กรกฏาคม 2556

 
1
2
3
4
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
ตอน 3 เบอร์ (ไม่) สำคัญ


              ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด เสียงริงโทนจากโทรศัพท์ของวินกรีดร้องตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า มันดังสม่ำเสมอแบบนี้มาร่วมเดือนแล้ว ไม่ใช่พ่อแม่ของวิน แต่เป็นเบอร์ของผู้หญิงคนหนึ่งที่ฉันไม่เคยเห็นหน้า หรือแม้แต่ได้ยินเสียง ผู้หญิงทิ่วินเล่าให้ฟังว่าเป็นรุ่นพี่ที่ทำงานเดียวกัน แต่ต่างแผนกกัน เธอแก่กว่าวินห้าปีเห็นจะได้ 
               หลังตัดสินใจกลับมาร่วมสร้างครอบครัวกับวินอีกครั้ง ความรักของเราก็ราบรื่นดี ไม่นับรวมปัญหาทางบ้านของวินที่มีอยู่บ้างประปราย แต่ฉันไม่อยากพูดถึงเรื่องนั้น เรื่องผู้หญิงที่วินรับโทรศัพท์แล้วเดินออกไปคุยหน้าบ้านนั่นสำคัญมากกว่าหลายเท่านัก ความรักของสองเรากำลังจะไม่ราบรื่นอีกครั้งแล้วสินะ
            ฉันมองวินหัวเราะกับโทรศัพท์แล้วร้าวลึกๆ ในอก คำบอกเล่าของวินยังกังวานอยู่ในหัว สามสี่วันแรกที่วินคุยโทรศัพท์กับผู้หญิงคนนั้นอย่างต่อเนื่อง ฉันถามเขาเพราะอยากรู้ เขาคุยกับใคร และคุยเรื่องอะไรกัน
             ‘พี่ที่ทำงานน่ะ เขาโทรมาปรึกษาปัญหาชีวิต แฟนเขาค่อนข้างเจ้าชู้ แล้วพี่เขาสงสัยว่าแฟนเขากำลังมีกิ๊ก’
                ‘แล้วเกี่ยวอะไรกับวินล่ะ วินจะช่วยอะไรพี่เขาได้’ ฉันไม่เข้าใจ ลำพังแค่ปัญหาครอบครัวของวินยังแก้ไม่ตกแล้ววินจะช่วยแก้ปัญหาครอบครัวคนอื่นได้ยังไง 
                ‘ก็แค่ให้คำปรึกษาบ้าง ให้พี่เขาสบายใจ จะได้เลิกคิดมากเรื่องแฟนเขาสักที’
                ‘มันไม่ใช่หน้าที่ของวิน พี่เขาไม่มีคนอื่นให้ปรึกษาเลยรึไง เนไม่สบายใจเลยนะที่เขาโทรหาวินทุกวันแบบนี้’
                ‘คิดมากน่ะเน พี่เขามีสามีมีลูกแล้วนะ วินไม่ได้สนใจอะไรเขาหรอก คุยกันปรึกษากันแบบพี่น้องมากกว่า’  
              หลายครั้งที่ฉันพยายามเปิดใจคุยกับวิน แต่เขามักจบการสนทนาด้วยประโยคคลาสสิคที่ว่า ฉันคิดมากไม่เอง พี่คนนั้นไม่เคยคิดอะไรแค่หาเพื่อนปรับทุกข์ หนักๆ หน่อย วินก็กล่าวหาว่าฉันไม่ไว้ใจเขา 

                 ยอมรับว่าที่ผ่านมาวินไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง เขาไม่เคยมีปัญหาเรื่องผู้หญิงมากวนใจฉัน วินไม่ใช่คนเจ้าชู้ แต่ตอนนี้ ฉันเริ่มไม่มั่นใจในพฤติกรรมของเขาเสียแล้ว 

                 “พี่เขาโทรมาอีกแล้วเหรอ” ฉันถามเมื่อวินเดินกลับเข้ามาในบ้าน วันนี้เป็นวันหยุด เราตื่นเช้าเพราะสายๆ ตั้งใจจะไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก๊ต 
                 “อืม” วินตอบแค่นั้นแล้วเดินเร็วเข้าครัว ไม่อยู่ให้ฉันซักอีกประเด็นที่อยากรู้ ‘โทรมาเรื่องอะไร’

                  ฉันมองโทรศัพท์ที่วินวางทิ้งเอาไว้ หยิบมันขึ้นมากดเช็กไล่ดูประวัติการโทรอย่างถือวิสาสะ ที่ผ่านมาฉันไม่เคยสนว่าวินจะติดต่อกับใครบ้าง แต่ครั้งนี้ ใจมันสั่งว่าไม่สนไม่ได้อีกแล้ว พฤติกรรมของผู้หญิงคนนั้น ไม่น่าไว้วางใจ

