จะด่ากูเฮี่ย... กูเลว... กูมันถ่อย... กูมันไม่เอาถ่าน... กูไม่ขอว่าซักคำ แต่ขอร้องเถอะว่ะ..... อย่าดูถูกคนอย่างกูว่าไม่รู้จัก "รัก" แม้แต่ซักวินาทีเดียวนะมึง
Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
26 มกราคม 2553
 
All Blogs
 
กอด

ก็ไม่รู้ว่ากูแม่งจะใช้เวลาหมดไปกับความใสซื่อไร้เดียงสา

เพื่อเรียนรู้สิ่งแปลกใหม่ไปอีกนานแค่ไหน

อยู่บ้านไอ้เหี้ยปืนก็ได้แต่หาเรื่องจัญไรทำแก้เงี่ยนไปวันๆ

เหมือนหลุดออกมาอยู่อีกโลกนึง

แต่คนแบบกูอารมณ์แปรปรวน

อยากกลับโรงเรียนขึ้นมาซะงั้น

"เบื่อว่ะ" กูบ่น

"เบื่อเหี้ยไรของมึง กูเห็นควยแข็งทั้งวัน เบื่อตรงไหนวะ" ไอ้เหี้ยปืนว่าแดก

"สัดมันแข็งตามปกติเว้ยไม่ได้หมายความว่ากูเงี่ยนนะไอ้สัด"

"กลับดีกว่าว่ะ อยู่กะมึงนานๆเบื่อน้ำหน้าแม่งชิบหาย" กูบ่นต่อ

"กลับก็ดีเหมือนกันนะเก่ง หาไรอย่างอื่นทำบ้าง ตาลายไปหมดแล้วเนี่ย" ไอ้แสบบ่น


แหม

ตาลาย
เหนื่อย

แต่กูเห็นมึงสู้ตายตลอดอ่ะ

"ม๊า....รีบมารับไปส่งโรงเรียนทีดิ จะกลับละ" กูโทรบอกม๊าให้ทำตามเงื่อนไขที่ตกลงกันเอาไว้

ผิดก็แค่ตรงที่กลับก่อนเวลาแค่นั้นแหละ

ยังไม่ครบเจ็ดวัน

ยังไม่ทันเอาอากงกูลงหลุมเลยว่ะ

5555+

"อืม...แล้วม๊าจะรีบไปนะ" รับทราบ

ไม่กี่อึดใจ
ตัวเต็งรางวัลคุณแม่ดีเด่นปีนี้ก็รี่มารับกูถึงหน้าบ้านไอ้เหี้ยปืน
ไอ้เหี้ยที่ทำหน้าตาอ้อยสร้อย
ประหนึ่งผัวจะต้องไปออกรบชายแดน
ปานกูจะไปตายห่า

ไม่ได้มีน้ำหน้ากลับมาได้ปี้กันอีก
.
.
.
.
ส้นตีน

อะไรจะเยอะปานนั้น

แล้วแม่กูมาทั้งที

แทนที่แม่งจะแต่งตัวดีๆให้เกียรติแม่กูซักนิดก็ไม่ได้

แม่งยืนพื้นกับบ็อกเซอร์ตัวเดียวทั้งวี่วัน

"เพื่อนเหรอ" ม๊ากูหันหน้ามาถามแถมทำหน้าแหยงๆ
ยืนควยห้อยตัวลายเป็นงูเหลือม

แม่กูคงคิดว่ากูมีเพื่อนเป็นเจ้าของโรงฝิ่นละมั้ง

แบบว่าหน้าตาใสๆแบบกูไม่น่ามีเพื่อนหน้าตาแนวนั้น

"ไปเหอะม๊าอย่าไปสนใจแม่งเลย เพื่อนที่ไหน นั่นอ่ะลูกคนใช้บ้านเพื่อน" กูตอบ

ม๊ากูจะได้ไม่ต้องมานั่งซักให้รำคาญจิต
.
.
.
.
.
.
.
.
นั่งรถมาหมอยยังไม่ทันยับ

ก็ถึงโรงเรียนกูซะละ

"ม๊าไปตึกอำนวยการนะ ไปจัดการเรื่องรายงานตัวนะ อย่าลืมที่เตี๊ยมกันอ่ะ ไม่งั้นสองแสนๆสดๆเตรียมไว้เลย" กูขู่

