Bloggang.com : เจ้าแม่แฟชั่น - รับมืออารมณ์อ่อนไหวหลังคลอด

รับมืออารมณ์อ่อนไหวหลังคลอด


	กว่าเจ้าตัวเล็กจะลืมตาดูโลก ว่าที่คุณแม่เฝ้ารอคอยเวลานั้นมาเกือบ 9 เดือน แต่เหตุไฉนพอลูกคลอดมาแล้ว แทนที่คุณแม่คนใหม่จะสดใสมีความสุข กลับเป็นคนเจ้าน้ำตาได้อย่างไม่รู้ตัว ขอชวนคุณแม่ทำความเข้าใจและหาวิธีรับมือไปพร้อมกันค่ะ ระหว่างอุ้มท้องหนักและเหนื่อยมาตลอด 9 เดือน ว่าที่คุณแม่คนใหม่มักจะวาดภาพงดงามถึงวันที่เจ้าตัวเล็กจะลืมตามาดูโลกเป็น ครั้งแรก เมื่อวันที่รอคอยมาถึง...หลังจากความรู้สึกตื่นเต้นตื้นตันจากการคลอดผ่านไป แม่ลูกพากันย้ายกลับบ้านแล้วขณะที่ทุกคนในบ้านกำลังตั้งวงห้อมล้อมสมาชิกคน ใหม่อย่างสนอกสนใจ คุณแม่มือใหม่กลับปลีกตัวมานั่งน้ำตาซึมอยู่นอกวงเอาเสียดื้อๆ อะไรกันนะที่ทำให้คุณแม่ท้องที่เคยสดใสกลายเป็นเจ้าน้ำตาหลังคลอด คำตอบน่ะหรือก็แหม...9 เดือนที่ผ่านมา คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยาย หรือแม้กระทั่งคุณสามีเองก็คอยมาเอาใจอยู่รอบกายไม่เคยห่าง แต่พอเจ้าตัวเล็กคลอดออกมาทุกคนกลับไปมุ่งความสนใจไปที่สมาชิกคนใหม่จนลืม แม่ไปซะเฉยๆ โดยเฉพาะคุณพ่อ เจอแบบนี้คุณแม่ก็ย่อมรู้สึกขาดกำลังใจ เหมือนถูกลืมถูกทอดทิ้งบ้างเป็นธรรมดา แม่ขี้น้อยใจ ... ลูกไม่ปลอดภัย หาก ปล่อยอาการขี้น้อยใจแบบนี้ไว้นานๆ คงไม่ดีแน่ค่ะ เพราะคุณแม่หลังคลอดส่วนใหญ่เสี่ยงกับอาการซึมเศร้าหลังคลอดกันอยู่แล้ว อาการขี้น้อยใจหรือขาดกำลังใจแบบนี้ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุของโรคซึมเศร้าหลังค ลอดได้ค่ะ นอกจาก นั้นการที่คุณแม่เป็นคนขี้น้อยใจยังทำให้ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ไม่ดีพอ สังเกตได้จากวันไหนที่ปล่อยให้คุณแม่อยู่กับเจ้าตัวเล็กตามลำพัง แล้วลูกร้องไห้โดยไม่รู้สาเหตุ งานนี้จะเห็นคุณแม่คนใหม่สติแตกเอาได้ง่ายๆ ชนิดที่เรียกว่าคนรอบข้างตั้งรับแทบไม่ทันเลยล่ะค่ะ และด้วยอารมณ์ที่ไม่คงที่ของคุณแม่นี่แหละ ส่งผลให้สัมผัสและการกระทำที่แสดงออกต่อลูกไม่คงที่เช่นกัน เบบี๋ตัวน้อยนี่รับสัมผัสได้เร็วมากเลยนะคะ ลูกจะรับรู้ถึงความไม่คงที่ทางอารมณ์ของแม่ และไม่รู้ว่าจะรัตั้งรับปรับตัวอย่างไรดี กลายเป็นต้นตอความขัดแย้งในความรู้สึกของลูก เพราะไม่รู้ว่าทำอย่างนี้แม่จะพอใจหรือไม่ และลูกจะรู้สึกหวาดระแวงไม่ปลอดภัย เพราะอารมณ์ที่ไม่อยู่กับร่องกับรอยของแม่ ในอนาคตอาจจะมีปัญหาด้านการปรับตัวได้ 5 Tricks รับมืออารมณ์น้อยใจ 1. เตรียมตัว พยายามดูแลรักษาสุขภาพให้ดี กินให้อิ่ม นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และถ้ารู้สึกว่าไม่ไหวจริงๆ ระยะแรกๆ คุณแม่ควรมองหาผู้ช่วยสักคนมาเป็นลูกมือก่อนนะคะ เมื่อเตรียมตัวพร้อมเต็มที่ ความเครียดจะไม่เกิด อารมณ์น้อยใจก็จะหายใจด้วย 2. เตรียมใจ ให้พร้อมรับภารกิจความเป็นแม่ เผื่อใจไว้ได้เลยว่า อย่างไรเสียช่วงแรกๆ เราสองคนแม่-ลูกต่างก็ต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกัน คุณแม่เองต้องเผชิญกับความเครียดและความกดดันอยู่แล้ว คิดหาทางหนีทีไล่ไว้บ้างก็ดีค่ะ 3. สื่อสาร เมื่ออารมณ์น้อยใจบังเกิดขึ้น ไม่ว่า ณ ขณะใด ควรหาโอกาสเปิดอกพูดคุยกับใครสักคนที่คุณแม่ไว้วางใจ เพราะการสื่อสารอย่างตรงไปตรงมาจะทำให้คนรอบข้างเข้าใจคุณแม่มากขึ้น และช่วยปลอบโยนเราได้ อย่างไรเสียกำลังใจก็สำคัญเสมอค่ะ 4. แลกเปลี่ยน อารมณ์น้อยใจเช่นนี้ไม่ได้เกิดกับเราเพียงคนเดียวค่ะ ลองหาโอกาสแลกเปลี่ยนและแบ่งปันความรู้สึกตามประสาหัวอกคนเป็นแม่ด้วยกันก็ ช่วยได้เยอะ 5. ทำสิ่งที่ชอบบ้าง เช่น ดูละครเรื่องโปรด หรืออ่านหนังสือเล่มที่อยากอ่านมานาน แม้เพียงวันละ 30 นาทีก็ยังดี อย่างน้อยคุณแม่จะได้ไม่รู้สึกว่าสูญเสียความเป็นส่วนตัวที่เคยมีไปเสียหมด ได้ รู้ที่มาของอารมณ์น้อยใจของคุณแม่คนใหม่แล้ว คงไม่ใช่เรื่องยากที่จะมีสติ กำลังใจเข้มแข็งและสามารถผ่านช่วงเวลานี้ไปได้อย่างดีนะคะ Mom’s Experience - หลังคลอดมีประสบการณ์อย่างนี้เลยล่ะค่ะ อะไรนิดอะไรหน่อยก็ร้องไห้น้อยใจ โดยเฉพาะเวลาที่อยู่คนเดียว หรือตามลำพังกับลูก ก็เลยคุยกับคุณพ่อว่าระหว่างวันอยากให้คุณช่วยโทรกลับมาหาบ่อยๆ และหากไม่ติดอะไรจริงๆ ขอให้รีบกลับมาบ้านเร็วๆ แล้วก็บอกให้เขาช่วยให้ความสนใจเราเป็นอันดับหนึ่ง ถึงจะเห่อลูกก็ช่วยแกล้งให้เราเป็นที่หนึ่งก่อน เพื่อที่เราจะไม่รู้สึกเหงา เคว้งคว้าง สามีออกจะงงๆ แต่ก็ทำตามที่ขอทุกประการ และยังทำมากกว่านั้นแอบซื้อของขวัญเล็กๆ น้อยๆ มาเซอร์ไพรส์แทบทุกวัน เข้ามาชมมากอดเราก่อนไปหาลูก เมื่อเวลาผ่านไปอาการเจ้าน้ำตาก็จะค่อยๆ ทุเลาลง Sweet Princess - ความรู้สึกแรกที่ได้เห็นหน้าลูกหลังจากห้องคลอด ตื้นตันใจ คิดว่าการรอคอยได้สิ้นสุดลง และรู้สึกมีความสุขที่ได้กอดลูก แต่พอกลับบ้านอยู่ดีๆ เห็นสามีประคบประหงมลูก ไม่สนใจเรา เหมือนไม่มีความสำคัญ ก็น้อยใจขึ้นมาดื้อๆ (นึกถึงทีไรก็ขำ) เลยหนีกลับไปอยู่บ้านแม่ที่อยู่ใกล้ๆ กัน พอได้เล่าให้แม่ฟังรู้สึกสบายใจขึ้นที่ได้ระบาย แม่ก็ปลอบใจ คุณสามีก็อุ้มลูกมาตามกลับบ้าน เราก็เลยเล่าความรู้สึกของเราให้สามีฟัง เขาก็รับรู้และดูแลเอาใจใส่เรามากขึ้น นวดให้เราก่อนนอนบ้าง ถึงจะไม่ทำทุกวันแต่ก็รู้สึกดี และมีกำลังใจที่จะเลี้ยงลูกค่ะ - แม่ขี้น้อยใจ - จำได้ว่าตอนคลอดลูกคนแรกเหนื่อยมาก เป็นช่วงที่สามีเปลี่ยนตำแหน่งงาน ออกจากบ้านแต่เช้า กว่าจะกลับก็ดึก เลยอยู่กับลูก 2 คน ทั้งเหงาทั้งกังวลค่ะ ส่วนสามีคงจะด้วยความที่เป็นพ่อมือใหม่ยังไม่ค่อยเข้าใจทั้งเราทั้งลูก เลยทุ่มเททำงานมากกว่า จนเราน้อยใจสุดๆ มีอยู่วันหนึ่งสามีออกจากบ้านแต่เช้า ตอนเย็นโทรมาบอกว่าจะไปกินเลี้ยงกับผู้จัดการ เราน้อยใจร้องไห้ออกมาเลย เหมือนขาดกำลังใจ เหมือนถูกทิ้งให้โดดเดี่ยว ท้อแท้สุดๆ เลยค่ะ วันนั้นสามีกลับมาถึงบ้านขอเลิกกับสามีค่ะ คุณสามีตกใจมาก แต่โชคดีที่เขาใจเย็น เลยหันมาคุยและทำความเข้าใจกัน เขาก็ปรับตัวเองมากขึ้นด้วย ทุกอย่างก็เลยลงตัว จาก: Modernmom