                 “นี่โทรหากันเช้ากลางวันเย็นเลยเหรอ มันอะไรนักหนาน่ะวิน” วินถือแก้วกาแฟเดินออกจากครัวฉันก็ถามเขาเสียงแข็งทีเดียว
                 “อะไรอีกล่ะเน นี่ไม่ไว้ใจวินถึงขั้นเช็กโทรศัพท์เลยเหรอ วินบอกหลายรอบแล้วนะว่าไม่มีอะไร” เขาทำเสียงขุ่น วางแก้วกาแฟที่ยังไม่ได้จิบลงบนโต๊ะหน้าโซฟา
              “ไม่มีอะไรแน่เหรอวิน โทรหากันเกือบทุกวัน วันละหลายๆ รอบ นี่วินกำลังปิดบังอะไรเนอยู่รึเปล่า” ฉันกำโทรศัพท์เขา ตาวาวเอาเรื่องจ้องเขาไม่กะพริบ ปัญหาคาราคาซังนี้มันไม่จบ มันยืดเยื้อมาร่วมเดือน ฉันผิดเองที่ใจเย็น หลงเขื่อคำของวินและอยู่เงียบๆ อย่างไม่มีปัญหาอะไร เห็นโทรมาทุกเช้า ก็ไม่คิดว่าตลอดทั้งวันยังมีสายของผู้หญิงคนนั้นโทรเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งพักกลางวัน หลังเลิกงาน และบางคืนที่วินอยู่ทำโอดึกดื่น ก็ยังมีเบอร์ของผู้หญิงคนนั้นโชว์หราในประวัติการโทร
              “ปิดบังอะไรล่ะเน วินบอกเนหลายรอบแล้วนะว่าไม่ได้คิดอะไรกับพี่เขาจริงๆ ก็แค่ให้คำปรึกษา ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้นะเน”

                 “ปรึกษาอะไรนักวิน วินสนแค่ว่าพี่เขาจะเป็นจะตาย แต่วินไม่สนว่าเนจะรู้สึกยังไงใช่มั้ย” 
                 “ไม่เอาน่าเน อย่าคิดมากนะ วินไม่ได้คิดอะไรกับพี่เขาจริงๆ วินไม่อยากให้เนคิดมากนะ” วินคว้ามือฉันไปกุมแน่น เขามองตาแดงก่ำที่คลอหน่วยไปด้วยน้ำตาของฉัน
                “ไม่อยากให้เนคิดมากก็เลิกคุยกับเขาสิ ไม่ต้องรับโทรศัพท์เขาอีก”
                 “ก็ได้เน เพื่อความสบายใจของเนนะ” วินรับปากดิบดี เขายีผมฉันเล่น เอ่ยเย้าว่าฉันคิดมากราวว่าเรื่องที่ถกเถียงกันเมื่อครู่เป็นเรื่องตลก แต่สำหรับฉัน มันเป็นตลกร้ายที่ขำไม่ออกเลยจริงๆ 


                  ฉันเดินเลือกของใช้ใกล้ครบตามรายการที่จดใส่กระดาษ ขาดอีกสองสามอย่างจำพวกเครื่องครัว วินเข็นรถเข็นอยู่ข้างๆ แวะหยิบนู้นดูนี่บ้างไปตามประสา สักพักเขาก็ทิ้งรถเข็นไว้ข้างๆ ชั้นสินค้า  เดินไปเลือกกาแฟสำเร็จบนชั้นอีกฝั่ง เมื่อได้สินค้าครบตามรายการ วินก็เข็นรถไปรอคิวชำระเงิน 
             “เดี๋ยววินไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” เขาเดินไปแล้ว คงไม่รู้ตัวว่าฉันยังจ้องตามหลังเขาไปตาไม่กะพริบ ฉันจุกในอก ใจมันร้าวทันทีเมื่อเห็นว่าเขารับโทรศัพท์ คงไม่ใช่ใครที่ไหน เที่ยงๆ แบบนี้จะมีใคร ไม่พ้นผู้หญิงที่เคยต่อสายถึงเขาทุกวี่วัน

              “ทำไมกินน้อยจังเน ไม่อร่อยเหรอ” วินเอาใจฉันเหมือนเดิม เขาสละลูกชิ้นในชามก๋วยเตี๋ยวให้ฉันอย่างไม่เสียดาย 

