|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
กลูต้าไธโอน รับประทานถูกวิธีขาวได้วิ๊ง วิ๊ง (Woman Plus)
กลูต้าไธโอน รับประทานถูกวิธีขาวได้วิ๊ง วิ๊ง (Woman Plus)
สาว ๆ สมัยนี้ฮิตกันมากกับการทานกลูต้าไธโอน เพื่อให้ตัวเองสวยขาวใส แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าการทานกลูต้าไธโอน ที่ถูกวิธีและให้เกิดประสิทธิภาพนั้นควรทานอย่างไร วันนี้ Womanplus จะไขข้อข้องใจ ก่อนอื่นมารู้จักว่า กลูต้าไธโอน คืออะไร
กลูต้าไธโอน เป็น tripeptides ของกรดอะมิโน 3 ตัว คือ ซิสทีน (cysteine), กรดกลูตามิค (glutamic acid) และไกลซีน (glycine) ซึ่งร่างกายสามารถผลิตได้เองตามธรรมชาติ และมีในอาหาร เช่น นม ไข่ ผลอะโวคาโด สตรอเบอร์รี มะเขือเทศ ผักบรอคโคลี ส้มเกรปฟรุต และผักโขม หน้าที่หลักของสารตัวนี้ที่เด่นมีอยู่ 3 ประการ คือ
1. Detoxification : กลูต้าไธโอนช่วยสร้างเอ็นไซม์ชนิดต่าง ๆ ในร่างกายโดยเฉพาะ Glutathion-S-transferase ที่ช่วยในการกำจัดพิษออกจากร่างกายโดยไปเปลี่ยนสารพิษชนิดไม่ละลายในน้ำ (ละลายในน้ำมัน) เช่น พวกโลหะหนัก สารระเหย ยาฆ่าแมลง แม้แต่ยาบางชนิด ให้เป็นสารที่ละลายน้ำได้ดีขึ้นและง่ายต่อการกำจัดออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันตับ1 จากการถูกทำลายโดย แอลกอฮอล์ (สุรา) สารพิษจากบุหรี่ ยาพาราเซตามอลเกินขนาด (Overdose) ฯลฯ
2. Antioxidant : กลูต้าไธโอนมีคุณสมบัติเป็นสารต้านปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชั่น (Antioxidant) ที่มีความสำคัญตัวหนึ่งในร่างกาย และหากขาดไป วิตามินซีและอี อาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่
3. Immune Enhancer : ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย2 โดยกระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์หลายชนิดเพื่อให้ร่างกายต่อต้านสิ่งแปลกปลอม รวมถึงเชื้อแบคทีเรียและไวรัส นอกจากนี้กลูตาไธโอน ยังช่วยสร้างและซ่อมแซม DNA สร้างโปรตีนและ prostaglandin
หลายคนที่ซื้อกลูต้าไธโอน มาทาน แล้วทานทีละหลาย ๆ เม็ด และมีค่ามิลลิกรัมสูง อาจจะเป็นอันตรายส่งผลกับร่างกายของเรา ดังนั้นสาว ๆ มาทำความเข้าใจกับการทานกลูต้าไธโอน ให้มีประสิทธิภาพกันดีกว่า เพื่อผิวขาวสุขภาพดี วิ๊ง วิ๊ง กันดีกว่าค่ะ
ปริมาณการทานกลูต้าไธโอน ของแต่ละคนไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัว (ถ้าเป็นสาวรูปร่างใหญ่ก็จะมีเม็ดสีผิวเยอะกว่าสาวรูปร่างเล็ก จึงต้องทานมากกว่าคนรูปร่างเล็ก น้ำหนักมากทานมาก น้ำหนักน้อนทานน้อย นั่นเอง)
ตัวอย่างเช่น ถ้าคนหนัก 50 กิโลกรัม ถ้าจะทานเพื่อให้ผิวขาวจะต้องทานวันละ 1000-2000 mg. ซึ่งอาจจะมีค่าใช้จ่ายบานปลาย แต่เราก็มีวิธีที่จะประหยัดลงได้ก็คือ ให้รับประทานเพียงวันละ 10 mg/kg/day แล้วให้ทานสาร antioxidize อื่น ๆ คู่กันด้วย เช่น Vitamin C หรือ Vitamin E ซึ่งหากทานวิตามินซีคู่กับกลูต้าไธโอนจะต้องรับประทานเป็น 2 เท่าของกลูต้าไธโอน
ลองเทียบน้ำหนักและการทานกลูต้าไธโอน
สาว ๆ ที่น้ำหนักไม่เกิน 50 กก. ให้ทานกลูต้าไธโอนตอนท้องว่างวันละ 2 เม็ด คู่กับ Vitamin C หรือ Vitamin E 1 เม็ด
สาว ๆ ที่น้ำหนักตัว 51-75 กก. ให้ทานกลูต้าไธโอนตอนท้องว่างวันละ 3 เม็ด คู่กับ Vitamin C หรือ Vitamin E 2 เม็ด
สาว ๆ ที่น้ำหนักตัว 76-100 กก. ก็ให้ทานกลูต้าไธโอนตอนท้องว่างวันละ 4 เม็ด คู่กับ Vitamin C หรือ Vitamin E 2 เม็ด
ส่วนช่วงที่ทานกลูต้าไธโอนแล้วถูกดูดซึมดีที่สุด ก็คือ ช่วงท้องว่าง เช่น ตอนตื่นนอนใหม่ ๆ อาจจะตอนก่อนนอน หรือก่อน-หลังทานอาหารมากกว่า 30 นาทีขึ้นไปคะ
ไม่ว่าจะเลือกทานกลูต้าไธโอนแบบไหน สิ่งแรกที่สาว ๆ ควรคำนึงคือ ฉลาก อย. ว่าได้รับการรับรองมาแล้วหรือไม่ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง ถ้าจะสวยก็ต้องเลือกสวยแบบมีคุณภาพและสุขภาพดีด้วยนะคะ
Create Date : 31 พฤษภาคม 2555 |
Last Update : 31 พฤษภาคม 2555 10:06:10 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2945 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|