......ยังมีอะไรอีกตั้ง 999,995 อย่างที่เราอยากจะทำก่อนตาย......
แม่นาคพระโขนง ละครเวทีเรื่องแรกในชีวิตตต.......

ห่างหายจากการอัพบล๊อกไปซะนานนน......เลยเรา หุหุ ไปดูเรื่องสุดท้ายที่เราลงไว้ โห.... ก็ผ่านมาตั้งสองเดือนแล้วนิ หลังจากครั้งสุดท้ายที่เราอัพบล๊อก

เพื่อน ๆ น้อง ๆ บางคนอาจจะสงสัยว่าเราหายไปไหน ทำไมถึงไม่อัพบล๊อกซักที เว็บอื่น ๆ ที่เคยเข้าไปเล่นก็พาลหายตัวแว๊ปป..ไปซะด้วย ไม่แวะเวียนเข้าไปคุยบ้างเลย

ที่เราหายไปส่วนนึงก็เพราะงานอ่ะค่ะ แต่ว่างานเราก็ยุ่งอยู่ตลอดศกแหละ เพราะงั้นเป็นคำแก้ตัวไมได้ แล้วก็เปื่อยย...เอ๊ยย..ป่วยเป็นหวัด 2008 ซึ่งก็หายตั้งนานแล้วว.... เพราะงั้นมันก็ใช้อ้างอีกไม่ได้เหมือนกัน แต่มันมีอีกโรคนึงค่ะ ที่เป็นแล้วหายย๊ากกก....ยากกกก....มากกกก.....นั่นก็คือ

"โรคขี้เกียจ"

แหะ แหะ.... เราเปื่อยเป็นโรคขี้เกียจอย่างหนักเลยล่ะค่ะ ไม่รู้เป็นไง พอกินข้าวเย็นเสร็จ อาบน้ำเรียบร้อย มันก็พาลไม่อยากลงมาเล่นคอมฯ ต่อ อยากแต่จะนอนอ่านหนังสืออึ่ดทึ่ดอยู่บนเตียงอย่างเดียวซะงั้น เลยทำให้เราห่างหายจากโลกไซเบอร์นี่ซะนานนนน......เลย แต่ก็คิดถึงเพื่อน ๆ น้อง ๆ ทุกคนนะคะ (อ้อนกันสุดฤทธิ์....)

ตอนนี้เราพยายามรักษาโรคนี้อย่างเต็มความสามารถ อิอิ.. แต่ครั้นจะเริ่มต้นการรักษาด้วยการรีวิวหนังสือ (ที่มีเยอะแยะหลายเรื่อง ที่เราตั้งใจว่าจะ ว่าจะ มาคุย) แต่รู้สึกว่ามันยังหนักไปสำหรับร่างกายที่ยังอ่อนแอจากโรคนี้ (ว่าไปนั่น ฮี่ฮี่ฮี่ ) เราก็เลยมาขอคุยเรื่อง 'ประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิตของเรา' จะดีกว่า นั่นก็คือการไปดูละครเวทีครั้งแรกในชีวิตตต...........

***************

ตั้งแต่เกิดมาเรายังไม่เคยไปดูละครเวทีเลยค่ะ ความอยากน่ะมันมี แต่ว่าเพราะไม่มีใครไปดูด้วย เราก็เลยต้องเก็บความอยากนั้นเอาไว้ จนกระทั่งมีการแสดงละครเวทีเรื่อง แม่นาคพระโขนง เดอะมิวสิคัล

ตอนแรกเราก็เฉย ๆ นะกับเรื่องนี้ เพราะทั้งตัวพระเอก นางเอก เรารู้สึกว่าไม่ค่อยต้องใจซักเท่าไหร่ แต่พอละครเล่นไปได้ซักพัก แล้วก็มีเสียงตอบรับจากคนที่ไปดูว่าเรื่องนี้สนุกดีนะ เพลงก็เพราะ ตัวละครก็เล่นดี แถมยังมีเอฟเฟคที่แปลกกว่าละครเรื่องอื่นอีกด้วย ก็เลยทำให้เราชักจะสนใจอยากจะดูมั่ง แต่ก็อีกนั่นแหละ ปัญหาสำคัญก็คือ แล้วใครจะไปดูกับเราล่ะ