             ข้าวหมูอบคือของโปรดปรานที่ฉันไม่เคยเหลือคาจานเอาไว้ แต่วันนี้ผิดปกติ มันจุกในอกจนกลืนลำบาก ท้องก็ตื้อก็ตึงจนไม่อยากรับอะไรลงไปอีก 
            “ไหนบอกจะเลิกคุยกับเขา” ฉันเก็บความรู้สึกไม่เก่งเอาเสียเลย ไม่อยากทำตัวไร้เหตุผลแต่บางเรื่องมันก็สุดจะทนเหมือนกัน วินผิดสัญญา เขาสักแต่พูดแล้วไม่คิดจะทำ หรือทำไม่ได้ จะให้ฉันยิ้มระรื่นอยู่ได้ยังไง 
             “ก็เผื่อเขาจะมีธุระเรื่องงาน” ฟังคำของวินก็เหมือนแก้ตัว น้ำขุ่นคลักจนมองไม่เห็นอะไรแล้ว 
             “แต่นี่มันวันหยุดนะวิน” ฉันเริ่มขึ้นเสียง ไม่พอใจที่เขาไม่รักษาคำพูด สัญญาแต่เช้า พอบ่ายก็ลืมเสียสิ้น 
            “ไปคุยกันที่บ้านเถอะเน อายคนอื่นเขา” วินลุกขึ้น หิ้วถุงที่วางบนเก้าอี้ แล้วลากแขนฉัน พาออกจากศูนย์อาหารรวดเร็ว คงกลัวฉันจะวีนลั่นให้ได้อายคน ความอดทนฉันมีเยอะเหมือนกัน แต่ตอนนี้มันกำลังจะสะบั้นลง

  “วินนอกใจเนใช่มั้ย” เข้ามานั่งในรถได้ ฉันก็ยิงคำถามคาใจใส่เขาทันที
             “พูดบ้าอะไรเน พี่เขามีลูกมีผัวแล้วนะ” วินหน้าเครียด หันมาขึ้นเสียงใส่ฉันแล้วสตาร์ทเครื่องยนต์ 
             “มีแล้วก็นอกใจได้ เหมือนที่วินกำลังทำอยู่” เสียงฉันเครือสั่น กระบอกตาเริ่มร้อนเพราะน้ำตามันรื้อมาเอ่อขัง
             “หยุดหาเรื่องได้มั้ยเน วินบอกว่าไม่มีอะไรก็คือไม่มี ทำไมเนถึงยัดเยียดให้มันมีให้ได้ เราเลิกพูดเรื่องนี้กันสักทีเถอะ” เขาตะคอกเสียงดังลั่นรถ น้ำตาฉันร่วงลงทันที วินกระชากรถออกจากลานจอด ฉันจึงเบือนหน้าหนีมาร้องไห้อยู่กับตัวเองเงียบๆ บรรยากาศในรถช่างน่าอึดอัด มีเพียงเสียงเครื่องยนต์อื้ออึงกับความรุมร้อนในอกของฉันที่กำลังจะปะทุ 
             โทรศัพท์ดังขึ้นอีกแล้ว วินไม่ยอมรับเพราะกำลังขับรถ ฉันเหลียวตาอยากรู้ไปจ้องเมื่อมันกรีดร้องขึ้นอีกครั้ง ราวว่าชื่อตัวโตโชว์หราบนหน้าจอกำลังหัวเราะเยาะผู้หญิงโง่งม

            “นังหน้าด้าน” ฉันสบถหยาบคายตั้งใจให้วินได้ยิน แล้วกดตัดสายเบอร์ไม่สำคัญนั้นทิ้งอย่างไม่ไยดี 

            วินหันมามองฉันแล้วเม้มปากขบกราม เขาไม่พูดอะไร เพราะต้องใช้สมาธิกับการจราจรที่คับคั่ง โทรศัพท์ดังขึ้นอีกแล้ว ชื่อเดิมโชว์หราขัดลูกตายิ่งนัก ฉันตัดสินใจในทันที คว้าโทรศัพท์ของวินมากดรับเพราะอัดอั้นเกินจะทน

            “วินจ๊ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าแวะซื้อสาลีมาให้พี่สักโลนะ” ยังไม่ทันที่ฉันจะทักทาย เสียงหวานที่ฉันฟังว่าดัดจริตก็กระแทกเข้าโสตประสาท พายุหึงซัดกระหน่ำความคิดแต่ก่อนปากจะทันได้หลุดคำร้าย วินก็คว้าแย่งโทรศัพท์จากมือฉันไปกดตัดสายทิ้งทันที

             ตัวรถจอดสนิทหน้ารั้วบ้าน วินและฉันลงจากรถพร้อมกัน เขาดึงแขนพาฉันเข้าไปในบ้านไม่สนเคลื่อนรถเข้าจอดให้เรียบร้อยเหมือนทุกครั้ง  
            “เดี๋ยวนี้วินกลายเป็นคนรับใช้คนอื่นไปแล้วเหรอ กี่ครั้งแล้วที่วินคอยเอาอกเอาใจเขา ทำตามคำสั่งเขา กี่ครั้งแล้ววิน” ฉันระเบิดเสียงลั่นบ้าน วินจ้องหน้าฉันนิ่งอย่างไม่ยอมแพ้ 
            “เลิกบ้าสักทีเถอะเน วินคิดกับพี่เขาแค่พี่น้อง ไม่มีอะไรเกินเลยกันจริงๆ ทำไมเนไม่พยายามเข้าใจอะไรบ้าง”
            “แต่เนไม่ชอบ เนเป็นทุกข์ วินมีความสุขดีมั้ยที่เห็นเนเป็นแบบนี้ เพราะใครล่ะวิน เพราะผู้หญิงคนนั้น วินแคร์เขา ห่วงเขา มากกว่าเนใช่มั้ย”

