|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
โปรเจคบุญเดือนมีนาคม - คุณของการกราบพระปฎิมา
เป่าจินมีโอกาสไปไหว้พระ 9 วัดมาหลายหน ครั้งล่าสุดก็ไปไหว้พระ 9 วัดที่อยุธยา กลับมาจากการไหว้พระทุกครั้งก็จะมีความเบิกบาน (แม้ว่าจะเหนื่อยและร้อนขนาดไหนก็ตาม) การที่ได้กราบพระพุทธรูปบ่อยครั้งในหนึ่งวันนั้น เป่าจินเห็นว่าเป็นความสุขทางใจอย่างหนึ่ง แม้จะไม่ได้อธิษฐานขออะไรท่านเลยก็ตาม
โปรเจคบุญเดือนมีนาคมนี้ จึงอยากจะนำบทความที่เกี่ยวกับการกราบพระปฎิมา ในหนังสือ "มีชีวิตที่คิดไม่ถึง" โดย "ดังตฤณ" มาโพสให้เพื่อนๆได้อ่าน หนังสือเล่มนี้เปรียบชีวิตเหมือนกับการเล่นเกมส์กรรม จะชนะหรือแพ้ ก็อยู่กับวิธีการเล่นของเรา มีบทหนึ่งในหนังสือกล่าวถึง การกราบพระปฎิมา และ การตั้งสัจจาธิษฐาน ว่าเป็นโบนัสในเกมกรรม.... ลองอ่านดูนะค่ะ และหากได้ลองปฎิบัติตาม ชีวิตของท่าน อาจจะดีขึ้นอย่างคิดไม่ถึงเลยก็ได้...
---------------------
กราบพระปฏิมา
การกราบไหว้คือการน้อมกายน้อมจิตลงสู่อาการเคารพสูงสุด หมายความว่าขณะแห่งการกราบแต่ละครั้ง หากทำด้วยใจจริงแล้ว จิตของคุณจะไม่มีมานะ ไม่มีความถือตัวถือตน การกราบคือการยอมรับว่ามีใครบางคนเหนือกว่าคุณ มีพระคุณเหนือเกล้าเหนือกระหม่อมของคุณ และขณะที่แสดงความเคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหนือชีวิตนั่นเอง นอกจากจิตจะเป็นมหากุศลด้วยความรู้คุณแล้ว ยังเปิดรับกระแสความศักดิ์สิทธิ์เข้ามาเป็นส่วนประกอบของรัศมีจิตอีกด้วย ความรู้สึกภายในที่ยืนยันความจริงดังกล่าว คือกายยิ่งค้อมลงต่ำต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพียงใด ใจยิ่งผ่องแผ้วไร้มลทินมากขึ้นเท่านั้น ความผ่องแผ้วไร้มลทินเป็นลักษณะหนึ่งของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง ยิ่งรู้สึกชัด ก็แปลว่ากระแสความเป็นเช่นนั้นเข้าถึงจิตคุณเต็มที่มากขึ้น
การนำอาหารหรือเครื่องยัญไปบูชาเทพเจ้าตลอดปีหนึ่งนั้น ทั้งหมดก็ไม่เท่าหนึ่งในสี่ของการการอภิวาทท่านผู้ดำเนินไปอย่างถูกต้องตรงทางทั้งหลาย ซึ่งก็ได้แก่พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ผู้บริสุทธิ์หมดจดจากกิเลสทั้งหลาย แต่เมื่อพระพุทธองค์เสด็จดับขันธ์แล้ว ก็จำเป็นต้องนำรูปแทนหรือพระปฏิมามาเป็นสัญลักษณ์แทนกัน
ความเจริญแก่ผู้มีการอภิวาทเป็นปกติ ได้แก่เป็นผู้มีอายุยืน คือไม่ตายเสียแต่ต้นวัย เป็นผู้มีตระกูลสูง คือไม่ไปเกิดกับตระกูลต่ำ เป็นผู้มีความสุข คือใจไม่เร่าร้อนฟุ้งซ่านเพราะความกระด้าง และเป็นผู้มีอำนาจในตัว คือไม่มีใครข่มเหงได้โดยง่าย
ลองคิดดู คุณลงทุนแค่กราบ เอาแค่ก่อนออกจากบ้านกราบสามครั้งก็พอ เพียงเท่านั้นเท่ากับคุณเอามงคลอันมองเห็นง่ายติดตัวออกจากบ้านไปด้วย ยิ่งไปกว่านั้นถ้าบุคคลที่คุณกราบคือครูที่รู้จริงที่สุดในโลก ก็แปลว่าใจคุณยอมรับบุคคลเช่นนี้ไว้เป็นครู จึงเป็นประกันว่าแม้ต้องเล่นเกมกรรมอีกกี่ครั้ง คุณก็จะได้พบครูที่ดีที่สุดเช่นนี้อีกจนได้
