บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) แนะนำ ”ซื้อ” TUF ราคาเป้าหมาย 65.25 บาท หลังเข้าถือหุ้น PPC ช่วยเสริมศักยภาพเติบโต โดยระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้

TUF จะ Tender Offer หุ้น PPC ที่ราคาตามบัญชีของงบสิ้นปีนี้ โดยคาดว่าจะเข้าถือหุ้น 40-50% มูลค่ารวมคาดว่าไม่เกิน 500 ล้านบาท TUF จะได้รับผลบวกทั้งในแง่ของการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดหาวัตถุดิบกุ้ง เพิ่มกำลังการผลิต และ ขยายตลาดได้โดยที่บริษัทไม่ต้องใช้เงินลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตเอง TUF จะรับรู้กำไรจาก PPC ตามส่วนได้เสียโดยเราคาดกำไรจะเพิ่มขึ้นประมาณ 3% แต่ในระยะยาวจะส่งผลบวกมากขึ้น แนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสม 65.25 บาท

ซื้อ PPC ที่ราคาตามบัญชีของงบปีนี้

TUF จะเข้าซื้อหุ้นบริษัท แพ็คฟู้ด (PPC) โดยการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดโดยสมัครใจ (Voluntary Tender Offer) ภายใต้เงื่อนไขว่าจะได้หุ้น PPC ไม่น้อยกว่า 40% โดยผู้ถือหุ้นของ PPC 9 ราย คือ กลุ่มอารีเจริญเลิศ และ / หรือ กลุ่มกนกวัฒนาวรรณ จะขายหุ้นออกมาบางส่วนซึ่งจะไม่เกิน 12 ล้านหุ้น หรือ ไม่เกิน 40% ให้ TUF โดยที่กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมจะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และยังผู้บริหาร PPC ต่อไป ปัจจุบันกลุ่มดังกล่าวถือหุ้นรวมกัน 86.25% สำหรับราคา Tender Offer เท่ากับมูลค่าตามบัญชีสุทธิต่อหุ้นตามงบการเงินของ PPC ในสิ้นปีนี้ที่ตรวจสอบแล้วโดยผู้สอบบัญชี หากราคาเสนอซื้อเท่ากับมูลค่าตามบัญชี ณ 30 ก.ย. 54 ที่ 28.77 บาทต่อหุ้น จะคิดเป็น PER ประมาณ 11 เท่า มูลค่าการซื้อหุ้นกรณีที่เข้าถือหุ้นในสัดส่วน 40-50% จะเท่ากับ 345-432 ล้านบาท โดย TUF จะชำระค่าหุ้นเป็นเงินสดทั้งหมดจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน

PPC เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็ง

PPC เป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจแปรรูปและส่งออกอาหารทะแลแช่แข็ง สินค้าส่วนใหญ่คือ กุ้งแช่แข็ง เนื้อปูพาสเจอร์ไรซ์ และ อาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง มีรายได้ในสัดส่วน 72%, 6% และ 22% ตามลำดับ รายได้จากการส่งออกมีสัดส่วน 94% ของรายได้รวม ตลาดหลัก คือ สหรัฐฯ สหภาพยุโรป และ ญี่ปุ่น ในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ PPC มียอดขาย 4,979 ล้านบาท EBITDA 270 ล้านบาท และ กำไรสุทธิ 112 ล้านบาท เทียบกับงบ 9 เดือนปี 2553 ที่ขาดทุน 83 ล้านบาท

ส่งผลบวกทั้งในแง่การจัดหาวัตถุดิบ การผลิต และ การขาย

การลงทุนใน PPC จะสร้างผลประโยชน์เพิ่มเติมให้กับ TUF ในแง่ของการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดหาวัตถุดิบ เพิ่มกำลังการผลิต และ ขยายตลาดโดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูป กำลังการผลิตกุ้งจะเพิ่มขึ้นจาก 220 ตัน/วัน เป็น 400 ตัน/วันโดยที่ TUF ไม่ต้องลงทุนขยายกำลังการผลิตเอง ขณะที่จะสามารถรับคำสั่งซื้อได้เพิ่มขึ้นเนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตของ PPC ในปัจจุบันอยู่ที่เพียง 50% ส่วนการซื้อวัตถุดิบกุ้งคาดว่าจะได้รับเงื่อนไขการค้าที่ดีขึ้นเนื่องจาก TUF และ PPC มีการซื้อวัตถุดิบกุ้งรวมกันประมาณ 1 แสนตัน/ปี ซึ่งคิดเป็นเกือบ 20% ของการผลิตกุ้งของไทย ส่วนการ Tender Offer คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือน มี.ค. 2555 ซึ่งจะมีระยะเวลา 25 วันทำการ โดยคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายใน 2Q55 ซึ่ง TUF จะรับรู้กำไรของ PPC ตามส่วนได้เสีย (Equity method) จากการถือหุ้น 40-50% ซึ่งในเบื้องต้นเราคาดว่าจะทำให้กำไรของ TUF เพิ่มขึ้นประมาณ 3% แต่ในระยะยาวคาดว่าจะส่งผลบวกมากขึ้นจากการประหยัดจากขนาดและลดต้นทุนต่อหน่วย เราจึงคงคำแนะนำ ซื้อ TUF ให้ราคาเหมาะสม 65.25 บาท

Create Date : 22 ธันวาคม 2554
Last Update : 22 ธันวาคม 2554 12:10:27 น.		1 comments
Counter : 621 Pageviews.
Share Tweet