จิบชาชมดอกไม้ไปพลาง คุยกันเบาๆ ที่สวน..เจ้าแก้ว กังไส





Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
9 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 

Odd Girl Out ร้าย..แบบเด็กผู้หญิง By Rachel Simmons



Odd Girl Out ร้าย..แบบเด็กผู้หญิง
By Rachel Simmons
แปลโดย ศิริพร เท้น
คำนิยมโดย ป็อป อารียา สิริโสดา
แนว จิตวิทยา



“วัฒนธรรมร้ายลึกที่ซ่อนเร้น ในฉากหน้าของความใสซื่อ”
คือคำโปรยบนหน้าปกหนังสือเล่มนี้ค่ะ หน้าปกเป็นรูปเด็กหญิง
หน้าตาน่ารักคล้ายๆ หนูเฮอร์ไมโอนี่เลยค่ะ ส่วนหลังปกเป็น
เด็กหญิงอีกคนที่กำลังท้าวสะเอวด้วยสีหน้าไม่พอใจ
เจ้าแก้วอ่านรีวิวในบล็อกของคุณฝนตกแดดออกที่รีวิวเอาไว้
เมื่อนานมาแล้ว คลิ๊กไปอ่านที่นี่ค่ะบล็อคคุณฝนตกแดดออก


ก็เลยสนใจไปหาซื้อไว้(ดอง)ในครอบครอง ตามประสา
คนชอบซื้อไว้หมักก่อนพอหนังสือเริ่มเค็มได้ที่ค่อยเอา
ออกมาอ่านทีหลัง เจ้าแก้วใช้เวลาอ่านนานพอควร
เพราะว่าไม่ได้อ่านรวดเดียวต้องค่อยๆ อ่านแล้วคิด
ตามไปด้วย อีกทั้งหนังสือเล่มนี้สร้างความสลดใจ
ได้พอสมควร กับกรณีตัวอย่างที่ผู้เขียนรวบรวม
มาไว้ในหนังสือ Rachel Simmons ผู้เขียนทำวิจัย
เกี่ยวกับการทำร้ายกันของเพศหญิง และจิตวิทยา
เด็กหญิง ของ Oxford U.จึงเดินทางเก็บข้อมูล
ทั่วประเทศ พบเด็กหญิงที่เป็นทั้งเหยื่อ ทั้งผู้กระทำ
ผู้ปกครองของเด็กทั้งสองฝ่าย ตลอดไปถึงครู อาจารย์
ของเด็กเหล่านั้น เพื่อทราบเรื่องราว และความรู้สึก
นึกคิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น Rachel Simmons ใช้กรณีตัวอย่าง
จากเด็กหญิงหลายร้อยคนจากทั่วประเทศ ทำให้สามารถ
วิเคราะห์ถึงสาเหตุ พฤติกรรม ปัญหา และแนะนำการ
แก้ปัญหาเอาไว้ด้วยอย่างเสร็จสรรพ


บางกรณีอ่านแล้วก็สะเทือนใจไปด้วย บางกรณีอ่านแล้ว
ก็เออนะเราก็เคยเจอแบบนี้ หรือบางกรณีก็เข้าใจแล้ว
ว่าทำไมเป็นแบบนี้ ถ้าหากใครว่าผู้ชายมีความเป็นเด็ก
ในตัวสูงไปแม้ว่าจะผู้ใหญ่แล้วก็ตาม ผู้หญิงเองไม่ต่างกันค่ะ
พฤติกรรมร้ายๆ เมื่อสมัยเด็กมันยังถูกซ่อนอยู่ในตัวผู้หญิง
เพียงแต่วัยวุฒิจะช่วยซ่อนความร้ายกาจนั้นไว้ให้แสดงออก
อย่างแนบเนียนยิ่งขึ้นเท่านั้นเอง


