ตอนที่ 72
ท่านขอให้สร้อยประพาฬเทวีทำกระไรรึ?
เป็นทางออกของเราที่เห็นสมควรที่สุดในเวลานั้น นาคเจ้ายิ้มน้อยๆตอนเล่าให้สหายฟัง ขอให้ทรงรับเจ้าหญิงเมืองปาลไว้ในตำหนักของพระนาง
ท่าน...
แก้วตารา เพิ่งจะอายุ13 ย่างเข้า 14 เท่านั้น ยังประวิงเวลาได้อีกหลายปีกว่านางจะเป็นสาวเต็มตัว เราใช้ข้ออ้างนี้ฝากนางไว้ที่ตำหนักสร้อยประพาฬเทวี อ้างว่าให้เสด็จป้าช่วยฝึกฝนนางให้เป็นกุลสตรีที่เหมาะสมกับตำแหน่งพระชายาคนที่สองของเราอย่างไรเล่า
เจ้าปัญญานัก ฮะ ฮะ วิมุตติพลอยหัวเราะเห็นดีเห็นงามไปด้วย แบบนี้ผู้ใดก็ยากจะคัดค้านข้ออ้างนี้เสียด้วยสิ ท่านไม่ต้องผิดวาจา มหิตาก็ไม่เสียใจ ทุกอย่างดูจะคลี่คลายด้วยดีแล้วเหตุอันใดเมืองจึงล่มอีก?
ทุกอย่างน่าจะเป็นไปตามนั้น...หากดวงชะตาเราคงมีคราสเข้าบดบังเจ้านาคราชทอดถอนหายใจวงพักตร์ซีดเซียวลง แววเนตรมีหน่วยน้ำคลอแต่เพียงครู่เดียวอัสสุชนก็ถูกกลืนลงไปในอุระ
มันคงเป็นชะตาที่ยากจะหลีกเลี่ยง
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ใช่..มันน่าจะเป็นไปตามแผนที่นาคเจ้าทรงดำริไว้ วันนั้นก่อนแสงสุรีย์จะลาลับภูวิษะเจ้ารีบเร่งฝีเท้าม้าเสด็จกลับตำหนัก ดวงพักตร์มีแต่รอยยิ้มสมพระทัยใคร่จะกลับไปบอกเรื่องนี้กับมหิตาเทวี แต่เมื่อกลับมาถึงก็ต้องประหลาดพระทัยเมื่อพบว่าพระชายามิได้อยู่ในตำหนักเหมือนเช่นเคยมีเพียงนางกำนัลออกมาต้อนรับ แม้คุณท้าวจันทร์หอมก็พลอยไม่อยู่ไปด้วย
มหิตาไปไหน?
ไปเข้าเฝ้าพระมาตุจฉาเพคะ
พระมาตุจฉา?
กมลมาลย์เทวีเพคะ เจ้าของพระนามเป็นพระขนิษฐาของพระแม่เจ้ากมุทรามหาเทวีซึ่งถวายงานใกล้ชิดหลายครั้งก็ทรงงานแทนตามรับสั่งครานี้ก็เช่นกัน
ไปทำไม?
มีรับสั่งให้เข้าเฝ้าเพคะ นางกำนัลตอบเกรงๆ ด้วยว่าระยะนี้พระอารมณ์ภูวิษะเจ้าไม่ใคร่ปกตินักมักจะฉุนเฉียวง่าย เมื่อเห็นว่าไม่รับสั่งใดอีกนางจึงเลี่ยงไปหาน้ำมาถวาย
รอคอยอยู่หลายเพลาชายาอันเป็นที่รักก็มิได้กลับมาพบพักตร์ เจ้านาคราชได้แต่ดำเนินไปมาไม่ช้าก็เบื่อหน่ายและเผลอบรรทมไป ดังนั้นเมื่อมหิตาเทวีเสด็จกลับมาก็มิได้ทราบข่าวดีที่พระสวามีจะนำมาบอก...
