“มะเร็ง” ตับ ชายมากกว่าหญิง
มะเร็งตับ เป็นโรคที่พบมากในประเทศแถบเอเชีย รวมทั้งประเทศไทย ที่มีการตรวจพบเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งปอด ผู้ป่วยส่วนมากที่ตรวจพบจะมีอายุเฉลี่ย 40-60 ปี พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ด้วยอัตราเฉลี่ย 4.6 : 1 คน
อาการของมะเร็งตับ
มะเร็งตับในระยะเริ่มต้น จะไม่แสดงอาการใดๆ แต่อาการต่างๆ ที่แสดงออกมาเป็นอาการบ่งชี้ว่า น่าจะมีปัญหาที่ตับ อาการที่พบบ่อยมีดังนี้
- ไม่แสดงอาการผิดปกติทางร่างกาย แต่จะตรวจพบความผิดปกติจากการตรวจเลือด หรือเอกซเรย์อัลตราซาวนด์ช่องท้อง
- มีอาการปวดแน่นท้องบริเวณชายโครงด้านขวา ท้องอืด ท้องโต
- มีอาการอ่อนเพลีย และมีไข้
- เบื่ออาหาร หรือน้ำหนักลด
- มีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะเป็นสีเหลืองเข้ม และขาบวม
- มีอาการเลือดออกง่าย อาเจียนเป็นเลือด
- มีอาการซึม และสับสน
ปัจจัยเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งตับ
- ผู้ป่วยที่เป็นโรคไวรัสตับอักเสบบี
- ผู้ป่วยที่เป็นโรคไวรัสตับอักเสบซี
- ผู้ป่วยที่มีภาวะตับแข็ง ที่มีสาเหตุจากการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นระยะเวลานานๆ จากภาวะไขมันสะสมในตับ และจากภาวะธาตุเหล็กในตับสะสมผิดปกติ
- ผู้ป่วยที่ได้รับสารอะฟลาทอกซิน
- ผู้ป่วยที่มีประวัติสมาชิกในครอบครัวเป็นมะเร็งตับ หรือมีโรคไวรัสตับอักเสบบี
ผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งตับในระยะสุดท้าย จะมีชีวิตอยู่ได้อีกประมาณ 6-20 เดือน หลังจากการตรวจพบ ทั้งนี้ขึ้นกับระยะของมะเร็ง สภาพร่างกายของผู้ป่วย และวิธีการรักษาที่ได้รับ
วิธีการตรวจหามะเร็งตับ
ตรวจหาสารอัลฟ่าฟีโตโปรตีน (Alfa-fetoprotein: AFP) : เป็นสารที่เป็นตัวบ่งชี้ เพื่อการวินิจฉัยอาการของผู้ป่วยที่สงสัยว่าเป็นโรคมะเร็งตับในระยะสุดท้าย ช่วยในการวินิจฉัยโรคได้ ผู้ป่วยโรคมะเร็งตับประมาณ 60% จะตรวจพบสารนี้ในระดับที่สูงมาก ผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยงสูงควรตรวจเลือด ตรวจการทำงานของตับ ตรวจค่าบ่งชี้การเป็นมะเร็งตับ ทุก 3-6 เดือน และตรวจอัลตราซาวนด์ทุก 6 เดือน
การป้องกันโรคมะเร็งตับ
เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงและป้องกันการเป็นมะเร็งตับ ควรปฏิบัติดังต่อไปนี้
- ควรรับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี
- ไม่รับเลือด นอกจากกรณีจำเป็น
- ลด งด หรือหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกประเภท
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีสารอะฟลาทอกซิน เช่น ถั่วลิสงที่ชื้นหรือเก่า
- งดการใช้ยาเสพติด
- ไม่ใช้ของมีคมร่วมกับผู้อื่น
- ผู้ที่เป็นโรคไวรัสตับอักเสบเรื้อรัง เช่น ไวรัสบี และซี ควรดูแลและรักษาสุขภาพอย่างเคร่งครัด และติดตามผลตรวจสุขภาพ โดยเฉพาะค่าการทำงานของตับอย่างสม่ำเสมอ
หนังสือพิมพ์คมชัดลึก ฉบับวันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม 2553
Create Date : 10 พฤษภาคม 2553 |
|
0 comments |
Last Update : 10 พฤษภาคม 2553 9:47:54 น. |
Counter : 1250 Pageviews. |
|
|
|