NEW FORTUNER MINORCHANGE
โตโยต้า "ฟอร์จูนเนอร์" (Fortuner) ได้ชื่อในกลุ่มนักเลงรถเมืองไทย ว่าเป็นรถมหาชน ด้วยความร้อนแรง ที่ตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปลายปี 2547 จวบจนวันนี้ เกือบ 4 ปีเข้าไปแล้ว แต่ยังไม่ออกอาการแผ่วในเรื่องยอดขายแต่อย่างใด
ยอดขายที่สะสมจนถึงวันนี้กว่า 74,000 คัน!!!
โอ้ว ดีกว่ารถเก๋งที่ราคาถูกกว่าครึ่ง บางค่ายเสียอีกด้วยซ้ำ
อะไรที่ทำให้ยอดขายโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ถึงได้ดีระเบิดระเบ้อขนาดนั้น ถามใครต่อใครต่างพยักหน้าว่าด้วยดีไซน์ที่ลงตัว อีกทั้งพิจารณาแล้ว ให้ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับเงินที่เสียไป ตรงกับไลฟ์สไตล์คนไทยในยุคนี้เสียจริงๆ
ถึงแม้ว่าความร้อนแรงของฟอร์จูนเนอร์จะยังคงอยู่ในทุกวันนี้ แต่โตโยต้า ประเทศไทย มองว่าถึงเวลาต้องแต่หน้าทาปากให้สดใสไฉไลน่ามองมากขึ้น
จึงเป็นที่มาของ "ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่"
ภายนอกที่เปลี่ยนไปเริ่มตั้งแต่ไฟหน้าแบบโปรเจ็กเตอร์ รูปทรงใหม่เป็นเอกลักษณ์ เพิ่มความสวยงามและสว่างมากขึ้น พร้อมกระจังหน้าใหม่ เพิ่มความมีระดับไปอีกขั้น
ไฟท้ายแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ เรียบหรูด้วยรายละเอียดในโคมไฟ สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED เพิ่มความปลอดภัยล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว ขณะที่รุ่นเดิม 16 นิ้ว
ภายในแผงคอนโซล สีใหม่ ที่ให้ความอบอุ่น นุ่มนวล ด้วยสีทรายทองตกแต่งด้วยสีเงินเมทัลลิก พิเศษเฉพาะรุ่นเกรด V ตกแต่งเพิ่มด้วยลายไม้ดีไซน์ใหม่ หรูหรา ภูมิฐาน
มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron ดูโดดเด่น ให้ทัศนวิสัยการมองที่ดีเยี่ยม
นอกจากนี้ มีจอแสดงข้อมูลจากการขับขี่ (Multi-Information Display) แสดงผลอุณหภูมิภายนอกห้องโดยสาร, ค่าเฉลี่ยการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง, อัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงขณะขับขี่, ความเร็วเฉลี่ย, ระยะเวลาที่ใช้ในการขับขี่, ระยะทางที่สามารถวิ่งต่อไปได้จากน้ำมันที่เหลืออยู่ในถัง และเข็มทิศสำหรับทิศทางการขับขี่
เบาะที่นั่งคนขับปรับระดับด้วยไฟฟ้า (Power Driver Seat) 6 ทิศทาง
รุ่นท็อปสุดติดตั้งระบบนำทาง "เนวิเกเตอร์ จีพีเอส" พร้อมเครื่องเล่น ดีวีดี และจอแสดงผลแบบสัมผัส
อินเทรนด์กับระบบเชื่อมต่อบลูทูธ เข้ากับยุคสมัยขับไม่โทร. เพิ่มอิสระในการขับขี่พร้อมกับโทร.มือถือ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ หรือ Cruise Control สะดวกสบายลดความเมื่อยล้า
เบาะที่นั่งคนขับปรับไฟฟ้าหุ้มหนังแท้นุ่มนวล พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นควบคุมระบบเครื่องเสียง และอื่นๆ ทำให้ไม่ต้องละสายตาจากถนน เพิ่มความปลอดภัยได้มากขึ้น
เครื่องยนต์ฟอร์จูนเนอร์ใหม่ยังคงใช้บล็อกเดิม ทั้งดีเซล D-4D คอมมอนเรล 3.0 ลิตร ที่ให้แรงม้า 163 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิด 343 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-3,200 รอบต่อนาที
และเครื่องยนต์เบนซิน VVT-I 2.7 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 241 นิวตัน-เมตร ที่ 3,800 รอบต่อนาที
ระบบกันสะเทือนหน้าอิสระดับเบิลวิชโบน พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง กันสะเทือนหลังแบบโฟร์ลิงก์ คอยล์สปริงเพิ่มความนุ่มนวล ทั้งออนโรด และออฟโรด ระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ฟูลไทม์
รุ่นเกียร์อัตโนมัติใช้แบบ ECT 4 สปีด คันเกียร์ Gate Type เสริมความหรูหรา จังหวะเปลี่ยนเกียร์ราบเรียบ นุ่มนวล ทำงานร่วมกับลิ้นปีกผีเสื้อ และคันเร่งไฟฟ้า ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
สิ่งหนึ่งที่ฟอร์จูนเนอร์ เจเนอเรชั่นที่ 1 โดนโจมตีอย่างมาก ได้แก่ ระบบเบรก ที่กลายเป็นฮอตอิชชู่กันไปทั่วอยู่ระยะหนึ่ง
ในรุ่นใหม่นี้ โตโยต้าจึงศึกษาถึงพฤติกรรมการขับขี่ของนักเลงรถเมืองไทยแล้วนำมาปรับให้เข้ากับรสนิยม โดยเพิ่มขนาดจานเบรกให้ใหญ่ขึ้น พร้อมทั้งยังนำระบบความปลอดภัยอื่นๆ อาทิ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบเบรกเอบีเอส ระบบเสริมแรงเบรก และระบบกระจายแรงเบรก เพื่อเพิ่มความมั่นใจทั้งยามขับขี่และเมื่อต้องการหยุดรถ
เอาเป็นว่าใครที่กำลังมองหารถยนต์ สำหรับไว้ใช้ปกติในวันธรรมดา และพร้อมลุยไปในทุกรูปแบบในวันหยุด ต้องลองไปสัมผัสพร้อมทดลองขับ ฟอร์จูนเนอร์ใหม่ ที่โชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศ
Create Date : 16 กันยายน 2551 |
|
5 comments |
Last Update : 16 กันยายน 2551 18:31:59 น. |
Counter : 4389 Pageviews. |
|
|
|
รุ่น 2.7 V 4*2 ราคาเดิม 1,096,000 บาท ราคาใหม่ 1,149,000 บาท
รุ่น 3.0 G 4*4 ราคาเดิม 1,036,000 บาท ราคาใหม่ 1,059,000 บาท
รุ่น 3.0 V 4*4 (เดิม) ราคาเดิม 1,256,000 บาท ราคาใหม่ 1,309,000 บาท
รุ่น 3.0V 4*4 (NAVI+B/T) ราคาเดิม - ราคาใหม่ 1,419,000 บาท
ร่น 3.0V 4*2 ราคาเดิม - ราคาใหม่ 1,249,000 บาท
***(3.0 V เป็นเกียร์ A/T 3.0G เป็นเกียร์ธรรมดา)
***(2.7V เป็นเบนซิน เกียร์ A/T)