Rachel Simmons เขียนหนังสือเล่มนี้ในลักษณะของ
บันทึกให้อ่านได้ง่าย ไม่ได้บ้าวิชาการ หรือยกศัพท์เฉพาะ
แวดวงมาให้ผู้อ่านงงเล่น เพื่อโอ้อวดความรู้ของตัวเอง
แต่จุดประสงค์ในการเขียนเล่มนี้ เพื่อจะให้โลกรู้จัก
ความร้ายของเด็กผู้หญิงมากขึ้น เพื่อที่ว่าพ่อแม่และ
สังคมจะไม่มองข้ามภาพลวงของคำว่า “เด็กๆ ทะเลาะกัน
เดี๋ยวก็ดีกันเองน่า”
เมื่อเด็กหญิงทะเลาะกัน มักจะไม่
แสดงความก้าวร้าวรุนแรงออกมาเท่าเด็กผู้ชาย พวกเธอ
จะไม่ยกพวกตีกันตรงๆ หรือท้าต่อยกันตัวต่อตัว แต่
พวกเธอจะใช้พฤติกรรมที่เจ้าแก้วขอเรียกว่า “หมาหมู่”
(ในเล่มไม่มีคำว่าหมาหมู่นะคะ เป็นความเห็นส่วนตัว
ของเจ้าแก้วเอง)


หมาหมู่นี้ก็ไม่ต่างกับการที่เด็กผู้ชายยกพวกไปตีใคร
สักคนที่มีจำนวนน้อยกว่า เพียงแต่การตีของพวกเธอนั้น
ไม่ได้มุ่งเน้นการทำร้ายร่างกายออกมาให้เห็นได้ชัด
แต่มาในรูปแบบของการทำร้ายจิตใจ มันดูเล็กน้อย
แต่น่ารำคาญพอๆ กับที่ผู้อ่านจะรู้สึกว่าพวกหล่อนช่าง
ปัญญาอ่อนเสียจริง แต่เด็กที่เป็นเหยื่อก็ไม่สามารถ
ปัดให้พ้นตัวได้ เพราะยังอยู่ในสังคมปิดอย่างสังคม
โรงเรียน สังคมที่ต้องเจอกันทุกวัน ยากจะหาทางหลีกเลี่ยง
หรือเปลี่ยนกลุ่มเพื่อนใหม่ ความรู้สึกนี้คงจะเหมือนถูก
มดแดงซักฝูงรุมกัด มันจะไม่ทำให้คุณตายแต่จะทำให้
คุณเป็นผื่นขึ้นยึ่บยับไปทั้งตัว และยังแสบๆ คันๆปวดตุ้บๆ
ไปกับแผลเล็กๆ แต่มีจำนวนมาก และมดพวกนั้น
ยังมาเซ้าซี้ไม่เลิกราเหมือนคุณเป็นน้ำตาลกรวดก้อนโต
ที่รอให้แทะอย่างไรอย่างนั้นเลยค่ะ


วิธีการหมาหมู่...หรือยุทธการฝูงมดแทะนั้น Rachel Simmons
ยกตัวอย่างมาหลายรูปแบบค่ะ ซึ่งเจ้าแก้วอาจจะจำไม่ได้
ทั้งหมด ใครอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมก็ไปหาอ่านกันเอง
นะคะ วิธีที่ว่านี่น่าแปลกใจอยู่อย่าง มันทำให้รู้สึกว่า
ผู้หญิงทั้งโลกช่างไม่แตกต่างกันเสียเลย พวกเธอล้วนเป็น
มดตัวเมียก้นป่องที่รอตอมน้ำตาลเหมือนเป็นเหยื่ออันโอชะ
เลยค่ะ


ขั้นที่ 1 หาพวก

วิธีสากลเรียกว่า “นินทา” การนินทานั้นมีอันดับ
ขั้นตอนของมัน เด็กผู้หญิงที่เป็นต้นขั้วมักจะหาเหตุมา
อ้างว่าต้องการปรับทุกข์ ในสิ่งที่ตนไม่ชอบเด็กหญิงอีกคน
แต่ถ้าให้พูดตรงๆ ก็คือ “จิ้งจอกหางด้วนที่กำลังหาพวก”
นั่นแหละค่ะ แม่หมาหางด้วนพวกนี้อาจจะไม่ชอบคุณ
เพราะการแต่งตัวเท่านั้นเอง ไม่ได้มีสาเหตุอื่นใด หาก
เป็นเด็กประถมมันคือการไม่ชอบอย่างตรงไปตรงมา
ซึ่งเจ้าแก้วยังเห็นว่าร้ายอย่างใสซื่อ