เจ้าภู....เสียงที่ผ่านริมฝีปากอิ่มของมหิตาเทวีออกมาเป็นเสียงของเคียงฟ้า
หล่อนนั่งลงข้างเตียงเมื่อเห็นร่างสูงของภูวิษะเจ้าบรรทมอยู่ หญิงสาวพินิจไปที่ใบหน้าที่ยังหลับตาสนิทนั้นนัยน์ตาของหล่อนก็รื้นไปด้วยน้ำตา ความรักมากมายมันเอ่อล้นอยู่ในอกเขาอยู่ตรงหน้าแล้วหล่อนอยากสวมกอดเขาให้หายคิดถึง อยากถามเขาว่าทำไมถึงหลบหน้าหล่อนทำไมถึงขังตัวเองอยู่ในความมืด แต่คนตรงหน้าไม่ใช่เจ้าภูวิษะคนที่หล่อนพบในแดนไสยาสน์ เป็นเพียงเงาในอดีตเท่านั้น
ฟ้าคิดถึงคุณเหลือเกินหล่อนพูดได้แค่นั้นแล้วสะอื้นไห้ออกมาเบาๆ ก่อนจะยกมือขึ้นปิดปากกลัวว่าเสียงร้องไห้จะไปทำให้เขาตื่น
แค่ไม่ได้พูดคุยกันไม่กี่วันแต่สำหรับเคียงฟ้ามันช่างยาวนานเหลือเกิน หล่อนมีอะไรอยากบอกเขามากมายแต่จะให้ปลุกขึ้นมาก็ใช่ที่ จึงได้แต่ปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้วนั่งมองดูชายคนรักมองหลับ
เขาเป็นของมหิตา เคียงฟ้าบอกตัวเอง แล้วคำถามอีกมากมายก็ประเดประดังเข้ามาอดีตผ่านไปแล้วเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่การนิ่งเฉยยอมรับทุกสิ่งอย่างจนตรอกมันคงไม่ใช่เหตุผลที่นำกาลเวลานำหล่อนกลับมาที่นี่ บางสิ่งกำลังจะเกิดขึ้น หญิงสาวบอกกับตนเองมาถึงขั้นนี้แล้วหล่อนยอมแลก..แม้จะไม่ได้กลับในกาลเวลาของตนเองอีกเลยก็ตาม!
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ก่อนแสงแรกของวันจะเริ่มขึ้นภูวิษะเจ้าลืมเนตรขึ้นมาก็พบว่าพระชายามิได้นอนอยู่ข้างเคียง แต่กำลังทรงอักษรอยู่บนตั่งเตี้ยภายในห้องท่าทางของนางเทวีดูหงุดหงิดงุ่นง่านคล้ายไม่ได้ดั่งใจรอบวรกายมีกองผ้าที่นำมาเขียนมีรอยดำกระด่างบ่งบอกว่าเขียนผิดพลาดอยู่หลายชิ้น
เจ้าทำกระไร?
เจ้าภู! ตื่นแล้วเหรอคะ หล่อนหันไปยิ้มให้ เจ้านาคราชกะพริบตาด้วยความไม่แน่พระทัย ในห้องบรรทมมีเพียงแสงสลัวจากตะเกียงเท่านั้น กลับมองเห็นใบหน้าของหญิงสาวอีกคนซ้อนทับพระพักตร์ของมหิตาเทวี จึงชะงักไปชั่วขณะ
เจ้าภู...เสด็จพี่ เคียงฟ้ารีบเปลี่ยนสรรพนามเมื่อนึกขึ้นมาได้
ภูวิษะเจ้ามิได้ตอบ แต่กลับลุกขึ้นแล้วเคลื่อนองค์ไปเบื้องหน้าหญิงสาวก่อนจะรวบไหล่เธอไว้ดึงให้หันกลับมาประชันหน้าทั้งตัว พระหัตถ์อุ่นนั้นเชยคางหล่อนขึ้นมาอย่างเพ่งพินิจ
...สะ..เสด็จพี่มีกระไรหรือเพคะ?
