lozocat
ยินดีต้อนรับสู่บ้านหมูอิงคร้าบบบบบ
เกาะช้าง 15-17 มีนาคม 2551

เริ่มต้นเก็บของตั้งแต่เย็นวันพฤหัสที่ 13 มีนา เพราะว่าวันศุกร์จะได้ไม่ฉุกละหุก เย็นวันศุกร์ 14 มีนา พี่เอ๋สอบวันสุดท้าย พอเราออกจากที่ทำงานก็ไม่ได้ไปแวะที่บ้านลาดพร้าวก่อน แต่ไปรอพี่เอ๋อยู่ที่ยูเนี่ยนมอลล์เลย กะว่าคงรอนาน เลยไปกินข้าว สระผมรอ แต่ว่าพอประมาณ 1 ทุ่มพี่เอ๋ก็โทรมาบอกว่าเสร็จแล้ว ยังไม่ทันจะสระผมเสร็จเลย ก็ต้องรอกันอีกพักนึง ถึงได้เดินทางออกจากกรุงเทพฯ

จากกรุงเทพฯ คืนนี้ต้องไปนอนที่ชลบุรีก่อน เพราะต้องแวะรับน้องอิง แล้วก็เก็บของน้องอิง กว่าจะไปถึงบ้านที่ชลฯ ก็ปาเข้าไป 3 ทุ่มกว่าแล้ว น้องอิงหลับปุ๋ยไปแล้ว ไม่รู้ตัวเลยว่าต้องถูกอุ้มไปกลางดึก อิอิ กว่าจะเก็บของน้องอิงเสร็จ ก็ปาเข้าไป 5 ทุ่ม ง่วงก็ง่วง ได้นอนหลับไปพักนึง สักตี 2 กว่าๆ พี่เอ๋ก็ปลุกให้เตรียมตัวไปได้แล้ว

อ่อ ลืมเล่าไปนิดนึงว่า น้องอิงตื่นขึ้นมาแว้บนึงประมาณสัก 5 ทุ่มก่อนที่เราจะเข้านอนนั่นล่ะ น้องอิงผงกหัวขึ้นมาเห็นหน้า ปะป๊า แล้วน้องอิงก็ทำหน้างงๆ หน้าเหย่เก จะร้องไห้ เลยต้องรีบเรียกให้มาซบอกคุณแม่ ถึงได้หลับต่อได้ สงสัยว่าจะงงๆ ไม่น้อยที่อยู่ๆ ตื่นขึ้นมาก็เจอหน้าปะป๊า โดยไม่ทันตั้งตัว

น้องอิงถูกอุ้ม (พูดอย่างกับถูกลักพาตัวแน่ะ) ไปกลางดึก เกือบๆ ตีสาม สามคนพ่อแม่ลูก ก็ออกเดินทาง น้องอิงก็หลับปุ๋ยไปอย่างสบายบนตักคุณแม่ ระหว่างทางเราก็เจอฝนกันเล็กน้อย พอมาถึงสักจันทบุรี น้องอิงตื่นขึ้นมาหนนึง ยิ่งงงเข้าไปใหญ่เพราะไม่ได้นอนอยู่บนเตียงเหมือนทุกวัน “แต่วันนี้ทำไมที่นอนมันแปลกไปล่ะ” น้องอิงคงคิดอย่างนี้อยู่ในใจ

มาสว่างก็ตอนนี้ถึงตราดแล้ว ปะป๊าแวะปั๊ม ปตท. เอาน้ำร้อนเพื่อชงนมให้น้องอิง แล้วก็ปะป๊าปลี่ยนเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วก็คุณแม่ก็เปลี่ยนให้น้องอิงด้วย เพราะทั้งคู่ออกจากบ้านมาในชุดนอน มีคุณแม่คนเดียวที่เตรียมพร้อม 55 แวะพักกันเป็นชั่วโมงเลย เพราะนอกจากเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ยังเติมพลังงานด้วยอาหารมื้อเช้ากันด้วย

แล้วเราก็ออกเดินทางต่อมุ่งสู่ท่าเรือเฟอร์รี่ที่อ่าวธรรมชาติ ระหว่างทางนี้ น้องอิงก็หลับไปอีกรอบ ไปถึงท่าเรือก็ยังไม่ตื่น แต่พอคุณแม่เปิดประตูจะอุ้ม น้องอิงเลยตื่น สงสารเหมือนกันไม่อยากจะปลุกหนูเลยอะลูก กำลังหลับสบาย