การล็อบบี้พวกนี้จะจบลงด้วยคำว่า “เธอก็คิดอย่างนั้น
ด้วยไหม?
” เมื่ออีกฝ่ายเห็นด้วย การนินทาก็ขยายวงออกไป
จนกลายเป็นชมรมหรือสโมสรเลยก็ว่าได้ เมื่อสมาชิกของ
จิ้งจอกหางด้วนเพิ่มขึ้น เด็กที่เป็นเหยื่อยังไม่รู้ตนเอง
เลยด้วยซ้ำ ว่าได้กลายเป็นอาหารอันโอชะไปแล้ว


ขั้นที่ 2 เชือดเฉือนด้วยสายตา

หลังจากสมาคมจิ้งจอกหางด้วนถูกสถาปนาขึ้น
อย่างเป็นทางการ และมีสมาชิกเกิน 3 คนหรืออาจจะ
มากกว่านั้น จะทำให้ขวัญและกำลังใจของแม่พวกหางด้วน
เพิ่มขึ้น การดำเนินการขั้นที่สองจึงตามมา จากนั้นการ
ทำร้ายกันขั้นแบเบาะเพื่อเป็นการเตือน ว่าเธอไม่ควรทำตัว
โดดเด่นหรือแหกกฎพวกที่อยู่มาก่อน


วิธีนี้ง่ายดายมากเลยค่ะ ก็แค่ส่งสายตาไม่พอใจ มองดู
อีกฝ่ายหัวจรดเท้าหรือแกล้งมองเมินไม่สนใจ สายตาของ
พวกผู้หญิงนั้นมีพลังสะกดใจเหมือนสายตาของแม่มดเลยค่ะ
จะทำให้เหยื่อรู้สึกกังวลใจ...เอ๋? นี่ฉันทำอะไรผิดไปหนอ?
แต่เมื่อไปถามเหยื่อจะได้รับคำตอบว่า “เปล่านี่?” แต่ยังแสดง
กิริยาหมางเมินเย็นชาเหมือนเดิม ทั้งนี่เพื่อจะให้เหยื่อสำนึก
ได้เอง ว่าได้ล่วงเกินหรือละเมิดกฎหมู่อะไรไป การล่วงละเมิด
นั้นบางครั้งเหยื่อก็ไม่เห็นว่าตูจะทำผิดอะไร เช่น ไม่แต่งตัว
ตามเทรนด์ หรือเผลอไปวิจารณ์กิ๊บติดผมอันใหม่ของใคร
ในทางลบเข้าเท่านั้นเองค่ะ


ขั้นที่ 3 ลอยแพเหยื่อซะ!

ทำให้เหยื่อกลายเป็นธาตุอากาศในสังคมที่คุณอยู่
โดดเดี่ยวเจ้าหล่อนให้หัวเดียวกระเทียมลีบ หลังจากที่
ล็อบบี้ใครต่อใครให้เห็นดีเห็นงามในการรังแกคนได้แล้ว
สมาชิกสมาคมหางด้วนก็จะพร้อมใจกันปฏิบัติกับ
เหยื่อตามมติสมาคม อย่างพร้อมเพรียงและเป็นอันหนึ่ง
อันเดียวกันอย่างเคร่งครัด


ถึงขั้นนี้เหยื่อจะจิตตกชนิดรุนแรง คุณลองนึกสภาพดูสิคะ
เมื่อเช้าวันใหม่มาถึงแล้วคุณไปโรงเรียนตามปกติ แต่ใน
ความสงบที่เหมือนจะไม่มีอะไรผิดปกตินั้น อยู่ๆ ผู้หญิง
ทุกคนในห้อง หรือกลุ่มประจำที่คุณเคยร่วมสังสรรค์ด้วย
พร้อมใจกันไม่พูดกับคุณ เท่านั้นไม่พอพวกหล่อนทำเหมือน
มองไม่เห็นคุณอีกต่างหาก แบบนี้ไม่จิตตกให้มันรู้ไป


ขั้นที่ 4 ทำให้เหยื่อรู้สึกว่าตัวเองโง่!

