|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
กอด
ก็ไม่รู้ว่ากูแม่งจะใช้เวลาหมดไปกับความใสซื่อไร้เดียงสา
เพื่อเรียนรู้สิ่งแปลกใหม่ไปอีกนานแค่ไหน
อยู่บ้านไอ้เหี้ยปืนก็ได้แต่หาเรื่องจัญไรทำแก้เงี่ยนไปวันๆ
เหมือนหลุดออกมาอยู่อีกโลกนึง
แต่คนแบบกูอารมณ์แปรปรวน
อยากกลับโรงเรียนขึ้นมาซะงั้น
"เบื่อว่ะ" กูบ่น
"เบื่อเหี้ยไรของมึง กูเห็นควยแข็งทั้งวัน เบื่อตรงไหนวะ" ไอ้เหี้ยปืนว่าแดก
"สัดมันแข็งตามปกติเว้ยไม่ได้หมายความว่ากูเงี่ยนนะไอ้สัด"
"กลับดีกว่าว่ะ อยู่กะมึงนานๆเบื่อน้ำหน้าแม่งชิบหาย" กูบ่นต่อ
"กลับก็ดีเหมือนกันนะเก่ง หาไรอย่างอื่นทำบ้าง ตาลายไปหมดแล้วเนี่ย" ไอ้แสบบ่น
แหม
ตาลาย เหนื่อย แต่กูเห็นมึงสู้ตายตลอดอ่ะ
"ม๊า....รีบมารับไปส่งโรงเรียนทีดิ จะกลับละ" กูโทรบอกม๊าให้ทำตามเงื่อนไขที่ตกลงกันเอาไว้
ผิดก็แค่ตรงที่กลับก่อนเวลาแค่นั้นแหละ
ยังไม่ครบเจ็ดวัน
ยังไม่ทันเอาอากงกูลงหลุมเลยว่ะ 5555+
"อืม...แล้วม๊าจะรีบไปนะ" รับทราบ
ไม่กี่อึดใจ ตัวเต็งรางวัลคุณแม่ดีเด่นปีนี้ก็รี่มารับกูถึงหน้าบ้านไอ้เหี้ยปืน ไอ้เหี้ยที่ทำหน้าตาอ้อยสร้อย ประหนึ่งผัวจะต้องไปออกรบชายแดน ปานกูจะไปตายห่า
ไม่ได้มีน้ำหน้ากลับมาได้ปี้กันอีก . . . . ส้นตีน
อะไรจะเยอะปานนั้น
แล้วแม่กูมาทั้งที
แทนที่แม่งจะแต่งตัวดีๆให้เกียรติแม่กูซักนิดก็ไม่ได้
แม่งยืนพื้นกับบ็อกเซอร์ตัวเดียวทั้งวี่วัน
"เพื่อนเหรอ" ม๊ากูหันหน้ามาถามแถมทำหน้าแหยงๆ ยืนควยห้อยตัวลายเป็นงูเหลือม
แม่กูคงคิดว่ากูมีเพื่อนเป็นเจ้าของโรงฝิ่นละมั้ง
แบบว่าหน้าตาใสๆแบบกูไม่น่ามีเพื่อนหน้าตาแนวนั้น
"ไปเหอะม๊าอย่าไปสนใจแม่งเลย เพื่อนที่ไหน นั่นอ่ะลูกคนใช้บ้านเพื่อน" กูตอบ
ม๊ากูจะได้ไม่ต้องมานั่งซักให้รำคาญจิต . . . . . . . . นั่งรถมาหมอยยังไม่ทันยับ
ก็ถึงโรงเรียนกูซะละ
"ม๊าไปตึกอำนวยการนะ ไปจัดการเรื่องรายงานตัวนะ อย่าลืมที่เตี๊ยมกันอ่ะ ไม่งั้นสองแสนๆสดๆเตรียมไว้เลย" กูขู่ แม่กูแท้ๆนะนี่
55+
ว่าแล้วก็แยกกันไปตามจุดหมาย
กูกับไอ้แสบก็รีบรี่เข้าไปตึกนอน
ไปหาเพื่อนหน้าโง่ที่คบกูเอาไว้
รู้สึกผิดเหมือนกันว่ะ ฆ่าคนตาย ขายของเถื่อน ยังไม่รู้สึกผิดเท่าทิ้งเพื่อนเลยว่ะ
แม่งลางความรู้สึกกูไม่ค่อยดีเลยว่ะ
. . . . . . . ใต้ต้นเฟื่องฟ้าหน้าตึก
เพื่อนกูทั้งหมดนั่งนั่งอยู่ละแวกนั้น
สงสัยแม่งรอกูอยู่อ่ะดิ แหม...
