อิ่มท้อง อิ่มบุญ @ เจียงใหม่เจ้า..... ปี 2 ตอน ไปไหว้พระพิฆเนศ แล้วก็ไปแอ่วเฮือนสุนทรี
พักจากการเมาท์เรื่องหนังสือ มาเมาท์เรื่องกิน ๆ เที่ยว ๆ ต่อดีกว่า..
ต่อจากตอนที่แล้ว ที่คณะกฐินชวนชิมพาไปเที่ยวกับกินไข่ต้มที่น้ำพุร้อนสันกำแพง แวะไหว้พระชมวัดงาม ๆ แล้วก็ไปหม่ำ ๆ ขาหมูกับไส้กรอกเย-ระ-มันกันแล้ว คราวนี้เราก็ไปเที่ยวกันต่อค่ะ
ที่หมายถัดไปของเราก็คือ พิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศ ค่ะ พิพิธภัณฑ์นี้อยู่ที่ ต.ยางคราม อ.ดอยหล่อ ถ้าเรามาจาก อ.เมือง เชียงใหม่ ก็ให้ขับรถมาตามถนนเชียงใหม่ - ฮอด (ถนนที่จะไปดอยอินทนนท์) ไป 35 กม. เลย อ.สันป่าตองไปหน่อย ก็ให้สังเกตป้ายบอกทางนะคะ ถนนเข้าพิพิธภัณฑ์จะอยู่ด้านขวา จะมีป้ายบอกและปากทางจะมีปั๊มน้ำมันบางจากอยู่ด้วย ต้องกลับรถค่ะ แล้วขับจากถนนใหญ่เข้าไปอีกประมาณ 5 กิโล ก็จะเจอพิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศ
ตอนที่เราไปถึงก็เย็นมากแล้ว เพราะมัวแต่โอ้เอ้กินกันอยู่ อุอุ... ไปถึงประมาณ 5 โมงเย็นซึ่งเค้าปิดทำการแล้ว แต่ว่าเข้าไปได้ค่ะ เพราะปิดแต่ส่วนที่เป็นอาคารแสดงเท่านั้น แต่ส่วนอื่น ๆ ยังเปิดให้เข้าชมอยู่ เข้าชมที่นี่ไม่ต้องเสียค่าผ่านประตูค่ะ
ที่นี่มีที่จอดรถสะดวกมากเลย รอบ ๆ กำแพงที่จอดรถก็จะมีรูปนูนต่ำของพระพิฆเนศประดับอยู่ด้วย
ส่วนนี่เป็นประตูทางเข้าค่ะ ทำเหมือนทางเข้าเทวาลัยเลยอ่ะ ขลังดีจัง
สองข้างประตูก็จะมีพระพิฆเนศประทับอยู่ในอ่างน้ำดินเผาตั้งอยู่
ส่วนบนกำแพงก็มีรูปปั้นของพระพิฆเนศประทับอยู่เป็นระยะ ๆ ด้วยค่ะ
พอเดินผ่านประตูเข้าไปแต่ยังไม่พ้น (เพราะกำแพงหนามากขอบอก) ก็จะมีนางอัปสรต้อนรับอยู่ด้านข้าง
พอพ้นประตูก็จะเป็นสระน้ำกว้าง และก็จะเห็นเทวาลัยพระพิฆเนศอยู่ฝั่งตรงข้าม
เดินไปทางด้านซ้าย จะมีซุ้มแขวนระฆังอยู่ค่ะ เราจะต้องสั่นระฆังก่อนที่จะเข้าไป เพื่อความเป็นศิริมงคล