แม่กูแท้ๆนะนี่

55+

ว่าแล้วก็แยกกันไปตามจุดหมาย

กูกับไอ้แสบก็รีบรี่เข้าไปตึกนอน

ไปหาเพื่อนหน้าโง่ที่คบกูเอาไว้

รู้สึกผิดเหมือนกันว่ะ
ฆ่าคนตาย
ขายของเถื่อน
ยังไม่รู้สึกผิดเท่าทิ้งเพื่อนเลยว่ะ

แม่งลางความรู้สึกกูไม่ค่อยดีเลยว่ะ

.
.
.
.
.
.
.
ใต้ต้นเฟื่องฟ้าหน้าตึก

เพื่อนกูทั้งหมดนั่งนั่งอยู่ละแวกนั้น

สงสัยแม่งรอกูอยู่อ่ะดิ
แหม...

พอกูไม่อยู่ล่ะทำยังกะคนจะตายเลยนะมึง

รับรองได้เห็นหน้ากูแม่งเริงร่าแน่

"ผัวะ ไอ้เหี้ยเหยินไม่มีคนคอยตบหัวมึงนี่ถึงกะจะตายเลยเหรอวะสัด" กูทักไอ้เหี้ยเหยินก่อนคนแรก

มันเหลือบตาขึ้นมามองแล้วก้มลงต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หรือว่ากูตบหัวแม่งเบาไปวะ

"ไอ้เหี้ยเหยินกูมาหาพวกมึงทั้งทีไม่ดีใจกันเหรอวะ" กูยังหวังว่าเพื่อนจะดีใจที่ไม่ได้เจอกูตั้งหลายวัน

แม่งยังจะทำหน้ามึนอีก

"เป็นเหี้ยไรกันนักหนาเนี่ย........พ่อใครตายห่าอีกวะ" กูยังเซ็งกับความไม่ดีใจของเพื่อนๆ

"เก่งมานี่เลย.........มีคนรออยู่" อีหวานรี่เข้ามาลากแขนกูขึ้นไปชั้นสาม....ห้องนอน

อีเหี้ยนี่คิดจะรวบหัวรวบหางกูรึป่าววะ

แหยงๆอยู่เหมือนกันนะนี่

อิอิ



.

.


"อ้าว.....เก่งมาแล้วเหรอ" เสียงมาสเตอร์ศุภชาติที่กำลังง่วนอยู่กับการทำบางอย่าง

ทักกูอย่างสีหน้าเย็นชา

เหมือนพยายามเก็บอาการบางอย่างเอาไว้

กูยังงงๆกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า

บอกตรงๆว่าเดาไม่ออกบอกไม่ถูกไม่รู้วาแม่งมีเรื่องเหี้ยไรอีกนักหนา

ใครช่วยบอกกูแบบตรงๆทีเหอะ

"เซอร์ทำไรอ่ะ" กูถามแกแบบงงๆ

"ก็เก็บของไง มองไม่เห็นเหรอ" แกพูดติดตลกพยายามฮา แต่รอยยิ้มแห้งๆมันขัดแย้งยังไงไม่รู้ว่ะ

กูก็ยังงงไม่หายได้แต่หันมองหน้าไอ้เพื่อนที่ยืนทำหน้าตูมอยู่ข้างๆ

กูก็ยังทำตัวไม่ถูกอยู่ดี

ได้แต่นั่งลงช่วยแกเอากระดาษกาวปิดปากกล่อง

.
.
.

.
"เซอร์ถามจิงๆ........มีเรื่องไรอ่ะ" ไม่ไหวว่ะฟีลนี้กูไม่ชอบเลยจิงๆ

"............" ไม่มีคำตอบใด นอกจากรอยยิ้มแห้งๆมุมปาก

แต่แววตานั้นดิ

โกหกกันไม่ได้เลย

.
.
.
.


"เฮ้ยมาสเซอร์......ถามดีๆ ทำไรเนี่ย" จากความงงและสับสน ชักกลายเป็นความฉุนเฉียว

กูเองก็ยังงงอยู่เหมือนกัน

ว่ากูจะโมโหของขึ้นทำส้นตีนอะไร

"เก่งบอกมาสเซอร์ทีว่าอย่าไปเลย......ช่วยกันขอร้องหน่อยนะ" ไอ้ชิ้นกับไอ้กระรอกจับแขนกูเขย่าดิกๆ

.
.
.