พอกูไม่อยู่ล่ะทำยังกะคนจะตายเลยนะมึง
รับรองได้เห็นหน้ากูแม่งเริงร่าแน่
"ผัวะ ไอ้เหี้ยเหยินไม่มีคนคอยตบหัวมึงนี่ถึงกะจะตายเลยเหรอวะสัด" กูทักไอ้เหี้ยเหยินก่อนคนแรก
มันเหลือบตาขึ้นมามองแล้วก้มลงต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือว่ากูตบหัวแม่งเบาไปวะ
"ไอ้เหี้ยเหยินกูมาหาพวกมึงทั้งทีไม่ดีใจกันเหรอวะ" กูยังหวังว่าเพื่อนจะดีใจที่ไม่ได้เจอกูตั้งหลายวัน
แม่งยังจะทำหน้ามึนอีก
"เป็นเหี้ยไรกันนักหนาเนี่ย........พ่อใครตายห่าอีกวะ" กูยังเซ็งกับความไม่ดีใจของเพื่อนๆ
"เก่งมานี่เลย.........มีคนรออยู่" อีหวานรี่เข้ามาลากแขนกูขึ้นไปชั้นสาม....ห้องนอน
อีเหี้ยนี่คิดจะรวบหัวรวบหางกูรึป่าววะ
แหยงๆอยู่เหมือนกันนะนี่
อิอิ
.
.
"อ้าว.....เก่งมาแล้วเหรอ" เสียงมาสเตอร์ศุภชาติที่กำลังง่วนอยู่กับการทำบางอย่าง
ทักกูอย่างสีหน้าเย็นชา
เหมือนพยายามเก็บอาการบางอย่างเอาไว้
กูยังงงๆกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า
บอกตรงๆว่าเดาไม่ออกบอกไม่ถูกไม่รู้วาแม่งมีเรื่องเหี้ยไรอีกนักหนา
ใครช่วยบอกกูแบบตรงๆทีเหอะ
"เซอร์ทำไรอ่ะ" กูถามแกแบบงงๆ
"ก็เก็บของไง มองไม่เห็นเหรอ" แกพูดติดตลกพยายามฮา แต่รอยยิ้มแห้งๆมันขัดแย้งยังไงไม่รู้ว่ะ
กูก็ยังงงไม่หายได้แต่หันมองหน้าไอ้เพื่อนที่ยืนทำหน้าตูมอยู่ข้างๆ
กูก็ยังทำตัวไม่ถูกอยู่ดี
ได้แต่นั่งลงช่วยแกเอากระดาษกาวปิดปากกล่อง
. . .
. "เซอร์ถามจิงๆ........มีเรื่องไรอ่ะ" ไม่ไหวว่ะฟีลนี้กูไม่ชอบเลยจิงๆ
"............" ไม่มีคำตอบใด นอกจากรอยยิ้มแห้งๆมุมปาก
แต่แววตานั้นดิ
โกหกกันไม่ได้เลย
. . . .
"เฮ้ยมาสเซอร์......ถามดีๆ ทำไรเนี่ย" จากความงงและสับสน ชักกลายเป็นความฉุนเฉียว
กูเองก็ยังงงอยู่เหมือนกัน
ว่ากูจะโมโหของขึ้นทำส้นตีนอะไร
"เก่งบอกมาสเซอร์ทีว่าอย่าไปเลย......ช่วยกันขอร้องหน่อยนะ" ไอ้ชิ้นกับไอ้กระรอกจับแขนกูเขย่าดิกๆ
. . .