เมื่อเหยื่อจิตตกแล้ว ความสนุกชักเลยเถิด
หรือไม่ประธานสมาคมหางด้วน อาจจะยังไม่พอใจ
ที่เหยื่อไม่ได้มากราบกรานขอโทษขอโพย หรือถึงแม้
เหยื่อพยายามจะเจรจาแล้ว แต่ไม่เป็นผลเหตุผลอันใด
ก็มาง้างมติที่ผ่าน ครม.ไปแล้วไม่ได้ เด็กผู้หญิงบางคน
ในหนังสือเล่มนี้ลงทุนต่อโทรศัพท์ไปคุยกับแม่ตัวต้นเหตุ
แล้วถามว่า “ฉันทำอะไรให้เธอไม่พอใจหรือเปล่า? ฉัน
ขอโทษนะ”
แม่ตัวดีก็จะทำตัวเป็นนางเอกตอบกลับมา
ว่า “ไม่มีอะไรนี่...เธอคิดมากไปเองหรือเปล่า?” และคุยกับ
คุณอย่าง OK แต่พอเช้าวันใหม่มาถึง ทุกอย่างกลับไปเป็น
เหมือนเดิมไม่มีอะไรดีขึ้น เผลอๆ จะแย่ลงด้วยซ้ำ เมื่อเจ้า
หล่อนฝูงนั้นหันมาส่งสายตาว่าคุณนี้ช่างโง่เขลาหลงกล
เข้าเต็มๆ จิตที่ตกอยู่แล้วของเหยื่อก็จะดิ่งวูบลงไปอีก


ขั้นที่ 5 รุมรังแก

ขั้นนี้ถือว่าเป็นขั้นเอนจอยของสมาคมหางด้วนเลยล่ะค่ะ
เมื่อทุกๆ คนๆ เดินผ่านเหยื่อ ก็จะสบถโค้ดลับที่ฟังดู
ไม่หยาบคายออกมา แต่เป็นอันรู้กันในกลุ่มว่านี่คือคำด่า
เช่น “นังบวบ” (คำนี้ไม่มีในหนังสือนะคะแค่ยกตัวอย่าง)
คำนี้อาจต้องสงสัยว่ามันเจ็บตรงไหน ไม่เจ็บค่ะถ้าไม่บวก
ด้วยเจตนา และการแสดงท่าทางประกอบ เป็นต้นว่า
จิกหางตา มองดูเหยื่อด้วยสายตาดูแคลนตั้งแต่ศีรษะจรด
ปลายเท้า แล้วบีบจมูกตนเองเหมือนเจอกลิ่นเหม็นอย่าง
รุนแรง จากนั้นก็ห่อปากเป็นวงกลมแล้วอุทานด้วยเสียงที่
บีบจนแอ๊บแบ้วได้ที่แล้ว เมื่อเดินผ่านเหยื่อในระยะกระชั้นชิด
ว่า “นังบวบ...” คิดดูสิคะว่าเจ็บไหมคะ?


เหยื่อบางคนในหนังสือเล่มนี้โดนเพื่อนทั้งระดับชั้นรุมกระทำ
แบบนี้ในยามที่ครูที่ปรึกษาเผลอ และที่หนักข้อไปกว่านั้น
คือการทำให้เจ็บตัวซึ่งจะเป็นขั้นต่อมา


ขั้นที่ 6 ทำให้เหยื่อตายทั้งเป็นซะ!