.
สิ้นคำนั้นทุกอย่างก็เหมือนจะกระจ่างขึ้นมา

อะไรวะแม่ง

อยู่ด้วยกันมาก็ตั้งนาน

คิดจะทิ้งหนีกันไปดื้อๆแบบนี้เลยเหรอวะ

จู่ๆขากรรไกรก็สั่นขึ้นมาซะงั้น

"จริงอย่างที่ไอ้ชิ้นบอกป่าวเซอร์" กูถามแบบไม่อยากได้คำตอบ

ได้แต่พยายามสบตาผู้ตอบคำถาม

ที่เจ้าตัวไม่ยอมสบตากูเลย


.
.
.
.
.

คนตอบเงียบ

เก็บของต่อหน้าตาเฉย

ทำเหมือนไม่ได้ยินที่กูถาม

.
.

.
"แม่งเป็นเหี้ยไรไปกันหมดเนี่ย" กูอยากจะฆ่าแม่งทิ้งให้หมด

ถามส้นตีนไรไม่อยากจะตอบ

ไม่รู้ปากอมเหี้ยไรกันอยู่
.

.


เหมือนเข็มนาฬิกาหยุดเดิน

ทุกอย่างนิ่งเงียบเหมือนไม่มีอะไรเคลื่อนไหว

ปล่อยให้แววตาทำหน้าที่สื่อสารกันอย่างเดียว

มันนาน...

..
.
.
.

นานจนเกินทน

นานจนเกือบจะรับไหว

"เอาไปอ่านเองแล้วกัน" มาสเตอร์ศุภชาติพูดพลางส่งซองที่มีตราโรงเรียนแดงๆให้กูถึงมือ

กูเองก็รับมาแต่ไม่อยากอ่าน

อยากให้เหมือนในละคร

อยากให้มีคนอ่านให้

.
..
.
แต่กูคงไม่มีทางให้เลือกอะไรมากมายขนาดนั้น

ตัวหนังสือที่สำรอกพิมมาในกระดาษกาลกินีใบนั้น

อ่านแล้วได้ความเหมือนจดหมายสั่งตาย

เหมือนฟอร์เวิร์ดเมลล์

..
.
.

เนื้อความส้นตีนมากมาย

บรรยายถึงการไร้ซึ่งความสามารถในการทำงานและการดูแลนักเรียนประจำ

การไม่รู้จักกระตือรือร้นเพื่อเตรียมรับการพัฒนาสู่งโรงเรียนดีเด่นระดับประเทศที่กำลังจะเกิดขึ้น

การตำหนิถึงความไม่เหมาะสมกับการเป็นหัวหน้าตึก

ตำหนิถึงความไม่มีมาตรฐานในการทำงาน

ระบุให้ย้ายไปเป็นครูสอนหนังสืออย่างเดียว

หน้าที่ควบคุมนักเรียนประจำให้ยกเลิกไป...

.
.
.
.
.

ปัญญาอ่อนชิบหาย

แม่งอย่าได้อ้างเหตุผลส้นตีนอะไรแบบนี้อีกเลยว่ะ

แต่ที่เหี้ยที่สุดคือประโยคสุดท้ายที่แม่งทิ้งเอาไว้ว่าให้พิจารณาตัวเอง

สัด

ทำยังกะซามูไรแพ้สงครามแล้วต้องมานั่งคว้านท้องตัวเอง

สถุนที่สุดอ่ะ

โลกปัจจุบัน

แต่ยังเสือกจะมีเรื่องส้นตีนๆอะไรแบบนี้อีก

"แค่เพราะกระดาษแผ่นเดียวเนี่ยนะ" กูกระพือกระดาษที่ถืออยู่ในมือ

แล้วถามคนที่กำลังนั่งเก็บของอยู่

ผิดหวังว่ะ

ทำไมคนที่กูคิดว่าเป็นตัวอย่างที่ดีกับกูมาตลอด

จะมายอมแพ้กับอีแค่กระดาษแผ่นเดียวไปได้วะ

ทำไมคนที่กูคิดว่าเป็นต้นไม้ใหญ่ที่กูแอบเอาไว้พักพิงเวลาพายุมา

หักโค่นลงง่ายๆแบบนี้วะ

"กลัวเงินเดือนลดเหรอ.........ง่ายไปหน่อยป่าววะเซอร์" กูโมโหจนพูดออกมาได้ทุกอย่างแบบไม่ต้องคิด

"หรือว่าได้งานอื่นที่ดีกว่า" เคืองว่ะ คนเราแม่งจะทิ้งกันไปดื้อๆ ไม่มีความผูกพันธ์ห่าไรรั้งเอาไว้มั่งเลยเหรอวะ

...
..
.