เราคงจะตาฝาดไปเอง นาคเจ้าตรัสตอบเมื่อไม่พบสิ่งใดผิดปกติ
ทำสิ่งใดอยู่ ใต้ดวงเนตรนั้นมีแววหมองคล้ำจนเดาได้ไม่ยากว่าเมื่อคืนมหิตาเทวีมิได้บรรทม
ว่างคุยกับหม่อมฉันแล้วใช่ไหมเพคะหล่อนคลี่ยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจ ในขณะที่คู่สวาทรู้สึกว่ามีบางสิ่งในตัวนางอันเป็นที่รักแปลกไป
เจ้ามีเรื่องกระไร ถึงได้ทำหน้าระรื่นนัก เคียงฟ้าไม่ได้ตอบในทันทีแต่หล่อนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ในที่สุดก็ได้คุยกันเสียที
แล้วนี่เขียนกระไรมากมาย ตรัสจบก็หยิบขึ้นมาทอดพระเนตร
...จุมภะอาจถึงคราวล่มสลาย!!?เมื่ออ่านจบสีพระพักตร์ก็เปลี่ยนแปลงไปทันที ส่งผลให้หญิงสาวไม่มั่นใจเรื่องที่กำลังจะพูดอีกต่อไป ถึงกับหุบยิ้มลงทันที
เขียนเรื่องอัปมงคลกระไร?!!
เสด็จพี่เพคะ..ฟังน้องนะคะเพคะ นี่ไม่ใช่เรื่องเหลวไหลมันสำคัญมาก น้องหาทางกราบทูลมาหลายเพลาแล้ว แต่จนใจที่มิได้พบหน้าสักที อยากจะหารือเรื่องนี้...
เหลวไหล! แทบไม่ทันต้องตรึกตรองเจ้านาคราชตวาดใส่พระชายาทันที
เดี๋ยวสิคะ...เจ้าภูอย่าเพิ่งโมโห ..เสด็จพี่น้องรู้ว่าพูดแบบนี้มันไม่ดี แต่น้องมีลางสังหรณ์ถึงอยากจะหารืออย่างไรเล่าเพคะ คำพูดติดๆ ขัดๆไม่คล่องอย่างที่ใจคิด สลับสำนวนระหว่างภาษาที่เคียงฟ้าใช้กับภาษาที่มหิตาใช้
เป็นไปไม่ได้! เจ้าลืมแล้วหรือว่าเราเป็นผู้ใด? หากเกิดอันใดขึ้นกับจุมภะ เราต้องรู้เป็นคนแรก ทั้งหมดมาจากความฟุ้งซ่านของเจ้าเท่านั้นเคียงฟ้านิ่งอึ้งหล่อนเสียจังหวะที่จะเล่าดีๆ เจ้าภูก็ดันโกรธขึ้นมาเสียก่อนก็น่าอยู่หรอกนะ เขาเป็นเทพคุ้มเมืองมาพูดแบบนี้สมควรถูกโกรธอีกอย่างนี่คงเป็นเรื่องที่เขาคาดไม่ถึงด้วย
ถ้าเจ้าว่างขนาดนั้น ไปคัดบทสวดบูชาพระวิษณุเสียยังดีกว่าสุรเสียงห้วนจัดตรัสตำหนิออกมาโดยแรง
ก็กำลังต้องไปคัดบทสวดถวายเทพอยู่แล้วนี่แหละเพคะ ไม่ต้องไล่ก็โดนบังคับให้ไปแล้วภูวิษะเจ้านิ่งงันไปชั่วครู่ พระขนงเลิกขึ้นคล้ายจะถาม
พระแม่เจ้าไม่ยอมพบหน้าน้องยังทรงกริ้วอยู่ ขนาดจะตรัสอะไรยังต้องผ่านเสด็จน้ากมลมาลย์เลย นี่ท่านสั่งให้น้องไปถือศีลอยู่ในอาศรมสตรี แล้วคัดบทสวดบูชาพระวิษณุออกแจกจ่าย 900 จบหล่อนพูดเร็วปรี๊ดแต่พระสวามีแค่ยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อย
สมควรแล้ว เจ้าก็ไปสิสิ้นคำตรัสเคียงฟ้าลุกพรวดทันที
เจ้าภู! คุณนี่นะกวนประสาท! จะเป็นตอนนี้หรือตอนไหนก็กวนประสาทชะมัด บุรุษข้างหทัยฟังแล้วชะงักไปนางดูแปลกไปทั้งวาจาตลอดจนท่าทาง แต่อึดใจต่อมาก็ทรงเชิดพระพักตร์ขึ้นริมโอษฐ์ขึง สายพระเนตรส่งแววตำหนิออกมาอย่างชัดเจน
เสด็จพี่....
