Group Blog
 
 
มกราคม 2553
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
26 มกราคม 2553
 
All Blogs
 
สาเหตุแห่งการสมองเสื่อม

การชะชอวัยสมอง (Antiaging Brain) ข้อมูลจาก นพ.เมธี วงศ์ศิริสุวรรณ


การเสื่อมของสมอง


สมองเป็นอวัยวะที่มีการเสื่อมเร็วมากที่สุดอันหนึ่งของร่างกาย เมื่อเราเกิดขึ้นมาจนถึงอายุเพียงไม่กี่ปีภายหลังคลอดช่วงนี้สมองจะมีการพัมนาอย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นก้นับเป็นการเริ่มต้นของการเสื่อมอย่างเป็นทางการ แต่เป็นการเสื่อมที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าอย่างเช่นผิวหนัง เป็นการเสื่อมภายในที่หากไม่ประเมินให้ดีแล้วก็ไม่อาจทราบได้ว่ามีการเสื่อมของสมองเกิดขึ้นแล้วลองหลับตานึกถึง สาวใหญ่ หรือนักธุรกิจ ผู้มั่งคั่งที่สามารถลบริ้วรอยแห่งกาลเวลาที่เห็นภายนอกไปได้ ด้วยการฉีดยาเข้าที่ใบหน้า สวมเสื้อผ้าอาภรณ์ที่ปกปิดร่างกาย แต่เมื่อมีการปฏิสันฐานด้วยวาจา ผู้คนรอบข้างจะพบความจริงที่ถูกซ่อนเร้น คือ การทำงานของสมอง ที่ไม่ดีเหมือนเมื่ออายุน้อย เป้นต้นว่า เริ่มมีการพุดลักษณะที่ฝรั่งเรียกว่า "tip-of-tongue"ทำนองว่ารู้แต่ทำไมมันติดอยู่ที่ปาก ความสามารถในการจำสิ่งใหม่ๆ ลดลง ประสิทธิภาพในการตัดสินใจลดลง ความสามารถในการคำนวณลดลง หรือแม้บางครั้งก็จำไม่ได้ว่าเมื่อสักครู่ก่อนเดินเข้าห้าง เราจอดรถไว้ที่ใดกันแน่

สมองเสื่อมได้อย่างไร

สมองเป็นอวัยวะที่ประกอบด้วยเซลล์และเส้นประสาทที่สร้างขึ้นจากส่วนประกอบของไขมันและโปรตีนเป็นหลัก เชลล์ประสาทเหล่านี้จะไม่สามารถสร้างขึ้นใหม่ มีแต่จะถูกทำลาย ลงไปเรื่อยๆ และเมื่อร่างกายมีโรคประจำตัวตาทอายุที่มากขึ้นจะทำให้เลือดที่ไปเลี้ยงสมองลดลง ซึ่งสาเหตุหลักจากการแข็งตัวของเส้นเลือดในสมอง อันเนื่องมาจากโรค หัวใจ เบาหวาน หรือความดันโลหิตสูง ดังนั้น การควบคุมปัจจัยเสื่องเหล่านี้ จึงเป็นสิ่งสำคัญในการชะลอการเสื่อมของสมอง เป็นต้นว่า การควบคุมระดับไขมันในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ตั้งแต่เนิ่นๆ การควบคุมในระดับน้ำตาลในเลือด การควบคุมระดับ ความดันโลหิต รวมไปถึงการออกกำลังกายตามสมควร เพื่อกระตุ้นให้มีปริมาณเลือดไปเลี้ยงสมองเพิ่มมากขึ้นเป็น ช่วงๆ