"มันไม่ใช่แค่กระดาษแผ่นเดียวนะไอ้เก่ง ถ้าเรื่องมันตื้นๆเหมือนที่สมองมึงคิดก็ดีสิวะ มันเป็นเรื่องศักดิ์ศรีเว้ย"

"จะให้กูอยู่อย่างไม่มีศักดิ์ศรี จะให้กูอยู่อย่างใช้ความคิดใช้สมองอย่างอิสระเสรีไม่ได้ กูก็ไม่ขออยู่ดีกว่า"

"มึงเองยังไม่ชอบให้คนมาบังคับเลย ไม่คิดว่าคนอื่นก็ต้องการแบบนั้นมั่งเหรอวะ"

"ซักวันเมื่อมึงโตพอ มึงจะรู้ เพราะยังมีอีกเยอะที่พวกมึงยังต้องเรียนรู้"

พรวดเดียวกับคำพูดระรัวที่กูตั้งหลักฟังแทบไม่ทัน

มันพรั่งพรูออกมาจากใจจริงๆว่ะ

จากความโมโหโกรธาที่ทำให้กูรู้สึกตัวใหญ่คับบ้านเมื่อครู่

ตอนนี้กูกลับรู้สึกตัวเล็กเหมือนมดแค่ตัวนึง

เหมือนกบเพิ่งหงายกะลาออกมาชมโลกภายนอก
.
.
.
.
.

อย่าให้กูได้พูดเลยว่ามันรู้สึกเหี้ยขนาดไหน

"เซอร์จะไปจริงเหรอ" กูไม่รู้จะใช้คำพูดไหนให้คนฟังรับรู้ถึงความรู้สึกได้ดีกว่านี้อีกแล้ว

ง่ายๆสั้นๆคำนี้กูคงทำได้ดีที่สุดเท่านี้แล้ว

"เก่ง.....เข้าใจกันหน่อยเหอะ ไม่ได้อยากทิ้งกันไปแบบนี้หรอก แต่มึงะทนได้มั้ยถ้าจะรั้งเอาไว้แล้วให้กูอยู่แบบไม่มีศักดิ์ศรี"

"เงินไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย คนอื่นไม่เข้าใจ แต่พวกมึงอย่ามาทำเป็นไม่เข้าใจกันหน่อยเลย" มาสเตอร์คนเดียวที่กูรัก ตัดหางกูปล่อยวัด

"เรื่องมันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ" กูยังพยายามรั้งเอาไว้

"มันคงถึงเวลาที่พวกมึงะต้องโตและแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองแล้ว อยู่ต่อน่ะอยู่ได้ แต่จะให้กูทนอยู่ที่นี่ต่อ แต่ทำอะไรเพื่อพวกมึงไม่ได้ ให้กูยืนมองแบบนี้มันไมทรมานกันไปหน่อยเหรอ" สิ้นคำถาม

สายตาที่คนถามมองมาที่กู

ทำให้รู้สึกเหมือนก้อนเลือดมาจุกอยู่ที่อกกู

พูดไม่ออกจริงๆว่ะ

"ขอบใจจริงๆนะที่พวกมึงเป็นมากกว่านักเรียน" น้ำเสียงคนพูดเปลี่ยนไป นัยตาเริ่มแดง

"ขอบคุนเหมือนกันครับที่เป็นมากกว่าแค่คนสอนหนังสือ" ไอ้แสบที่ยืนฟังอยู่พูดน้ำตาไหล

กูยังนั่งตัวชา

รับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น

"พรุ่งนี้ค่อยไปไม่ได้เหรอเซอร์ รับไม่ได้หว่ะแบบนี้" กู.......... อย่าให้พูดเลย


"จะไปตอนนี้ พรุ่งนี้หรืออีกเดือนนึงก็ต้องไปอยู่ดี"