ผ่านซุ้มก็จะเจอ อาคารบูชา ที่ภายในจะมี เทวรูปพระพิฆเนศพร้อมกับครอบครัว ประทับอยู่ค่ะ แต่ว่าเรายังไม่ได้เข้าไปบูชาท่าน จะต้องรีบไปดูภายในอาคารจัดแสดงก่อน เพราะว่าที่นั่นใกล้จะปิดแล้ว
ภายในสถานที่จัดแสดงไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปค่ะ ด้านในจะมีอาคาร 2 หลัง ซึ่งภายในจะมีการจัดแสดงพระพิฆเนศในแบบต่าง ๆ และของหลาย ๆ ประเทศที่น่าสนใจมาก เราได้เห็นพระพิฆเนศที่ถักด้วยเชือก ทำจากหินต่าง ๆ พระพิฆเนศญี่ปุ่นที่เป็นพระพิฆเนศสององค์ยืนกอดกัน พระพิฆเนศในรูปของสตรี แปลก ๆ และเยอะแยะมากมายจริง ๆ เสียดายที่ถ่ายรูปเอามาให้ดูกันไม่ได้ งั้นก็ดูแต่ทางเข้าก็ละกันค่ะ
พอออกจากอาคารจัดแสดง เราก็ไปชม เทวาลัยพระพิฆเนศ ต่อ เทวาลัยจะตั้งอยู่บนเนินค่ะ ต้องเดินขึ้นไป
เทวาลัยแบบใกล้ ๆ ภาพนี้เราถ่ายจากข้างล่างค่ะ
พระพิฆเนศที่ประทับอยู่ในเทวาลัยค่ะ จะเห็นว่ารูปหล่อที่กำลังเทินพระพิฆเนศอยู่บนหัวก็คือ หนู ซึ่งเป็นพาหนะของพระพิฆเนศ
รอบ ๆ เทวาลัยก็จะมีรูปพระพิฆเนศเล็ก ๆ อย่างนี้วางอยู่
ซุ้มประตูก็เป็นรูปพระพิฆเนศ
อันนี้เป็นแผ่นศิลาฤกษ์ของเทวาลัยค่ะ
พอลงจากเทวาลัย เราก็เลี้ยวขวาเข้า ห้องเช่าบูชา ที่ภายในจะมีพระพิฆเนศหลายหลากมากมายให้เช่าบูชากันค่ะ รวมทั้งทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับท่านด้วย
พระพิฆเนศองค์นี้งามมากค่ะ มีคนจองแล้วด้วย
องค์นี้ก็งาม..
นี่ก็ด้วย
ด้านในสุดจะมี เทวรูปพระลักษมี ประทับอยู่ค่ะ เราสามารถบูชาท่านได้
พอออกมาจากห้องเช่าบูชา ก็เดินไปถ่ายรูปหนูพาหนะของท่านซักหน่อย หนูตัวนี้จะตั้งอยู่ข้างล่างด้านหน้าของเทวาลัยค่ะ มีอยู่ 2 ตัว ตัวใหญ่เป็นหนูหล่อค่ะ ส่วนตัวหลังเป็นหนูแกะ
ส่วนริมสระด้านนี้มีตะเข้แอบซุ่มอยู่ตัวนึงด้วย
เดินไปอีกนิดก็เจอ โยคี ยืนเท้าเดียว แต่คงจะไม่เหนี่ยวกินลมแน่ ๆ อิอิ..