ยาที่ใช้เพื่อชะลอการเสื่อมของสมอง

1.ยาในกลุ่มฮอร์โมน เช่น DHEA ซึ่งเป็นยาในกลุ่ม แอนติออกซิแดนท์(antioxidant)และยังมีผลในการควบคุมระดับไขมันป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด แพทย์มักใช้ยากลุ่มนี้ในผู้ป่วยบางจำพวดด้วย เช่น ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ยาจำพวก เมลาโทนิน โดยเมลาโทนินนี้จัดเป็นพวกฮอร์โมนที่หลั่งออกจากต่อมเล็กๆ ในสมองชื่อ ต่อมไพเนียล (pineal gland) และมีผลควบคุมวงจรหลังตื่านของคนเรา นักวิทยาศาสตร์พบว่า ฮอร์โมนนี้จะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น จึงมีการทดลองนำมาใช้ในคนอายุมาก เพื่อทำให้ฮอร์โมนนี้สูงขึ้นเหมือตอนอายุยังน้อยอยู่ ผลทางอ้อมของฮอร์โมนเมลาโทนินนี้ ยังทำให้ระดับฮอร์โมน ที่เรียกว่า โกรทฮอร์โมน (growth hormone ) สูงขึ้น ฮอร์โมนที่สูงขึ้นนี้มีผลให้ร่างกายมีความสามารถในการสร้างกล้ามเนื้อดีขึ้น ลดไขมันในเลือด และไปกระตุ้นวงจรของออร์โทนเพศคือเอสโตรเจน (esteogen) และเทสโทสเตอโรน (testosterone) ทั้งหมดดังกล่าวนี้มีผลเป็นลูกโซ่ เพื่อช่วยกระตุ้นความแข็งแรงของร่างกายและชะลอความเสื่อมของสมองออกไป ซึ่งในทางปฎิบัติ
มักพบว่าแพทย์จะไม่ได้ให้ฮอร์โมนเมลาโทนินเพียงตัวเดียว แต่จะทั้งโกรทฮอร์โมน และเอสโตรเจน และเทสโทสเตอโรนไปพร้อมๆ กัน
(ฮอร์โมนที่ได้จากการฉีดหรือกินนี้ ถือเป้นยาโด๊ปต้องห้ามในการแข่งขันกีฬา) ซึ่งผู้ใช้จะต้องระมัดระวังเพราะอาจมีผลทำให้ความสมดุลของร่างกายเสียไปและอาจทำให้เกิดมะเร็งของร่างกายบางอย่างตามมาได้
2. ยาในกลุ่มกรดอามิโน (amino acid) เช่น L- tryptophan ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของสารสื่อประสาทในสมอง มักใช้ในผู้ป่วยโรคซึมเศร้า เพื่อเพิ่มระดับเซโรโทนิน (serotonin) ในเลือด ยาในกลุ่มนี้ มักรู้จักกันในชื่อสามัญว่า "fluoxetine" และเป็นยาที่มีราคาแพงมาก
3. ยากลุ่มอื่น เช่น deprenyl piracetam vinpocetine and
hydergine เป็นต้น ซึ่งเป็นยาที่ต้องให้แพทย์พิจารณา

10 กิจวัตรประจำวันที่ควร และไม่ควร
ทำเพื่อชะลอวัยสมอง


1. การออกงานสังคมหรือพบปะพุดคุยกับผู้คน ถือเป็นการออกกำลัง
กาย สมองที่ดีมากอย่างหนึ่ง
2. การแก้ปัญหา เช่น การต่อจิ๊กซอร์ การขบคิดปริศนา จะช่วยเพิ่ม
ประสิทธิภาพความทรงจำของสมอง
3. การออกกำลังกาย เช่น แอโรบิก วิ่งเหยาะๆ การว่ายนำ จะช่วยเพิ่ม
ปริมาณเลือดไปเลี้ยงสมองอย่างเป็นธรรมชาติ และยังผลทางอ้อม ให้มี
การเชื่อมต่อของเซลล์ประสาทมากขึน ทำให้ระบบความคิด ความ
ทรง กลับมาทำงานได้ดีโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งยาไดๆ
4 .ให้อาหารสมองอย่างถูกต้องและพอเพียง โดยการกินอาหารที่มีสาร
แอนติออกซิแดนท์ ซึ่งพบได้ในผลไม้และผักหลากสีนั้น
5. เร่งความเร็วโดยการฝึกสมอง เช่น brain Fitness Program ฝึก
ภาษาและการได้ยิน หรือเล่นเกมฝึกสมอง
6. สงบเพื่อผ่อนคลาย เราควรหาเวลาหยุดพัก หายใจอย่างสงบ และผ่อน
คลาย ในช่วงที่เครียด จากการทำงาน เช่น การทำสมาธิ
7. พักผ่อนให้พอดี หมายถึงพักผ่อนให้พอเพียง
8. มองโลกในแง่ดี
9. การดูทีวี ควรหลีกเลี่ยงการดูทีวีนาน ๆ จะทำให้เครียดและสมองทึบขึ้น
ไปอีกครับ









Create Date : 26 มกราคม 2553
Last Update : 28 มกราคม 2553 17:03:37 น. 0 comments
Counter : 682 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

banpeenuy
Location :
สุราษฏร์ธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]





Color Codes ป้ามด






Google


จัดการสีตัวอักษร
Color Codes ป้ามด








Friends' blogs
[Add banpeenuy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.