"จำไว้จงเข้มแข็งเอาไว้นะเก่ง กูเชื่อว่ามึงทำได้" มาสเตอร์ตอบ

คำพูดทิ้งท้ายให้เก็บไว้ทรมานการนอนหลับ

ทิ้งท้ายไว้แบบนี้คืนนี้กูคงไม่ได้นอนอีกแล้ว

กูเบื่อที่ต้องรับผิดชอบ

กูเบื่อที่ต้องแกรัภาระอะไรนักหนานี่จริงๆเลยว่ะ

.
.
.
.
.
.
สิ้นการสนทนา

พวกกูก็ต้องจำใจพากันช่วยยกองลงมาข้างล่างอย่างไร้อารมณ์

อยากจะเดินให้ช้าที่สุด

อยากจะเดินถ่วงเวลาให้นานๆ

เพื่อยื้อเวลาสุดท้ายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

แต่เวลามันกลับหมุนไปเร็วกว่าที่คิด

ขบวนขนของที่ช่วยกันยกมาผ่านท่ามกลางสายตาเด็กนักเรียนคนอื่นๆ

ที่เงียบกริบ

เหมือนขบวนขนศพก็ไม่ปาน

ทุกสายตาจ้องมาที่กู

เหมือนกูเป็นฆาตกรฆ่าคนตายแบบนั้นแหละ

"เพราะไอ้เหี้ยนี่แท้ๆ" เสียงไอ้สัดหมาคนนึงพูดแทรกขึ้นมาด่ามาทางกู

สะอึกเลยกู

เดินขนของเฉยๆแท้ๆ

แต่กูกลับรู้สึกเหมือนโดนจับมัดมือใส่กรงแห่ไปกลางเมืองให้ชาวบ้านประชาชีขว้างปาข้าวของใส่

เหมือนกูเป็นตัวเหี้ยไรซักอย่างแบบนั้นแหละ

แต่นี่ต่างกันแค่มันขว้างปากูด้วยคำพูดเท่านั้นเอง

โดยปกติแล้วคนอย่างกู

ทำเหี้ยไรกูไม่สนอยู่แล้ว

ถ้ากูไปฆ่าคนตายแล้วจับกูเข้าคุก

กูคงไม่มานั่งร้องไห้อ้อนวอนตำรวจให้ปล่อยกูหรอก

กูจะยื่นหน้ารับด้วยความยินดี

ว่าไอ้เหี้ยนี่แหละสมควรตายแล้ว

ไม่งั้นกูจะฆ่าแม่งเหรอ

แต่อย่ามาโยนผิดในสิ่งที่กูไม่ได้ทำ

แม้แค่มดตัวเดียวกูก็จะไม่เอาแม่งไว้ให้เหม็นน้ำหน้า

แต่นี่....

ใครช่วยบอกกูทีเหอะ

ไม่ใช่กูโง่นะ

แต่กูเป็นต้นเหตุให้มาสเตอร์ศุภชาติต้องลาออกไปแบบนี้เหรอวะ

ความผิดนี้สาหัสจริงๆว่ะ
.
.
.
.
.
.
.
.
"ต้องไปจริงๆแล้วนะ" มาสเตอร์ศุภชาติพูด

อย่าให้กูบรรยายความรู้สึกเลย

จะให้กูพูดว่าไง

คำพูดมันมากมายจนกูไม่รู้จะพูดอันไหนก่อน

จนทำให้กูไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย

"พวกเอ็งดูแลตัวเองดีๆนะเว้ย ถ้ามีโอกาสคงได้เจอกันอีก" มาสเตอร์ศุภชาติเอามือวางบนไหล่กู

มันเหมือนจะทำให้รู้สึกดี

แต่แรงสัมผัสนั้นกลับทำให้กูทรมานเหมือนจะหมดแรงจนต้องล้มตัวลง

ยังกะเพลงวางมือบนบ่าน้ำตาก็ไหลของพันซ์ยังไงอย่างงั้น

จนกูต้องเผลอโผตัวเข้าไปกอดไว้

แปลกใจจริงๆว่ะ

คนที่รู้จักกันดีมาตั้งนาน

เจอกันมาตั้งนาน

แต่ไม่เคยได้กอดกันเลย

ดันโง่ปล่อยเวลามากอดกันเมื่อตอนที่ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสให้กอดกันอีกเมื่อไหร่