เราเก๊าะเลยไปไซโคน้องสาว น้องชาย กับน้องสะใภ้ว่าสนใจกันบ้างป่าว เรื่องนี้หนุกน๊า...บลา..บลา..บลา... ปรากฏว่า คราวนี้สำมะเหร็จแฮะ..!! ทุกคนอยากจะไปดูด้วย แต่กว่าจะตกลงใจกันได้ ละครเรื่องนี้ก็เกือบจะลาโรงไปแล้ว เราก็เลยรีบให้น้องสะใภ้ไปจองตั๋ว แล้วในที่สุด พวกเราก็จะได้ไปดูละครรอบบ่ายสองโมง ในวันอาทิตย์ที่ 26 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่เค้าจะเล่นกัน....... เย้..เย้..เย้.....

***************

วันที่ไปดูละครเราก็ไม่ค่อยจะตื่นเต้นซักเท่าไหร่หรอก อุอุ แค่ลืมเอากล้องถ่ายรูปไปด้วยเท่านั้นเอง แหมม...อุตส่าห์วางไว้ข้างกระเป๋าตังส์แล้วนะ ดันลืมซะได้ แหะ แหะ... เพราะงั้นก็เลยไม่มีรูปมาให้ดูกันนะคะ

ไปถึงที่เอสพลานาด พอจอดรถเสร็จปุ๊บ พวกเราก็รีบไปหาที่กินปั๊บ เพราะเที่ยงแล้วอ่ะ มันหิ๊วววว..... แต่ก่อนไปหาที่กินก็ต้องไปรับบัตรก่อน น้องสะใภ้เราจองบัตรผ่านทางเว็บไซด์ค่ะ ต้องไปรับบัตรก่อนการแสดง 1 ชั่วโมง ที่นั่งที่พวกเราดูราคา 1300 บาท อยู่บนชั้นสอง ซึ่งตอนที่เรารู้ราคาบัตรครั้งแรก เราแอบบ่นแพงอยู่ในใจอ่ะ แต่พอได้ดูละครจริง ๆ แล้ว ถึงได้รู้ว่า บัตรราคาเท่านี้ไม่แพงเลยล่ะค่ะ พอรับบัตรเสร็จแล้ว ก็รีบไปหาข้าวกินกัน

พวกเราไปเดินวนดูร้านอาหารอยู่รอบนึง แล้วก็ตัดสินใจว่าไปกิน Scoozi กันเหอะ (แหมม...เสียดายจังที่ไม่ได้พกกล้องไปด้วย ไมงั้นก็จะถ่ายรูปมารีวิวให้ได้ดูกันค่ะ ) งานนี้สั่งไป 4 อย่าง เชฟสลัด, พิซซ่าฮาวายเอี้ยน (ที่ตอนนี้เค้ามีโปรฯ ถาดนึง 190 เองมั๊ง ) ราวิโอรีปลาสมร กับ ผักโขมอบชีส กะลังหิว ๆ อยู่เพราะงั้นวางแป๊บเดียวก็เกลี้ยงค่ะ อาหารที่สั่งมาอร่อยทุกอย่างค่ะ กินกัน 4 คนสั่ง 4 อย่างจ่ายไป 700 กว่า ๆ โอเคเลยค่ะ สำหรับรสชาติและราคา

พอกินข้าวกลางวันเสร็จ เราก็ไปหาของหวานมาล้างปาก แต่ดูไปดูมาชักไม่สนของหวานแล้วล่ะ เอาของว่างน่าจะดีกว่า อุอุ เพราะที่นี้มีร้านทาโกะฯ เจ้าดังอยู่ชื่อร้าน Gindaco เรากับน้องสาวก็เลยไปซื้อมา 10 ลูก เค้าไม่ได้ตะกละน๊า... แบบว่าเผื่อน้องชายกันน้องสะใภ้ด้วยไง อิอิ.. แต่ที่ไหนได้ สองคนนั้นดันไม่ช่วยกินซะนี่ เราสองคนก็เลยต้องกล้ำกลืนฝืนกินไปจนหมด 10 ลูกแน่ะ

พอกินเสร็จก็เถลไถลเดินเล่นซักหน่อย เพื่อย่อยทาโกะฯ และอื่น ๆ อีกมากมายที่สวาปามลงไป จนได้เวลาที่ประตูโรงละครเปิดให้เข้า.....วุ้ยย..จะได้ดูแล้วล่ะ....