ภูวิษะเจ้ามิได้โต้ตอบอันใดอีก แต่ทรงลุกขึ้นแล้วดำเนินไปที่ประตูเรียกหานางกำนัลให้ประกอบกิจประจำวันได้แล้ว หญิงสาวรู้ตัวว่าพลาดไปหล่อนลืมไปว่าภูวิษะคนเก่านั้นมีความทรงนงแบบเจ้าชายโบราณ ที่ถือเกียรติของบุรุษไว้สูงย่อมจะไม่พอพระทัยแต่จะไม่ต่อปากต่อคำกับหล่อนอีก แต่นั่นหมายความว่าจะไม่ได้เห็นหน้าหรือแม้แต่เงาอีกหลายวันเชียว เมื่อคิดได้ดังนั้นเคียงฟ้าก็รีบวิ่งตามไปดึงแขนแล้วร้องคร่ำครวญ
เสด็จพี่น้องขอโทษ อย่าเพิ่งกริ้วเลยเพคะ น้องนอนน้อยไปหน่อย เลยมึนๆเผลอพูดอะไรไปไม่คิดไม่พูดเปล่าหล่อนรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีรั้งเอวเจ้านาคราชเอาไว้แล้วพยายามลากกลับเข้าห้อง
อย่าเพิ่งไป กลับมาคุยกันก่อนนะ..นะ นะเพคะ วรองค์สูงมิทันได้ก้าวข้ามธรณีประตูจำต้องก้าวถอยหลังตามแรงลากนั้น
มหิตา กระไรของเจ้า? เมื่อเห็นเขายอมหันกลับมาคุยกับหล่อนแล้ว หญิงสาวรีบกุลีกุจอไปปิดบานทวารให้สนิทเพื่อไม่ให้นางกำนัลเข้ามาได้ยินได้
เสด็จพี่! หล่อนยิ้มกว้าง นัยน์ตาเป็นประกายดีใจนักหนาแล้วโผเข้ากอด
มหิตา?
นะเพคะ..เราอย่าโกรธกันอีกเลยนะเพคะ น้องขอโทษเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมดน้องงี่เง่าเอง โง่ด้วย แถมปากแข็ง หล่อนรัวเป็นชุดโดยไม่สนใจว่าสำนวนของหล่อนยังแปร่งหูอย่างไร
แต่ที่ทำไปทั้งหมดนั่นน่ะ...เพราะว่า...เพราะว่า หึงรู้ไหม...ถ้าไม่รักจะไม่หึง ผู้หญิงยิ่งหึงมากน่ะแปลว่าอะไร เข้าใจไหมเพคะ
ดวงตากลมโตคู่นั้นช้อนขึ้นสบตาเจ้านาคราช หน้าต่างดวงใจทุกบานเปิดตูออกเพื่อให้เขาเข้ามาสัมผัสสิ่งที่อยู่ภายใน ไม่จำเป็นต้องวางมาดวางฟอร์มอะไรอีกแล้วเคียงฟ้าบอกตัวเองว่าหล่อนยอมหมดทุกทาง ยัยมหิตาจะไม่ยอมทำก็ช่างหัวนาง หล่อนจะทำแทนเอง
เจ้านาคราชทรงพิศวงกับท่าทีขององค์ชายาแม้จะสังเกตเห็นว่าวิธีพูดจาของนางเปลี่ยนไปแต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนเดิมคือแววเนตรที่มองมายังเพราะองค์ ไม่ต่างกับเทวีน้อยเมื่อแรกรักกัน เมื่อมหิตาเทวีทรงเปิดพระทัยตรัสไม่อ้อมค้อมแบบนี้มีหรือจะทรงแข็งขืนอยู่ได้ แม้มิได้ตรัสอะไรออกมาแม้แต่คำเดียวแต่สีพระพักตร์เริ่มแดงระเรื่อ
