บ้านที่มีความรักและความอบอุ่นคือจินตนาการของคนไทยยามนี้ !
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
 
17 กุมภาพันธ์ 2549
 
All Blogs
 

ภูมิปัญญาตะวันออกกับศาสตร์การเสริมสร้างพลัง(จบ)--ยุค ศรีอาริยะ







ภูมิปัญญาตะวันออก กับ ศาสตร์การเสริมสร้างพลัง (จบ)

โดย ยุค ศรีอาริยะ 13 กุมภาพันธ์ 2549 18:44 น.


คนไทยเชื่อว่า "ชีวิตก็คือ ละคร"

วันก่อน เจอเพื่อนที่เกลียดคุณทักษิณ ราวกับต้อง "ฆ่า" มัน

อีกวันหนึ่ง ก็เจอเพื่อนอีกคนหนึ่งที่เกลียดคุณสนธิเข้ากระดูกดำ

ผมได้แต่ปลอบใจคนทั้งสองว่า "ทุกคนก็มีดี มีเลว อย่าไปจริงจังนักเลย"

เราต่อสู้เพื่อให้การเมืองดีขึ้น เพื่อให้เกิดการปฏิรูปการเมือง ไม่ใช่เพื่อทำลาย หรือฆ่าคน

เราไม่ได้สู้เพื่อทักษิณ หรือสนธิ

มนุษย์เราฆ่ากัน ทำสงครามกัน จบแล้วก็เท่านั้น

มนุษย์เรามีเงินนับแสนล้าน จบแล้วก็เท่านั้น

มีใครได้อะไรจริงๆ

ตายแล้ว ก็ไม่มีใครได้อะไร หรือขนเงินไปก็ไม่ได้

ผมจึงกลายเป็นคนคิดแบบตะวันออก แต่รอบตัวผม บรรดาเพื่อนๆ และหลานๆ ที่หน้าตาเป็นคนไทย จิตใจกลับกลายเป็นตะวันตก คิดแบบตะวันตก

คนในโลกตะวันตกเข้าใจว่า โลกนี้ หรือโลกที่เรามีชีวิตอยู่นี้ คือโลกแห่งความจริง (ที่จริงแท้แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์) และมีอยู่เท่านี้ เมื่อเกิดมาแล้วจึงต้องต่อสู้ ต้องกอบโกย ต้องเอาชนะ และต้องเป็นที่หนึ่งให้ได้

คนตะวันออกมองโลกในมิติต่อเนื่อง ไม่สิ้นไม่สุด และมองโลกแบบจริงก็ "ใช่" ไม่จริงก็ "ใช่"

ภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า Paradox

จะคิดแบบนี้ได้ ต้องลองคิดว่า เมื่อเราตายไปแล้ว สมมติเรายังมีความรับรู้ หรือมีวิญญาณอยู่ ลองมองย้อนหลังถึงเรื่องราวชีวิตทั้งหมดที่ผ่านมาในช่วงที่เรามีชีวิต แล้วตั้งคำถามว่า

"เรื่องราวชีวิตที่ผ่านมาทั้งหมด มันจริงหรือไม่"

คำตอบที่ได้คือ ทั้งหมดไม่ต่างจากความฝันชุดหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ต่างจากช่วงที่เราหลับและฝันไป ในช่วงฝัน เราก็จะคิดจริงจังกับเรื่องราวในฝัน ดิ้นรน และทำทุกอย่างในฝันราวกับว่ามันคือ ความจริงร้อยเปอร์เซ็นต์

ชาวพุทธจึงชอบพูดว่า ทั้งหมดทั้งหลาย (การต่อสู้ ช่วงชิง และสงคราม) คือมายา

คำว่า "มายา" ไม่ได้หมายความว่า ไม่จริง หรือไม่มีอยู่

ชาวพุทธจะรู้ "ค่า" ของมายา เพราะมายาสอนให้เราเข้าใจ "ธรรมะ" และหากเราก้าวพ้นมายาได้ เราเองจะมีจิตใจที่งดงาม

ดังนั้น การต่อสู้ชีวิต จะสอนธรรมะแก่เรา และจะทำให้เราพัฒนา "ใจ" ของเรา

คนเรายิ่งผ่านการต่อสู้ และความทุกข์มามาก ก็จะลดละความเชื่อ "ข้าแน่ ข้าเก่งคนเดียว"