***************

พอไปถึงหน้าโรงละคร ก็เห็นคนยืนต่อแถวกันยาวเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจวัดอุณหภูมิก่อน พร้อมกันหยอดเจลล้างมือกันคนละหนึ่งปื๊ด ตามเทรนของปีนี้ แล้วก็ตรวจค้นกระเป๋า จากนั้นทุกคนก็ยืนถือตั๋วไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจ ซึ่งเค้าก็จะเจาะรูเอาไว้เป็นเครื่องหมาย



แล้วก็เดินไปรับสูจิบัตร (แต่เค้าพิมพ์หน้าปกว่าเป็นรัชดาลัยแม็กกาซีน) ที่เป็นหนังสือเล่มเล็ก ๆ ข้างในจะมีความเป็นมาของกว่าจะเป็นละครเรื่องนี้ ความรู้สึกของคณะทำงานรวมทั้งนักแสดง และก็รายละเอียดของการแสดง ชื่อเพลงในแต่ละองก์ รายชื่อนักแสดงและทีมงาน



จากนั้นเราก็เดินไปตามน้องสาวของเราไป เพื่อเข้าไปในโรงละคร (เพราะยังงง ๆ อยู่ค่ะ) แบบว่ามัวแต่มองนู่น นี่ นั่น อ่ะค่ะ (แหมมม...ก็ไม่เคยมานี่นา แล้วโรงละครเค้าก็ดูอลั้ง อลังฯ มั่ก ๆ เลยอ่ะค่ะ) ก็เลยไม่ได้ฟังว่าต้องไปทางไหน ยังดีนะเนี่ยที่มีน้องคอยจูง หุหุ )

พอเข้าไปในโรงละคะ เราก็อดรู้สึกตื่นเต้นนิด ๆ ไม่ได้ เพราะว่าเป็นครั้งแรกอย่างนึงละ แล้วอีกอย่างก็คือ ที่นั่งในโรงละครเนี่ย ทำไมมันชันจังฟร๊ะ ที่นั่งเราอยู่ชั้นสอง แล้วเราก็ดันเป็นคนที่กลัวความสูงซะด้วยสิ ก็เลยขาสั่นนิดหน่อย แหะ แหะ... แต่พอได้นั่งแล้วก็โอเคค่ะ เข้าใจแล้วว่าทำไมต้องชัน ก็เพราะเพื่อที่เราจะได้เห็นเวทีชัด ๆ ยังไง นั่งรอไปซักพักนึง ฟังวงดนตรีเค้าวอร์มกัน แล้วเพลงสรรเสริญพระบารมีก็ดังขึ้น เป็นการบอกว่า เปิดม่านได้........

***************

ละครเริ่มด้วยเพลงเบิกโรง นักแสดงที่เป็นชาวบ้านเดินถือไฟมาจากด้านหลังของคนดูไปที่เวทีที่อยู่ด้านหน้า พร้อมกับเสียงพูดประสานเป็นทำนองว่า กำลังเกิดเรื่องน่ากลัวในที่นี้ ทำให้เราที่เพิ่งจะเคยมาดูละครเวที รู้สึกตื่นตาตื่นใจมิใช่น้อย

จากนั้นก็ตัดไปเป็นฉากงานลอยกระทงที่แสดงถึงความสนุกสนานของชาวบ้าน และความรักระหว่างแม่นาค (นัท เบนเนเดดตี้) กับพ่อมาก (อาณัตพล ศิริชุมแสง) ลางร้ายที่เกิดขึ้นเมื่อแม่นาครู้ว่าพ่อมากต้องจากไปเป็นทหาร และความเกลียดชังของยายปริก (สุดา ชื่นบาน) ที่มีต่อแม่นาค ที่แสดงออกมาเมื่อลับหลังพ่อมาก