ถ้าทำขั้นที่ 5 แล้วยังไม่สะใจ เหยื่อยังหน้าด้านลอยหน้า
ลอยตาอยู่ ไม่ยอมย้ายโรงเรียนไปเสียที ขั้นที่ 6 ก็จะ
ตามมาค่ะ ขั้นนี้มันรุนแรงและร้ายกาจจนคนอ่าน
รู้สึกอยากจิกหัวเด็กทั้งระดับชั้นที่รุมรังแกเด็กคนเดียว
มาตบเรียงตัวเลยค่ะ! (อุ๊ย! เผลอออกมารเสียแล้วเรา )
หลังจากรุมว่าแดกด้วยโค้ดลับจนประสาทเสียไปแล้ว
ก็จะเริ่มทำให้เจ็บตัวกันแล้วค่ะ ทุกๆ ครั้งที่เหยื่อจะนั่งลง
อาจมีใครสักคนแอบดึงเก้าอี้ทำให้เหยื่อล้มก้มจ้ำเป้าไป
แล้วทุกคนก็รุมหัวเราะ หรือเมื่อเหยื่อลุกขึ้นจากโต๊ะ
จะเดินไปข้างหน้าอาจจะมีใครบางคนยื่นขามาขัดให้ล้ม
รวมไปถึงแกล้งเดินชนที่ระเบียงทางเดินอีกด้วย


ถ้าโดนแบบนี้ทั้งวัน ทุกวัน เด็กที่เป็นเหยื่อนอกจากจะหมด
ความมั่นใจในตนเอง แล้วยังเข้าใจว่าตนเองเป็นฝ่ายผิด
อีกด้วยเนื่องจากจำนวนคนรุมรังแกเยอะกว่า เหยื่อจะ
คิดว่าทุกๆ คนคิดเหมือนกัน แสดงว่าเธอผิดเธอไม่ดีจริงๆ
สมควรแล้วที่จะถูกรังแก และขั้นรุนแรงที่สุดเด็กที่เป็นเหยื่อ
อาจจะทนไม่ไหวแล้วฆ่าตัวตาย เป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากๆ


แค่อ่านเจ้าแก้วยังรู้สึกคลื่นไส้...หรืออาจจะอินมากไปก็ได้ค่ะ
ที่บางครั้งเหยื่อแค่พยายามปกป้องตัวเอง ด้วยการบอก
ผู้ปกครอง หรือครูประจำชั้น แต่เมื่อหัวเดียวกระเทียมลีบ
หรือต้นเหตุมันเล็กน้อย เกินกว่าจะเอาเป็นเหตุผลที่ทำให้
เกิดการแกล้งกันอย่างรุนแรงได้ ก็ไม่อาจทำให้ผู้ใหญ่เชื่อ
และดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อแก้ปัญหาให้เด็ดขาด
เต็มที่ก็คือเรียกสมาคมหางด้วนมาพูดคุย แต่ด้วยความที่
มีจำนวนมากกว่าเด็กหางด้วนเหล่านี้จะช่วยกันปกป้องตนเอง
และหลายคนมีภาพลักษณ์ที่ดี มีผลการเรียนยอดเยี่ยมยิ่งทำ
ให้ไม่น่าเชื่อว่าเธอเหล่านี้ร้ายกาจ


ไปๆ มาผู้กระทำก็โยนความผิดนั้นให้เหยื่อเสียอย่างนั้นแหละ
แล้วกลายเป็นว่านี่เป็นเรื่องธรรมดา แต่เหยื่อโวยวายไปเอง
ซึ่งยากที่พ่อแม่หรือครูจะมองเห็นถ้าไม่เปิดใจฟัง เพราะ
ปัญหาของเด็กผู้หญิงนั้นละเอียดอ่อนซับซ้อน และมักจะ
เกิดขึ้นจากความไม่พอใจเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ประสบการณ์
เลวร้ายเหล่านี้ สร้างแผลเป็นในใจให้กับเหยื่อมาก ยิ่งถ้า
เหยื่อเหล่านั้นมีอายุน้อยเท่าไร ยิ่งมีปัญหาต่อการพัฒนา
บุคลิกภาพในอนาคตทีเดียวค่ะ อีกทั้งเนิ่นนานกว่าบาดแผล
จะจางลง