เราไปที่อาคารบูชาเพื่อบูชาพระพิฆเนศค่ะ เค้าจะบูชาด้านนอกจุดกำยานถวายดอกไม้ จากนั้นก็เข้าไปไหว้ท่านด้านใน ภายในจะมีรูปไม้แกะสลักของ พระพิฆเนศและครอบครัว ประทับอยู่ ซึ่งเค้าบอกว่ามีที่เดียวในโลกค่ะ เพราะว่าขนาดในประเทศอินเดียก็ยังไม่มีแบบนี้
และก็มีรูปหล่อพระพิฆเนศทรงเครื่องสวยงามประทับอยู่ด้วย
ภาพลวดลายนี้เราไม่รู้ว่าคืออะไรค่ะ แต่เดาว่าน่าจะทำเพื่อบูชาท่าน ภาพนี้ทำจากเมล็ดข้าวสารย้อมสีค่ะ สวยและปราณีตมาก ๆ
ให้ดูใกล้ ๆ ค่ะ ว่าทำจากเมล็ดข้าวจริง ๆ
อันที่จริงถึงเราจะไปเย็นซะจนอดดูอาคารแสดงไปหลังนึง แต่ก็โชคดีค่ะที่ได้เห็นพิธีถวายไฟบูชาพระพิฆเนศ ที่ท่านเจ้าของพิพิธภัณฑ์เป็นผู้บูชา
การบูชาจะสวดมนต์เป็นภาษาฮินดีค่ะ แล้วก็มีการเล่นเครื่องดนตรีของอินเดียประกอบไปด้วย ฟังแล้วก็เพราะปนขลัง ๆ ดีค่ะ พอบูชาเสร็จ เค้าก็จะให้คนที่ร่วมพิธีเข้าไปกอบควันกำยานที่ใช้บูชาท่านเพื่อเป็นศิริมงคลแต่ตัว โดยจะกอบควันใส่ดวงตา ศีรษะ และหัวใจ เพื่ออวัยวะทั้ง 3 เห็น คิด และรู้สึกแต่สิ่งดีงาม ค่ะ รู้สึกดีจังเลย
ใครที่อยากมาเจอกับพิธีอย่างนี้ แนะนำให้มาตอนเย็น ๆ ค่ะ หรือไม่ก็มาวันอาทิตย์เพราะเค้าบูชาท่านทุกวันอาทิตย์ค่ะ และใครที่บูชาพระพิฆเนศอยู่ ถ้ามีโอกาสมาเที่ยวเชียงใหม่ ต้องมาเที่ยวชมที่นี่ให้ได้นะคะ รับรองว่าประทับใจค่ะ ตัวเราเองถ้ามีโอกาสมาเชียงใหม่อีก เราต้องกลับมาเที่ยวที่นี่อีกแน่ ๆ ค่ะ เพราะรู้สึกว่ายังมีอะไรอีกมากมายที่เรายังไม่ได้ดูเลย (ก็ดันมาซะเย็นเชียวว......
ก่อนออกจากประตูพิพิธภัณฑ์ เราก็เจอเจ้ายักษ์สาวน้อยตนนี้รอส่งอยู่ แต่ดูแล้วเหมือนกับไม่ได้ส่งแฮะ เพราะมัวแต่เชิดใส่ใครอยู่ก็ไม่รู้
อ๋อ...เชิดใส่เจ้ายักษ์หัวเหม่งตนนี้นี่เอง อิอิ
ออกจากพิพิธภัณฑ์พวกเราก็วกกลับตัวเมืองเชียงใหม่กัน เพื่อที่จะไปกินข้าวเย็นที่ร้านเฮือนสุนทรีค่ะ
พอเข้าไปในร้านก็เจอรูปนี้ค่ะ คุณจรัล มโนเพชร กับคุณสุนทรี คู่ขวัญในอดีต
ภายในร้านจะมีรูปเยอะมาก เป็นรูปของคุณสุนทรี กับลูกชาย ลูกสาว และเพื่อนฝูง บางจุดก็จะมีเก้าอี้ให้นั่งถ่ายรูปกันด้วย
พวกเราได้โต๊ะข้างล่างค่ะ จากภาพนี้จะเห็นระเบียงชั้นบนด้านขวาเป็นที่สำหรับลูกค้ากินข้าว ส่วนด้านซ้ายเป็นเวทีสำหรับนักร้องและนักดนตรีค่ะ
พอนั่งโต๊ะเรียบร้อยก็จัดการสั่งอาหารทันที เพราะแต่ละคนก็ไดโว่ตัวแม่กันทั้งนั้น อิอิ.. จานแรกมาแล้ววว.....ออเดิร์ฟเมือง
น้ำพริกอ่อง ค่ะ อร่อยมั่ก ๆ
อันนี้แคบหมู กับผักจิ้มที่กินกับน้ำพริกอ่อง ส่วนที่อยู่ไกล ๆ นู่น แกงฮังเล ของโปรดดด......
ลาบคั่วค่ะ จานนี้ไม่ค่อยโดนใจ..
