Bloggang.com : เจ้าแม่แฟชั่น - นี่ไง...สัญญาณใกล้คลอด

นี่ไง...สัญญาณใกล้คลอด


	อาการอย่างนี้..เตรียมตัวเตรียมใจไปคลอดได้เลย เมื่อวันนั้นที่รอคอยกำลังจะมาถึง ร้อยทั้งร้อยคุณแม่ไม่ว่าจะท้องเก่าหรือท้องใหม่ต่างอยากจะเห็นหน้าลูกเร็วๆ พอย่างเข้าเดือนที่ 8 กว่าๆ หรือ 9 เดือนได้ไม่กี่วันก็เริ่มนับวันรอคลอดกันแล้ว แม้แต่คุณแม่ที่มีประสบการณ์คลอดมาแล้วก็ยังอาจลืมๆ ไปว่าที่จริงแล้วร่างกายเรา จะมีสัญญาณอัตโนมัติเตือนว่า เมื่อไหร่กันแน่ที่จะต้องเตรียมตัวไปคลอด นี่ไม่ต้องพูดถึงคุณแม่ใหม่เอี่ยมถอดด้ามเลยเชียว เพราะเรื่องต่างๆ ที่ต้องจดจำเรียนรู้มากมายไปหมด เรื่องไหนไกลตัวมักจะลืมไปก่อน ทีนี้เมื่อเวลามาถึงก็จะงงๆ กันว่า เอ๊ะ! นี่ฉันเป็นอะไรไปหรือนี่ ทำไมจึงมีอาการอย่างนี้ มีอะไรผิดปกติกับลูกฉัน... เพื่อไม่ให้เกิดวิตกจริตขึ้น จนทำให้อารมณ์แปรปรวนส่งผลถึงลูกน้อยๆ ที่นอนหลับไม่รู้นอนคู้ไม่เห็นในท้อง และช่วยให้คุณแม่เตรียมพร้อมอยู่เสมอ ไม่ฉุกละหุกจนต้องไปคลอดในแท็กซี่หรือบนรถเมล์อย่างที่เป็นข่าว เอาเป็นว่าวันนี้มาทวนความจำกันหน่อยเถอะว่า อาการอย่างไรบ้างที่เป็นสัญญาณใกล้คลอด หรือเป็นลางบอกเหตุว่าจะคลอดแน่แล้ว ท้องลด เพราะลูกในท้องของแม่เขาปรับตัวเองให้อยู่ในท่าพร้อมคลอด คือในรายที่จะคลอดท่าปกติเขาจะเริ่มเคลื่อนศีรษะตัวเองต่ำลงไปในอุ้งเชิงกราน หรือกรณีที่จะเอาก้นลง ส่วนที่ว่านี้ของลูกก็จะเคลื่อนสู่อุ้งเชิงกราน ทำให้มดลูกส่วนล่างขยายตัว เรียกว่าหัวลงต่ำ ส่งผลให้ภายนอกของแม่ดูว่าท้องลดต่ำลงมา อุ้ยอ้ายขึ้น สำหรับคุณแม่ท้องแรกภาวะนี้จะเกิดขึ้นในราวกลางเดือนที่ 8 หรือ 2-3 สัปดาห์์ก่อนคลอด ส่วนคุณแม่ท้องต่อมาอาการนี้จะเกิดก่อนเจ็บคลอดไม่นาน ภาวะท้องลดนี้ดีที่ทำให้แม่เลิกแน่นหน้าอก อึดอัดหายใจไม่ค่อยสะดวก แต่ศีรษะของลูกที่อยู่ต่ำในบริเวณอุ้งเชิงกรานจะยิ่งเบียดกระเพาะปัสสาวะของแม่ ยิ่งเก็บฉี่ได้น้อยลงอีก เลยต้องเข้าห้องน้ำถี่ยิ่งขึ้น เจ็บท้องเตือน หรือมีความรู้สึกว่าท้องเกร็งแข็ง อาการนี้ของแม่จะเกิดจากการที่มดลูกบีบรัดตัว ไม่ถึงกับเจ็บปวด เพียงรู้สึกแน่นๆ อึดอัด นั่งหรือนอนพักไม่นานก็คลายอาการได้ แต่ถ้าเจ็บขึ้นมาจริงๆ ลองใช้เทคนิคผ่อนคลายที่ศึกษาเตรียมไว้ปฏิบัติระหว่างการคลอดจริงมาบรรเทา ที่จริงแล้วอาการเจ็บท้องเตือนหรือท้องแข็งนี้คล้ายๆ กับอาการเจ็บท้องคลอดแต่จะไม่เจ็บเท่าและไม่เจ็บนาน แถมยังเกิดขึ้นไม่เป็นจังหวะแน่นอน แค่ละครั้งประมาณ 25 วินาที อาการนี้เตรียมตัวเตรียมใจรับได้ตลอดช่วง 2-3 