เรื่องก็ดำเนินไปเรื่อย ๆ ตามเนื้อเรื่องที่พวกเรารู้ ๆ กันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นตอนที่แม่นาคคลอดลูกตาย ถูกอาจารย์คง (ติ๊ก ชีโร่) มาทำร้ายขโมยลูกไปเพื่อจะทำลูกกรอก แล้วแม่นาคก็อาละวาด จนชาวบ้านทุกคนกลัวลาน และจนถึงตอนจบที่ไม่เหมือนกับที่เราคิดไว้ เพราะแม่นาคในเรื่องนี้ ไม่ถูกถ่วงลงหม้อ หรือว่าเจาะหน้าผากสะกดวิญญาณแบบที่เราเคยอ่านเจอหรือว่าดูในหนัง แต่แม่นาคกลับปลงตกและยอมที่จะปล่อยวางพ่อมาก เพื่อไปสู่สุคติด้วยตัวเอง

ในเรื่องนี้ ผู้กำกับทำให้แม่นาคเป็นผู้หญิงน่าสงสารค่ะ เธอหนีตามกันมากับพ่อมากด้วยความรัก แต่พอมาอยู่ด้วยกันที่บางพระโขนง เธอก็โดนชาวบ้านรังเกียจ เพราะเธอทำผิดผีด้วยการหนีตามผู้ชายมา ที่ร้ายกว่านั้นเธอยังโดนขาใหญ่ประจำบาง ยายปริก ยายของ สร้อย (ปนัดดา เรืองวุฒิ) เกลียดเอามาก ๆ ซะด้วย เพราะยายปริกคิดว่าแม่นาคเป็นคนที่แย่งพ่อมากไปจากสร้อย แม่นาคต้องกล้ำกลืนฝืนทนรับคำถากถางจากคนอื่น ๆ แถมผัวยังต้องจากไปทั้ง ๆ ที่ตัวเองตั้งท้อง คลอดลูกก็ต้องพึ่งหมอตำแยที่เกลียดตัวเองซะอีก นอกจากนั้นพอตายไปแล้ว แทนที่จะได้ไปอย่างสงบก็ดันถูกหมอผีมารังควาญ แม่นาคที่แต่เดิมเป็นคนเรียบร้อย อ่อนโยน ก็เลยต้องลุกขึ้นมาอาละวาดซ๊า.....

(เรื่องนี้ยัยปริกแกร้ายมาก ๆ ค่ะ เพราะแกแท้ ๆ แม่นาคถึงได้คลอดลูกตาย เพราะตอนที่แม่นาคปวดท้องคลอดลูก แกถ่วงเวลามาช้าค่ะ เลยทำให้แม่นาคทนความเจ็บปวดไม่ได้ ขาดใจตายไปซะก่อน อันนี้แกสารภาพเองกลางเวทีเลยนะคะ แต่สุดท้ายก็ต้องโดนแม่นาคหักคอจนได้ เชอะ...สมน้ำหน้า )

อันที่จริงแม่นาคก็ไม่ได้อาละวาดมากมายอะไรหรอกค่ะ เธอแค่ไปหาคนโน้นคนนี้เพื่อบอกให้ช่วยไปตามพ่อมากกลับมาหาเธอก็แค่นั้นเอง แต่ในเมื่อเธอเป็นผีทุกคนก็เลยกลัวเธอ แต่ต่อมาเธอก็อาละวาดต้องทำร้ายคนก็เพราะความผิดหวัง ที่เมื่อพ่อมากรู้ความจริงว่าเธอเป็นผีแล้วหนีไป

เรื่องนี้มีครบทุกความรู้สึกนะคะ ไม่ว่าจะเป็นความรัก ความเกลียด ความเศร้า ความเจ็บปวด และเรื่องตลกขบขัน ทำให้คนที่ไม่ชอบดูละครโทรทัศน์เลยอย่างเรารู้สึกสนุกแล้วก็สะเทือนใจไปกับเรื่องด้วย