เสด็จพี่...หายโกรธนะ ที่ผ่านมาน้องไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เรื่องมันเป็นอย่างนั้น แต่... พูดจบหล่อนก็ร้องไห้ออกมา น้ำตามากมายเหมือนทำนบทลายหลั่งออกมาจนพระอุระภูวิษะเจ้าเปียกชุ่ม
..เฮ้อ มีเพียงเสียงทอดหทัยเบาๆ ออกมาเท่านั้นก่อนที่อุ้งหัตถ์อุ่นจะลูบบนแผ่นหลังของหล่อนอย่างอ่อนโยน
มันผ่านไปแล้ว มันแก้ไขไม่ได้
น้องรู้...แต่ยังดีกว่าไม่ได้ขอโทษใช่ไหมเพคะเสียงสะอึกสะอื้นยังดังอยู่ หญิงสาวไม่ได้เงยหน้ามองคนที่กำลังสวมกอด ไม่อย่างนั้นหล่อนคงจะได้เห็นสีหน้าอ่อนโยนกับแววตาห่วงหามองตอบลงมา....
ใช่...เจ้านาคราชพระทัยอ่อน...ยวบแต่ติดที่ความทะนงจึงทรงไม่ตรัสปลอบโยนใดๆ ด้วยเกรงว่าพระชายาจะได้ใจสิ่งที่เกิดขึ้นจะผ่านไปอย่างง่ายดาย
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ทั้งสองนั่งเคียงกันอยู่บนแท่นบรรจถรณ์ เคียงฟ้าเอียงกายพิงอกภูวิษะเจ้าหล่อนไม่ปิดบังใจตัวเองอีกแล้วว่าหล่อนต้องการอ้อมอกนี้เพียงใดมือเล็กก็ยังกุมมือใหญ่อยู่อย่างนั้นไม่ยอมปล่อย
ฟ้าสางแล้วนะ... สุรเสียงห้าวใหญ่ตรัสขึ้นมา
หือ? แสงทองรอดเข้ามาตามช่องบัญชร
ปล่อยได้แล้ว รอยแย้มสรวลอ่อนๆ มาพร้อมดำรัสยังผลให้เคียงฟ้ากระเด้งตัวออกจากอ้อมอกที่พิงอยู่ ด้วยใบหน้าเขินอาย
ข้าก็อยากให้เจ้ากอดอยู่อย่างนี้ แต่วันนี้มีราชการ ส่วนเจ้าก็ต้องไปอาศรมใช่ไหม เท่านั้นแหละหล่อนแทบจะมุดดินหนี
เจ้าภู... หล่อนบ่นอุบอิบ ทีบทจะยอมก็หวานไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
ใช่ค่ะ ฟ้า...เอ้อน้องต้องไปอาศรม แต่...มันแย่ตรงที่ว่าพระแม่เจ้าทรงบัญชาให้ไปตั้ง7 วัน หล่อนกุมขมับ
เอาไว้จะไปเยี่ยม
ไม่ได้เพคะ! หล่อนร้องห้าม
ห้ามบุรุษเข้าไปสินะ
มิได้...เพียงแต่ต้องถือศีล ภาวนา คัดลอกพระคัมภีร์และมนตราคาถาต่างๆ ระหว่างนั้นห้ามเราพบกัน แล้วก็ห้ามไม่ให้ใครไปเยี่ยมด้วยเพคะ
อืม...งั้นก็อดทน เราทั้งคู่มีความผิด แต่ยังมิได้รับโทษอันใดแค่ไปคัดลอกบทสวดนี่ถือว่าทรงปรานียิ่งนัก เจ้าต้องตั้งใจให้มาก