. สิ้นคำนั้นทุกอย่างก็เหมือนจะกระจ่างขึ้นมา
อะไรวะแม่ง
อยู่ด้วยกันมาก็ตั้งนาน
คิดจะทิ้งหนีกันไปดื้อๆแบบนี้เลยเหรอวะ
จู่ๆขากรรไกรก็สั่นขึ้นมาซะงั้น
"จริงอย่างที่ไอ้ชิ้นบอกป่าวเซอร์" กูถามแบบไม่อยากได้คำตอบ
ได้แต่พยายามสบตาผู้ตอบคำถาม
ที่เจ้าตัวไม่ยอมสบตากูเลย
. . . . .
คนตอบเงียบ
เก็บของต่อหน้าตาเฉย
ทำเหมือนไม่ได้ยินที่กูถาม
. .
. "แม่งเป็นเหี้ยไรไปกันหมดเนี่ย" กูอยากจะฆ่าแม่งทิ้งให้หมด
ถามส้นตีนไรไม่อยากจะตอบ
ไม่รู้ปากอมเหี้ยไรกันอยู่ .
.
เหมือนเข็มนาฬิกาหยุดเดิน
ทุกอย่างนิ่งเงียบเหมือนไม่มีอะไรเคลื่อนไหว
ปล่อยให้แววตาทำหน้าที่สื่อสารกันอย่างเดียว
มันนาน...
.. . . .
นานจนเกินทน
นานจนเกือบจะรับไหว
"เอาไปอ่านเองแล้วกัน" มาสเตอร์ศุภชาติพูดพลางส่งซองที่มีตราโรงเรียนแดงๆให้กูถึงมือ
กูเองก็รับมาแต่ไม่อยากอ่าน
อยากให้เหมือนในละคร
อยากให้มีคนอ่านให้
. .. . แต่กูคงไม่มีทางให้เลือกอะไรมากมายขนาดนั้น
ตัวหนังสือที่สำรอกพิมมาในกระดาษกาลกินีใบนั้น
อ่านแล้วได้ความเหมือนจดหมายสั่งตาย
เหมือนฟอร์เวิร์ดเมลล์
.. . .
เนื้อความส้นตีนมากมาย
บรรยายถึงการไร้ซึ่งความสามารถในการทำงานและการดูแลนักเรียนประจำ
การไม่รู้จักกระตือรือร้นเพื่อเตรียมรับการพัฒนาสู่งโรงเรียนดีเด่นระดับประเทศที่กำลังจะเกิดขึ้น
การตำหนิถึงความไม่เหมาะสมกับการเป็นหัวหน้าตึก
ตำหนิถึงความไม่มีมาตรฐานในการทำงาน
ระบุให้ย้ายไปเป็นครูสอนหนังสืออย่างเดียว
หน้าที่ควบคุมนักเรียนประจำให้ยกเลิกไป...
. . . . .
ปัญญาอ่อนชิบหาย
แม่งอย่าได้อ้างเหตุผลส้นตีนอะไรแบบนี้อีกเลยว่ะ
แต่ที่เหี้ยที่สุดคือประโยคสุดท้ายที่แม่งทิ้งเอาไว้ว่าให้พิจารณาตัวเอง
สัด
ทำยังกะซามูไรแพ้สงครามแล้วต้องมานั่งคว้านท้องตัวเอง
สถุนที่สุดอ่ะ
โลกปัจจุบัน
แต่ยังเสือกจะมีเรื่องส้นตีนๆอะไรแบบนี้อีก
"แค่เพราะกระดาษแผ่นเดียวเนี่ยนะ" กูกระพือกระดาษที่ถืออยู่ในมือ
แล้วถามคนที่กำลังนั่งเก็บของอยู่
ผิดหวังว่ะ
ทำไมคนที่กูคิดว่าเป็นตัวอย่างที่ดีกับกูมาตลอด
จะมายอมแพ้กับอีแค่กระดาษแผ่นเดียวไปได้วะ
ทำไมคนที่กูคิดว่าเป็นต้นไม้ใหญ่ที่กูแอบเอาไว้พักพิงเวลาพายุมา
หักโค่นลงง่ายๆแบบนี้วะ
"กลัวเงินเดือนลดเหรอ.........ง่ายไปหน่อยป่าววะเซอร์" กูโมโหจนพูดออกมาได้ทุกอย่างแบบไม่ต้องคิด
"หรือว่าได้งานอื่นที่ดีกว่า" เคืองว่ะ คนเราแม่งจะทิ้งกันไปดื้อๆ ไม่มีความผูกพันธ์ห่าไรรั้งเอาไว้มั่งเลยเหรอวะ
... .. .