แกงโฮะ จานนี้เราว่าอร่อยดีนะ แต่ว่าน้องเราบอกว่าไม่ค่อยอร่อย เพราะว่ามันยังไม่ค่อยจะโฮะซักเท่าไหร่ คงจะประมาณจับฉ่ายอ่ะค่ะ ที่ต้องต้มข้ามวันข้ามคืนแล้วถึงจะอร่อย
จานสุดท้าย อ่อมไก่ เราว่าเค็มไปหน่อยค่ะ
กินข้าวไปแล้วก็ฟังนักร้องครวญเพลงไปด้วย ส่วนมากเป็นเพลงของคุณจรัญ มโนเพชร ถูกใจมากกก..... เพราะไม่ได้ฟังมาตั้งนานแล้วว...
กำลังกินมัน ๆ เพลิน ๆ เราก็เห็นเจ้าผักหน้าตาแปลก ๆ ดีไม่เคยเห็นมาก่อน ก็เลยต้องลองชิมซักหน่อย ปรากฏว่า.... ขมค่อดดดดด........ เลยถามพนักงานเสริฟว่ามันคือผักจะได เค้าบอกว่าเจ้านี่คือ ผักแปม ค่ะ
จบมื้อนี้ อร่อยจังตังค์อยู่ครบ อีกแล้วววว......... เพราะผู้มีอุปการะคุณ อันดับ 2 เป็นคนจ่ายย...... ฮ่า ฮ่า
ก่อนจะกลับที่พักกัน ทั่นผู้มีอุปการะคุณ อันดับ 1 ก็เกิดอยากจะถ่ายรูปกับคุณสุนทรี ช่วงช่วง หลินฮุ่ย แล้วก็หมวยน้อยหลินปิง ซักกะหน่อย ก็เลยจัดไปอย่าให้เสีย อิอิ..
หมดไปหนึ่งวัน กินมากกว่าเที่ยวซะอีกนิ อิอิ....
อันที่จริงเราตั้งใจว่าจะไปเดินถนนคนเดินที่วัวลายต่อค่ะ แต่ว่าไม่มีใครไปด้วย ก็เลยต้องเข้าที่พักไปนอนแทน แต่ถ้าเกิดได้ไปละก็ รับรองมีโปรแกรมกินกันต่อค่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า...
คราวหน้าจะพาไปอิ่มบุญกันแล้วค่ะ หลังจากที่อิ่มท้องกันมาทั้งวัน แต่รับรองว่าไม่อิ่มบุญอย่างเดียวหรอก อุอุ.. ก็นี่มันคณะกฐินชวนชิม เพราะงั้นต้องมีอิ่มท้องด้วยแน่นอน ฮ่า ฮ่า ฮ่า...
Create Date : 09 พฤศจิกายน 2552 |
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2552 1:55:14 น. |
|
5 comments
|
Counter : 4763 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 10 พฤศจิกายน 2552 เวลา:14:45:47 น. |
|
|
|
โดย: nikanda วันที่: 11 พฤศจิกายน 2552 เวลา:5:27:08 น. |
|
|
|
โดย: satineesh วันที่: 13 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:23:39 น. |
|
|
|
โดย: สาวแปดริ้ว...กิ๊กกิ้วววน่ารัก (โฮมสเตย์ริมน้ำ ) วันที่: 13 พฤศจิกายน 2552 เวลา:23:31:47 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]
|
ความชอบหรือไม่ชอบเป็นความรู้สึกเฉพาะของแต่ละคน เพราะฉะนั้นข้อความในบล๊อกของเราจึงเกิดจากความรู้สึกของเราเอง ซึ่งอาจจะเต็มไปด้วยอคติอันเกิดจากตัวเราเจ้าของบล๊อก และอาจจะไม่เห็นพ้องต้องใจกับใจของใครบางคน จึงอยากจะบอกไว้ก่อนว่า บุคคลใดที่ได้เข้ามาอ่านในบล๊อกนี้ ขอจงได้โปรดอ่านและเข้าใจไว้ด้วยนะจ๊ะ และถ้าจะโต้แย้ง ก็ขอให้โต้แย้งด้วยความใจกว้างที่จะรับฟังความเห็นที่แตกต่าง เรายินดีต้อนรับความเห็นที่แตกต่างค่ะ
|
|
|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คราวหน้าไปเชียงใหม่ต้องหาโอกาสไปสองแห่งนี้บ้างแล้วละ ^^