เรื่องนั้นน่ะ...น้องเข้าใจ แต่ว่าก่อนที่จะไปน้องมีเรื่องอยากทูลเสด็จพี่ แต่...อย่ากริ้วก่อนฟังจบได้ไหมเพคะ เจ้านาคราชขมวดคิ้ว นึกอ่อนใจล่วงหน้านี่ต้องเป็นเรื่องเหลวไหลอย่างแน่นอน แต่เมื่อเห็นสีหน้าของนางแล้วก็พระทัยอ่อน
มันสำคัญมาก...หล่อนไม่พูดเปล่าแต่ลงมานั่งคุกเข่าอยู่ปลายเท้าของภูวิษะเจ้าแล้วจับพระหัตถ์ไว้แน่น
ทรงฟังหน่อยเถิด... เมื่อเห็นว่าทรงเงียบไม่ตรัสตอบหล่อนก็โมเมเองว่าตกลง
น้องฝันเพคะ มันอาจฟังดูเหลวไหล แต่ความฝันมันชัดเจนมากจนคิดว่ามันอาจเป็นลางไม่ดี...
หล่อนเริ่มเล่าเรื่องโดยเติมแต่งตอนต้นเข้าไปมันง่ายต่อการจะเล่าต่อมากกว่าจะบอกไปตรงๆหล่อนไม่คิดว่าเจ้านาคราชจะยอมเชื่อสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น ง่ายกว่าจะบอกว่าในอนาคตมีศาสนาหนึ่งมาแทนที่ศาสนาพราหมณ์ที่นับถือกันอยู่ในห้วงเวลานี้ศาสนานั้นเรียกว่า พุทธ สอนให้รู้ว่าจิตวิญญาณของคนเรามีการเวียนว่ายตายเกิด รวมไปถึงหล่อนเองก็มีปาฏิหาริย์บางสิ่งส่งข้ามกาลเวลามาให้มองเห็นความเป็นไปที่เกิดขึ้นในอดีต
ในความฝันมีชายคนหนึ่งเขาเป็นบุรุษที่สง่างามมีรัศมีเรื่อเรืองรอบกาย...น้องคิดว่าชายผู้นี้เป็นเทวาเพคะ เขาบอกน้องว่า...อีกไม่นานจุมภะจะถึงช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อ...หากเลวร้ายเมืองทั้งเมืองจะจมลงไปในสายน้ำ
เป็นไปไม่ได้!! นาคาบุตรผุดลุกขึ้นยืนทันทีสีพระพักตร์นั้นผสมผเสระหว่างโกรธเกรี้ยวกับตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน หญิงสาวรีบดึงหัตถ์ใหญ่นั้นมากุม
น้องกลัว...กลัวเหลือเกินว่ามันจะเป็นความจริง
มันไม่มีทางจะเป็นเช่นนั้นไปได้ เจ้าเพียงแค่ธาตุกำเริบเลยฝันร้ายไปเท่านั้น สุรเสียงอ่อนลงบ้างเมื่อทอดพระเนตรเห็นสีหน้าของหล่อน เคียงฟ้าหน้าตาเอ่อคลอสีหน้านั้นก็ดูเศร้าสลดนัก
น้องก็อยากให้เป็นเช่นนั้นเพคะ...เพียงแต่ แต่เล็กมาน้องมีสิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนใคร และสิ่งนั้นก็ทำให้เราทั้งคู่มาประสบพบกัน
เจ้าหมายถึง...
