เว็บเพื่อการเลี้ยงลูก,เว็บท่องเที่ยววังน้ำเขียว,สื่อสุขภาพ,ครอบครัวการเลี้ยงลูก,ทิปคอมพิวเตอร์
Group Blog
 
<<
กันยายน 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
4 กันยายน 2552
 
All Blogs
 
เดินรักษาอัมพฤกษ์

นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 253



เดินรักษาอัมพฤกษ์



   คุณลุงประสงค์ เสพสมุทร
วัย 72 ปี จะมาถ่ายทอดประสบการณ์ที่ได้เอาชนะโรคอัมพฤกษ์ด้วยการเดิน
ทั้งยังเผยเคล็ดลับสุขภาพแข็งแรงกว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกัน
เรียกได้ว่าหายขาดจากอัมพฤกษ์
และกลับมามีสุขภาพดีเหมือนไม่เลยป่วยมาก่อนอีกด้วยค่ะ


เดินพิชิตอัมพฤกษ์


   เมื่อเราพบกับคุณลุงประสงค์ในวัย 72 ปี สิ่งที่ฉายชัดคือ
ความมีสุขภาพกายที่แข็งแรงและสีหน้าที่บ่งบอกถึงจิตใจที่สดชื่นแจ่มใสอยู่
เสมอความมีสุขภาพกายที่ดี
มีท่าทางอันแคล่วคล่องว่องไวโดยไม่เหลือเค้าคนเคยเป็นอัมพฤกษ์อย่างที่เห็น
นี้
คุณลุงบอกกับเราว่าเป็นผลมาจากการเดินอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหลายปี
ตั้งแต่ล้มเจ็บ


   “ตอนที่เป็นอัมพฤกษ์ หลังจากกลับมาจากโรงพยาบาลมาอยู่บ้าน ขา แขน
ก็ยังจะใช้งานไม่ได้ ขา แขนไม่มีแรง ยกแขนก็ไม่ได้ เอี้ยวตัวก็ไม่ได้
มันชาทั้งสองแขน ใส่เสื้อไม่ได้ แค่นั่งก็ปวดหมด ปวดก้นกบ
โดยเฉพาะร่างกายข้างซ้าย หมอบอกว่าต้องออกกำลังกายนะลุง
เราก็ตั้งใจและพยายาม กลับมาบ้านก็มานอนกับพื้น
เราก็ช่วยตัวเองด้วยการยันตัวขึ้นคลาน แบบคลานสี่ขานี่แหละ คลานเรื่อยๆ
จนค่อยๆ ลุกเดิน”


   “พอก้าวขาเดินได้ แรกๆ ก็ยังยืดตัวได้ไม่เต็มที่ เดินย่อๆ
หลังไม่ตรงเพราะยังปวดอยู่ แต่ก็ต้องสู้ ไม่คิดถอยเลย
ขาก็เริ่มมีกำลังมากขึ้น เดินได้ แต่ไม่ปกติ ขาจะยังปัดๆ
แต่ต้องพยายามต้องเดินทุกวัน ตอนแรกเดินที่พื้นราบ เดินทีละน้อยก่อน
ก้าวได้สั้นๆ เราก็นับทุกวัน วันนี้ได้ 10 ก้าว พรุ่งนี้ต้องได้ 15 ก้าว
ต่อไปต้องได้ 20 ก้าว วันแรกๆ จึงยังเดินได้ไม่ไกล”


   หลังจากการเดินอยู่กับพื้นราบได้ระยะหนึ่งจนคล่องมากขึ้นแล้ว
คุณลุงก็เร่มเดินในระดับที่ยากขึ้น
ซึ่งถือเป็นยาดีที่ช่วยให้อาการอัมพฤกษ์ดีขึ้นมาก


   “บ้านเราเป็นบ้านสองชั้น มีบันไดที่พอจะเดินได้
ก็คิดว่าน่าจะดีเหมือนกัน ก็พยายามเดินขึ้นบันได ค่อยๆ ทำทีละน้อย
ใช้วิธีโหนตัวกับราวบันไดขึ้นไป คลานขึ้นไปบ้าง เดินขึ้นไปบ้าง
แรกๆก็นับขั้นเหมือนเดิม วันนี้ 5 พรุ่งนี้ 10
จนเดินขึ้นไปถึงขั้นบนสุดได้ ก็เดินขึ้นเดินลงได้ครบรอบ เมื่อได้ครบรอบ
วันต่อมาเราก็เดินขึ้นเดินลงหลายรอบมากขึ้น เพิ่มไปวันละ รอบ สองรอบ
ต่อมาก็ออกเดินรอบๆ บริเวณบ้าน แล้วก็เพิ่มรอบเหมือนกัน”


   “หลังจากนั้นก็ออกมาเดินรอบๆ ตัวบ้าน ที่เป็นพื้นปูนก่อน วันแรกๆ
ก็เดินให้ครบรอบ แล้วค่อยๆ เพิ่มรอบขึ้น เดินตอนเช้าๆ จะดีที่สุด เพราะ
รอบบ้านต้นไม้เยอะ อากาศดี หายใจแล้วสมองปลอดโปร่ง”