นักแสดงทุกคนเล่นได้ดีนะคะ ร้องเพลงก็เพราะ เพลงในเรื่องนี้ก็เพราะมาก เราว่าเพลงมีส่วนช่วยอย่างมากเลยที่ทำให้คนดูซาบซึ้งกับการแสดง เราไม่อยากจะบอกเลยว่า เราแอบร้องไห้ตั้งสองครั้งแน่ะ ตอนที่ผีแม่นาคคร่ำครวญหาคนรัก กับตอนที่พ่อมากรู้แล้วว่าแม่นาคเป็นผีและพูดจาตัดรอนแม่นาค ส่วนตอนอื่น ๆ แอบน้ำตาซึมนิดหน่อย น้องสาวกับน้องสะใภ้เราก็ไม่หย่อนกว่ากันเท่าไหร่ เพราะแต่ละคนก็ต้องแอบปาดน้ำตากันคนละปื้ดสองปื้ด

แต่น้องชายเราไม่ร้องแฮะ มันบอกว่าแมน ๆ อย่างมันร้องไห้ยากกกก.... ชิ ไม่เหมือนกับผู้ชายที่นั่งข้าง ๆ มัน ขานั้นสะอึกสะอื้นเลยล่ะ ไม่รู้ว่าสะอื้นอ้อนแฟนหรือเปล่า เพราะเค้ามาดูกับแฟน หุหุ...(อันนี้มันเล่าให้ฟังนะคะ)

ฉากก็ทำได้สวย การเปลี่ยนฉากก็ดีค่ะ ดูแล้วตื่นตาตื่นใจ แต่ที่เจ๋งมาก (ใช้คำเชยไปป่าวเนี่ยยย....) ก็คือตอนที่แม่นาคเหาะไปมา เรานับถือคุณนัทเลยนะเนี่ยที่กล้าโหนสลิงสูงขนาดนั้น แถมยังต้องแกว่งไปมาซะด้วยสิ

ส่วนคุณอาร์ ก็เล่นเป็นพ่อมากได้ดีเหมือนกันค่ะ แต่ที่เราอยากจะกรี๊ดให้สุด ๆ ก็คงเป็นตอนที่พ่อมากถอดเสื้อ เห็นแล้วอยากจะครางงงง.....ออกมาว่า "พ่อล่ำมากกก.....จ๋าาาาาา........" เพราะเค้าไปฟิตหุ่นมาดีมากค่ะ กล้ามอกงี้ ซิกแพ็คเงี้ย อื้อหืออ... (โห๊ยยยย.....อิจฉายัยเป้ยจิงจิ๊งงงงง.......)

และก็มีฉากนึงที่เราชอบมาก ๆ ก็คือ ฉากวิธีหนีผี ที่โอ่ง (ธงธง มกจ๊ก) กับเตี้ย (อู๊ด เป็นต่อ) ร้องเพลงคิดหาวิธีหนีผี ว่าถ้าจะหนีผีจะไปซ่อนที่ไหนดี แล้วก็มาลงเอยที่ซ่อนในตุ่ม โห...ฉากนี้แค่สองคนร้องเพลงตอบโต้กันก็ฮามาก ๆ แล้ว นี่ยังมีตุ่มมาอีก ยิ่งอย่างฮา.. เลยค่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

***************

ทั้งหมดนี่เป็นความเห็นของคนที่เพิ่งจะมีโอกาสได้ดูละครเวทีเป็นครั้งแรกนะคะ แต่ถึงจะเป็นครั้งแรก ละครเวทีก็ทำให้เราติดใจแล้วล่ะค่ะ และเราก็คิดว่าบัตร 1300 บาทไม่แพงเลยสำหรับละครเวทีเรื่องนึง เพราะเมื่อเรามาคิดถึงนักแสดงที่ต้องทั้งร้องทั้งเต้น แสดงให้พวกเราได้ดูกันตลอด 3 ชั่วโมง นักดนตรีที่ก็เล่นกันสด ๆ รวมทั้งฉากต่าง ๆ ที่สร้างสรรกันขึ้นมา เราคิดว่าคุ้มมาก ๆ ค่ะ

เฮ้อ...สงสัยว่าเราจะต้องเก็บตังส์เพิ่มขึ้นอีก เพราะนอกจากจะซื้อหนังสือ กินของอร่อย ไปเที่ยว เราต้องเผื่อเอาไว้สำหรับซื้อตั๋วดูละครอีกซะด้วยซี ฮ่า ฮ่า ฮ่า


Create Date : 27 กรกฎาคม 2552
Last Update : 28 กรกฎาคม 2552 2:25:19 น. 12 comments
Counter : 1092 Pageviews.

