ทำไมหลอดไฟที่ใช้คู่กับดิมเมอร์ถึงได้เสียบ่อย
หลายๆ คนคงเคยมีปัญหากวนใจกับหลอดไฟที่บ้านกันมาบ้าง เดี๋ยวหลอดขาด เดี๋ยวขั้วหลวม เรื่องหนึ่งที่ได้ยินบ่อยๆ ก็คือ หลอดไฟที่ใช้คู่กับดีมเมอร์หรีไฟมักจะเจอปัญหา หลอดกะพริบ หลอดขาด หลอดเสียบ่อยๆ เปลี่ยนใหม่ก็ยังเป็นเหมือนเดิม วันนี้ก็เลยลองไปหาข้อมูลดูว่าอะไรที่ทำให้หลอดไฟที่ใช้กับดิมเมอร์กะพริบบ่อยๆ หรือสาเหตที่ทำให้หลอดไฟที่ใช้คู่กับตัวดีมเมอร์หรี่ไฟขาดบ่อยๆ เกิดจากอะไร มาฝากกัน อ่านฉบับเต็มได้ทีนี่ //community.akanek.com/th/node/3368
หลอดมีปัญหาเพราะใช้หลอดผิดประเภทหรือเปล่า ปัญหาหลักๆ ที่พบกับหลอดไฟที่ใช้กับดิมเมอร์มักจะเป็นเพราะใช้หลอดไฟผิดประเภท หลอดไฟที่ใช้กับดิมเมอร์ควรจะเป็นหลอดไส้หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า incandescent เท่านั้น (หลอดใส้คือหลอดกลมๆ ที่แต่ก่อนใช้กันทั่วไปก่อนที่หลอดประหยัดไฟจะเป็นที่นิยม) ทีนี้เนื่องจากเดี๋ยวนี้มีการรณรงค์ให้ใช้หลอดประหยัดพลังงานกันมาก คนก็หันมาซื้อหลอดประหยัดพลังงานใช้แทนหลอดไส้ คนที่ใช้หลอดไฟคู่กับดิมเมอร์ก็เลยเอาหลอดประหยัดพลังงานมาใช้กับดิมเมอร์บ้าง พอเริ่มหรี่ไฟก็จะเจอปัญหา หลอดกระพริบ หลอดขาด หลอดเสียกัน หลอดประหยัดไฟหลอดหนึงก็หลายตังค์อยู่ แทนที่จะได้ประหยัดค่าไฟ ก็จะต้องมาเสียเงินซื้อหลอดบ่อยเกินความจำเป็น ถ้ายืนยันที่จะใช้หลอดประหยัดไฟต่อไป ดิมเมอร์ก็ใช้การไม่ได้ เป็นได้แค่สวิตช์เปิด-ปิดไฟธรรมดา แบบนี้มีดิมเมอร์ก็เหมือนไม่มี (เพราะอะไร ข้างล่างจะอธิบายการทำงานของดิมเมอร์ให้ฟังกันค่ะ) วิธีแก้ปัญหานี้ก็ง่ายๆ เปลี่ยนจากหลอดตะเกียบเป็นหลอดไส้ ปัญหาเรื่องหลอดก็ควรจะหายไป ส่วนดิมเมอร์ก็จะกลับมาทำหน้าที่ของมันได้เหมือนเดิม เลือกดิมเมอร์ที่มีจำนวนวัตต์น้อยกว่าที่ใช้ ในตัวดิมเมอร์จะมีจำนวนวัตต์ระบุไว้ว่าสามารถรองรับกระแสไฟได้เท่าไหร่เช่น 230w, 270w,300w, 320w, 600w เจ้าของบ้านอาจจะลองเช็คที่ตัวคู่มือของดิมเมอร์หรือกับทางผู้รับเหมาหรือสถาปนิกว่าตัวดิมเมอร์สามารถรองรับกระแสไฟได้กี่วัตต์ ถ้าจำนวนวัตต์มากเกินไป หลอดไฟรับไม่ไหวก็จะหลอดขาด เสียใช้งานไม่ได้ แต่จะไม่มีผลกับตัวดิมเมอร์ เพียงแต่ดิมเมอร์ของเราก็อาจจะกลายเป็นสวิตช์เปิดปิดไฟธรรมดาไป (ดูวิธีคำนวนจำนวนวัตต์ได้ที่ด้านล่างของบทความ) วิธีแก้ไข ก็คือ ลดจำนวนวัตต์ของหลอดไฟให้ได้จำนวนวัตต์น้อยกว่าจำนวนวัตต์ของดิมเมอร์ กระแสไฟในบ้านสม่ำเสมอหรือไม่ ถ้าหากว่าเราใช้หลอดถูกประเภทแล้ว แต่หลอดไฟที่ใช้กับดิมเมอร์ก็ยังมีปัญหาบ่อยอยู่ดี อันนี้ก็คงต้องมาดูเรื่องกระแสไฟภายในบ้านกันแล้วว่ากระแสไฟที่บ้านตกบ่อยหรือเปล่า สม่ำเสมอหรือไม่ หรือไฟกระชากบ่อยๆ ดิมเมอร์ซึ่งเป็นตัวควบคุมแรงดันไฟเมื่อได้ไฟที่ไม่สม่ำเสมอเข้ามา ก็อาจจะทำให้หลอดนั้นช๊อตได้ง่ายๆ ปัญหานี้ก็คงจะแก้ลำบาก เพราะอย่าว่าแต่ต่างจังหวัดเลย แม้แต่หลายท้องที่ในกรุงเทพก็มีปัญหานี้เยอะเพราะเมืองเติบโตเร็วเกินกว่าระบบสาธารณูปโภค หรือมีการเปิด-ปิดดิมเมอร์เล่นบ่อยๆ หรือเปล่า อย่าลืมว่า ไส้หลอดของหลอดไส้พวกนี้จะค่อนข้างอ่อนไหว แค่เราเปิด-ปิดบ่อยๆ หรือเปิด-ปิดเร็วๆ ดีไม่ดี หลอดก็ขาดแล้ว วิธีแก้ปัญหามีมั๊ย มี คือต้องติดตั้ง voltage regulator ที่จะคอยดูแลเรื่องกระแสไฟที่จะเข้ามาในตัวบ้าน แต่ก็เป็นวิธีแก้ปัญหาที่มีลงทุนสูง ราคาแพง
แล้วดิมเมอร์ทำงานยังไง ถ้าจะเอาแบบวิชาการหน่อย ดิมเมอร์ก็คืออุปกรณ์ควบคุมปริมาณแสงสว่างของหลอดไส้ (incandescent) แต่ถ้าเอาแบบภาษาบ้านๆ เข้าใจง่ายๆ ดีมเมอร์ก็คือสวิชท์ไฟชนิดที่สามารถปรับหรี่แสงได้ อยากได้แสงสลัวมาก สลัวน้อยแค่ไหนก็ปรับหมุนเอาจากตัวดีมเมอร์ แล้วก็ต้องใช้คู่กับหลอดไส้เท่านั้น หลอดชนิดอื่นใช้ด้วยไม่ได้ เว้นแต่หลอดที่ผลิตขึ้นมาให้สามารถหรี่ไฟได้ เรื่องหน้าตา ดิมเมอร์แต่ละยี่ห้อก็จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับดีไซน์ของบริษัทผู้ผลิต การทำงานของดีมเมอร์ คือเข้าไปควบคุมกำลังไฟที่ปล่อยมาจากแหล่งจ่ายไฟให้ลดต่ำลง ทำให้กระแสไฟที่ผ่านดิมเมอร์มีแรงดันตกจากปรกติ พอกระแสไฟมีแรงดันน้อยลง ก็ทำให้หลอดสว่างน้อยลง แต่ไม่ได้ช่วยประหยัดไฟเลย เพราะปริมาณไฟที่วิ่งเข้ามาก็ยังเท่าเดิม ดิมเมอร์เพียงแต่มาลดความดันของกระแสไฟเท่านั้น ทำไมถึงใช้กับหลอดประเภทอื่นไมได้? อย่างที่อธิบายไว้แล้วว่า การทำงานของดิมเมอร์คือการลดแรงดันไฟฟ้าลง ซึ่งถ้าคุณใช้หลอดประหยัดไฟพวกหลอดตะเกียบกับดิมเมอร์ สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ หลอดอาจจะกะพริบหรือหลอดขาดไปเลย เนื่องจากหลอดประหยัดไฟพวกนี้เป็นหลอดที่ต้องอาศัยแรงดันสูงๆ เพื่อให้กระแสไฟวิ่งจากขั้วหนึ่งไปหาอีกขั้วหนึ่งของหลอด หลอดถึงจะเปล่งแสงได้ (ทบทวนความรู้เรื่องหลอดไฟชนิดต่างๆ ได้ที่นี่ รู้จักหลอดไฟในบ้านก่อนซื้อ) แต่ถ้าแรงดันไม่พอหรือแรงดันต่ำเกินไป