เรามาถึงพอดีเรือเพิ่งจะออกไปหนึ่งลำ ทำให้เรากลายเป็นรถคันแรกที่รอเรือลำต่อไป ระหว่างนี้น้องอิงก็ได้ถ่ายรูป แอคชั่นไปเยอะเลย พอมีรถตู้มา สาวๆ ลงจากรถตู้แล้วน้องอิง ก็คึกคักเป็นพิเศษ (แหมเจอสาวๆ ไม่ได้เลยนะลูกเราเนี้ย)

ค่าเรือไปกลับคนละ 120 บาท ค่ารถไปกลับอีก 200 บาท รวมค่าใช้จ่ายเรือเฟอร์รี่ 440 บาท

พอขึ้นเรือ น้องอิงก็คึกคัก คลานไปคลานมา ลอดใต้เก้าอี้เล่น ซะงั้น แถมยังมีแม่ค้า (บนเรือ) ใจดีมาเล่นด้วย แม่ค้าอีกคนก็เอา ปีโป้ มาให้กิน (แต่พอลับหลังเราก็ไม่ได้ให้กิน)

นั่งเรือประมาณ 20 นาทีก็ถึงแล้ว เพราะจากฝั่งนี้มองไปก็เห็นเกาะช้างอยู่ไม่ไกลเลย นั่งเรือแป๊บเดียวเอง

ถึงเกาะช้าง ก็มีป้ายเขียนว่า “เฟอร์รี่เกาะช้าง Welcome to KohChang”
ตอนอยู่บนเรือ ได้หยิบแผนที่เกาะช้างติดมือมา ก็เลยเอามานั่งดูว่าเราต้องขับรถไปทางไหน ก็คือ เราต้องขับรถเลี้ยวขวาเพื่อไปยังหาดทรายขาว เป้าหมายวันนี้คือ โรงแรมช้างบุรี รีสอร์ท แอนด์ สปา

ขับรถมาไม่นานก็ถึงโรงแรม เตรียมตัวเช็คอิน เอาของไปเก็บ (ซึ่งข้าวของเยอะมาก ปะป๊าขนจนเหนื่อยเลย) พอเข้าห้องพัก คุณแม่ก็เรีบเอาข้าวมาป้อนน้องอิงก่อนอันดับแรก เพราะว่ากลัวน้องอิงจะหิว (คุณยายอุตส่าห์ทำข้าวให้น้องอิง ตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น) ข้าวอันนี้แบ่งกิน 2 มื้อเลยนะ มื้อเช้า กะมื้อกลางวัน

มื้อกลางวัน ปะป๊ากินข้าวผัด ส่วนคุณแม่ก็ หมูทอดกระเทียมราดข้าว เสร็จแล้วก็พาน้องอิงออกมานั่งเล่นในบริเวณโรงแรมนั่นล่ะ คลานไปคลานมา จนกางเกงดำปิ๊ดปี้ ต้องเปลี่ยนกางเกงตัวใหม่

ช่วงบ่ายออกมาเล่นที่สระว่ายน้ำเจอกับป้ากุงด้วย ป้ากุงมาถึงก่อนหน้าเรา 1 วัน พาลูกสาวแสนสวยมาเที่ยวด้วย อีก 2 คน น้องบัว กับน้องแพรว

ช่วงเย็นพาน้องอิงลงสระว่ายน้ำ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะว่าคุณแม่ไม่ได้ลงด้วย (ในตอนแรก) หรือว่าเพราะน้องอิงกลัวสระว่ายน้ำ น้องอิงหน้าตาเหย่เก อีกแล้วครับท่าน ร้องไห้น่าดูเลย พอคุณแม่ลงน้ำตามไป ก็ยังร้องไม่หยุด เลยได้ลงน้ำกันแค่แป๊บเดียว

จากสระว่ายน้ำ เราก็เลยไปต่อกันที่ทะเล แต่คราวนี้ดั้นลืมหยิบกล้องถ่ายรูปมา แหมน่าเสียดาย ทะเลที่ไป ก็คือหาดคลองพร้าว อืม ที่นี่สวยใช้ได้นะ ถ้ามาคราวหน้า จะขอมาพัก คลองพร้าวรีสอร์ทล่ะ

ขากลับเลยแวะหาร้านอาหารกิน แต่ขับมาเรื่อยๆ จนจะถึงโรงแรมอยู่แล้ว ก็ไม่เห็นจะมีร้านไหนน่ากินเลย ก็ลองขับเลยโรงแรมมา อีกนิดเดียวเท่านั้นเอง ก็เจอร้านทะเลคุณหลวง อยู่ใน “เกาะช้าง แกรนด์ วิว รีสอร์ท” บรรยากาศสวยน่านั่ง