พออายุมากแล้ว "ใจ" จะสงบลง

นี่คือ ค่าแห่ง "มายา"








ปัจจุบัน เพื่อนๆผมหลายคนหันไปเรียน "ศาสตร์" ตะวันออก เช่น การนั่งสมาธิ และการฝึกชี่กง หลายคนเรียนอย่าง "ใจ" เป็นตะวันตก หรือโคตรเอาจริงเอาจัง

บางคนเรียนวิชาชี่กงถึงกับปวดศีรษะอย่างรุนแรง เรียกภาษาชี่กงว่า พลังลมปราณแตกซ่าน

บางคนนั่งสมาธิ แล้วร้อนไปทั่วตัว

วันหนึ่ง ไปสอนเพื่อนๆ เรื่องวิชาชี่กง

ผมจึงแนะว่า ก่อนจะเรียนชี่กง "ใจ" คุณต้องคิดแบบตะวันออกก่อน จึงจะเข้าถึงศาสตร์ตะวันออก

เพื่อนถามว่า "ใจ" ต้องเป็นอย่างไร

บังเอิญข้างหน้าสถานที่สอนมีรูปกวนอิมนั่งยิ้ม ผมชี้ไปที่ "กวนอิม" และตอบว่า ใจที่ "ยิ้ม" หรือ "Smiling Buddha"

ผมบอกว่า ต้องเคลื่อนไป และยิ้มไป เคลื่อนไปอย่างไร้ท่า หรืออย่างมีท่าก็ได้ แต่ต้องเคลื่อนไปด้วย "ใจ" ที่งดงาม "ท่า" ก็จะงามตาม "ใจ" ที่งดงาม

การออกกำลังแบบตะวันตกคือ การใช้ "พลัง" ให้เหงื่อออกเยอะๆ แต่วิชาชี่กงสอนให้สร้างพลัง และรักษาพลังไว้ ค่อยๆ ใช้พลังที่สร้างขึ้นมาไปกับการทำงานอย่างมี "ความสุข"

วิถีการคิดเรื่องพลังระหว่างตะวันออกและตกจึงต่างกันอย่างยิ่ง

ปราชญ์เต๋าเชื่อว่า ธรรมชาติก่อเกิดขึ้นมาจากฐานของ "ความว่าง" ซึ่งมีพลังที่เรามองไม่เห็นซ่อนตัวอยู่

มองธรรมชาติ เราต้องสัมผัสพลังจากธรรมชาติ ไม่คิดเพียงว่า "นี่คือวัตถุที่ไร้ชีวิต"

มองดูตัวเรา ก็ต้องรู้ว่าภายในของเรามีพลัง (มหาศาล) ซ่อนตัวอยู่ ทั้งพลังแบบหยินและหยาง

"ใจ" เท่านั้น ที่รับรู้ และสัมผัสกับพลังนี้ได้

พลังจึงเป็นเรื่องผีๆ ที่มีอยู่ และหายไป โดยเฉพาะในช่วงที่ "ใจ" เราท้อแท้ และถดถอย

คนที่มี "ใจงดงาม" เท่านั้น ถึงจะค้นพบการประสานพลังภายใน (หยิน และหยาง) ได้เป็นหนึ่ง อย่างลงตัว

ปราชญ์เต๋าจึงเห็นความสำคัญของเรื่องการสร้างใจที่งดงาม และการรักษาดุลยภาพระหว่าง หยิน-หยาง

คำว่า "ดุลยภาพ" ไม่ได้หมายความว่า ครึ่งต่อครึ่ง

ในมิติของโลก และชีวิต ดุลยภาพจะแตกต่างจากดุลยภาพของดวงอาทิตย์ ดวงอาทิตย์มีความร้อน (หรือหยาง) เป็นหลัก หยินเป็นรอง สำหรับโลกและสิ่งมีชีวิตจะมีดุลยภาพที่มีหยินเป็นหลัก หยางเป็นรอง

เพราะชีวิตในโลกนี้ มีฐานกำเนิดจากน้ำ และดิน

ในมิติของชีวิต ปราชญ์เต๋ากล่าวว่า

น้ำ (หยิน) ยิ่งใหญ่กว่า ไฟ (หยาง)

อ่อน (หยิน) ยิ่งใหญ่กว่า แข็ง (หยาง)