เทวานิมิต..เกิดจิตสังหรณ์เพคะเจ้านาคราชยอมนั่งลงบนบรรจถรณ์ตามเดิม
เจ้าคิดมากเกินไป บางครั้งความฝันก็หาได้มีความหมายอันใด
น้องปรารถนาให้เป็นเช่นนั้น...แต่น้องไม่อาจวางใจในเมื่อที่ผ่านมานับแต่เด็กจนโตเรื่องในความฝันเหล่านี้...มักจะกลายเป็นเรื่องจริงไปทีละเรื่องสองเรื่อง แม้แต่...หล่อนทอดเสียงลงเล็กน้อยแล้วนัยน์ตาคู่สวยก็ประสานเข้ากับนัยน์ตาของภูวิษะเจ้า
คนในความฝัน...บัดนี้ก็มานั่งอยู่เบื้องหน้าหม่อมฉันร่างของหล่อนสั่นเล็กน้อยโดยไม่ได้เสแสร้งจนสัมผัสได้ถึงความหวั่นวิตก
มหิตา...
ทรงโปรดเถิด ภูวิษะเจ้า...ท่านเป็นผู้ครองน้ำเป็นราชบุตรแห่งพญามหิทธราบดี หากมันเกิดขึ้นจะแก้ไขมันได้ไหมเพคะ เจ้านาคราชนิ่งงันไปชั่วครู่ก่อนดวงเนตรนั้นจะวาวขึ้นด้วยแสงแห่งอำนาจ
มันจะไม่มีวันเกิดขึ้น
มันอาจมีเหตุไม่คาดฝัน ทรงคิดหรือไม่ว่าจะหยุดหรือบำบัดมันอย่างไร น้ำเสียงของหล่อนคาดคั้นจริงจัง
น้ำคือวิญญาณของข้า คือกายของข้า คือบ้านของข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน...หากมีสิ่งใดเกิดขึ้นที่นี่ก็ย่อมจะรู้ล่วงหน้า
แม้มันจะมาที่อื่นหรือปะทุขึ้นด้วยเหตุอัปมงคลอย่างใดอย่างหนึ่งหรือเพคะ
กระแสน้ำจะนำข่าวมา แม้เทวาอารักษ์ก็ยังทราบล่วงหน้า
ถ้าน้ำนั้นมารวดเร็ว ทรงหยุดมันได้ไหมเพคะ นาคเจ้ามิได้ตอบในทันทีแต่ดำริเงียบๆ ในพระทัยในขณะที่สังเกตความจริงในดวงตาของหล่อนไปด้วย
ได้...เว้นแต่ เคียงฟ้าเกือบจะยิ้มออกมาหากชะงักด้วยคำว่าแต่..
แต่..กระไรเพคะ มีข้อยกเว้นด้วยหรือ?
เว้นแต่เป็นบัญชาให้จมเมืองเสีย สิ้นคำตอบหล่อนไม่อาจทรงกายอยู่ได้ต้องนั่งพับพาบลงไปกับพื้น ใบหน้านวลนั้นขาวซีดด้วยความวิตก
มหิตาทำใจดีๆ ไว้ แค่ว่าให้ฟัง มิได้รับบัญชาใดมา เสด็จพ่อทรงรักเมืองนี้นักเมื่อส่งให้เราดูแลก็สั่งให้ดูแลให้ดี ให้มีน้ำมีปลาพืชพรรณอุดมเมืองนี้จะไม่มีวันแล้ง
เพคะ...ไม่มีวันแล้ง.. หล่อนเว้นคำพูดไว้ในอก...ไม่มีวันแล้ง...แต่มีวันจม
ถ้าหาก..ถ้าหากว่าน้ำมาทรงห้ามมันได้ใช่ไหมเพคะ...ละแล้วมีเหตุใดบ้างที่จะทำให้น้ำท่วมได้อย่างรวดเร็วจนคนมิทันตั้งตัวบ้างไหมเพคะ
เหตุที่ทำให้น้ำท่วมอย่างรวดเร็วมีประการเดียวคือ นาคล่มเมือง!!
อยากอ่านมากๆใจจะขาดแต่กลัวอ่านแล้วจะจบไปเลย
ถ้าคุณแก้วกังไสยังไม่มาอัพนี่...สงสัยจะขาดใจแน่เลยจ้ะ
ขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกๆนะคะ ^_^