ส่วนใหญ่ที่กราบแล้วไม่ค่อยได้แต้ม ไม่ค่อยโกยโบนัสกัน ก็เพราะกราบด้วยใจที่แห้งแล้ง กราบแบบกระโดกกระเดก ไม่นุ่มนวลสละสลวย เพราะกราบตามๆกันโดยไม่ทราบความหมายของการกราบอย่างแท้จริง ใจคุณจำเป็นต้องรู้อยู่ก่อนว่าบุคคลที่คุณกราบนั้น ทำประโยชน์กับโลกไว้เพียงใด ถ้ายิ่งคุณได้ประโยชน์จากคำสอนของท่าน ชีวิตเจริญรุ่งเรืองขึ้น นั่นแหละการกราบจะเป็นการกราบออกมาจากใจที่นอบน้อมเคารพ แล้วกิริยาก็จะประณีต เงยขึ้นสุด ก้มลงกราบสุดอย่างเนิบช้า หน้าผาก ฝ่ามือ และศอกแตะพื้นสนิทไม่ห่างกัน
ขอให้จำคำสำคัญนี้ไว้ดีๆ คือ ใจต้องนอบน้อมเคารพ ตัววัดง่ายๆคือกราบแล้วเกิดความรู้สึกว่าตัวคุณเล็กลง จิตใจอ่อนโยนเยือกเย็น หรือกระทั่งเกิดความซาบซึ้งโสมนัสแบบไม่แกล้ง นั่นแหละผลของการกราบด้วยความนอบน้อมเคารพ ผลของการกราบพระปฏิมาด้วยใจนอบน้อมเคารพอย่างต่อเนื่องเพียงเดือนเดียว จะทำให้คุณมีพลังกุศลสูงขึ้น ขนาดที่ชะล้างความสกปรกทางจิตได้ระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นความฟุ้งซ่าน ความคิดอยากทำเรื่องชั่วร้าย และพลังกุศลอันเกิดจากจิตอ่อนน้อมนั้นเอง จะกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดความคิดดีๆเข้าตัว ซึ่งก็เท่ากับก่อร่างสร้างอนาคตที่ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตาไว้ด้วย
สัจจาธิษฐาน
สัจจาธิษฐานเป็นคำสนธิระหว่าง สัจจะ และ อธิษฐาน หมายถึงการเอาความจริงเป็นที่ตั้งในการอธิษฐานสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เกมกรรมจะให้โอกาสตรงนี้ คือถ้าคุณอ้างถึงความจริงใดๆ ก็สามารถใช้อธิษฐานขออะไรได้ตามขอบเขตที่ไม่เกินตัว ไม่เกินบุญ
หลังกราบพระ ขณะแห่งความอ่อนโยนและรู้สึกสว่างกระจ่างออกมาจากภายในนั้น เป็นสภาวะของจิตที่เป็นกุศล ตัวบุญที่เกิดขึ้นอาจมาในรูปของความรู้สึกอบอุ่นที่ห่อหุ้มกายให้สบายพอดี ยิ่งกราบด้วยอาการนอบน้อมบ่อยเท่าไร ใจคุณจะสัมผัสถึงความอบอุ่นนั้นชัดยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เมื่อกราบครบเดือน ก็ลองเปล่งวาจาต่อหน้าพระปฏิมา อาศัยความจริงอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นตัวตั้ง เช่น ข้าพเจ้ามีความสุขมากขึ้นเรื่อยๆจากการกราบไหว้พระปฏิมาอย่างถูกต้อง ขอความจริงนี้จงทำให้ความฟุ้งซ่านลดลง (หรือให้เป็นคนขี้โมโหน้อยลง หรืออะไรก็ได้ที่เคยเป็นความเสียหายทางจิต)
จากนั้นขอให้คอยสังเกตดูว่าจะเกิดปรากฏการณ์ใดขึ้นกับจิตใจและความรู้สึกนึกคิดของคุณ ตลอดจนเหตุการณ์ภายนอกที่จะเข้ามาส่งเสริมสนับสนุน คุณจะพบกับความมหัศจรรย์อย่างรวดเร็ว และคงเส้นคงวาตราบเท่าที่ยังสามารถกราบพระปฏิมาด้วยความเคารพ และอธิษฐานซ้ำๆอยู่เช่นนั้นทุกเมื่อเชื่อวัน