            “ไปกันใหญ่แล้วเน วินไม่ได้พูดแบบนั้นสักคำ”
             “แต่วินกำลังทำ ทั้งวินทั้งเขาไม่เกรงใจเนเลย จะมีผู้หญิงสักกี่คนยอมรับได้ ถ้าสามีตัวเองคุยกับผู้หญิงอื่นทุกวันแบบนี้” ฉันเถียงเขาด้วยใจเจ็บ น้ำตาไหลลงเป็นทาง วินยังยืนกรานอยู่กับเรื่องเดิมๆ และคำเดิมๆ ว่าไม่มีอะไร ไม่ได้คิดอะไร 

              “เนไม่ไว้ใจวินใช่มั้ย ที่ผ่านมายังพิสูจน์ไม่ได้ใช่มั้ยว่าวินเป็นคนยังไง” วินยกความไว้เนื้อเชื่อใจขึ้นมากล่าวอ้าง มันจะมีประโยชน์อะไรเล่า ในเมื่อความไว้ใจที่เคยมีกำลังจะถูกบั่นทอนเพราะผู้หญิงอีกคน 

              “เนขอแค่ให้เลิกคุย เลิกติดต่อ วินยังทำเพื่อเนไม่ได้ แล้วเนยังจะไว้ใจอะไรได้อีก” น้ำตาฉันยังร่วง เสียงฉันยังสะอื้น วินถอนหายใจสีหน้าเหนื่อยหน่าย ในขณะที่หัวใจฉันร้าวรานเพราะเจ็บปวด
              “พี่ที่ทำงานของวินนะเน มันก็ต้องคุยกันติดต่อกัน แล้วเนจะให้วินทำยังไง”
              “เนไม่รู้ หากวินจบปัญหานี้ไม่ได้ เนจะเป็นคนจบมันด้วยตัวของเนเอง” ฉันประกาศก้องแล้วเดินดุ่มออกไปร้องไห้กับเจ้าปุยและสีสวาท หมาแมวไม่รู้หรอกว่าเจ้านายของพวกมันกำลังทุกข์ใจ ปุยยังกระโดดโลดเต้นเวลาฉันออกไปหา สีสวาทยังคลอเคลียเป็นแมวน้อยน่ารักตามประสาของมัน 

               ตลอดสองคืนมานี้ฉันนอนไม่ค่อยหลับเพราะปัญญาหนักอก เชื่อว่าวินก็นอนไม่หลับเช่นกัน เพราะเขาพลิกตัวบ่อย เช้าวันทำงานโทรศัพท์ของวินก็ยังดังเหมือนเดิม เวลาเดิม และคนๆ เดิม วินไม่รับโทรศัพท์ เขาทำเมินไม่สนใจ คงรู้สึกเกรงใจฉันขึ้นมาบ้าง  เสียงโทรศัพท์เงียบไปแล้วแต่ผู้หญิงคนนั้นยังไม่ละความพยายามกระหน่ำโทรเข้ามาอีกหลายสาย วินไม่สน ฉันก็ไม่สน เราสองคนรีบแต่งตัวเพื่อออกไปทำงาน ในใจฉันภาวนาซ้ำๆ หวังว่าวินจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ในเร็ววัน

              ฉันนั่งเพ่ง จ้องเข็มนาฬิกาที่ขยับช้าไม่ทันใจ ทำงานไม่มีสมาธิเพราะเรื่องของวินกับผู้หญิงคนนั้นคอยรบกวน ฉันไม่เล่าให้ใครฟัง ไม่ปรึกษาใครทั้งนั้น เพราะคิดว่าจัดการเรื่องนี้ได้อย่างที่ประกาศใส่หน้าวินไปวันก่อน สองวันแล้วที่ไร้ความคืบหน้า วินยังจบปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้ด้วยตัวของวินเอง และฉันจะไม่ให้เวลาวินอีกแล้ว ฉันเบื่อการรอคอย ถึงเวลาที่ฉันจะเด็ดขาดกับผู้หญิงคนนั้นสักที 

              ฉันกดโทรออกเบอร์ไม่สำคัญที่แอบบันทึกจากเครื่องของวิน รอสัญญาณอยู่สักพักเสียงหวานก็กรอกทักทาย มันฟังแจ่มใสไม่เหมือนผู้หญิงที่กำลังเผชิญอยู่กับปัญหาสามีนอกใจเลยสักนิดเดียว