"มันไม่ใช่แค่กระดาษแผ่นเดียวนะไอ้เก่ง ถ้าเรื่องมันตื้นๆเหมือนที่สมองมึงคิดก็ดีสิวะ มันเป็นเรื่องศักดิ์ศรีเว้ย"
"จะให้กูอยู่อย่างไม่มีศักดิ์ศรี จะให้กูอยู่อย่างใช้ความคิดใช้สมองอย่างอิสระเสรีไม่ได้ กูก็ไม่ขออยู่ดีกว่า"
"มึงเองยังไม่ชอบให้คนมาบังคับเลย ไม่คิดว่าคนอื่นก็ต้องการแบบนั้นมั่งเหรอวะ"
"ซักวันเมื่อมึงโตพอ มึงจะรู้ เพราะยังมีอีกเยอะที่พวกมึงยังต้องเรียนรู้"
พรวดเดียวกับคำพูดระรัวที่กูตั้งหลักฟังแทบไม่ทัน
มันพรั่งพรูออกมาจากใจจริงๆว่ะ
จากความโมโหโกรธาที่ทำให้กูรู้สึกตัวใหญ่คับบ้านเมื่อครู่
ตอนนี้กูกลับรู้สึกตัวเล็กเหมือนมดแค่ตัวนึง
เหมือนกบเพิ่งหงายกะลาออกมาชมโลกภายนอก . . . . .
อย่าให้กูได้พูดเลยว่ามันรู้สึกเหี้ยขนาดไหน
"เซอร์จะไปจริงเหรอ" กูไม่รู้จะใช้คำพูดไหนให้คนฟังรับรู้ถึงความรู้สึกได้ดีกว่านี้อีกแล้ว
ง่ายๆสั้นๆคำนี้กูคงทำได้ดีที่สุดเท่านี้แล้ว
"เก่ง.....เข้าใจกันหน่อยเหอะ ไม่ได้อยากทิ้งกันไปแบบนี้หรอก แต่มึงะทนได้มั้ยถ้าจะรั้งเอาไว้แล้วให้กูอยู่แบบไม่มีศักดิ์ศรี"
"เงินไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย คนอื่นไม่เข้าใจ แต่พวกมึงอย่ามาทำเป็นไม่เข้าใจกันหน่อยเลย" มาสเตอร์คนเดียวที่กูรัก ตัดหางกูปล่อยวัด
"เรื่องมันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ" กูยังพยายามรั้งเอาไว้
"มันคงถึงเวลาที่พวกมึงะต้องโตและแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองแล้ว อยู่ต่อน่ะอยู่ได้ แต่จะให้กูทนอยู่ที่นี่ต่อ แต่ทำอะไรเพื่อพวกมึงไม่ได้ ให้กูยืนมองแบบนี้มันไมทรมานกันไปหน่อยเหรอ" สิ้นคำถาม
สายตาที่คนถามมองมาที่กู
ทำให้รู้สึกเหมือนก้อนเลือดมาจุกอยู่ที่อกกู
พูดไม่ออกจริงๆว่ะ
"ขอบใจจริงๆนะที่พวกมึงเป็นมากกว่านักเรียน" น้ำเสียงคนพูดเปลี่ยนไป นัยตาเริ่มแดง
"ขอบคุนเหมือนกันครับที่เป็นมากกว่าแค่คนสอนหนังสือ" ไอ้แสบที่ยืนฟังอยู่พูดน้ำตาไหล
กูยังนั่งตัวชา
รับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น
"พรุ่งนี้ค่อยไปไม่ได้เหรอเซอร์ รับไม่ได้หว่ะแบบนี้" กู.......... อย่าให้พูดเลย
"จะไปตอนนี้ พรุ่งนี้หรืออีกเดือนนึงก็ต้องไปอยู่ดี"
"จำไว้จงเข้มแข็งเอาไว้นะเก่ง กูเชื่อว่ามึงทำได้" มาสเตอร์ตอบ
คำพูดทิ้งท้ายให้เก็บไว้ทรมานการนอนหลับ
ทิ้งท้ายไว้แบบนี้คืนนี้กูคงไม่ได้นอนอีกแล้ว
กูเบื่อที่ต้องรับผิดชอบ
กูเบื่อที่ต้องแกรัภาระอะไรนักหนานี่จริงๆเลยว่ะ
. . . . . . สิ้นการสนทนา
พวกกูก็ต้องจำใจพากันช่วยยกองลงมาข้างล่างอย่างไร้อารมณ์