ขอให้จำไว้ว่าการอธิษฐานที่ได้ผลที่สุดมักเป็นการอธิษฐานขอให้เกิดผลอย่างใดอย่างหนึ่งทางใจ ไม่ใช่ขอให้เกิดผลทางกาย ถ้ากราบพระหวังรวยทางลัด ขอให้ถูกหวย ขอให้รวยชั่วข้ามเดือน คุณอาจไม่พบผลใดๆเลย นั่นเพราะคุณสร้างผลไม่ตรงกับเหตุ ถ้าอยากรวยต้องฉลาดทำงานหาเงิน ไม่ใช่กราบพระขอพร แต่ถ้ากราบพระหวังพัฒนาจิตใจ คุณจะสมหวังทันใจ เพราะสร้างเหตุไว้ตรงกับผล เมื่ออ่อนโยนรับกระแสศักดิ์สิทธิ์เข้าสู่จิตได้ จิตที่ศักดิ์สิทธิ์ย่อมพัฒนาไปแค่ไหนก็ได้เช่นกัน
การฝึกตั้งสัจจาธิษฐานนั้น จะทำให้จิตใจคุณมั่นคง และถ้าผลบังเกิดตามคำอธิษฐาน ก็จะเป็นชนวนให้เกิดปีติยิ่งใหญ่ เชื่อมั่นในคุณของพระพุทธเจ้า คุณคิดดูว่าถ้าจิตสะอาดขึ้น ตั้งมั่นในกุศลมากขึ้น เปิดรับเรื่องดีๆทั้งนอกกายและภายในใจมากขึ้น จะเป็นเหตุบันดาลความสว่างความรุ่งเรืองได้ใหญ่หลวงปานใด
นอกจากนั้น จากความจริงที่คุณประจักษ์ก็จะทำให้ตระหนักว่าการอธิษฐานมีจริงได้หลายแบบ หากอธิษฐานโดยอ้างอิงสิ่งศักดิ์สิทธิ์นอกตัว แนวโน้มคือจะไม่พึ่งพาตัวเอง แต่ทำให้อ่อนแอหวังพึ่งพาคนอื่น ซึ่งก็มีคนอื่นให้พึ่งอยู่จริงๆ มีพลังยิ่งใหญ่อันเกิดจากการบำเพ็ญคุณงามความดีของพวกท่านอยู่จริงๆ เมื่ออธิษฐานแล้วได้ผลบ้างเล็กๆน้อยๆ คุณจะเริ่มเชื่อแบบงมงาย ว่าท่านต้องช่วยได้ทุกเรื่อง พอช่วยไม่ได้ทุกเรื่องก็น้อยใจ เห็นท่านไม่ศักดิ์สิทธิ์จริง แล้วคิดทิ้งไปหาศาสดาอื่นแทน
------------------------
ยังมีโบนัสอื่นๆอีกหลายข้อ หาอ่าน "มีชีวิตที่คิดไม่ถึง" เพิ่มเติมได้ทาง //dungtrin.com/meecheewit/meecheewit.htm
รูปภาพประกอบทั้งหมด เป่าจินถ่ายมาจากบอร์ดนิทรรศการ งานวันมาฆะบูชาที่สนามหลวงค่ะ ภาพสวยมากๆเห็นแล้วเกิดความสงบ และ เลื่อมใสในพุึทธศาสนา ภาพส่วนหนึ่งมาจาก สมาคมถ่ายภาพกรุงเทพ และ คุณ วรพจน์ หลักดี และ มีท่านอื่นๆอีก เป่าจินมัวแต่รีบถ่ายรูปจึงไม่ได้ดูว่าช่างภาพที่ถ่ายมีท่านใดบ้าง ต้องขออภัยจริงๆค่ะ และขออนุโมทนากับช่างภาพทุกๆท่านด้วย
Create Date : 19 มีนาคม 2550 |
Last Update : 19 มีนาคม 2550 13:34:25 น. |
|
16 comments
|
Counter : 3385 Pageviews. |
|
|
|
โดย: fontor วันที่: 19 มีนาคม 2550 เวลา:14:59:30 น. |
|
|
|
โดย: once_day วันที่: 19 มีนาคม 2550 เวลา:16:29:50 น. |
|
|
|
โดย: rebel วันที่: 19 มีนาคม 2550 เวลา:20:14:42 น. |
|
|
|
โดย: เป่าจิน วันที่: 20 มีนาคม 2550 เวลา:8:48:06 น. |
|
|
|
โดย: เป่าจิน วันที่: 20 มีนาคม 2550 เวลา:14:21:19 น. |
|
|
|
โดย: เป่าจิน วันที่: 20 มีนาคม 2550 เวลา:14:22:23 น. |
|
|
|
โดย: เป่าจิน วันที่: 20 มีนาคม 2550 เวลา:14:24:00 น. |
|
|
|
โดย: ตอง (Kazalong ) วันที่: 22 มีนาคม 2550 เวลา:18:39:06 น. |
|
|
|
โดย: ชาบุ วันที่: 24 มีนาคม 2550 เวลา:19:21:57 น. |
|
|
|
โดย: เป่าจิน วันที่: 2 เมษายน 2550 เวลา:8:57:04 น. |
|
|
|
โดย: เป่าจิน วันที่: 2 เมษายน 2550 เวลา:9:01:11 น. |
|
|
|
โดย: เป่าจิน วันที่: 3 เมษายน 2550 เวลา:17:43:47 น. |
|
|
|
|
|
|
|