คนที่เข้าใจเรื่อง "พลัง" ต้องเข้าใจเรื่องความอ่อน (หรือความเป็นหยิน) ก่อน และประสานความเป็นหยินเข้ากับความเป็นหยาง

นี่คือ ปรัชญาที่ว่าด้วยความพอดี หรือความพอเหมาะพอควรแบบตะวันออก







ส่วนศาสตร์ตะวันตกจะคิดแบบตรงกันข้าม ถือว่าพลังหยาง (หรือความรุนแรง ความแข็งกร้าว) เป็นพลังหลัก ส่วนหยินถูกมองข้าม และไม่ให้ความสำคัญ

ในเมื่อปราชญ์เต๋าถือหยินเป็นหลัก ศาสตร์ชี่กงจึงบริหารร่างกายแบบค่อยๆ เคลื่อน เคลื่อนไปช้าๆ แต่เคลื่อนไปอย่างมีพลังปีติ (หยิน) ประสานกับการเคลื่อนพลังความร้อน (หยาง) ในเวลาเดียวกัน

นอกจากนี้ ศาสตร์ตะวันออกจะให้ความสำคัญของการสร้างเสริมพลังแบบเป็นกลุ่ม การฝึกชี่กงที่ดี ต้องฝึกเป็นกลุ่ม เพื่อเรียนรู้ แลกเปลี่ยน และเสริมพลังซึ่งกันและกัน

การนั่งสมาธิก็ทำแบบรวมหมู่

การส่งเมตตาธรรมก็ทำกันรวมหมู่

นอกจากนี้ ศาสตร์พลังแบบตะวันออกจะไม่แยกโลกภายนอกออกจากภายใน เพราะ "ใน" และ "นอก" คือสิ่งเดียวกัน

พลังทั้งใน และนอกจึงประสานกันได้

คนฝึกวิชาชี่กงที่ดี ต้องฝึกภายใต้สภาวะธรรมชาติที่งดงาม ใต้ต้นไม้ใหญ่ ที่มีพลังยิ่งใหญ่ กล่าวอย่างสรุปคือ ชาวตะวันออกจะต้องเข้าใจหัวใจของเรื่อง "ใจ"

ถ้า "ใจ" ไร้ตัวกูของกู เราก็จะอ่อนน้อมและงดงาม พลังหยินกับหยางก็จะประสานเชื่อมกันได้อย่างมีดุลยภาพ พลังภายในและภายนอกก็จะเป็นหนึ่งเดียว

นี่คือ สภาวะที่เรียกว่า บูรณาการ













บล็อกเมื่อวาน คลิกที่นี่





ลิ้งค์ บทความ "ภูมิปัญญาตะวันออกกับศาสตร์การเสริมสร้างพลัง(1)--ยุคศรีอาริยะ



ลิ้งค์ล่าสุด--> บทความ "ภูมิปัญญาตะวันออกกับศาสตร์การเสริมสร้างพลัง(2)--ยุคศรีอาริยะ

รับฟังการถ่ายทอดสดสนธิที่หาดสมิหรา จ.สงขลา วันนี้ -19 กพ. 18.00-24.00น.




 

Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2549
15 comments
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2549 7:05:33 น.
Counter : 814 Pageviews.

 




สวัสดีตอนหัวค่ำของ อุดรธานี จ้า

..เอาความ..คิดถึง..มามอบ

..เอาความ...ห่วงใย..มาให้

..เอาความ..จริงใจ...มาฝาก

..เอาทุกๆอย่างที่มีมอบแด่เธอ..

** มีความสุขกับคนที่คุณรักนะจ้า **

 

โดย: จอมแก่นแสนซน 17 กุมภาพันธ์ 2549 19:55:39 น.  

 


บล็อคน่ารักจังเลยยยย น่าลงเล่นน้ำจัง

 

โดย: saengjan 17 กุมภาพันธ์ 2549 22:01:21 น.  

 



นัทมาส่งคุณ คนเดินดิน เข้านอนจ้า..

..หลับฝันดีนะจ้า..

 

โดย: จอมแก่นแสนซน 18 กุมภาพันธ์ 2549 0:35:13 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ค่ะ
เพิ่งตื่น ยังตั้งสติไม่ได้ ไว้จะกลับมาอ่านอีกทีค่ะ

 

โดย: rebel 18 กุมภาพันธ์ 2549 6:31:37 น.  

