สัมผัสอนุบาลเยอรมัน ตอนที่ 1
สมัครอนุบาลหรือยัง ? เป็นคำถามแรก ๆ ที่ได้ยินจากเพื่อนแม่ ๆ ที่มีลูกวัยใกล้เคียงกัน บ้านเราได้ยินมานานแล้วว่า ที่โคโลญจ์นี้หาอนุบาลยากมาก เพื่อนที่มีลูกไปก่อนหน้าเรา บอกตั้งแต่เราท้องเลย ว่าเกิดปุ๊บ ให้ไปสมัครปั๊บเลย ตอนนั้นก็ยังงุนงง กับระบบอนุบาลที่เมืองนี้พอสมควร นึกว่าแต่ละที่จะแยกเป็นอิสระต่อกัน แบบเมืองไทย ที่ต่างคนต่างไปสมัครโรงเรียนไหนก็ได้ แต่ที่โคโลญจ์นี้ไม่เลย เอาแค่เมืองที่ปุ่นอยู่ก่อนนะ เมืองอื่นไม่รู้จริง ๆ เพราะมีความแตกต่างกันเป็นรายเมืองเลยทีเดียว ที่โคโลญจ์ มีอนุบาลอยู่สามสี่แบบใหญ่ ๆ
ของรัฐ หรือที่เรียกกันว่า stadt ที่จริงแปลว่าเมืองล่ะ แต่เขียนให้พอนึกภาพออก เพราะนโยบายเกี่ยวกับการศึกษาที่เยอรมันมีความแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค รายละเอียดปลีกย่อยแต่ละเมืองก็ต่างกันอีก ของรัฐนี้ เราต้องไปลงทะเบียนสมัครตั้งแต่ตอนลูกเกิด เขาก็เอารายชื่อลูกเราไปเข้าลิสท์และลำดับให้ว่าลูกเราคลอดปีนี้ อีกสองปีข้างหน้าจะมีสิทธิ์ไปอยู่ในอนุบาลเขตไหน ได้ลำดับที่เท่าไหร่ ถ้าสมัครแต่เนิ่น ๆ ก็มีสิทธิ์มาก บ้านปุ่นไปสมัครตอนลูกหกเดือนแล้ว ค่าเทอมของอนุบาลนี้ก็จะน้อยกว่าแบบอื่น ๆ หน่อย แต่ค่าเทอมที่จะจ่ายเป็นรายเดือน มากน้อยตามรายได้ของแต่ละครอบครัว
ของโบสถ์ ศาสนาที่สำคัญของที่นี่คือศาสนาคริสต์ ซึ่งมันก็เกี่ยวข้องกับความเชื่อของพ่อแม่ สามีบอกว่าอาจจะเกี่ยวกับการจ่ายภาษีศาสนา ถ้าเราบอกว่าเรานับถือศาสนาคริสต์ แบบคาทอลิก เงินภาษีโบสถ์ของเราก็จะไปบำรุงกิจศาสนะของคาทอลิก ที่บ้าน พ่อบ้านเป็นโปรเตสแตนท์ ซึ่งแถวบ้านมีอยู่สองอนุบาลที่เป็นของโปรเตสแตนท์นี้ ส่วนคาธอลิก แทบไม่มีสิทธิ์ ขนาดตอนโทรไปถามรายละเอียดการสมัคร คนรับโทรศัพท์ ถามแบบหยิ่ง ๆ ว่าลูกเราถือศึลจุ่มคาธอลิกไหม พ่อแม่เป็นคาธอลิกไหม บ้านอยู่ใกล้โบสถ์ไหม ถ้าไม่ ก็ไม่ต้องเสียเวลามาสมัคร
แบบที่สามคือแบบ Eltern Innitiative เป็นอนุบาลที่ผู้ก่อตั้งเป็นพ่อแม่ของเด็กที่อยู่ในละแวกนั้น อนุบาลแบบนี้จะมีลักษณะพิเศษตรงที่ พ่อแม่จะมีส่วนร่วมในการทำงานในอนุบาล แบบตรง ๆ ก็มาทำความสะอาด ทำสวน ทาสี ทำอาหาร ทำบัญชี แบบอ้อม ๆ ก็เข้าประชุมคัดเลือกครู หรือมีส่วนร่วมออกความคิดเห็นต่าง ๆ อนุบาลแบบนี้จะได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐเหมือนกัน แต่เท่าที่ดูแล้วจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เป็นพวกค่าสมาชิก ค่าบำรุงต่าง ๆ อาหารก็จะพิเศษหน่อย ที่เป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกส์ล้วน ไม่มีเนื้อสัตว์ อะไรทำนองนี้
