Civic & CR-V Fuel Challenge บทพิสูจน์แห่งสมรรถนะบนเส้นทางแห่งความท้าทาย กรุงเทพฯ น่าน หลวงพระบาง
ฮอนด้าได้เชิญสื่อมวลชนสายยานยนต์ ร่วมเดินทางพิสูจน์สมรรถนะและการใช้น้ำมัน E85 ของ ซีวิค และซีอาร์-วี บนเส้นทางที่สวยงามและท้าทาย จากกรุงเทพฯ น่าน หลวงพระบาง ด้วยระยะทางกว่า 1,700 กม.
การทดสอบครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 2 ช่วง โดยช่วงแรก เป็นฮอนด้า ซีวิค จำนวน 10 คัน ทั้งรุ่น 1.8 ลิตร และ 2.0 ลิตร เส้นทาง กรุงเทพฯ น่าน ระยะทาง 670 กม. โดยมีสื่อมวลชนทีมละ 4 คน หลังจากที่ปิดฝาถังน้ำมันเรียบร้อยแล้ว เริ่มต้นการเดินทางจากศูนย์ฝึกอบรม ฮอนด้า ออโตโมบิล นิคมอุตสาหกรรมบางชัน ใช้เส้นทางสายเอเชีย มุ่งหน้าขึ้นเหนือ ผ่านจังหวัดอยุธยา นครสวรรค์ พิษณุโลก แพร่ แล้วมุ่งหน้าสู่เมืองงาช้างดำ จ.น่าน รูปแบบการขับขี่เป็นการใช้รถแบบการเดินทางไกล เปิดแอร์ เครื่องเสียง ขับด้วยความเร็วประมาณ 80-100 กม.ต่อชม. พร้อมกิจกรรมกึ่งแรลลี่ ณ จุดพักระหว่างเส้นทาง เพื่อความสนุกสนาน
ตลอดเส้นทางสภาพถนนส่วนใหญ่เป็นทางเรียบ จนถึงจ.แพร่มุ่งหน้าสู่ จ.น่าน ผ่านเส้นทางคดเคี้ยวขึ้นเขาแต่สภาพถนนดี ทำให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสกับสมรรถนะของซีวิคที่ให้การความสนุกในการขับขี่มากยิ่งขึ้น และเมื่อถึงจุดสิ้นสุดการทดสอบที่บริษัท น่าน ฮอนด้าคาร์ส์ จำกัด เป็นเวลา 10 ชม. จึงทำการวัดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันของรถทั้ง 10 คัน ซึ่งผลการแข่งขันพบว่า รถซีวิค ที่เติมน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 95 มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ดีกว่า แต่รถซีวิคที่เติมน้ำมัน E85 มีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่า ดังตาราง
หลังเสร็จสิ้นการทดสอบซีวิคกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราได้ไปเที่ยววัดภูมินทร์ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ จ.น่าน ซึ่งเป็นวัดเพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่มีภาพอยู่ในธนบัตร และมีภาพชื่อก้องเป็นภาพกระซิบรัก อยู่ภายในโบสถ์ จากนั้นพักผ่อนดื่มด่ำกับบรรยากาศสบายๆยามค่ำคืนกับขันโตกกลางลานอันแสนโรแมนติก
ลุยต่อกับ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่
รุ่งขึ้นเป็นการทดสอบช่วงที่ 2 กับฮอนด้า ซีอาร์-วี จำนวน 10 คัน ทั้ง 4 รุ่น คือ รุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร และ 2.4 ลิตร ในแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ ส่วนสื่อมวลชนยังคงเป็นทีมเดิม เส้นทางท้าทายยิ่งขึ้น จากน่าน หลวงพระบาง ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระยะทาง 365 กิโลเมตร ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายตั้งแต่เช้ามืด แต่ทุกคนตื่นตัวกันเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีความท้าทายรออยู่ เราออกเดินทางจากศูนย์ฮอนด้า น่าน มุ่งหน้าสู่อ.เฉลิมพระเกียรติ ตลอดเส้นทางยังคงหมอกปกคลุมเป็นระยะๆ โดยเฉพาะถนนเป็นเขาและโค้งมากขึ้น จนถึงด่านชายแดนไทย ที่ห้วยโก๋น
เราเริ่มตั้งขบวนเป็นคาราวาน เรียงรถตามหมายเลข เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ เพราะในลาวต้องขับชิดทางขวา และตลอดเส้นทางเป็นถนนคดเคี้ยวอยู่บนภูเขาที่ทอดตัวยาวติดต่อกันหลายลูก แน่นอนว่าเพื่อเพิ่มความท้าทายระหว่างการเดินทาง ภารกิจที่มอบหมายให้ทุกคันคือการนับโค้งว่าเส้นทางที่เราผ่านมีจำนวนโค้งเท่าไร แม้ว่าระยะทางไม่ยาวนักแต่เส้นทางขับขี่เป็นอุปสรรคทำให้ต้องใช้เวลานาน เพียง 155 กม. แรกใช้เวลาถึง 4 ชม. จนถึงช่วงพักรับประทานอาหารกลางวันกันที่เมืองไชยะบุรี