 

บางทีการที่เราช่วยใครแล้วเค้าไม่เห็นคุณค่า เราก้ต้องปล่อยมืออะค่ะ คุณคนเดินดิน ถ้าคิดแบบคนเห็นแก่ตัว ปลาก็เอาตัวรอดแล้วค่ะ

 

โดย: อินทรีทองคำ 18 กุมภาพันธ์ 2549 10:47:20 น.  

 

ไม่รู้ นะคะ พี่

ดาว ไม่ได้คิดว่า ทั้งคุณสนธิ และ ทักษิณ เป็นคำตอบของการมองการเมือง ระบบ ฝักฝ่ายที่ถูกใจ ในหลักการแล้ว ดาวหวังเพียงให้
คนที่ยืนตำแหน่งตรงนี้ ทำหน้าที่อย่างสง่างามให้ได้ ไม่เช่นนั้น
อย่าอาสามารับใช้บ้านเมือง ....

 

โดย: ประกายดาว 18 กุมภาพันธ์ 2549 11:12:58 น.  

 

สวัสดีครับคุณนัท

ขอบคุณที่มาเยี่ยมบ่อย ๆ นะครับ

.................................

สวัสดีครับคุณseanjian

ขอบคุณภาพสวย ๆ อีกครั้งนะครับ

...................................

สวัสดีครับน้องแข

ช่วงนี้คงจะงานยุ่งนะ
ไม่เป็นไรค่อย ๆ อ่านครับ
กะว่าจะเปลี่ยนแนวเขียนไดอารี่ยาว ๆ ดีกว่าทำนองเล่าเรื่อง

.............................................



สวัสดีครับคุณปลา

ครับเหมือนกันเลยก็จะถอยเหมือนกันถ้าเจอแบบนี้
คงต้องให้เขามีบทเรียนด้วยตัวเองแล้ว

......................................................

สวัสดีครับน้องดาว

อย่างที่อาจารย์ชัยอนันต์พูดเมื่อวานนะ
ที่บอกว่าต้องร่างรัฐธรรมนูญให้ทุนอย่ามาครอบงำการเมือง

พี่มองว่า...ยากมาก....

ขอให้ระบบผู้นำเดี่ยวออกไปก่อน
ระบบเลือกตั้งมันจะล้มเหลวอย่างไรเช่นการซื้อสิทธ์ขายเสียง
ที่นักการเมืองใช้เป็นทางผ่านในการเข้ามาทำงานในสภานั้น
ยังไงก็ต้องให้ชาวบ้านได้รับบทเรียนด้วยตัวเขาเองผ่านการเลือกตั้งอีกสามสี่รอบ
ถ้ายังไม่ดีขึ้น ก็ไม่รู้นะ

คงไม่หวังอะไรกับการต่อสู้ในระบบแล้ว
เพราะถึงตอนนั้น บ้านเมืองคงจะอยู่ในช่วง กลียุค!!

 

โดย: คนเดินดินฯ 18 กุมภาพันธ์ 2549 11:48:20 น.  

 

อ่านบล็อกนี้แล้ว รู้สึกเหมือนบล็อกกำลังตอบคำถามที่จุสงสัยอยู่ ในความคิด ความขัดแย้งของความคิด


และ กลียุค เป็นคำหนึ่งที่ใช้ตอบข้อสอบสมัยเรียนเมื่อเด็กๆ ไม่คิดว่า ความจุ ตัวจุเอง อยู่ในยุคนี้ กลียุคที่จุคิดว่า มันคือยุคต่อไป แท้จริงแล้ว มันคือยุคที่จุยืนอยู่นี่เอง

 

โดย: ju (กระจ้อน ) 18 กุมภาพันธ์ 2549 13:41:11 น.  

 





สวัสดีตอนบ่ายของ อุดรธานี จ้า


แปลกไหมถ้าใจยัง...คิดถึง
แปลกไหมถ้าฉันคนนี้ยังลึกซึ้งและห่วงหา
แปลกไหมถ้าความรู้สึกยังคงเส้นคงวา
เพียงเพราะเหตุผลเดียวที่ว่า.. you are my friend..


** มีความสุขกับคนที่คุณรักนะจ้า **



..มารออ่านกลอนสดจ้า..

 

โดย: จอมแก่นแสนซน 18 กุมภาพันธ์ 2549 14:22:09 น.  