เดือนท้ายจะว่าไปมดลูกแข็งตัวนี้ก็มีข้อดี ช่วยให้ปากมดลูกอ่อนตัวลง เพิ่มการไหลเวียนโลหิตไปที่รก ทำให้คุณแม่พร้อมรับสถานการณ์ระหว่างคลอดได้ดีขึ้น มูกเลือดออกทางช่องคลอด สัญญาณนี้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนที่สุด เพราะมูกที่ว่านี้ร่างกายของคุณแม่สร้างขึ้นมาปิดปากมดลูกไว้ กันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่มดลูกได้ระหว่างตั้งครรภ์ เมื่อถึงช่วงที่ลูกน้อยใกล้จะออกมาดูโลก มูกที่อุดอยู่นี้คือด่านแรกที่ต้องเปิดก่อน ก็จะหลุดไหลออกมาเองทางช่องคลอด และในขณะที่มดลูกขยายตัวอาจเกิดการแตกของเส้นเลือดเล็ก ๆ บริเวณนั้น จึงมีเลือดไหลผสมออกมากับมูก ดูน่าตกใจ อาจเข้าใจผิดว่า น่ากลัวจะแท้ง ทางที่ดีเกิดอาการนี้ขึ้นเมื่อไหร่ เตรียมเก็บกระเป๋าไปคลอดได้ น้ำเดิน น้ำเดินหรือถุงน้ำคร่ำแตก จะมีลักษณะเป็นน้ำใสๆเหมือนปัสสาวะไหลออกจากช่องคลอด เป็นอาการที่บ่งชี้ว่าถึงเวลาที่คุณแม่จะคลอดแล้ว เมื่อถุงน้ำคร่ำแตกมดลูกจะหดตัวเล็กลง บีบหัวเด็กให้เคลื่อนลงสู่อุ้งเชิงกรานเพื่อจะคลอด บางคนถุงน้ำแตกแล้วน้ำไหลซึมออกมาไม่มาก แต่บางคนอาจไหลพรวดออกมาเหมือนทำนบแตกจนน่าตกใจ คุณหมอบอกว่า มีอาการอย่างนี้เมื่อไรให้รีบไปโรงพยาบาลทันที เพราะจะคลอดแน่แล้ว และจะมีอาการเจ็บท้องตามมาภายใน 48 ชั่วโมง เจ็บท้องคลอด สัญญาณสุดท้าย เจ็บท้องคลอด(จริง ๆ นะ) จะรู้สึกปวดท้องคล้ายๆปวดท้องเมนส์(บางคนบอกว่าผสมปวดท้องอึ) หรือคนที่เคยเจ็บเตือน แบบปวดเล็กปวดน้อยในเดือนก่อนกลายเป็นปวดแรงขึ้นเป็นจังหวะ นี่แสดงว่าเจ็บจริงแล้วล่ะ ถ้ามีสติสักหน่อย หรือสามีอยู่ใกล้ ขอให้เขาช่วยจับเวลาดูว่าการปวดแต่ละครั้งหนนี้นานเท่าไหร่ ระยะแรกนี้ มดลูกจะหดรัดตัวนานครั้งละ 30-60 วินาทีทุกๆ 10-15 นาที แล้วกลับมาถี่ขึ้นเป็นทุก 5 นาที...ใช่เลย สัญญาณคลอดมาแล้ว (แม้ว่าบางคนยังไม่มีอาการน้ำเดินก็ตาม) ในช่วงนี้คุณแม่ยังพอมีเวลาจัดกระเป๋าเดินทางไปคลอดอย่างไม่ฉุกละหุกโกลาหลค่อย ๆ ประคองกันไปขึ้นรถ ขับอย่างระมัดระวังให้ถึงโรงพยาบาลอย่างปลอดภัยก็ทันถมเถ เพราะคุณแม่ท้องแรกมักจะเจ็บครรภ์อยู่นาน 12-14 ชั่วโมง (ท้องต่อไปอย่าใจเย็นนักเพราะมักจะคลอดง่ายกว่าท้องแรก) ในช่วงต่อมา จะเจ็บถี่ขึ้นทุก 2-4 นาที เจ็บนานครั้งละ 60-90 วินาที บางเจ็บเบาบ้างแรงบ้างสลับกันไป และในช่วงท้ายๆใกล้ถึงเวลาคลอด ก็จะเจ็บถี่ขึ้นแรงขึ้น ทีนี้คงไม่งงแล้วนะคะว่าอาการของคนใกล้คลอดเป็นยังไง ทางที่ดีบอกกล่าวให้สามีทราบด้วย เขาจะได้มีสติขับรถไปถึงโรงพยาบาลอย่างปลอดภัย จาก: รักลูก