 
คิดถึงป้าโอมาก ๆ ค่ะ แวะเข้ามาทุกวันเลย ยิ่งช่วงนี้บอร์ด กก มีปัญหาบ่อยมากเลยยิ่งเข้ามาบ่อย เข้าใจค่ะไอ้โรคขี้เกียจเนี่ยไม่มีวัคซีนป้องกันซะด้วยเมื่อบุกเข้ามาแล้วยากที่จะต่อต้านจ้ะ ป้าโอจะไปงานหนังสืออัมรินทร์ไหมค่ะ เพราะทาง กก ไปออกบู๊ทด้วยจ้ะไม่แน่ใจว่าพลังรักเล่ม 3 จะออกทันไหม แต่คุณบีทำแสบมากเอาเรื่องย่อมาโพสท์ให้อ่านในเวปด้วยล่ะ (ขอฟ้องหน่อย) ป้าโอค่ะรอยรักออกเล่ม 2 มาแล้วป้าโอซื้อหรือยังค่ะ แต่หนูเพิ่งจะได้ฤกษ์ซื้อเล่ม 1 เองจ้ะ ถ้าอ่านจบแล้วมารีวิวให้อ่านบ้างน่ะค่ะ
บ๊ายบ๊าย ขอให้โรคขี้เกียจจงหายไป


โดย: ducky IP: 202.57.179.139 วันที่: 28 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:31:38 น.  

 
พี่โอ รักษาโรคให้หายเร็วๆนะคะ มาทักทายให้หายคิดถึงอ่ะ


โดย: กุ๊ก IP: 192.168.1.219, 114.128.84.67 วันที่: 28 กรกฎาคม 2552 เวลา:18:14:56 น.  

 
สวัสดีค่ะ ไปดูมาเหมือนกัน ..


โดย: blackskin วันที่: 28 กรกฎาคม 2552 เวลา:19:35:39 น.  

 
สวัสดีค่ะ ป้าโอ ดีใจจังเลยค่ะ ที่กลับมาอัพบล็อกแล้ว แฟนๆๆคิดถึงค่ะ มีเรื่องอยากจะถามป้าโอด้วยค่ะ ว่าเคยอ่านงานของ มาร์ก เลอวี มั้ยคะ หนูกำลังจะตัดสินใจอยู่ค่ะ ว่าควรซื้อเรื่อง เจ็ดวันเพื่อหนึ่งนิรันดร ดีรึป่าว ป้าโอเคยอ่านเรื่องนี้มั้ยคะ สนุกป่าว บายค่ะ


โดย: enuyama IP: 115.87.83.100 วันที่: 29 กรกฎาคม 2552 เวลา:1:11:37 น.  

 
ป้าโอหายไปนานจังเลยค่ะ รอรีวิวอยู่นะคะ ได้อ่านชุด Ghostwalker แล้ว ชอบมากกกกกเลยค่ะ เห็นแพรวออกหนังสือแปลน่าอ่านหลายอยู่ แต่เห็นราคาแล้วก็ได้แต่กลืนน้ำลายค่ะ


โดย: RedMaPle IP: 10.0.1.3, 118.175.64.17 วันที่: 29 กรกฎาคม 2552 เวลา:17:46:37 น.  

 
ขอบคุณทุก ๆ คนมาก ๆ ค่า...ที่แวะเข้ามาทักทายกัน

คราวนี้รับรองว่าจะไปไม่หายไปนานค่ะ จะพยายามรักษาโรคนี้ให้หาย (แต่คงจะไม่ขาดหรอกค่ะ เพราะว่าเรื้อรังมานาน อิอิ ) แล้วก็มาอัพบล๊อกบ่อย ๆ ค่า....


โดย: โอ-พิน (o_pinP ) วันที่: 29 กรกฎาคม 2552 เวลา:23:39:35 น.  