กระแสไฟก็จะไม่มีแรงวิ่งไปยังอีกขั้วหนึ่งเพื่อกระตุ้นให้สารเคลือบภายในหลอดเปล่งแสงออกมาได้ หรือถ้ายังมีแรงดันอ่อนๆ ก็อาจจะเปิดใช้แล้วหลอดกะพริบๆ หลอดขาดต้องเปลี่ยนหลอดใหม่อยู่เรื่อยๆ (เท่าที่ทราบ ตอนนี้หลอดบางยี่ห้อก็หันมาผลิตหลอดประหยัดไฟที่ใช้กับดิมเมอร์ได้แล้ว แต่ราคาค่อนข้างสูง ตกหลอดละ 700-800บ.) ต่างกับหลอดไส้ ที่ไม่ว่ากระแสไฟที่วิ่งเข้ามาจะมีแรงดันไฟต่ำหรือแรงดันสูงก็ไม่มีผลกับการเปล่งแสงของหลอดไฟอยู่ดี เพราะหลอดไส้เปล่งแสงได้ด้วยการเผาไส้หลอดจนร้อน ถ้าแรงดันไฟน้อย กระแสไฟเข้ามาได้น้อย ก็เผาไส้หลอดได้น้อย ไฟก็จะสว่างน้อยลง แสงไฟที่ได้ก็จะเป็นแสงสลัวๆ แต่ไม่ทำให้หลอดกะพริบหรือถึงกับดับสนิทเหมือนหลอดประหยัดไฟทั่วไป เลือกดิมเมอร์ยังไงให้พอกับจำนวนวัตต์ ดิมเมอร์ที่ขายตามร้านอุปกรณ์ไฟฟ้า จะมีอยู่หลายยี่ห้อ หลายจำนวนวัตต์ ทั้งดิมเมอร์ขนาดเล็กสำหรับจำนวนวัตต์น้อยๆ จนถึงดิมเมอร์ที่ให้จำนวนวัตต์สูงๆ ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งาน เช่น 230w, 270w,300w, 320w, 600w แล้วแต่ว่าผู้ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้ารายนั้นๆ จะเลือกผลิตขนาดกี่วัตต์ออกมา ส่วนวิธีเลือกดิมเมอร์ให้เหมาะกับจำนวนหลอดไฟที่ใช้ คำนวนหาจำนวนวัตต์ที่ต้องใช้ขึ้นมาก่อน โดยเอา จำนวนวัตต์ของหลอด x จำนวนหลอดทั้งหมด = จำนวนวัตต์รวม จากนั้นก็ไปหาดูว่ามีดิมเมอร์ตัวไหนที่ให้จำนวนวัตต์ เท่ากับหรือมากกว่าจำนวนวัตต์ที่คำนวนออกมาได้ เพื่อความปลอดภัย ก็ควรจะเลือกดิมเมอร์ที่มีจำนวนวัตต์สูงกว่าจำนวนวัตต์ที่ต้องใช้จริงเล็กน้อย (เผื่อไว้ให้อุ่นใจ) ถ้าอยากสร้างบรรยากาศ ก็ต้องเลือก สรุปแล้ว บ้านไหนที่มีดิมเมอร์และต้องการสร้างบรรยากาศในบ้าน ก็คงต้องใช้หลอดไส้ที่ไม่ใช่หลอดประหยัดพลังงาน หรือจะใช้หลอดประหยัดไฟก็ได้แต่จะต้องเป็นรุ่นที่ผลิตมาเพื่อใช้งานคู่กับดิมเมอร์เท่านั้น (ซึ่งราคาหลอดละ 700-800บ.) ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นว่า เราลงทุนซื้อแล้วก็ติดตั้งดิมเมอร์ไว้ในบ้านแต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากมัน จะเป็นการเสียงบประมาณโดยใช่เหตุค่ะ ^^ ขอบคุณที่มา //community.akanek.com/th/node/3368
Create Date : 20 พฤษภาคม 2556 |
Last Update : 20 พฤษภาคม 2556 10:35:25 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2242 Pageviews. |
|
|