เริ่มต้นโดยนั่งรถตู้จาก อนุสาวรีย์ชัยฯ ไปโรงเกลือ ค่ารถจำไม่ได้แล้วคะ ใช้เวลาประมาณ 2.5 ชม.(เร็วมาก) พอมาถึงท่ารถซึ่งจะอยู่ข้างๆขายเฟอร์นิเจอร์ ฝั่งตรงข้ามก็เป็นด่าน ไม่ทันได้ข้ามถนน กลิ่นฝรั่งคลุ้งเลย พวกหน้าม้า มามะรุมมะตุ้มฝรั่ง โดยไม่สนใจหน้าไทยอย่างเรา เลยบอกว่าไม่ต้องไปตามฝรั่งหรอก กระเป๋าเงินอยู่ที่นี่ แต่ก็ตามมาจะดำเนินการให้ เอ๊าจัดไปน้องดูว่าจะไปถึงไหน เขาก็ไปหาเอกสารให้ กรอกให้ แต่ไม่ทำให้เรานะ



พอได้วีซ่าของฝรั่งเสร็จ ก็เดินตามกันมาที่บอร์ด เพื่อจะออกนอกประเทศไทย งานเข้าตอนนี้แหละ จะไปยื่นให้ เลยถามว่า คิดค่าใช้จ่ายเท่าไร เขาบอกว่า 500 บาทแค่ไปเดินหยิบเอกสารมากรอกให้เนี่ยนะ ก็เลยให้ไป 200 บาท บอกว่าป้าจัดการเอง เลยจบไปสำหรับฝั่งประเทศไทย



พอผ่านด่านประเทศไทยต้องเดินข้ามสะพานเพื่อไปยื่นวีซ่าเข้าประเทศกัมพูชา ระหว่างทาง ก็เจอหน้าม้าหน้าโรงแรมบ่อนคาสิโน บอกว่าเขาเป็นตัวแทนของ การท่องเที่ยวกัมพูชา มีบัตรแขวนเรียบร้อย ไม่มีข้อแม้อะไรแค่บอกว่ามาดูแลนักท่องเที่ยว แต่ตอนเราไปยื่นวีซ่ามีบอกกับเราว่าเขารออยู่ด้านหลังโน้นน่ะ เดี๋ยวให้ดูหน้าค่าตา







ผ่านด่านกัมพูชามาเรียบร้อย ไม่มีการเรียกเก็บ 200 บาท อย่างที่เขาว่า แต่..แต่..เพิ่งจะไปยังไม่ได้กลับเลย ตัดมาที่ (เขาว่า) จนท.คนเดิมมาดักรอเราแล้ว บอกว่าประเทศเขามีบริการรถบัสฟรี เพื่อเดินทางไปสถานีขนส่ง เนื่องจากเราดันไปบอกเขาว่ายังไม่มีรถไป 555 เลยเข้าทางปืน ก็นั่งรถไป เห็นมีฝรั่งอื่นนั่งไปด้วยประมาณ 3 คน ไกลมากสถานีขนส่ง ยังคิดว่าหลอกหรือเปล่า(ว่ะ) พอไปถึง ก็มีรายการเชือดหมูฝรั่ง บอกว่าถ้าไปรถเมล์ ราคาประมาณ 7 เหรียญยูเอส ต้องรอให้ครบ 10 คน ถ้าไปรถแทีกซี่ 4 คน ตกคนละ 20 เหรียญยูเอส ที่นี้ไปถามฝรั่ง เขาจับคู่กันไปแล้ว(คงรอนานแล้ว)ก็เลยเหลือเรา 2 คน เลยตกลงกันที่ราคา40 เหรียญต่อคน โดยมีข้อแม้ว่า ยูนั่งข้างหลังไป 2คน แต่คนขับมีสิทธิ์รับคนได้อีก 2 คน ข้างหน้า ก็โอเค แล้วเขาก็ได้คนนั่งไปด้วยจริงๆ อีก 2 คน มีแอบกลัวนิดๆแล้ว แต่ จนท.คนนั้นมีการขอค่าเซอร์วิส ด้วยน่ะ 500 บาท เราบอกว่า คุณเหมือนหลอกเรามาเชือด เพราะฉะนั้นเราให้คุณ 100 บาท มีอิดออด เราบอกว่าเราไม่ให้คุณก็ได้น่ะ แอบใจดีสู้เสือในถ้ำเสือ 555 อ้อ...เขาพูดภาษาอังกฤษ