 
ป้าโอขา... แอ๋มอยากดูละครเวทีเรื่องนี้มากกกก อุตส่าห์เก็บตังค์ไว้ซื้อตั๋ว แล้วก็นัดกับเพื่อนๆ ไว้แล้ว ดันต้องย้ายงานซะก่อน อดดูเลยอ่ะ อิจฉาจังค่ะ แต่ที่ป้าโอเล่าซะเห็นภาพ ก็เลยค่อยยังชั่วหน่อย เหมือนได้ไปดูแบบเฉียดๆ ก็ยังดี อิๆๆ

แอ๋มอยากได้ริวซัง (ของพี่ณารา) จังเลย นี่แอ๋มก็รอให้ ซ่อนรักฯ จบ เพราะกะว่าพี่ณาราคงช่วยรับฝากแฟนๆ ซื้อพร้อมขอลายเซ็นต์เหมือนเดิม แอ๋มจะได้ฝากทีเดียว 3 เรื่องเลยหุๆๆ
โม้ซะนาน ไม่กวนละ รักษาสุขภาพนะคะ ไว้แวะเข้ามาคุยใหม่


โดย: แอ๋ม IP: 58.97.13.254 วันที่: 31 กรกฎาคม 2552 เวลา:11:39:26 น.  

 
อ๊ะๆ ขอเม้าท์อีกนิดค่ะ

ป้าโอรู้ยังคะว่า หนังสือคุณฬีเล่มใหม่เป็นหนุ่มวรรณวิจักร์ ล่ะ (หนุ่มธีร์ล่ะป้าโอ...ดีใจ๊..ดีใจ แอ๋มชอบคนนี้อ่ะ หุๆๆ) แอ๋มรออยู่ว่าจะทันงานหนังสือเปล่า เพราะจะจดชื่อแล้วฝากเพื่อนซื้อส่งมาให้ซะหน่อย หุๆๆ (อย่ตั้งหาดใหญ่เนี่ย ไกล๊..ไกล) นี่ก็มีหลายเรื่องเลย ไหนจะชุด In Death อีกล่ะ เฮ่อ.. ตังค์ก็ไม่ค่อยจะมี บ่นไปงั้นแหล่ะค่ะ เด๋วก็หาทางสอยมาจนได้ 555


โดย: แอ๋ม IP: 58.97.13.254 วันที่: 31 กรกฎาคม 2552 เวลา:11:43:42 น.  

 
โธ่ๆๆๆ

เจ้าตัว "ขี้เกียจ" ของตุ๊ก มันลอยไปติดพี่โอนี่เอง

อืม ตุ๊กติดเชื้อมาจากคุณมินฯจ๊ะ


โดย: คุณตุ๊ก IP: 119.31.67.162 วันที่: 4 สิงหาคม 2552 เวลา:21:38:53 น.  

 
อยากให้แสดงอีก


โดย: หลิว IP: 58.9.189.158 วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:19:04:19 น.  

 
น่าเสียดายซ้อมมาตั้งนานแสดงแค่นี้


โดย: หลิว IP: 58.9.189.158 วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:19:05:24 น.  

 
พูดตรงๆนะเราชอบมากๆแทบอยากจะไปแสดงเองเลยละเราดุแล้วอยากดูอีกตอนรุ้ว่าแม่นาคพระโขนงจะจบเราแทบบ้า


โดย: หลิว IP: 58.9.189.158 วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:19:07:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

opinpp
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




ความชอบหรือไม่ชอบเป็นความรู้สึกเฉพาะของแต่ละคน
เพราะฉะนั้นข้อความในบล๊อกของเราจึงเกิดจากความรู้สึกของเราเอง ซึ่งอาจจะเต็มไปด้วยอคติอันเกิดจากตัวเราเจ้าของบล๊อก และอาจจะไม่เห็นพ้องต้องใจกับใจของใครบางคน
จึงอยากจะบอกไว้ก่อนว่า บุคคลใดที่ได้เข้ามาอ่านในบล๊อกนี้ ขอจงได้โปรดอ่านและเข้าใจไว้ด้วยนะจ๊ะ และถ้าจะโต้แย้ง ก็ขอให้โต้แย้งด้วยความใจกว้างที่จะรับฟังความเห็นที่แตกต่าง
เรายินดีต้อนรับความเห็นที่แตกต่างค่ะ
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
27 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add opinpp's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.