              “โทษนะคะ คุณใช่มั้ยที่ชอบโทรหาสามีฉันทุกวัน” ฉันใช้คำว่า ‘สามี’ อย่างเต็มปากเต็มคำ แม้จะไร้ทะเบียนสมรสและการแต่งงาน แต่วินกับฉันก็เป็นสามีภรรยาอย่างถูกต้องตามพฤตินัย 
             “เธอเป็นใคร” เสียงหวานดัดจริตแปรเปลี่ยน ห้วนกระด้างฟังไม่เพราะหู
              “ภรรยาของวินค่ะ ฉันไม่สบายใจที่คุณยุ่งวุ่นวายกับสามีของฉัน ขอร้องตามประสาผู้หญิงด้วยกันนะคะ อย่าโทรหาสามีฉันอีกหากไม่จำเป็น”
             “แค่คุยธุระ” เสียงเธอยังห้วนกระด้าง ไม่เพราะเหมือนเวลาจ๊ะจ้ากับวินสักน้อย
             “จำเป็นต้องมีธุระกันทุกวัน เช้า สาย บ่าย เย็นเหรอคะ คุณเองก็มีสามี คุณไม่ชอบที่มีผู้หญิงคนอื่นมายุ่งวุ่นวายกับสามีคุณ ฉันเองก็ไม่ชอบค่ะ คุยกันในฐานะเพื่อนร่วมงานฉันไม่ว่าอะไร แต่คุณกำลังล้ำเส้น ฉันไม่สบายใจกับการกระทำของคุณค่ะ”

              “ห้ามคนของตัวเองดีกว่ามั้ย” คราวนี้น้ำเสียงของเธอคล้ายยียวน แต่ฉันไม่สน ฉันรู้ดีว่าวินเป็นคนยังไง และทุกครั้ง วินไม่เคยโทรหาผู้หญิงคนนี้ก่อน 
             “ถ้าคุณไม่หยุด เรื่องนี้อาจต้องถึงหูสามีคุณ และคิดว่าคุณคงไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้นนะคะ” ฉันขู่เสียงเข้มแล้วกดตัดสายนั้นทิ้ง นั่งยิ้มข่มความระทมในอก เฝ้ารอเวลาวินเลิกงาน เชื่อเลยว่าหากผู้หญิงคนนั้นใจไม่บริสุทธิ์ เธอต้องคาบเรื่องนี้ไปฟ้องวิน และเชื่ออีกโข ว่าเรื่องเล่าจากปากผู้หญิงคนนั้น ต้องเกินไปจากเรื่องจริงแน่นอน

นาฬิกาข้างฝาบอกเวลาสองทุ่มเศษ วินกลับมาแล้ว เขาเปิดประตูแล้วเดินฟึดฟัดเข้ามากระชากแขนฉันที่กำลังคนต้มจืดในหม้อ 

           "ทำไมเนถึงเป็นคนแบบนี้ เนไประรานพี่เขาทำไม แค่ปัญหาครอบครัวพี่เขาก็ทุกข์ใจมากอยู่แล้วนะเน ทำไมเนไม่เห็นใจผู้หญิงด้วยกันบ้าง” เขาตวาดใส่ฉันปาวๆ ผิดปากฉันที่ไหน ที่คาดการณ์ไว้ไม่ผิดเพี้ยนไปเลย 
           “โดนกรอกหูมาว่ายังไงบ้างล่ะ” ฉันใจเย็น รอให้วินเล่าให้ฟังว่าผู้หญิงคนนั้นใส่ร้ายฉันว่ายังไงบ้าง ในสายตาของวิน ฉันกลายเป็นผู้หญิงปากตลาด หยาบคาบ ชอบระรานข่มขู่ ไม่เหลือความดีใดๆ ให้ชื่นชม

            “เนทำทำไม พี่เขาเสียใจแค่ไหนเนรู้รึเปล่า” วินยังหูหนวกตาบอด เชื่อผู้หญิงร้อยมารยาคนนั้นอย่างสนิทใจ 
            “แล้วเนเสียใจแค่ไหนวินรู้รึเปล่า” ฉันตอกหน้าเขากลับไปบ้าง เสียงยังเครือ น้ำตายังร่วงกราว ฉันสะบัดมือให้หลุด ผลักเขาให้ออกห่างแล้วเดินออกจากครัว วินยังตามไม่เลิก เขาดึงแขนรั้งไว้แล้วพูดพร่ำตามแต่ใจเขา

              “เนไม่เคยหยาบคาย เนทำแบบนั้นทำไม วินรับปากแล้วว่าจะเคลียร์ทุกอย่างให้ ทำไมเนไม่ฟังวินเลย”

              “แล้ววินล่ะเคยฟังเนบ้างมั้ย มาถึงก็ใส่เนปาวๆ ความจริงมีสักครึ่งคำมั้ยวินก็ไม่คิดจะถาม ยัดเยียดว่าเนเป็นคนทำให้ได้งั้นสิ” น้ำตายังไหลแต่ฉันไม่สะอื้น ตายังจ้องสู้ตาคมดุของวินอย่างไม่ยอมแพ้ ความน้อยใจวิ่งพล่านในอกระทม วินเชื่อคำโกหกของผู้หญิงคนนั้นมากกว่าคนที่รักและผูกพันกันมาหลายปี 
              “วินเปลี่ยนไปนะ รู้ตัวบ้างรึเปล่า” วินคงได้สติ เขาคลายแรงมือที่บีบแขนฉันแขน แล้วยอมปล่อยฉันให้เป็นอิสระ 