เจ้าแก้วมีประสบการณ์ร่วมบางกรณีเช่นกันค่ะ และคิดว่า
ไม่มีเด็กผู้หญิงคนไหน จะพลาดการถูกกระทบกระทั่ง
ด้วยวิธีร้ายแบบเด็กผู้หญิงอย่างแน่นอน ขึ้นอยู่กับว่า
ใครจะโดนมากโดนน้อยเท่านั้นล่ะค่ะ ใครไม่โดนเลย
สงสัยว่าไม่เคยอยู่ในสังคมที่มีผู้หญิงแน่ๆ เลยค่ะ
เพียงแต่เจ้าแก้วแก้ปัญหาได้ดีกว่าเด็กที่เป็นกรณีตัวอย่าง
แต่กระนั้นก็ทำให้เรียนรู้เรื่องปากไม่ตรงกับใจของเด็กผู้หญิง
พอได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วรู้สึกเคลียร์ และเข้าใจสาเหตุ
ของประสบการณ์ที่เคยพบเจอขึ้นมาทันที ประหนึ่งว่า
อ้อ! มันเป็นเช่นฉนี้นี่เองบรรลุแล้วค่ะ


ที่ยกตัวอย่างมานี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งในจำนวนหลากหลาย
ประเด็นที่เจ้าแก้วรวบรวมมาเท่านั้นนะคะ ในหนังสือ
เขาไม่ได้แบ่งเป็นขั้นตอนแบบนี้หรอกค่ะ แค่ยกตัวอย่าง
มาเท่านั้น ภายในเป็นประสบการณ์เคสตัวอย่างมากกว่าค่ะ
แต่ทุกเคสมีจุดร่วมเป็นขั้นตอนแบบที่เจ้าแก้วเขียนเรียง
เอาไว้ค่ะ นอกจากวิธีการรังแกแล้ว ยังมีสภาพจิตใจ
ของเหยื่อ สภาพจิตใจของผู้กระทำ รวมไปถึงหัวอก
ผู้ปกครอง และครู อาจารย์ อีกด้วยค่ะ


รวมถึงเสนอวิธีการแก้ปัญหาอย่างชาญฉลาด เป็นวิธี
แก้ปัญหาง่ายๆที่เด็กผู้หญิงไม่กล้าทำ เพราะกลัวเสีย
ความสัมพันธ์ระหว่างกัน นั่นคือเคลียร์ให้รู้เรื่องรู้ราว
อย่าเก็บสะสมความไม่พอใจเอาไว้ แล้วรอวันระเบิด
ทีเดียว แต่เธอเหล่านั้นมักไม่กล้าบอกเพื่อนเพราะกลัว
โดนโกรธก็เลยทนๆ กันไปจนถึงจุดที่ทนไม่ได้ก็จะแปร
สภาพออกมาน่ากลัว บางครั้งเรื่องส่วนตัวของคนสองคน
แต่ลามออกไปถึงเพื่อนทั้งกลุ่มราวกับเป็นไวรัสเลยล่ะค่ะ


เด็กผู้หญิงเป็นเพศที่ความซับซ้อนกว่ามองเห็น
ภายนอกมากค่ะ แต่บางเรื่องก็ตื้นจนไม่น่าเอามาเป็น
ประเด็นไม่พอใจกันได้รวมถึงเด็กผู้หญิงนั้นมีความกลัว
การโดดเดี่ยวสูง บางครั้งที่เธอร่วมมือกับเพื่อนเพื่อแกล้ง
คนอื่น เพียงเพราะถ้าไม่ทำก็กลัวเพื่อนโกรธ หรือกลัว
ตกเทรนด์เพราะใครๆ ก็ทำ ไม่ก็...เห็นคนอื่นทำแล้วสนุกดี
ตัวเองเลยเอาด้วยทั้งๆ ที่ไม่ได้โกรธแค้นอะไรกับเหยื่อ
หรอกค่ะ มันเป็นเพียงการละเล่นในด้านมืดของเด็ก
ผู้หญิงที่เรียกว่า “รังแกหมาหัวเน่า” เท่านั้น