ถ้ากูรู้ว่ากอดกันแล้วรู้สึกดีแบบนี้

กูคงไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดมือไปโง่ๆแบบนี้

การกอดครั้งนี้คงอธิบายได้ดีกว่าคำพูดที่วกวนไปมาอยู่ในสมองกูทั้งหมด

"อย่าลืมกลับมาหาพวกผมบ้างนะคับ" ไอ้แสบส่งคำพูดสุดท้าย

"เออนี่....แล้วต่อไปนี้อย่าเรียกมาสเตอร์แล้วนะ ให้เรียกว่าพี่น้องละกัน" คำพูดสุดท้ายกับรอยยิ้มที่ทิ้งไว้

คงทำให้พวกกูลืมไม่ลง

(อย่างงมาสเตอร์ศุภชาติชื่อเล่นว่าน้อง)

แล้วรถโตโยต้าคราวน์สีเงาวับก็เคลื่อนตัวออกไป

ก็ดี



.

.
อย่าปล่อยให้การล่ำลาอันทรมานเยิ่นเย้อไปกว่านี้อีกเลย

ไอ้รถคนนี้คงอธิบายได้จริงๆว่าเงินไม่ใช่ตัวการสำคัญ

เงินไม่ได้ซื้อทุกอย่างเหมือนที่กูแกล้งเข้าใจ

พวกกูได้แต่มองตากับปริบๆ

เมื่อวานยังเสียวซ่านอยู่เลย

วันนี้มาริโอ้มาดูดควยให้กูยังไม่เงี่ยนเลย

.
.
.
.
"เอาไงดีวะ" กูงงเลย ไปต่อไม่เป็น

"ไปตั้งหลักร้านป้าดำเหอะ" ไอ้ถึกออกความเห็น

อือก็ดีเหมือนกันวะ

ถามกูกูก็ไม่รู้จะไปไหนเหมือนกันว่ะ

.
.
.
.
.
.

ทันทีที่ถึงร้านอีป้าแต่ยังไม่ทันจะหย่อนตูดลงนั่ง

"โลกจะแตกเหรอไงวะเนี่ย เจอแต่คนทำหน้าเป็นส้นตีนแบบนี้ กูอยากจะบ้าตาย" อีดำทำท่าจะอาละวาด

"เป็นเหี้ยไรอีกเนี่ย คนยิ่งเซ็งๆอยู่" กูบ่น

"อย่ามาปากหมากะกูนะ เดี๋ยวปาดคอแม่งทิ้งให้หมด ไอ้เด็กระยำ" อีดำของมันแรงกว่ากูอีก

"เป็นเหี้ยไรเนี่ย" กูถามแหยงๆ

อีนี่แม่งไม่เคยบ้าแบบนี้นี่หว่า

"มึงดูนี่" อีดำมันพูดจบก็ยัดซองตราแดงให้กูอ่าน

แบบเดียวกับที่กูอ่นเมื่อกี๊เด๊ะ

สัด

สงสัยโรงเรียนกูแม่งงบเยอะ

แม่งคงเพิ่งจ้างพิมพ์ซองเสร็จ

เลยเงี่ยนแจกชาวบ้านเค้าไปทั่ว

จดหมายได้ความว่า

เพื่อการพัฒนาและจัดการระบบโรงเรียนสู่ความเป็นสากล

ต่อไปนี้การซื้อขายในโรงเรียนจะไม่ใช้เงินสดโดยเด็ดขาด

ให้ใช้ชิพแทนเงินสด

ไปแลกได้ที่ส่วนอำนวยการ

มึงเอากะแม่งดิ


.
.
.
.

"ก็ให้แม่งแลกไปดิ จะโวยวายทำห่าไรเนี่ย" กูบ่นอีดำ

"มึงไม่ให้กูโวยวายได้ไง โรงเรียนแม่งหักร้อยละ30เป็นค่าบำรุงโรงเรียน แล้วกูจะเอากำไรที่ไหนแดก" อีดำบ่นหน้าตายังกะโดนขโมยผัว

"เออว่ะ เหี้ยแระเนี่ย" จะว่ามันงก

แต่ก็น่าเห็นใจมันอยู่นะ

ตอนนี้ในใจกูมีแต่เรื่องชวนให้ปวดหัววะ

"กูละชังน้ำหน้าไอ้เหี้ยบบราเดอร์คนใหม่จิงๆว่ะ น่าเอาตีนยันหน้าแม่งจริงๆ" อีดำของขึ้นสุดๆ