               ฉันเดินกลับเข้าไปในห้อง หยิบโทรศัพท์ที่วางทิ้งไว้บนเตียง เลือกเปิดไฟล์เสียงที่กดบันทึกไว้จากโปรแกรมบันทึกการสนทนา ฉันคาดไว้ก่อนแล้ว วางแผนไว้แล้วตั้งแต่คิดจะโทรไป ฉันต้องสร้างหลักฐานให้ตัวเอง ปกป้องตัวเองเหมือนกัน วินเดินตามเข้ามาในห้อง คงอยากเคลียร์เรื่องคาใจ ฉันยื่นโทรศัพท์ที่พร้อมเล่นไฟล์เสียงให้เขา แล้วกดให้มันดำเนินบอกเล่าข้อเท็จจริง 

                 “นี่ไงล่ะความจริง” ฉันบอกเขาเมื่อไฟล์เสียงดำเนินไปจนจบ แววตาตัดพ้อไม่น้อยเลย
              วินอึ้ง หน้าเจือนลง เขาก้มลงมองโทรศัพท์ในมือ กดเล่นไฟล์เสียงและตั้งใจฟังมันอีกครั้ง คงแปลกใจอย่างที่สุดมันไม่เหมือนคำบอกเล่าจากปากของผู้หญิงเจ้ามารยาคนนั้นสักนิดเดียว

                 “เน” แววตาสำนึกผิดช้อนขึ้นมองหน้าฉัน แต่ฉันไม่ปล่อยให้วินพูดอะไรอีก

                 “เนผิดมากเหรอวิน เนพยายามปกป้อง รักษาครอบครัวของเรา วินบอกจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย แต่วินก็ทำไม่สำเร็จ ปล่อยให้คาราคาซังทิ่มใจเนอยู่ทุกวัน วินคิดว่าเนมีความสุขดีใช่มั้ย ปากวินบอกว่าไม่มีอะไร แต่การกระทำของวินไม่ใช่เลย ถ้าพี่เขาบริสุทธิ์ใจไม่ได้คิดอะไรจริง ทำไมเขาต้องโกหกวิน ทำไมต้องใส่ร้ายเนล่ะ เขาทำแบบนี้ทำไมล่ะวิน” 
               น้ำตาฉันร่วงพราว วินคงสัมผัสได้เสียทีว่าใจดวงเล็กของฉันถูกทำร้ายอย่างแสนสาหัส มันบอบช้ำมานานร่วมเดือน แต่คนที่บอกว่ารักฉันก็ไม่เคยคิดจะสนใจและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง 
               “วินชอบพี่เขาใช่มั้ย” คำถามของฉันเรียกหน้าซีดของวินให้เงยขึ้นมอง เขารีบแก้ความเข้าใจผิดของฉํนอย่างร้อนรน
              “ไม่ใช่อย่างที่เนคิดนะ วินไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับพี่เขาจริงๆ วินคุยกับเขาเพราะอยากให้คำปรึกษา ไม่อยากให้เขาทุกข์ใจเรื่องสามีเขาจนคิดสั้น ใจวินคิดแค่นี้จริงๆนะเน วินแค่ไม่อยากให้เนไม่สบายใจเวลาพี่เขาโทรมา เลยเลี่ยงออกไปคุยข้างนอก วินไม่รู้จริงๆว่าที่วินทำไปจะทำให้เนคิดมาแบบนี้”

