็ต่างกัน พ่อกับแม่คุยกันว่าไหนๆลูกเธอกับฉันก็ลูกครึ่งดังนั้นเลี้ยงคนละ 50-50 (เป็นความคิดของพ่อเขาล่ะ) แต่แม่ไม่ได้ต้อง 60-40 เพราะอเมกันจ๋าที่นี่บางทีก็รับไม่ไหวเหมือนกันค่ะ
I |
ตามมาจากบ้าน วีซ่าฟรอไทยค่ะ ไปบอกข่าวดีเพื่อนๆ รึยังเอ่ย