อยากจะเดินให้ช้าที่สุด
อยากจะเดินถ่วงเวลาให้นานๆ
เพื่อยื้อเวลาสุดท้ายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่เวลามันกลับหมุนไปเร็วกว่าที่คิด
ขบวนขนของที่ช่วยกันยกมาผ่านท่ามกลางสายตาเด็กนักเรียนคนอื่นๆ
ที่เงียบกริบ
เหมือนขบวนขนศพก็ไม่ปาน
ทุกสายตาจ้องมาที่กู
เหมือนกูเป็นฆาตกรฆ่าคนตายแบบนั้นแหละ
"เพราะไอ้เหี้ยนี่แท้ๆ" เสียงไอ้สัดหมาคนนึงพูดแทรกขึ้นมาด่ามาทางกู
สะอึกเลยกู
เดินขนของเฉยๆแท้ๆ
แต่กูกลับรู้สึกเหมือนโดนจับมัดมือใส่กรงแห่ไปกลางเมืองให้ชาวบ้านประชาชีขว้างปาข้าวของใส่
เหมือนกูเป็นตัวเหี้ยไรซักอย่างแบบนั้นแหละ
แต่นี่ต่างกันแค่มันขว้างปากูด้วยคำพูดเท่านั้นเอง
โดยปกติแล้วคนอย่างกู
ทำเหี้ยไรกูไม่สนอยู่แล้ว
ถ้ากูไปฆ่าคนตายแล้วจับกูเข้าคุก
กูคงไม่มานั่งร้องไห้อ้อนวอนตำรวจให้ปล่อยกูหรอก
กูจะยื่นหน้ารับด้วยความยินดี
ว่าไอ้เหี้ยนี่แหละสมควรตายแล้ว
ไม่งั้นกูจะฆ่าแม่งเหรอ
แต่อย่ามาโยนผิดในสิ่งที่กูไม่ได้ทำ
แม้แค่มดตัวเดียวกูก็จะไม่เอาแม่งไว้ให้เหม็นน้ำหน้า
แต่นี่....
ใครช่วยบอกกูทีเหอะ
ไม่ใช่กูโง่นะ
แต่กูเป็นต้นเหตุให้มาสเตอร์ศุภชาติต้องลาออกไปแบบนี้เหรอวะ
ความผิดนี้สาหัสจริงๆว่ะ . . . . . . . . "ต้องไปจริงๆแล้วนะ" มาสเตอร์ศุภชาติพูด
อย่าให้กูบรรยายความรู้สึกเลย
จะให้กูพูดว่าไง
คำพูดมันมากมายจนกูไม่รู้จะพูดอันไหนก่อน
จนทำให้กูไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย
"พวกเอ็งดูแลตัวเองดีๆนะเว้ย ถ้ามีโอกาสคงได้เจอกันอีก" มาสเตอร์ศุภชาติเอามือวางบนไหล่กู
มันเหมือนจะทำให้รู้สึกดี
แต่แรงสัมผัสนั้นกลับทำให้กูทรมานเหมือนจะหมดแรงจนต้องล้มตัวลง
ยังกะเพลงวางมือบนบ่าน้ำตาก็ไหลของพันซ์ยังไงอย่างงั้น
จนกูต้องเผลอโผตัวเข้าไปกอดไว้
แปลกใจจริงๆว่ะ
คนที่รู้จักกันดีมาตั้งนาน
เจอกันมาตั้งนาน
แต่ไม่เคยได้กอดกันเลย
ดันโง่ปล่อยเวลามากอดกันเมื่อตอนที่ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสให้กอดกันอีกเมื่อไหร่
ถ้ากูรู้ว่ากอดกันแล้วรู้สึกดีแบบนี้
กูคงไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดมือไปโง่ๆแบบนี้
การกอดครั้งนี้คงอธิบายได้ดีกว่าคำพูดที่วกวนไปมาอยู่ในสมองกูทั้งหมด
"อย่าลืมกลับมาหาพวกผมบ้างนะคับ" ไอ้แสบส่งคำพูดสุดท้าย
"เออนี่....แล้วต่อไปนี้อย่าเรียกมาสเตอร์แล้วนะ ให้เรียกว่าพี่น้องละกัน" คำพูดสุดท้ายกับรอยยิ้มที่ทิ้งไว้
คงทำให้พวกกูลืมไม่ลง
(อย่างงมาสเตอร์ศุภชาติชื่อเล่นว่าน้อง)
แล้วรถโตโยต้าคราวน์สีเงาวับก็เคลื่อนตัวออกไป
ก็ดี
.