                  “แล้ววินก็เชื่อหมดใจใช่มั้ยว่าพี่เขามีปัญหาจริงๆ แค่เรื่องเนโทรไปหาเขา เขายังโกหกวิน ใส่ร้ายเนเสียๆหายๆ แล้ววินคิดเหรอ ว่าเรื่องอื่นเขาจะไม่แต่งละครตบตาวินอีก” ขอสันนิษฐานของฉันทำให้วินอึ้งไปเหมือนกัน ความภาคภูมิใจที่กลายเป็นฮีโร่ช่วยแก้ปัญหาให้ผู้หญิงคนนั้นมลายไปสิ้น วินเริ่มลังเล เขานิ่งไม่ตอบ คงทบทวนว่าที่ผ่านมาเขาผิดเขาพลาดอะไรไปบ้าง 
              “ที่ผ่านมาวินทำให้เนทุกข์ใจมากใช่มั้ย” เขาจับมือฉัน ตาเศร้ามองฉัน มันแดงนิดหน่อยเหมือนคนจะร้องไห้ 
               “ยังมีหน้ามาถามอีกเหรอ” ฉันสะอื้นอีกครั้งเมื่อเขาดึงฉันเข้าไปกอดเหมือนที่ชอบทำเวลาเราทะเลาะกัน อ้อมกอดของวินยังอบอุ่นเหมือนเดิม ฉันสัมผัสได้ว่าหัวใจของเขายังไม่ได้เกเรเผลอไผล ถามว่าทำไมยังเชื่อใจ ยังให้โอกาส เพราะ ‘รัก’ ง่ายๆสั้นๆ คำเดียว ในเมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะร่วมชีวิตกับผู้ชายคนนี้ไปจนวันตาย ความหวาดระแวงมีได้ แต่หากมากเกินไป ความสัมพันธ์อันดีอาจพังครืนลงอย่างไม่รู้ตัว ฉันเชื่อเสมอว่าปัญหาของการใช้ชีวิตคู่จะไม่ได้จบลงแค่เรื่องเดียว ยังมีอีกร้อยแปดปัญหาที่พร้อมจะดาหน้าเข้ามาเยือน
               “เนยังเชื่อใจวินอยู่ใช่มั้ย” เขาถามอู้อยู่ข้างหู แขนยังรัดกอดฉันไว้แน่น
                   “เนเชื่อใจวิน แต่เนไม่ไว้ใจผู้หญิงคนนั้น” การกระทำของผู้หญิงเจ้ามารยาบ่งบอกชัดเจนว่ากำลังล้ำเส้น และเธอก็ทำมันอย่างจงใจเสียด้วย
                   “ตบมือข้างเดียวไม่ดังนะเน หากวินไม่เล่นด้วย เรื่องไม่ดีคงไม่เกิดขึ้นหรอก” เขาคลายอ้อมกอด มองหน้าฉันแล้วสำบัดสำนวน

                    “แต่รักแท้ ก็แพ้ใกล้ชิดได้นะวิน ผู้ชายชอบนักไม่ใช่รึไง ของฟรีน่ะ เห็นชอบพูดกันบ่อยๆ ว่าได้กำไร ไม่เสียหาย”

                    “เห็นวินเป็นคนแบบนั้นไปตั้งแต่เมื่อไหร่”
                 “เพราะไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เนถึงต้องทำแบบนี้ไงล่ะ” วินยิ้ม ฉันก็ยิ้ม น้ำตาแห้งไปแล้วเพราะเขาบรรจงเช็ดให้ 
                 “วินคงต้องจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจังสักที” 

                 เขาให้คำมั่น แต่ไม่ยอมบอกฉันว่าเขาจะทำอะไร กลับเปลี่ยนเรื่องส่งเสียงอ้อนว่หิวไส้กิ่ว อยากลิ้มรสต้มจืดฝีมือฉัน แล้วเขาก็จูงฉันไปนั่งที่โต๊ะอาหารในห้องครัว จัดแจงจัดโต๊ะด้วยตัวเอง ไม่ยอมให้ฉันหยิบจับอะไร เขาเอาใจฉันมากขึ้นตั้งแต่กลับมาใช้ชีวิตร่วมกันอีกครั้ง บางครั้งฉันก็แอบคิดอยู่ในใจ ว่าวินกำลังทำดี เอาอกเอาใจ กลบเกลื่อนความผิดบางอย่างเอาไว้หรือไม่ แต่ฉันเลือกไม่คิด เพราะมันทุกข์ รับรู้เพียงแค่ว่า วินรักฉัน เรารักกัน และวันนี้ หัวใจเขายังมีเพียงฉันคนเดียวที่ได้ครอบครอง 




Create Date : 05 กรกฎาคม 2556
Last Update : 5 กรกฎาคม 2556 11:01:08 น.
Counter : 2389 Pageviews.

23 comments
  
มาหาวินกับเนค่า พี่น้ำ ^^

เศร้าเนอะ ชีวิตจริงหลายคู่ก็คงอย่างนี้

อย่าลืมนะคะ ตอนหน้าเรื่องของวิน
ยิ่งไม่รู้ ยิ่งต้องทำ
อยากรู้จังพี่น้ำจะสื่อเพลงนี้ออกมายังไงสำหรับมุมมองของวิน ^^

โดย: lovereason วันที่: 6 กรกฎาคม 2556 เวลา:0:26:39 น.
  
อิอิ ขอบคุณมากจ้าน้องนุ่น

ตอนหน้าคงอีกนานเลย สมองตึงมากเลยค่ะ ช่วงนี้
โดย: บ้านสายไหม วันที่: 6 กรกฎาคม 2556 เวลา:13:37:46 น.
  
สวัสดีค่ะคุณน้ำค้าง
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยม
แต่งเรื่องได้เก่ง น่าติดตาม
กดไลท์ให้คนที่2 นะคะ
โดย: pantawan วันที่: 6 กรกฎาคม 2556 เวลา:21:46:32 น.
  