หากย้อนถามว่าทำไมไม่มีใครช่วยเหยื่อ ก็บางที
หัวโจกนั้นมีอิทธิพลกับเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ เป็นต้นว่า
เธอเป็นเด็กป็อบของโรงเรียน ความน่าเชื่อถือของ
เธออยู่ที่ความเด่นมากกว่าเหตุผลค่ะ สิ่งที่เด็กผู้หญิง
ต้องการบางทีอ่านแล้วก็ปัญญาอ่อนๆ เหมือนกันนะคะ
แต่เหล่านี้เกิดขึ้นจริงโดยไม่ต้องใช้เหตุผลมาเป็นองค์
ประกอบใดๆ ลองอ่าน Odd Girl Out ดูสิคะแล้วคุณ
จะรู้ว่าเด็กผู้หญิงทุกคนมีแม่มดซ่อนอยู่ในตนเองกันทั้งนั้น!


Odd Girl Out ร้าย..แบบเด็กผู้หญิง จึงถือเป็นคู่มือ
เด็กผู้หญิงชั้นดีที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรอ่านเป็นอย่างยิ่ง
และถึงเพื่อนผู้เข้ามาอ่านบล็อกนี้ยังไม่ได้เป็นพ่อแม่
ใครก็ตาม แต่หนังสือเล่มนี้อาจจะทำให้คุณแก้ปัญหา
ให้พี่สาว น้องสาว หรือแม้กระทั่งตัวคุณเองก็ได้
ปัญหาทั้งมวลหากรู้และเข้าใจสาเหตุก็จะแก้ได้ค่ะ
และแก้ได้อย่างเด็ดขาดถาวรอีกด้วย


อนึ่งถึงแม้คุณจะโชคดีอยู่ในสังคมที่ดีไม่เคยโดนการ
กลั่นแกล้งแบบเด็กผู้หญิงเลยก็ตาม แต่ก็ไม่ใช่ว่า
เรื่องแบบนี้ไม่มีในโลก อ่านเถอะค่ะมันไม่ห่างไกล
ตัวคุณหรอก


และสุดท้าย...สำหรับนักเขียนนี่เป็นโอกาสดีที่คุณ
จะได้คู่มือสำหรับเรียนรู้พื้นฐานของตัวอิจฉาแล้วค่ะ!








 

Create Date : 09 กรกฎาคม 2551
9 comments
Last Update : 9 กรกฎาคม 2551 6:10:05 น.
Counter : 3173 Pageviews.

 

อยู่ในสังคมนี่ ลำบากเหมือนกันเนอะ - -''

 

โดย: เคียว IP: 128.86.158.253 9 กรกฎาคม 2551 5:47:37 น.  

 

เอ่อ เจ้าแก้วคะ เรียนโรงเรียนหญิงล้วน แต่ไม่เคยโดนไอ้วิธีร้ายแบบเด็กผู้หญิงอ่ะ

แต่กำลังสงสัย...

อย่างข้าพเจ้า สงสัยจะโดนแล้วไม่รู้สึกตัวแน่ๆเลย เหอๆ - -"

ป.ล. มีคนบอกมาว่า แกมันเด็กผู้ชาย ไม่ใช่เด็กผู้หญิง กรี๊ดดดดด T-T

 

โดย: piccy IP: 124.120.236.148 9 กรกฎาคม 2551 8:17:18 น.  

 

ไม่ได้เรียน รร. หญิงล้วน แต่เจอเพื่อนหลายแบบ ทั้งฝ่ายที่เป็นเหยื่อและฝ่ายรังแก

 

โดย: แพนด้ามหาภัย 9 กรกฎาคม 2551 10:42:45 น.  