มื้อนี้สั่งอาหาร 3 อย่าง มีปลาหมึกนึ่งมะนาว ยำทะเลรวมมิตร ต้มยำกุ้ง ข้าวเปล่า 2 จาน น้ำเปล่า 1 ขวด ส่วนน้องอิงก็กินข้าวเปล่า กับ เกอร์เบิร์ล เอร็ดอร่อย ส่วนปะป๊า กะคุณแม่ ก็ต้องผลัดกันกิน ผลัดกันอุ้มน้องอิงเหมือนเดิม

ที่นี่เค้ามีโชว์ควงกระบองไฟด้วย แต่เสียดายที่ว่ายุงเยอะไปหน่อย (เกี่ยวกันไหมเนี่ย) จะว่าไปที่โรงแรมก็ยุงเยอะนะ คืนแรกนี้น้องอิงโดนไปหลายตุ่มเลยอ่ะ สงสารเด็กน้อยจัง

แวะเซเว่นซื้อน้ำเพิ่ม เห็นเค้าขายโรตีน่ากิน เลยซื้อโรตีใส่ไข่ ราดช๊อคโกแลต 1 อัน แล้วก็ขอซื้อกล้วยหอมแม่ค้า 1 ลูก เอาไว้ให้น้องอิงกินตอนเช้า
เช้าวันที่ 16 มีนา ตื่นกันแต่เช้า เดินทางไปหาดคลองพร้าวเหมือนเดิม แต่คราวนี้เอากล้องไปด้วย ไม่ลืมแล้ว ป้อนกล้วยหอม สลับขนมปัง แล้วก็พาน้องอิงไปเดินเล่นชายหาด ไม่ได้พาลงน้ำหรอก ขนาดแค่แตะน้ำนิดเดียวยังร้องเลย สงสัยจะกลัวทะเลนะลูกเรา

กลับจากทะเล ก็ไม่ได้ไปไหน พาน้องอิงคลานเล่นมั่ง เดินเล่นมั่งอยู่แต่ในเขตโรงแรม เพราะว่าแดดร้อนกลัวน้องอิงจะไม่สบาย ตอนบ่ายๆ แดดร่มหน่อย ก็เลยพาลงสระน้ำ วันนี้ไม่ค่อยกลัวแล้ว แต่ก็ยังออกอาการอยู่บ้าง
ข้ามไปเดินเล่นฝั่งตรงข้าม คิดว่าทะเลจะน่าเล่น แต่ที่ไหนได้ มันไม่ได้เป็นหาดทราย แต่มันเป็นหิน ลงเล่นไม่ได้ เลยได้แต่ถ่ายรูปเก็บไว้ จะเดินไปตรงหาดสาธารณะ ก็เห็นคนเยอะมาก ๆ ไม่น่าไปเลยอ่ะ

เสร็จแล้วเย็นๆ ก็พาไปนั่งรถเล่น ขับรถกันไปทางบางเบ้า โห....ทางสุดยอดไปเลย น่ากลัวมากๆ ขับกันจนเบรคร้อนเลย บอกให้ปะป๊า กลับรถเถอะ ไม่ต้องไปต่อแล้ว กลับไปหาอะไรกินแถวโรงแรมดีกว่า

เดินข้ามไปดูบุฟเฟ่ต์ หัวละ 400 บาทของโรงแรมฝั่งทะเล อาหารไม่น่ากินเลย เป็นอาหารไทยๆ นึกว่าจะเป็นซีฟู้ดซะอีก แถมคนก็ไม่มีสักคน เงียบมากๆ เลยเดินกลับดีกว่า

สรุปว่าได้กลับมากินที่ร้านข้างๆ โรงแรม เป็นร้านที่ขายทั้งบะหมี่เกี๊ยว ขายทั้งซีฟู้ดในร้านเดียวกัน ก็ตอนกลางวันมากินบะหมี่ร้านนี้ ให้เยอะดี รสชาติอร่อย ราคาชามละ 30 บาทเท่านั้น แอบเห็นเมนูซีฟู้ดราคาไม่แพงแล้วก็ดูน่ากิน ตอนเย็นก็เลยได้กินซีฟู้ดร้านนี้แหละ เมนูมื้อนี้คือ ปลากระพงนึ่งมะนาว ปูนิ่มทอดกระเทียม แล้วก็ กุ้งแช่น้ำปลา เบียร์ 1 ขวด น้ำเปล่า 1 ขวด ส่วนน้องอิงก็กินข้าวเปล่า กับ เกอร์เบิร์ล เหมือนเดิม