สวัสดียามค่ำครับ
โดย: ก้อนเงิน วันที่: 18 กรกฎาคม 2556 เวลา:20:10:16 น.
  

สวัสดีค่ะ คุณน้ำค้าง
ใกล้วันเข้าพรรษา ขอให้บุญรักษา พระคุ้มครองนะคะ

ผลงานงาม มาติดตาม พร้อมขอบคุณด้วยค๊า
โดย: เขมอนันท์ วันที่: 20 กรกฎาคม 2556 เวลา:19:03:00 น.
  
สวัสดีค่ะคุณน้ำค้าง
แวะมาเยี่ยมและเอาบุญมาฝากค่ะ
โดย: pantawan วันที่: 25 กรกฎาคม 2556 เวลา:0:14:01 น.
  


สุขสันต์วันแม่นะครับ
โดย: ก้อนเงิน วันที่: 11 สิงหาคม 2556 เวลา:12:22:06 น.
  
โดย: บ้านสายไหม วันที่: 13 สิงหาคม 2556 เวลา:15:00:55 น.
  
โดย: บ้านสายไหม วันที่: 13 สิงหาคม 2556 เวลา:15:02:15 น.
  


ส่งความรักและความสุขมอบให้น้องน้ำค้าง
สุขสันต์วันแม่ย้อนหลังจ้า อิอิ




โดย: เขมอนันท์ วันที่: 13 สิงหาคม 2556 เวลา:18:58:29 น.
  


สวัสดียามค่ำครับ
โดย: ก้อนเงิน วันที่: 14 สิงหาคม 2556 เวลา:19:36:50 น.
  



สวัสดียามค่ำครับ
โดย: ก้อนเงิน วันที่: 20 สิงหาคม 2556 เวลา:22:30:55 น.
  
สวัสดีค่ะน้องน้ำ

แวะมาทักทายค่ะ
โดย: ~My Birthday is on April 14~ วันที่: 25 สิงหาคม 2556 เวลา:23:08:22 น.
  
สวัสดียามเย็นครับ


โดย: ก้อนเงิน วันที่: 1 กันยายน 2556 เวลา:17:26:32 น.
  

มาทักทายน้องน้ำนะคะ
ดูแลสุขภาพบ้าง
โดย: เขมอนันท์ วันที่: 12 กันยายน 2556 เวลา:9:48:40 น.
  
สวัสดียามค่ำครับคุณ**mp5**




โดย: ก้อนเงิน วันที่: 12 กันยายน 2556 เวลา:22:16:31 น.
  
สวัสดียามค่ำครับคุณบ้านสายไหม




โดย: ก้อนเงิน วันที่: 12 กันยายน 2556 เวลา:22:21:52 น.
  
สวัสดีจ้า^^

แวะมาทักทายยามค่ำจ้า
โดย: ~My Birthday is on April 14~ วันที่: 13 กันยายน 2556 เวลา:18:47:47 น.
  

สวัสดีค่ะ น้องน้ำ

มาเยี่ยม พร้อมส่งเสิร์ฟกาแฟ มิตรภาพนะคะ
โดย: เขมอนันท์ วันที่: 13 กันยายน 2556 เวลา:19:00:37 น.
  
สวัสดีค่ะ
แวะมาเยี่ยม
พักผ่อนอย่างมีความสุขนะคะ
โดย: pantawan วันที่: 13 กันยายน 2556 เวลา:23:03:14 น.
  
สวัสดียามค่ำครับ



โดย: ก้อนเงิน วันที่: 15 กันยายน 2556 เวลา:20:15:20 น.
  
สวัสดีค่ะคุณน้ำค้าง


โดย: pantawan วันที่: 17 กันยายน 2556 เวลา:22:26:54 น.
  
สวัสดีค่ะ

แวะมาทักทายด้วยความคิดถึง

ไม่เห็นน้องน้ำที่ถนนหลายวันแล้ว

บุกมาหาที่นี่เลย ^^
โดย: ~My Birthday is on April 14~ วันที่: 21 กันยายน 2556 เวลา:22:11:01 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

น้ำตาจากฟ้า
Location :
ระยอง  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]



เจ้าของบ้านนี้ชื่อ น้ำค้าง นะคะ เรียกขานกันสั้นๆว่า น้ำ ก็ยินดีค่ะ น้ำเป็นโปรแกรมมั่ว ทำงานในบริษัทเอกชน อาชีพเสริมเป็นนักเขียนหน้าใหม่ นามปากกาว่า เนตรนที น้ำชอบงานฝีมือประเภท ถักโครเชต์ และเย็บชุดตุ๊กตา ยังบ้าเล่นตุ๊กตาอยู่ค่ะ ทั้งบาร์บี้ทั้งบลายธ์ โตแต่อายุและตัว ความชอบตั้งแต่เด็กยังไม่เปลี่ยนไป ฝากตัวฝากหัวใจเข้ามาทักทายกันได้นะคะ (*v*)