. อย่าปล่อยให้การล่ำลาอันทรมานเยิ่นเย้อไปกว่านี้อีกเลย
ไอ้รถคนนี้คงอธิบายได้จริงๆว่าเงินไม่ใช่ตัวการสำคัญ
เงินไม่ได้ซื้อทุกอย่างเหมือนที่กูแกล้งเข้าใจ
พวกกูได้แต่มองตากับปริบๆ
เมื่อวานยังเสียวซ่านอยู่เลย
วันนี้มาริโอ้มาดูดควยให้กูยังไม่เงี่ยนเลย
. . . . "เอาไงดีวะ" กูงงเลย ไปต่อไม่เป็น
"ไปตั้งหลักร้านป้าดำเหอะ" ไอ้ถึกออกความเห็น
อือก็ดีเหมือนกันวะ
ถามกูกูก็ไม่รู้จะไปไหนเหมือนกันว่ะ
. . . . . .
ทันทีที่ถึงร้านอีป้าแต่ยังไม่ทันจะหย่อนตูดลงนั่ง
"โลกจะแตกเหรอไงวะเนี่ย เจอแต่คนทำหน้าเป็นส้นตีนแบบนี้ กูอยากจะบ้าตาย" อีดำทำท่าจะอาละวาด
"เป็นเหี้ยไรอีกเนี่ย คนยิ่งเซ็งๆอยู่" กูบ่น
"อย่ามาปากหมากะกูนะ เดี๋ยวปาดคอแม่งทิ้งให้หมด ไอ้เด็กระยำ" อีดำของมันแรงกว่ากูอีก
"เป็นเหี้ยไรเนี่ย" กูถามแหยงๆ
อีนี่แม่งไม่เคยบ้าแบบนี้นี่หว่า
"มึงดูนี่" อีดำมันพูดจบก็ยัดซองตราแดงให้กูอ่าน
แบบเดียวกับที่กูอ่นเมื่อกี๊เด๊ะ
สัด
สงสัยโรงเรียนกูแม่งงบเยอะ
แม่งคงเพิ่งจ้างพิมพ์ซองเสร็จ
เลยเงี่ยนแจกชาวบ้านเค้าไปทั่ว
จดหมายได้ความว่า
เพื่อการพัฒนาและจัดการระบบโรงเรียนสู่ความเป็นสากล
ต่อไปนี้การซื้อขายในโรงเรียนจะไม่ใช้เงินสดโดยเด็ดขาด
ให้ใช้ชิพแทนเงินสด
ไปแลกได้ที่ส่วนอำนวยการ
มึงเอากะแม่งดิ
. . . .