   ด้วยความตั้งใจจริง หลังจากออกจากโรงพยาบาล
คุณลุงเล่าว่าเพียงหนึ่งเดือนก็เห็นผล อาการอัมพฤกษ์ค่อยคลายลง
ร่างกายเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น


   “ที่ไม่มีแรงก็กลับมีแรงดีขึ้น กล้ามเนื้อที่เคยตึงก็หย่อน
ที่เคยพูดไม่ชัดก็พูดได้ชัดเหมือนเดิม อาการรวมๆ ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ
จนเดินได้เป็นปกติ ใช้เวลาราวหนึ่งปี และอาการตาพร่ามัว ขี้หลง ขี้ลืม
ปวดต้นคอ ที่เป็นมาเป็นปีๆ จนมาเป็นอัมพฤกษ์ก็หายไปด้วย”


  
คุณลุงบอกเคล็ดลับเอาชนะใจที่สามารถทำให้ลุกขึ้นเดินได้อย่างต่อเนื่อง
จนได้สุขภาพดีคืนมาว่า “ถ้าเราสู้เราจะไม่ท้อเลย อย่าคิดอะไร อย่าท้อแท้
มันเป็นกฎธรรมชาติของสังขารมนุษย์ โรคภัยต้องมีเบียดเบียนเป็นธรรมดา
เมื่อเป็นแล้ว เราต้องทำให้ดีที่สุด ช่วยตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
อย่ายอมแพ้ ไม่คิดแต่พึ่งหมอ จริงอยู่ว่าหมอช่วยเรา
แต่เราก็ต้องช่วยตัวเองด้วย ถ้าถอยก็คงไม่มีวันนี้หรอก”


สุขภาพดีเพราะเดินเป็นอาชีพ


   “ตั้งแต่วันที่เป็นโฆษกช่วยงานอยู่ที่วัด แล้วอยู่ๆ
ก็มีอาการพูดไม่รู้เรื่องได้หน้าลืมหลัง เวียนหัว เหมือนจะอาเจียน
ก็เลยกลับบ้าน บอกให้ลูกไปส่งที่โรงพยาบาล
หมอบอกเป็นไขมันอุดตันในเส้นเลือดจนเป็นอัมพฤกษ์นอนอยู่ในนั้น 34 วัน
เข็ดเลย เรื่องการไม่ออกกำลังกาย และกินของมันๆ เข็ดจริงๆ
ก็ได้การเดินนี่แหละที่ช่วยให้หาย ทุกวันนี้ไม่เคยหยุดเดิน
ต้องเดินทุกวันไม่ได้ขาด”


   หลังจากหายเจ็บป่วย
คุณลุงเล่าถึงกิจกรรมการเดินในแต่ละวันให้ฟังว่า “จะตื่นตั้งแต่ตี 4 –ตี 5
หุงข้าวหุงปลาเสร็จแล้ว ลงมาเดินรอบๆ บ้าน เดินหลายรอบ
แล้วก็ออกไปเดินนอกบ้าน ส่วนใหญ่เดินไปอบต.ไปอ่านหนังสือพิมพ์บ้าง
ได้พูดคุยกับเพื่อนฝูงบ้างก็ดี แรกๆ คนนอกบ้านก็ประหลาดใจว่า เดินได้แล้ว
นึกว่าตาสงตายแล้ว (หัวเราะ) รวมๆ แล้วต้องเดินออกกำลังกายทุกวัน
วันละครึ่งชั่วโมงบ้าง หนึ่งชั่วโมงบ้าง เหนื่อยเราก็หยุด ทำแบบสบายๆ
แต่ไม่ควรเดินช้ามาก ควรเร่งให้เร็วหน่อยจะดี”


   นอกจากการเดินออกกำลังกายประจำวันแล้ว
คุณลุงยังหาโอกาสเดินอยู่แถวละแวกบ้านเสมอๆ หากมีโอกาส
“ถ้าอยู่ในบ้านเราก็เดินรดน้ำต้นไม้รอบบ้าน เพราะมีต้นไม้เยอะ ว่างๆ
ก็เดินไปตลาด ไปซื้อของใกล้ๆ ไปวัด ไปเยี่ยมเยียนบ้านญาติ
ถ้าไม่ไกลจนเกินไปนักเราก็เดินเอา ไม่ขึ้นมอเตอร์ไซค์ บางทีระยะทางก็เป็น
อยู่ไกลเป็นกิโลๆ เหมือนกัน เดินสบายๆ แต่ให้ไวหน่อย
เป็นการออกกำลังกายไปในตัว เหนื่อยเราก็หยุดซะที”


   ประสบการณ์สุขภาพในครั้งนี้คือเครื่องยืนยันว่า
การออกกำลังกายด้วยการเดินเป็นของวิเศษสำหรับสุขภาพ
เพราะปัญหาสุขภาพที่ทราบกันอยู่ว่าเอาชนะได้ยากยิ่งก็ต้องยอมศิโรราบถ้าเรา
ตั้งใจออกกำลังกายอย่างจริงจัง











Create Date : 04 กันยายน 2552
Last Update : 4 กันยายน 2552 11:23:10 น. 0 comments
Counter : 1617 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

fnhero125
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add fnhero125's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.