ที่นี้พอมาถึงเสียมราฐ หาโรงแรมไม่เจอ มีการให้เรานั่งรถสามล้อหาเอง มีหรือจะยอม Just say no อย่างเดียว แกก็ตะเวณหาให้สุดท้ายไปถามสามล้อหน้าโรงแรมที่จะพักเลย เวรของกรรม







โรงแรมนี้เราจองจาก อโกด้า ประมาณ 1.200 บาท พร้อมอาหารเช้า มีสระเล็กๆ บนดาดฟ้าด้วย เงียบๆ ไม่มีคนไปใช้เลย จากนั้นเราก็เช่า ตุ๊กตุ๊กหน้าโรงแรมไป ดู killing field กับ โตนเลสาป ราคา 8 เหรียญแต่ให้ไป 10 ซ๊ะจองวันพรุ่งนี้ด้วย ค่าล่องเรือคนละ 15 เหรียญ










ตอนนั่งเรือดูหมู่บ้าน คนขับเรือก็จะพูดถึงความยากลำบากของพวกเขา และพาเราไปที่ร้านค้า แต่เราไม่ซื้ออะไรกิน แต่เขาว่าอยากทำบุญช่วยเหลือเด็กๆหรือเปล่า เราก็วิญญานนางงามเข้าสิง รักเด็ก เลยเลือกซื้อข้าว 20 กก.ราคา 40 เหรียญบริจาค ที่มูลนิธิของเขา กลับมานั่งคิดถ้าซื้อข้่างนอกอาจจะได้เกือบกระสอบ แล้วไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า แต่ช่างเถอะทำบุญไปแล้ว..สาธุ สรุปได้ว่า คงไม่มาอีกแล้ว ไม่มีอะไรที่จะเจริญทางสายตาและจิตใจเลย



กลางคืนเดินจากโรงแรมที่พัก ไปไม่ไกลเลยกับ pub street แต่ควรระวัง สามล้อทั้งหลาย กะเทย และคนขอทานซึ่งพูดอยู่คำเดียวพลีสวันดอลล่าร์ๆๆ



เช้าวันต่อมาก็เหมา ตุ๊กๆ คันเดิม ทั้งวัน 18 ยูเอส แต่เราไปแค่ครึ่งวันก็กลับ มันร้อนและคนไปด้วย ไม่ค่อยสนใจวัตถุโบราณ เที่ยวแบบสโลแกนได้มาเห็นก่อนตายนั่นแหละ



























วันสุดท้าย ซื้อตั๋วรถแท็กซี่จากหน้าโรงแรมได้คนละ 20 ยูเอส ไม่มีข้อแม้ใดๆ แต่ขอเงินก่อน เราว่าเราพักอยู่ที่โรงแรมนี้ ขึ้นรถค่อยจ่ายตังค์ อยู่ 3 วัน ระแวงไปหมด 555 พอมาถึงด่านที่จะออกนอกประเทศ เจอเลยที่เขาว่า 200 บาท มันมีจริงๆ เดินมาถามเลยว่าไม่ต้องต่อแถวขอ 200 บาท เราเลยว่าไม่เราจะต่อแถวเอง สุดท้ายพอเข้าประเทศไทยแล้ว รถตู้แถวๆ นั้นราคาน่าเกลียดมาก เราเลยกลับไปรถตู้ที่เรามาที่แรก มาลงอนุสาวรีย์ชัยเหมือนเดิม
จบรายการทัวร์ต่างประเทศ

ข้อระวัง 1. เดินเรื่องเองทุกอย่าง การเข้าคิวโปรดระวังโดนแซงคิว
2. เมื่อผ่านด่านกัมพูชาแล้ว ให้เดินตัดวงเวียนไปอีกด้านหนึ่ง จะเห็นแคมรี่จอดเยอะแยะ สังเกตุว่าใครเป็นคนขับ กระโจนเข้าไปต่อราคาเลยไม่ผ่านนายหน้าราคาไม่น่าเกิน 1.000 บาท
3. แลกเงินไปเลยยูเอสไปจากบ้านเรา แล้วค่อยไปแลกเงินกัมพูชาที่โน้นนิดหน่อย เพราะเวลาซื้อของด้วยเงินของเขาจะถูกกว่าใช้ยูเอสซื้อ
4. มีฝรั่งไปด้วย เพิ่มความระวังเป็น 2 เท่า 555