 

วันนี้ ใส่เสื้อสีหวาน มีนัดเหรอคะ

 

โดย: Black Tulip 18 กุมภาพันธ์ 2549 14:34:16 น.  

 

สวัสดีครับคุณจุ

จริง ๆ การเมืองไม่ค่อยอยากคุยเท่าไร อยากตุยว่าจะสร้างสังคมให้น่าอยู่อย่างไรมากกว่า..

ค่อนข้างหมดหวังกับการปฏิรูปการเมืองมานานแล้วครับ

...........................................

สวัสดีครับคุณนัท

วันนี้คุณนัทได้รับเกียรติเป็นคนแรกที่ผมโพสต์ข้อความยาวที่สุดเท่าที่เคยโพสต์มา
ไม่ว่ากันนะ นอนเต็มที่สมองมันก็แล่นดีนะ
อยากหัดเขียนเรื่องสั้น เพราอ่านงานของลาวคำหอมแล้วอยากลองดูบ้าง ไปอยู่ภาคอีสานมาหลายปีเหมือนกัน

.................................................

สวัสดีครับคุณจุ๊บ

วันนี้ใส่เสื้อลายดอกสีม่วง เรียกอะไรน้าที่ชาวบ้านนิยมมากเลยในช่วงนี้ อือ ดูสิ นึกไม่ออก ซื้อมาจากทางใต้สองสามตัว สีมันสดใสมากเลย ใส่แล้วหนุ่มขึ้นอีกหลายปี 555

 

โดย: คนเดินดินฯ 18 กุมภาพันธ์ 2549 17:15:11 น.  

 


ดีใจจังเลยที่คุณ คนเดินดิน เขียนให้อ่านมากขนาดนี้
ชอบมากเลยค่ะ นานๆๆจะมีคนเขียนให้อ่านมั่งนะค่ะ
แบบนี้นัทว่านะ ต้องมีรายการนั่งถกเถียงภาษากลอนกันอีกแน่ๆๆเลยค่ะ

บทความที่คุณ คนเดนดิน เขียนนั้นกินใจดีมากเลยค่ะ นัทชอบความคิดที่เขียนเกี่ยวกับ เวลาและ ระยะทาง..เพราะสิ่งที่คุณ คนเดินดินเขียนเนี่ย คือ มันใช่เลย..

การที่เขียนแบบนั้นก้เพราะว่า ..อยากได้ เวลา จากใครสักคนหนึ่ง ซึ่งเค้าตอบกลับมาว่า..สิ่งเราเข้ากันไม่ได้คือ

เราสองคนอยู่ใกล้กัน

เราสองเข้ากันไม่ได้

และอีกหลายๆๆอย่างที่เค้ายกมา นัทเลยอยากรู้ว่า จะมีใครมั่งนะที่คิดเหมือนนัท..

นัทดีใจนะค่ะที่ยังมีคนสักคนที่คิดแบบนัท

..วันใหนเขียนเรื่องสั้นแล้วอย่างลืมเขียนมาให้อ่านมั่งนะค่ะ
นัทจะรออ่านน๊า..

 

โดย: จอมแก่นแสนซน 18 กุมภาพันธ์ 2549 17:57:52 น.  

 





สวัสดีตอนใกล้ค่ำของ อุดรธานี จ้า


รู้ไหม..... ว่ามีใครคนหนึ่งเขา..ห่วงใย..
รู้ไหม........ ว่าตลอดเวลาคอยเฝ้าดูเธอเสมอ
รู้ไหม....... ว่าไม่สบายทุกครั้งที่ไม่ได้เจอ
รู้ไหม....... ว่าใจฉัน..คิดถึงเธอ..ทุกทุกวัน


** Have a nice day and take care na ja **

 

โดย: จอมแก่นแสนซน 19 กุมภาพันธ์ 2549 18:34:55 น.  

 

รับฟังการถ่ายทอดสดสนธิ ที่หากสมิรา สงขลา เดี๋ยวนี้--> 19 กพ. เวลา 19-00-24.00 น. ตามลิ้งค์ข้างบนครับ

 

โดย: คนเดินดินฯ 19 กุมภาพันธ์ 2549 21:12:39 น.  