"เออจิงด้วยว่ะ นี่แม่งก็เพิ่งกดดันมาสเตอร์ศุภชาติจนลาออกกูเพิ่งไปส่งมาเมื่อกี๊เนี้ยะ" กูเล่า

"อ้าวเหรอ อะไรวะ ไอ้เหี้ยถั่วมันเล่นกันขนาดนั้นเลยเหรอวะ" อีดำอุทาน

"ก็เออดิ....แม่งน่า...จิงๆ" กูเห็นด้วย

"นี่ไหนๆเจ้าตัวไม่อยู่แล้วกูมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง" อีดำจั่วหัวข้อให้กูลุ้นเยี่ยวเหนียวอีกแล้ว

"เหี้ยไรอีกเนี่ย" คือกูแบบว่ารับเรื่องเหี้ยไรหนักๆไม่ไหวอีแล้วอ่ะ

"พวกมึงเรียนๆเนี่ยรู้กันรึป่าวว่าไอ้น้องน่ะมันศิษย์เก่าที่นี่"

"เป็นรุ่นพี่พวกมึงหลายไปอยู่ มันก็มีกลุ่มเพื่อนๆเหมือนๆพวกมึงนี่แหละ"

"พอจบแยกย้ายกันไป คำสัญญากับเพื่อนสนิทที่จู่ๆก็หายไปไม่ติดต่อกันเลย"

"ทำให้มันมีห่วง จนต้องมาสอนหนังสืออยู่ที่นี่ เพื่อรอที่จะเจอไอ้เพื่อนคนนั้นที่หายไป"

"รอโดยหวังว่าจะได้กลับมาเจอกันซักวันที่นี่" อีดำเล่าด้วยสีหน้าซาบซึ้งอย่างที่สุด

แต่พวกกูกลับรู้สึกสึกไปกว่านั้น

รู้สึกผิดว่ะ

เป็นกูคงรู้สึกแย่..

แย่สุดๆว่ะ

ถ้าหากจะต้องทิ้งความฝันที่เฝ้ารอมาตั้งนาน

คงต้องใช้ความกล้าในการตัดใจได้แบบนั้น

กูไม่น่าไปโกรธว่าทิ้งกูไปแบบนั้นเลย

ยังมีอีกเยอะจริงๆที่กูยังไม่รู้

สัด
.
.
.
.
.
.
เรื่องเหี้ยๆของคนเลวๆอย่างกูแท้ๆ

ไหงมีสคริปท์น้ำเน่าเกาหลีแบบนี้วะ

สัดห่า

กูพยายามเลี่ยงบทรักน้ำเน่าเล่าสามรอบเหมือนละครช่องสามที่สุด

แต่เรื่องจริงแม่งก็เสือกหนีไม่พ้นนิยายน้ำเน่าจริงๆว่ะ








Create Date : 26 มกราคม 2553
Last Update : 26 มกราคม 2553 1:10:18 น. 6 comments
Counter : 878 Pageviews.

 
เศร้าอ่ะ


โดย: ป้าแก่ๆ IP: 222.123.185.44 วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:3:07:00 น.  

 
เล่าได้ดีจัง

สำนวนซินเซียร์มาก

หาอ่านได้ยาก


โดย: Dingtech วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:8:32:22 น.  

 
ขอบคุณคร๊าฟ ที่มาลงให้ได้ติดตามต่อ รอนานอยู่ จะเป็นกะลังใจให้นะคั๊ฟเฮียเก่ง(เฮ้อ..รู้สึกเศร้าอ่ะแต่ไม่เท่าตอนที่บิดมันตาย)


โดย: chattiwut IP: 203.80.56.110 วันที่: 27 มกราคม 2553 เวลา:9:53:24 น.  

 
อ่านแล้วคิดถึงจารย์ที่ รร เก่าเลย


โดย: khongbeng IP: 119.31.126.141 วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:19:59:36 น.  

 
เศร้าจัง


โดย: wutskabirds IP: 203.144.144.164 วันที่: 30 มกราคม 2553 เวลา:21:49:13 น.  

 
เชี้ยจิงๆ


โดย: maximum IP: 113.53.56.214 วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:2:48:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สันดานเสีย
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




ถึงสันดานกูจะเสียแต่รักจิงนะเว้ย..
Friends' blogs
[Add สันดานเสีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.