แต่เสียดาย อยากกินโรตี เจ้าเดิม เมื่อวานอีก แต่วันนี้ไม่มาขาย มีแต่อีกเจ้า ผู้ชายขาย เลยไม่กินดีกว่า

กินเสร็จก็กลับมานอน คืนที่สองนี้ ให้น้องอิงนอนบนเตียงผู้ใหญ่แล้ว เพราะคืนแรกให้นอนเตียงเด็ก แล้วยุงกัดเต็มตัว คืนที่สองนี่ดีหน่อย นอนกับผู้ใหญ่ยุงเลยไม่กัด

วันที่สามบนเกาะช้าง วันนี้ก็ต้องกลับแล้ว ตอนเช้าพาน้องอิงไปดูหาดทรายขาว ตรงหาดสาธารณะ กะจะพาไปลองเดินเล่นสักหน่อย เช้าๆ คนน่าจะไม่เยอะ ทางเข้าหาดเล็ก และแคบมากๆ คล้ายๆ ทางเดินเข้าชุมชนย่อยๆ พอเดินไปถึงก็ผิดคาด เพราะไม่สามารถจะเดินชายหาดได้ ก็น้ำมันขึ้นสูง ขนาดยืนอยู่ข้างบนยังโดยน้ำซัดมาโดนตั้งเยอะ เลยเปลี่ยนใจกลับโรงแรม

ก็เลยพาน้องอิงไปนั่งเล่นอยู่ขอบสระว่ายน้ำ เล่นส่งหินให้ปะป๊า เสร็จแล้วก็เอามือไปแตะๆ น้ำ สงสัยว่าอยากจะเล่น ก็เลยให้เล่นน้ำซะเลย แต่คราวนี้คุณแม่ไม่ลงด้วยล่ะ เพราะขี้เกียจจะสระผมอีก คราวนี้ไม่ร้องแล้ว สงสัยว่าจะเริ่มชอบเล่นน้ำสระแล้วล่ะ

เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมประมาณ 9 โมงกว่าๆ ไปถึงเรือเฟอร์รี่ โห...รถติดมากๆ ต้องรอสักพักนึงเลย คิดว่าครึ่งชั่วโมงได้ กว่าจะได้ขึ้นเฟอร์รี่ แต่พอดีโชคดีที่น้องอิงหลับเลยไม่งอแง พอได้ขึ้นเฟอร์รี่ก็ตื่นพอดี ขึ้นไปเจอเพื่อนๆ (มุสลิมซะด้วย) น่าจะแก่กว่าน้องอิงสัก ปีสองปี ก็ได้เล่นกะเค้านิดหน่อย เค้าจะให้น้องอิงกินเลย์ แต่แหม น้องอิงยังกินไม่ได้หรอกนะจ้ะ เอาไว้โตกว่านี้ก่อนเนอะ

พอมาถึงฝั่งตราด ก็ขับรถกันไปเรื่อยๆ ถึงจันทบุรี เข้าตัวเมืองเพื่อไปโลตัสกัน (มีหลงทางนิดหน่อย) กะว่าจะไปซื้อรองเท้าคู่ใหม่ให้น้องอิงหน่อย เพราะคู่นี้ซื้อมาเล็กเกินไปสงสารน้องอิง ร้องเท้าคับ ไม่รู้ว่าโดนกัดบ้างหรือเปล่า

แวะกินข้าวกลางวัน (ตอนบ่ายๆ) กันที่โลตัส ร้านเดอะพิซซ่า สั่งพิซซ่า 1 ถาดเล็ก กับสลัดบาร์ เพราะน้องอิงจะได้กินผลไม้ได้ด้วย มื้อกลางวันนี้น้องอิงเลยได้กินผลไม้กับเกอร์เบิร์ล แล้วเราก็เข้าไปช๊อปปิ้ง (ตากแอร์ดับร้อนไปในตัวด้วย) พอดีเจอรถเข็นที่เป็นรถเด็กเล่น น้องอิงเลยได้ขับรถเล่นไปด้วยในตัว สรุปว่าไม่ได้รองเท้า แต่ได้หมวกใบใหม่ให้น้องอิง เป็นรูปผึ้งน่ารักดี กะเกอร์เบิร์ล อีก 2 กระปุก