 

อ่านบทความแล้ว เห็นว่า เรื่องการออกกำลังกาย ระหว่างการกวาดลานวัด กับการออกกำลังกายของตะวันตกแตกต่างกันครงไหน เพื่อให้สุขภาพดี

 

โดย: วี IP: 58.147.84.223 13 พฤษภาคม 2549 1:25:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


คนเดินดินฯ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








ปณิธาน

การเดินทางของชีวิตของทุกผู้คน
ทุกคนต่างต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต
แต่จะมีสักกี่คนที่จะก้าวไปถึง
เมื่อเราก้าวถึงจุดนั้น
ขออย่าลืมการแบ่งปันและเจือจาน
แก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคม

เราจะเติบโตและก้าวไปข้างหน้าพร้อม ๆ กัน
เพื่อสร้างสรรค์สังคมใหม่ที่ดีงาม

เพื่อให้อนุชนคนรุ่นหลัง
ได้ใช้ชีวิตของเขา
ตามศักยภาพและความตั้งใจของเขา
ตราบเท่าที่เขาต้องการ







เดินไปสู่ความใฝ่ฝัน


ชีวิตหนึ่งร่วงหล่นไปตามกาลเวลา
คลื่นลูกใหม่ไล่หลังคลื่นลูกเก่า
นั่นคือวัฏจักรของชีวิตที่ดำเนินไป

เยาว์เธอรู้บ้างไหม
ว่าประชาราษฎรนั้นทุกข์ยากเพียงใด
เสี้ยวหนึ่งของชีวิตที่เหลืออยู่
เธอเคยมีความใฝ่ฝันที่แสนงามบ้างไหม

สักวันฉันหวังว่าเธอจะเดินไปตามทางสายนี้
ที่อาจดูเงียบเหงาและโดดเดี่ยว
แต่ภายใต้ฟ้าเดียวกัน
ฉันก็ยังมีความหวัง
ว่าผู้คนในประเทศนี้
จะตื่นขึ้นมา
เพื่อทวงสิทธิ์ของพวกเขา
ที่ถูกย่ำยีมาช้านาน
และฉันหวังว่าเธอจะเดินเคียงคู่ไปกับพวกเขา

เพื่อสานความใฝ่ฝันนั้นให้เป็นความจริง
สัญญาได้ไหม
สัญญาได้ไหม
เยาว์ที่รักของฉัน


***********



ขอมีเพียงเธอเป็นกำลังใจ




ทอดสายตามองออกไปยังทิวทัศน์ข้างหน้า
แลเห็นต้นหญ้าโบกไสว
เห็นดอกซากุระบานอยู่เต็มดอย
ความงามที่อยู่ข้างหน้า
เป็นสิ่งที่ฉันจะเก็บมันไว้
ยามที่จิตใจอ่อนล้า...

ชีวิตยามนี้แม้ผ่านมาหลายโมงยาม
แต่จิตใจข้างในยังคงดูหงอยเหงา
หลายครั้งอยากมีเพื่อนคุย
หลายครั้งอยากมีคนปรับทุกข์
และหลายครั้งต้องนั่งร้องไห้คนเดียว

รางวัลสำหรับชีวิตที่ผ่านมา
มันคืออะไรเคยถามตัวเองบ่อย ๆ
ความสำเร็จ...เงินตรา...เกียรติยศชื่อเสียง
มันใช่สิ่งที่เราต้องการหรือเปล่า
ถึงจุดหนึ่งชีวิตต้องการอะไรอีกมากไปกว่านี้

หลายชีวิตยังคงดิ้นรนต่อสู้
เพื่อปากท้องและครอบครัว
มันเป็นความจริงของชีวิตมนุษย์
ที่ต้องดำรงชีพเพื่อความอยู่รอด
มีทั้งพ่ายแพ้ มีทั้งชนะ
แต่ชีวิตต่างต้องดำเนินไป
ตามวิถีทางของแต่ละคน

ลืมความทุกข์ ลืมความหลังที่เจ็บปวด
มองออกไปข้างหน้า
ค้นให้พบตัวตนของตนเองอีกครั้ง
แล้วกลับไปสู้ใหม่
การเริ่มต้นของชีวิตจะต้องดำเนินต่อไป
จะต้องดำเนินต่อไป

ตราบจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต....




@@@@@@@@@@@




การเดินทางของความรัก

...ฉันเดินไปด้วยหัวใจที่ว่างเปล่า
สมองได้คิดใคร่ครวญ
ความรักในหลายครั้งที่ผ่านมา
ทำไมจึงจบลงอย่างรวดเร็ว

ฉันเดินไปด้วยสมองอันปลอดโปร่ง
ความรักทำให้ฉันเข้าใจโลก
และมนุษย์มากขึ้น
และรู้ว่าความแตกต่าง
ระหว่างความรักกับความหลงเป็นอย่างไร?