แบบที่สี่ อันนี้เป็นของรัฐเหมือนกัน แต่เป็นสำหรับเด็กพิเศษ เด็กพิการและเด็กธรรมดามาใช้ชีวิตร่วมกัน อนุบาลแบบนี้จะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เนื่องจากต้องใช้ผู้ดูแลเด็กมากกว่าแบบอื่น ๆ
แบบที่ห้า คือแบบเอกชนเลย คือแทบจะไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐ พ่อแม่ต้องจ่ายเงินให้อนุบาลโดยตรงแบบเต็ม ๆ รายชั่วโมง ตอนแรกก็เกือบจะเอาอนุบาลแบบนี้แล้ว เพราะว่าต้องทำงานด้วย ลุ้นมากเวลานัดเบบี้ซิทเตอร์แล้วไม่มา
ค่าใช้จ่ายอนุบาลที่โคโลญจ์นี้ จ่ายตามอัตราเงินเดือนพ่อแม่ จากอัตราเริ่มต้น พ่อแม่ที่รายได้จากการทำงานต่อปีถึง 12,271 ยูโร (ที่ยังไม่หักภาษีและเงินเกษียณ) ก็ไม่ต้องจ่าย แล้วก็ขึ้นอยู่กับว่าลูกไปอนุบาลกี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เงินเดือนเดือนละร้อยยูโร ถือว่าน้อยมาก แทบจะไม่พอจ่ายอะไร เอาเฉพาะค่าเช่าอพาร์ตเมนท์ก็เริ่มที่ 300 ยูโรเข้าไปแล้ว เอาตารางมาแปะให้ดู อันนี้เฉพาะเมืองที่ปุ่นอยู่นะ เมืองอื่น รัฐอื่นอาจจะไม่จ่ายเลย อย่างรัฐอื่นที่เพื่อนปุ่นไปอยู่ก็ไม่ต้องจ่ายค่าอนุบาลเลย หรือจ่ายน้อยมาก จ่ายเท่ากันหมด ไม่คำนึงถึงรายรับ Kinder über drei Jahre bis zur Schulpflicht
Jahreseinkommen
| Beitrag bei 25 Stunden pro Woche
| Beitrag bei 35 Stunden pro Woche
| Beitrag bei 45 Stunden pro Woche
| bis 12.271
| 0,00
| 0,00
| 0,00
| bis 24.542
| 23,47
| 26,08
| 28,70
| bis 36.813
| 42,03
| 46,70
| 56,00
| bis 49.084
| 70,73
| 78,59
| 123,67
| bis 61.355
| 112,85
| 125,39
| 193,94
| bis 78.000
| 148,46
| 164,96
| 256,36
| bis 100.000 | 178,15 | 197,95 | 307,63 | über 100.000 | 213,78 | 237,54 | 369,16 | เขตที่เราอยู่รวมถึงรัศมีสามกิโลเมตรรอบ ๆ นั้นไม่มีอนุบาลของรัฐ มีแต่สามแบบแรก เราจึงสมัครให้เยอะที่สุด ตอนนั้นก็แอบกดดันเล็กน้อย ปีที่ที่ลูกอายุขวบครึ่งจะได้รับจดหมายจากรัฐว่า ยังไม่ได้นะปีนี้ เราก็รอด้วยและหาที่อื่นไปด้วย พอใกล้ ๆ สองขวบเริ่มได้รับโทรศัพท์ให้ไปดูตรงโน้นตรงนี้ ก็แอบมีความหวัง มีอนุบาลนึงชื่อ อนุบาลหมีล้ม ชื่อเค้าแบบนี้จริง ๆ เป็นแบบ Eltern Initiative ก็ไปดูกับพ่อแม่คนอื่นอีกคนหนึ่ง เขาจะรับเด็กชายสองเด็กหญิงสอง เลยนัดสลับกันมาไม่ให้เจอคู่แข่ง อิอิ ไปคุยเหมือนมีความหวัง แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้ ฮ่า ฮ่า แอบชอบอนุบาลนี้ที่แม่ต้องไปทำกับข้าวให้เด็ก ๆ อาทิตย์ละวัน แล้วอนุบาลเป็นบ้านทั้งหลัง เด็ก ๆ จะมีความรู้สึกเหมือนมาอยู่บ้านหลังใหญ่อีกหลังหนึ่ง
พูดถึงอนุบาลที่นี่จะไม่ใหญ่มาก จะไม่ได้เป็นอาคารอนุบ๊าล อนุบาลแบบเมืองไทย แต่ดูภายนอกจะเป็นเหมือนบ้านคนทั่วไป คืออาจจะเป็นห้องใหญ่ ๆ ห้องหนึ่งในตัวอาคาร แล้วอาคารนี้ก็จะมีคนเช่าพักอาศัยอยู่ด้วย เป็นออฟฟิซ หรืออย่างอื่นแล้วแต่ หรือเป็นบ้านหลังหนึ่งที่มีสวน จะมีป้ายติดที่ประตูว่าเป็นอนุบาล หรืออาจมีวาดผนังบ้านเป็นรูปวาดเด็ก ๆ ประมาณนี้
อกหักจากอนุบาลแรกไปแล้ว เราก็ยังไม่ละทิ้งความหวัง สมัครต่อไป เพราะอยากให้ลูกเข้าอนุบาลตอนอายุสองขวบ เพราะว่ากฏหมายใหม่อนุบาลจะรับเด็กสองขวบมากขึ้น ถึงขั้นการันตีที่นั่งให้เด็กสองขวบ ซึ่งขณะที่กฎหมายออกมานั้น ลูกเราอยู่ในช่วงก้ำกึ่ง คือสองขวบกว่า เลยขั้นไปแล้ว ต้องไปแข่งที่นั่งกับเด็กสามขวบ ซึ่งลำพังโควต้าเด็กสามขวบก็ล้นทะลักออกมาจะแย่แล้ว ทางอนุบาลก็คงจะรับเด็กสามขวบเลยมากกว่า
อนุบาลที่สองที่อาจจะมีหวัง อยู่ในเขตใจกลางเมือง เป็นทางไปทำงานของสามี แต่อนุบาลนี้ก็ล้นทะลักไปด้วยใบสมัคร คืออาจจะได้ที่ว่างตอนบ่าย บ่ายโมงถึงหกโมง (เพื่ออะไร) แต่อ่ะ อยากได้ที่ เอาไว้ก่อน แต่อนุบาลก็ไม่แน่นอนอีก เพราะว่าจะย้ายที่ เนื่องจากสถานที่เดิมผู้เช่าร่วมไม่อนุญาตให้เด็ก ๆ ออกไปใช้สนามเด็กเล่น
แล้ววันหนึ่งพ่อแก้มกลมก็โทรไปหาอนุบาลของโบสถ์ที่แก้มกลมไปแบ็บติสท์ ปรากฎว่า ได้ที่แล้ว เฮ้ย มันได้กันง่าย ๆ อย่างนี้เลยเหรอ จากที่รอแบบไม่มีความหวังมานานมาก ก็คุยกันถึงวันเริ่ม เพราะเราจะไปพักร้อนเดือนกว่า กลับมาก็หมดหน้าร้อนไปแล้ว
ตอนนี้ข้อมูลเยอะนิดหนึ่ง ตอนหน้าจะพูดถึงคอนเซ็ปป์อนุบาล นโยบายการศึกษา จำนวนผู้ดูแลเด็ก อาหาร บรรยากาศ ความเป็นอยู่ในอนุบาลว่ามันแตกต่างอย่างไรกับที่แม่แก้มกลมเคยสัมผัสที่อนุบาลต่างจังหวัดที่เมืองไทยเมื่อสามสิบกว่าปีก่อน
สวัสดีค่ะ
Create Date : 11 มิถุนายน 2557 |
|
1 comments |
Last Update : 11 มิถุนายน 2557 14:35:42 น. |
Counter : 2552 Pageviews. |
|
|
|