จากนั้นเดินทางต่อไปยังเมืองนาน เพื่อข้ามแพขนานยนต์ไปแล้ว เข้าสู่ถนนที่กำลังปรับปรุง แต่ด้วยฝนที่ตกในคืนที่ผ่านมาเปลี่ยนถนนฝุ่นให้กลายเป็นโคลนมากขึ้น ผู้ขับขี่จึงได้สัมผัสกับสมรรถนะของ ซีอาร์-วี ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกเหนือจากการที่เคยได้สัมผัสกันบนเส้นทางเรียบของวังน้ำเขียวในทริปที่ผ่านมา จนถึงจุดสิ้นสุดการแข่งขันที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท.เมืองหลวงพระบาง เพื่อเติมน้ำมันและวัดอัตราสิ้นเปลือง รวมใช้เวลาถึง 10 ชม. และผลการนับโค้งได้ถึง 1,286 โค้ง ส่วนผลการแข่งขัน อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันของการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอลล์ มีประสิทธิภาพมากกว่า แต่ การใช้น้ำมัน E85 มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า
หลังจากนั้น เดินทางสู่ที่พัก โรงแรม Le Parais Juliana ก่อนจะเข้าสู่ช่วงประกาศผลการแข่งขัน โดยมีคุณพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส และคุณสมภพ ปฏิภานธาดา ผู้จัดการส่วนงานการตลาด บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ให้การต้อนรับและมอบรางวัลพร้อมของที่ระลึกแก่สื่อมวลชนทุกท่าน
แม้จะสิ้นสุดการแข่งขันแล้ว แต่ทั้งคณะไม่สิ้นสุดการเดินทาง เช้าวันรุ่งขึ้น เราตื่นกันแต่เช้ามืดมารอใส่บาตรข้าวเหนียวกันตั้งแต่ 6 โมงเช้า ซึ่งเป็นประเพณีของชาวหลวงพระบาง ซึ่งชาวบ้านจะมารอใส่บาตรริมทางข้างพิพิธภัณฑ์พระราชวัง โดยมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจและเข้าร่วมใส่บาตรในครั้งนี้ด้วย วิธีการไม่มีอะไรยุ่งยาก ทุกคนตั้งแถวรอขบวนพระที่มาจากหลายวัด แล้วจะเดินกันเป็นทิวแถวยาว ผู้ชายจะคุกเข่าหรือยืนใส่ก็ได้ แต่ผู้หญิงต้องนั่งเท่านั้น สิ่งที่จะใส่จะมีข้าวเหนียวคนละกระติ๊บ เมื่อพระเดินผ่าน เราก็หยิบข้าวเหนียวปั้นพอคำใส่ลงในบาตร ด้วยความรวดเร็วประมาณเปลี่ยนตั้งแต่เกียร์ 1 ถึง เกียร์ 5 เพราะพระท่านเดินกันเร็วมาก เสร็จสิ้นจากการใส่บาตร เราก็ต้องแวะไปรับประทานอาหารเช้าที่ร้านประชานิยม ที่ใครไม่ได้ชิมเหมือนมาไม่ถึงหลวงพระบาง จากนั้นแวะไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์พระราชวังเดิมและวัดเชียงทองที่เป็นที่นับถือของคนหลวงพระบาง และพลาดไม่ได้กับฉากบันไดหน้าวัดที่เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ สะบายดีหลวงพระบาง
หลังจากเรารับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหาร Pham SaiHoung หลวงพระบางกันแล้ว จึงเดินทางต่อไปยังเมืองหลวงน้ำทา ซึ่งอยู่ขึ้นไปทางตอนเหนือ เป็นเมืองที่มีพรมแดนติดกับประเทศจีน เป็นเส้นทางหลักที่สามารถเดินทางต่อไปยังจีนได้ ระยะทางประมาณ 390 กิโลเมตร สภาพเส้นทางบนเขาสูงเหมือนเดิม เต็มไปด้วยโค้ง ทั้งยังต้องระวังสัตว์เลี้ยง และชาวบ้านที่อยู่ริมทาง นับเป็นอีกเส้นทางที่ท้าทาย SUV อย่างซีอาร์-วี ยิ่งนัก เราสิ้นสุดการเดินทางที่โรงแรมรอยัล หรือมีชื่อจีนว่า หวงจิ่ง
ท่ามกลางด้วยสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิ 14 องศาเซลเซียส
วันสุดท้าย เราเตรียมตัวเดินทางกลับเข้าไทย ที่ด่านห้วยแก้ว ตรงข้ามกับ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ด้วยระยะทางประมาณ 180 กม. บนถนนที่ดีที่สุดในลาว ที่ได้รับการสร้างจาก 3 สปอนเซอร์หลักคือ ไทย จีน และลาว จึงได้ชื่อว่า A3R สภาพเส้นทางเป็นถนนลาดยางอย่างดี แต่ก็ยังเป็นการขับขี่บนเขาสูงอีกเช่นเคย ซึ่งผู้ขับขี่ก็ได้สัมผัสกับสมรรถนะของซีอาร์-วี ได้อย่างมั่นใจเต็มที่ ก่อนจะข้ามแพขนานยนต์กลับสู่ฝั่งไทยโดยสวัสดิภาพ
นับเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์สมรรถนะและการใช้น้ำมัน E85 บนเส้นทางที่ท้าทายความสามารถของ ทั้งคนและรถที่สามารถตอบสนองการใช้งานจริงในทุกสภาพถนน ของ ฮอนด้า ซีวิค และ ซีอาร์-วี
ที่มา : //www.auto-thailand.com/TestDrive/Honda-Civic-CR-V-Fuel-Challenge-2013.html