จากนั้นเราก็เลยไปเขาคิชฌกูฏกัน ไปเที่ยวน้ำตกเขากระทิง แต่ว่าน้ำน้อยมากๆ เพราะมันไม่ใช่หน้าฝนนี่นา เลยไม่มีน้ำเนอะ แต่ก็ดีได้ไปพักสูดอากาศอยู่ริมบึงพักใหญ่เชียว ตรงนั้นลมแรงมากๆ (กลับมาเป็นหวัดกันเป็นแถวทั้งพ่อ ทั้งลูก)

กว่าจะออกจากน้ำตกก็เกือบ 5 โมงแล้ว น้องอิงก็หลับไปตลอดทาง ไปตื่นเอาตอนที่แวะซื้อของฝากตรงแกลงนั่นแหละ มาคราวนี้นึกว่าจะไม่ได้ของฝากซะแล้ว มาเจอร้านเอาจนถึงแกลง พอเลยจากนี้ก็ไม่เห็นมีร้านของฝากอีกเลย

ของฝากคราวนี้ซื้อ ทุเรียนทอดไปฝากอาตู่ 1 ถุง (120 บาท) แล้วก็ซื้อขนุนทอด 3 ห่อ (3 ห่อ 100 บาท) ทุเรียนกวน อีก 3 (100 บาท เหมือนกัน)
อ่อ ขนุนทอดได้ลองกินแล้ว ยี่ห้อแม่อำภา ของอ.แกลง จ.ระยอง จำไว้ให้แม่นนะ อร่อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆ

จากนั้นก็พยายามหาร้านอาหาร ตอนแรกนึกว่าจะต้องกินข้าวตามสั่งข้างทางซะแล้ว แต่บังเอิญว่าสายตาไปเจอะเข้ากับป้ายร้านอาหาร ครัวโต๊ะไม้ เห็นป้ายบอกว่าเลี้ยวซ้ายเข้าไป 900 เมตร ก็เลยลองไปกันดู อือ บรรยากาศที่ร้านก็โอเคนะ คือที่ร้านโต๊ะเค้าทำจากไม้จริงๆ บรรยากาศก็เหมือนอยู่ในป่าย่อยๆ น่ะ ตกแต่งสวยงามดี (แหมแต่ยุงเยอะไปหน่อย เจอแต่ยุงนะทริปนี้)

มื้อเย็นวันที่สามนี้สั่ง ไก่ระกำ (ต้มยำแต่ใส่ระกำแทน) ปลากระพงทอดราดน้ำปลา แล้วก็ปูไข่ผัดผงกระหรี่ อืม อร่อยทุกอย่าง โดยเฉพาะปูไข่ผัดผงกระหรี่ อร่อยมากๆ เกิดติดใจร้านนี้อีกซะแล้วววววว

ส่วนน้องอิงก็ได้กินข้าว + เกอร์เบิร์ล + เนื้อปลากระพง อร่อยเอร็ดไปครับท่าน

กว่าจะออกจากร้านก็เกือบสองทุ่มแล้ว คุณยายโทรมาตามหลายรอบว่าจะถึงบ้านหรือยัง คุณตาก็โทรมาเพราะเป็นห่วงว่าทำไมติดต่อไม่ได้ กว่าจะได้โทรกลับน้องอิงก็หลับอีกรอบ รอบนี้คุณแม่ให้กินนมคุณแม่เพลินๆ เลยหลับมาตลอดทางจนถึงบ้านคุณยาย

ถึงบ้านคุณยายที่ชลบุรี ก็เกือบๆ 4 ทุ่มแล้ว น้องอิงตื่นอีกรอบ ทีนี่เลยยังไม่หลับเลย เพราะชาร์ตแบตมาเยอะไปหน่อย กว่าจะหลับก็ 5 ทุ่มได้แล้ว

เช้าคุณแม่กะปะป๊าก็เดินทางตั้งแต่ 6 โมงเช้า กลับกรุงเทพฯเพื่อมาทำงาน น้องอิงก็ตื่นมาส่งแต่เช้าเหมือนกัน ทำหน้าละห้อย อย่าว่าแต่น้องอิงเลย หน้าคุณแม่ก็ละห้อยไม่แพ้น้องอิงเลยสักนิด ก็มันคิดถึงกันนี่นา..
T_T




Create Date : 12 ธันวาคม 2551
Last Update : 12 ธันวาคม 2551 9:46:06 น. 0 comments
Counter : 244 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Patty rumba
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
 
ธันวาคม 2551
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
12 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Patty rumba's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.