"ก็ให้แม่งแลกไปดิ จะโวยวายทำห่าไรเนี่ย" กูบ่นอีดำ
"มึงไม่ให้กูโวยวายได้ไง โรงเรียนแม่งหักร้อยละ30เป็นค่าบำรุงโรงเรียน แล้วกูจะเอากำไรที่ไหนแดก" อีดำบ่นหน้าตายังกะโดนขโมยผัว
"เออว่ะ เหี้ยแระเนี่ย" จะว่ามันงก
แต่ก็น่าเห็นใจมันอยู่นะ
ตอนนี้ในใจกูมีแต่เรื่องชวนให้ปวดหัววะ
"กูละชังน้ำหน้าไอ้เหี้ยบบราเดอร์คนใหม่จิงๆว่ะ น่าเอาตีนยันหน้าแม่งจริงๆ" อีดำของขึ้นสุดๆ
"เออจิงด้วยว่ะ นี่แม่งก็เพิ่งกดดันมาสเตอร์ศุภชาติจนลาออกกูเพิ่งไปส่งมาเมื่อกี๊เนี้ยะ" กูเล่า
"อ้าวเหรอ อะไรวะ ไอ้เหี้ยถั่วมันเล่นกันขนาดนั้นเลยเหรอวะ" อีดำอุทาน
"ก็เออดิ....แม่งน่า...จิงๆ" กูเห็นด้วย
"นี่ไหนๆเจ้าตัวไม่อยู่แล้วกูมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง" อีดำจั่วหัวข้อให้กูลุ้นเยี่ยวเหนียวอีกแล้ว
"เหี้ยไรอีกเนี่ย" คือกูแบบว่ารับเรื่องเหี้ยไรหนักๆไม่ไหวอีแล้วอ่ะ
"พวกมึงเรียนๆเนี่ยรู้กันรึป่าวว่าไอ้น้องน่ะมันศิษย์เก่าที่นี่"
"เป็นรุ่นพี่พวกมึงหลายไปอยู่ มันก็มีกลุ่มเพื่อนๆเหมือนๆพวกมึงนี่แหละ"
"พอจบแยกย้ายกันไป คำสัญญากับเพื่อนสนิทที่จู่ๆก็หายไปไม่ติดต่อกันเลย"
"ทำให้มันมีห่วง จนต้องมาสอนหนังสืออยู่ที่นี่ เพื่อรอที่จะเจอไอ้เพื่อนคนนั้นที่หายไป"
"รอโดยหวังว่าจะได้กลับมาเจอกันซักวันที่นี่" อีดำเล่าด้วยสีหน้าซาบซึ้งอย่างที่สุด
แต่พวกกูกลับรู้สึกสึกไปกว่านั้น
รู้สึกผิดว่ะ
เป็นกูคงรู้สึกแย่..
แย่สุดๆว่ะ
ถ้าหากจะต้องทิ้งความฝันที่เฝ้ารอมาตั้งนาน
คงต้องใช้ความกล้าในการตัดใจได้แบบนั้น
กูไม่น่าไปโกรธว่าทิ้งกูไปแบบนั้นเลย
ยังมีอีกเยอะจริงๆที่กูยังไม่รู้
สัด . . . . . . เรื่องเหี้ยๆของคนเลวๆอย่างกูแท้ๆ
ไหงมีสคริปท์น้ำเน่าเกาหลีแบบนี้วะ
สัดห่า
กูพยายามเลี่ยงบทรักน้ำเน่าเล่าสามรอบเหมือนละครช่องสามที่สุด
แต่เรื่องจริงแม่งก็เสือกหนีไม่พ้นนิยายน้ำเน่าจริงๆว่ะ
Create Date : 26 มกราคม 2553 |
Last Update : 26 มกราคม 2553 1:10:18 น. |
|
6 comments
|
Counter : 878 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ป้าแก่ๆ IP: 222.123.185.44 วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:3:07:00 น. |
|
|
|
โดย: Dingtech วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:8:32:22 น. |
|
|
|
โดย: chattiwut IP: 203.80.56.110 วันที่: 27 มกราคม 2553 เวลา:9:53:24 น. |
|
|
|
โดย: khongbeng IP: 119.31.126.141 วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:19:59:36 น. |
|
|
|
โดย: wutskabirds IP: 203.144.144.164 วันที่: 30 มกราคม 2553 เวลา:21:49:13 น. |
|
|
|
โดย: maximum IP: 113.53.56.214 วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:2:48:42 น. |
|
|
|
| |
|
|