ฉันเดินไปด้วยดวงตาที่มุ่งมั่น
บทเรียนของรักในครั้งที่ผ่าน ๆ มา
มันย้ำเตือนอยู่เสมอว่า
อย่ารีบร้อนที่จะรัก
แต่จงปล่อยให้ความสัมพันธ์
ค่อย ๆ พัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เรียนรู้และทำเข้าใจกันให้มากที่สุด

ก่อนที่จะเริ่มบทต่อไปของความรัก...




*******************



จุดไฟแห่งศรัทธาและความมุ่งมั่น

เข้มแข็งกับอ่อนแอ
สับสนหรือมุ่งมั่น
จะยอมแพ้หรือลุกขึ้นท้าทาย
กับชีวตที่เหลืออยู่
ทุกสิ่งล้วนอยู่ที่ใจเราจะกำหนด

ไม่ใช่เพราะอิสระเสรี
ที่เราต้องการหรอกหรือ?
ที่มันจะนำทางชีวิต
ในห้วงเวลาต่อไป
ให้เราก้าวทะยานไป
สู่วันพรุ่งที่สดใส

มีแต่เพียงคนที่รู้จักตนเองอย่างดีพอเท่านั้น
จะสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้
เมื่อผ่านการสรุปบทเรียน
จากปัญหาต่าง ๆ ที่ประสบ
เราก็จะมีความจัดเจนกับชีวิตมากขึ้น
และการเผชิญกับอุปสรรคต่าง ๆ
ในอนาคตก็จะเป็นเพียงปัญหาที่เล็กน้อยสำหรับเรา
ในการที่จะก้าวผ่านไป



ด้วยศรัทธาและความมุ่งมั่นที่มีอยู่ในใจ
ที่จะต้องย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอ
หนทางในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ
ย่อมอยู่ไม่ไกลห่างอย่างแน่นอน

*********************



ก้าวย่างที่มั่นคง

บนทางเดินแคบ ๆ ที่เหลืออยู่
หากขาดความมั่นใจที่จะก้าวเดินต่อไป
ชีวิตก็คงหยุดนิ่งและรอวันตาย
แม้ทางข้างหน้าจะดูพร่ามัว
และไม่รู้ซึ่งอนาคต
แต่สิ่งที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
คือก้าวย่างไปอย่างมั่นคง
และมองไปข้างหน้าอย่าเหลียวหลัง
เก็บรับบทเรียนในอดีต
เพื่อจะได้ระมัดระวังไม่ให้ผิดพลาดอีกในอนาคต

"""""""""""""""""""""""""""""""""



ใช้สามัญสำนึกทำงาน

ไม่มีแผนงานที่สวยหรู
ไม่มีปฏิบัติการใดที่สมบูรณ์แบบ
ในยามนี้มีเพียงการทำงานด้วยการทุ่มเท
ลงลึกในรายละเอียดเท่านั้น
จึงจะสามารถคลี่คลายปัญหาของงานลงได้
บางครั้งโจทย์ที่เจออาจยากและซับซ้อน
แต่เมื่อลงไปคลุกคลีอย่างแท้จริง
โจทย์เหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

""""""""""""""""""""""""""""""""



เรียบ ๆ ง่าย ๆ


อย่ามองสิ่งต่าง ๆ ด้วยแว่นสีที่ซับซ้อน
เพราะในโลกนี้มีเพียงสิ่งสามัญที่เรียบง่าย
สำหรับคนที่สงบนิ่งเพียงพอเท่านั้น
จึงจะแก้โจทย์และปัญหาต่าง ๆ
ด้วยกลวิธีที่เรียบ ๆ ง่าย ๆ
ไม่ซับซ้อนและตรงจุดได้อย่างเพียงพอ

""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

ใจถึงใจ

บนหนทางไปสู่ความสำเร็จ
บนหนทางของการสร้างสรรค์สิ่งใหม่
มีเพียงคนที่เข้าใจในสภาพจิตใจของคนทำงานเท่านั้น
จึงจะสามารถนำทีมงานไปสู่เป้าหมายได้
อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน








Friends' blogs
[Add คนเดินดินฯ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.