 

ไม่เคยมีประสบการ์ณอ่ะ
ไม่ชอบฟังเรื่องนินทา + รำคาญ

ส่วนมากอยู่คนเดียวอยู่แล้วด้วยมั่ง จะเอาเราเป็นพวกคงไม่รู้จะเอาไปทำไม

อ่านแล้วดีใจนะว่าไม่เคยรุมแกล้งใครแบบนี้อ่ะ

อ่านแล้วจะอ้วก ขยะแขยงวิธีคิดแบบนี้

 

โดย: moji IP: 58.9.33.200 11 กรกฎาคม 2551 15:52:55 น.  

 

ถ้ามีเวลา อยากให้แวะมาที่บล๊อกร้านหนังสือมือสองของเรามั่งจ้า มีหนังสือนิยายต่างประเทศเยอะมากๆจ้า ที่สำคัญเราขายหนังสือนิยายปกแข็งถูกมากๆ

ร้านเค้าอยู่ที่ชั้น 3 โซนดีเดย์มาเก็ตของห้างเสรีเซ็นเตอร์ค่ะ หนังสือดีๆเยอะมาก

ส่งต่างจังหวัดด้วยค่ะ สนใจติดต่อที่เว็บได้จ้า

 

โดย: หนังสือมือสอง (AngelTomorrow ) 13 กรกฎาคม 2551 5:56:52 น.  

 

เคียว -ถ้าทุกคนในสังคมเป็นตัวของตัวเองไม่ใช่คนประเภทพวกมากลากไป และเป็นคนมีเหตุผล ก็จะไม่มีปัญหาหรอกค่ะ ไม่เกี่ยวกับอายุ ดูในหนังสือสิคะอายุนิดเดียวก่อเรื่องฆ่าคนอื่นให้ตายทั้งเป็นได้ ถ้าคนรอบข้างไม่ดัดนิสัยเสียตั้งแต่เนิ่นๆ โตขึ้นจะร้ายกาจขนาดไหนกัน

piccy -คุณเป็นคนโชคดีค่ะ อยู่ในสังคมที่ดี คนแวดล้อมเป็นคนมีเหตุผล จึงไม่มีประสบการณ์แย่ๆ แบบในหนังสือ

แพนด้ามหาภัย - นี่แหละค่ะสังคม น่าเบื่อเนอะ

moji - เห็นด้วยค่ะ อ่านแล้วเครียดตามเลย

AngelTomorrow ว่างๆ จะแวะไปนะคะ อยู่ใกล้บ้านพอดีเลย

 

โดย: แก้วกังไส 14 กรกฎาคม 2551 0:05:40 น.  

 

ไม่เคยอยู่รร.หญิงล้วน แต่นิสัยหญิง ๆ เนี่ย มันน่ารังเกียจจริง ๆ

 

โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ 14 กรกฎาคม 2551 10:10:39 น.  

 

น่าไปหาซื้อมาอ่านจังค่ะ รู้สึกว่าตัวเองอาจกำลังเจอปัญหาแบบนั้นอยู่...เพียงแต่ ไม่ค่อยจะใส่ใจสักเท่าไรแล้วมั้ง ถ้าสนมาก ๆ ไอซ์ต้องเป็นโรคประสาทตายแหงเลย
ปล.คิดถึงพี่จังค่ะ ไม่ค่อยได้คุยกันเลย

 

โดย: Ice(Argent) IP: 125.25.155.128 20 กรกฎาคม 2551 13:31:51 น.  

 

หนังสือเล่มนี้ดีมั่กๆค่ะ เคยเจอจากประสบการณ์ตรงแบบสดๆร้อนๆเลย 555 เเต่ตอนนี้ชินเเล้วก็คนมันสันดานเเย่ชอบทำร้ายจิตใจคนอื่น ให้อภัยเเด่สัมพเวสี--"

 

โดย: Seasy IP: 171.5.250.157 15 มิถุนายน 2558 18:22:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


แก้วกังไส
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 54 คน [?]







ผลงานเขียนที่ผ่านมาค่ะ

รักนี้(แค้น)ต้องชำระ


Amethyst Sonata
เพลงรัก..ลิขิตหัวใจ



บาปปาริชาต

Friends' blogs
[Add แก้วกังไส's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.