ขอบคุณจากหัวใจ เป็นเวลา 8 ปีแล้วเน๊าะที่เขียนใส่ใน BLOGGANG
จากภาพหมู่ที่อยู่ข้างบนเป็นกลุ่มพี่น้องผองเพื่อนจากห้องเพลงเพื่อชีวิตในพันทิพ จากห้องเฉลิมไทยจนกลายมาเป็นห้องเฉลิมกรุง นี่ถ้าไม่มีพวกเขาก็ไม่มีอุ้มอยู่ใน BLOGGANG วันนี้ และจนเดินทางวนเวียนอยู่ใน BLOGGANG มาจนครบ 8 ปี เข้าสู่ปีที่ 9 พี่น้องผองเพื่อนกลุ่มนี้ก็ห่างหายจากพื้นที่นี้แต่คุณนายอุ้มสีก็ยังอยู่ทน จากที่เริ่มเขียนลงในวันที่ 19 มกราคม 2547 เป็นคนสุดท้ายของกลุ่มที่บอกว่าเขียนไม่เป็นไม่รู้จะหาอะไรมาเขียนให้อ่าน ไม่รู้จะนำเสนออะไรดี พี่น้องผองเพื่อนกลุ่มนี้ก็บอกว่าเขียนในสิ่งที่อยากเขียน บอกเล่าเรื่องราวของตัวเอง บันทึกเป็นข้อความประกอบเสียงเพลงเชื่อว่าคุณนายอุ้มสีทำได้จากวันแรกที่ UP BLOG งมหาโค้ด 8 วันลองผิดลองถูกจนเกิดมาเป็น BLOG ลงตัว จำได้ว่ามี 2 คนที่เข้ามาเม้นท์ คนแรกเป็นน้องพู่ JewNid ที่เข้ามาเม้นท์ เป็นความรู้สึกดีใจเลยที่เพื่อนนอกกลุ่มมาฝากข้อความไว้ให้ในบล็อก และจนมาได้รู้จักตัวเป็นๆ ของน้องพู่น่ารักมากจริงๆ ถ่ายภาพสวย มีความรู้และมีวิสัยทัศน์ที่เยี่ยมยอดมากค่ะ เพลงที่แปะใส่ BLOG ครั้งแรกเป็นเพลง "สหาย" ของน้าหว่อง มงคล อุทก"ดินแดนแสนไกล ไกลทางคนผ่าน มีคนใกล้บ้านไม่หวนมา นอนบนผืนดิน กินในกลางป่าดาวเป็นศรัทธาฟ้ายิ่งใหญ่ อยากจะบอกเธอนั้น ว่าสักวันคงจะเจอ ฝากคิดถึงเสมอ....ไม่ลืม กองฟืนสุมไฟเรไรระงม น้ำค้างพรม ฟังคล้ายเพลง มีภัยรอบกาย ความตายรอบตัว พบเพื่อนที่ดี แล้วลาจากกองฟืนสุมไฟ เรไรระงม น้ำค้างพรม ฟังคล้ายเพลง มีภัยรอบกาย ความตายรอบตัว พบเพื่อนที่ดีแล้วลาจาก อยากจะบอกเธอนั้นว่าสักวันคงจะเจอ ฝากคิดถึงเสมอ...ไม่ลืม ไปแล้วพบกันใหม่ เพื่อนที่รักเอยยังคิดถึงเสมอ ไม่เคยลืม ไปแล้วพบกันใหม่ เพื่อนที่รักเอย ยังคิดถึงเสมอ ไม่เคยลืม"จากจุดเล็กๆ ของมิตรภาพ คุณนายอุ้มสีก็ได้เรียนรู้ว่า ถ้าไม่เดินสายไปทักทายตามบล็อกต่างๆ เราจะไม่รู้เลยว่าโลกภาพยนอกแต่ละที่เป็นเช่นไร นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ส่งผลดีทำให้ได้รู้จักเพื่อนบล็อกคนใหม่และได้รู้จักสถานที่ ร้านอาหาร พืชผักผลไม้ ตลอดทั้งกรรมวิธีในการปรุงตลอดจนสูตรอาหาร จากมิตรภาพในโลกไซเบอร์ที่รู้จักกันผ่านคอมพิวเตอร์พี่น้องผองเพื่อนก็ยังคบกัน เพียงแต่กาลเวลาของหน้าที่การงานและกิจกรรมในครอบครัวที่ทำให้คุณนายอุ้มสีห่างจากการเสวนาพาเพลิน แต่กลุ่มห้องเพลงเพื่อชีวิตก็ยังเหนียวแน่นทักทายปราศรัยกันเหมือนเดิม มิตรภาพไร้พรมแดนจริงๆ ค่ะ เคยไปงานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ พระที่มาเทศน์ท่านคงแปลกใจในมิตรภาพที่คุยกัน ท่านถามว่า "โยมอาตมาถามจริงๆ โยมรู้จักกันจากคอมพิวเตอร์จริงๆ เหรอ ? เพื่อนที่มาจากคอมพิวเตอร์จริงๆ หรือโยม ???" ก็ตอบว่าจริงๆ ค่ะ ที่มาทั้ง 30 คนวันนี้รู้จักกันผ่านคอมพิวเตอร์ทั้งนั้นเลยค่ะมีอีกเรื่องที่ประทับใจมากเมื่อคราวที่คุณแม่ป่วยที่โรงพยาบาล ชายหนุ่มที่ไม่เคยรู้จักเลยมาฝากนมกล่องเยี่ยมไข้คุณแม่ โดยไม่ได้บอกว่าจะมาวันไหนแถมวันนั้นคุณนายอุ้มกลับบ้านหอบเสื้อผ้ามาซัก บางคนก็มาทักทายขนขนมของกินมาให้กำลังใจในเวลาค่ำคืน และมีหลายคนไม่เคยเจอตัวเป็นเป็นส่งหนังสือ ส่งสิ่งของ ส่งขนมของรับประทานต่างๆ มาให้เสมอ จนแม้วันที่คุณแม่เสียชีวิตลงเมื่อปลายปี คุณนายอุ้มสีก็ได้รับข้อความที่แสดงความเสียใจส่งเป็นกำลังใจให้มากเป็นประวัติการณ์ ขอบคุณและขอบคุณมิตรภาพดีดีที่มีให้เสมอ ขอบคุณมิตรภาพที่ไร้ตัวตนแต่จับต้องได้ด้วยความรู้สึกและจิตวิญญาณของมิตรภาพที่ดี คุณนายอุ้มสีซาบซึ้งมิตรภาพ BLOGGANG เสมอไม่เคยลืมเลยค่ะ8 ปีที่อยู่ใน BLOGGANG ก็ได้ซาบซึ้งถึงมิตรภาพที่มีอยู่จริง ได้รู้จักกับการทำบุญที่ร่วมด้วยช่วยกันเป็นองค์กฐิน เป็นกองผ้าป่า ช่วยกันสร้างห้องสมุด ช่วยกันขนหนังสือและอุปกรณ์การเรียนไปมอบให้โรงเรียนต่างๆ และได้เรียนรู้ว่าบนมิตรภาพของบล็อกแก๊งค์นี้ก็ได้สร้างความเศร้า ความเสียใจให้ได้ด้วย ปีที่แล้ว...เคยช็อก ???? ที่จู่ๆ ได้รับข้อความที่มาเม้นท์ใส่บล็อกอุ้มว่า"เป็นคนใจจืดใจดำ แล้วบอกว่าตัวเองเป็นคนธรรมะธัมโม ชอบทำบุญ ขนาดภาพแค่นี้ยังหวง ทำไมต้องมาใส่ชื่อในภาพถ่ายที่ตัวเองถ่ายมาด้วย ทำอย่างนี้ใจดำจังเลย"จำแม่นเลยค่ะว่าบล็อกนั้นอุ้มแปะภาพ "แม่น้ำบางนรา" เม้นท์อันนี้ได้สร้างมึนงงให้กับคุณนายอุ้มสีเป็นอย่างยิ่ง ลมออกหูเลยค่ะ เรื่องภาพที่อุ้มใส่ชื่อเพราะอยากบอกว่าอุ้มถ่ายมาแค่นั้น แต่ถ้าอยากได้ไม่หวงภาพเลย ก็บอกมาทางหลังไมค์หรือเม้นท์เลยว่าอยากได้ อุ้มจะส่งให้ทั้ง File ภาพเต็มๆ เลยค่ะ ขอให้บอกมา ซึ่งจะไม่เสียใจเลยถ้าคนเขียนไม่ใช่พี่ชายที่แสนดีที่รู้จักกัน เสียความรู้สึกเป็นครั้งแรกกับพี่ชายคนนี้เลยค่ะและเมื่อไม่นานมานี้อุ้มมีเรื่องที่ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องขึ้นมา จะเห็นว่าเวลาอุ้มไปเดินสายที่ BLOG ไหน จะต้องมีคำอยู่ 2 คำ คือคำว่า "แหล่ม" และคำว่า "จุงเบย"เสียใจมากที่ไปอ่านเจอเองในเฟชบุ๊คเขาเม้นท์บอกว่าไม่อยากเห็น 2 คำนี้ที่ BLOG เขา ทีอย่างนี้ไม่กล้ามาเม้นท์บอกใน BLOG อุ้ม หรือหลังไมค์หรือบอกมาที่ข้อความ กลับไปบอกในเฟชบุ๊ค BLOGGANG ว่าไม่อยากเห็น 2 คำนี้ที่ BLOG เขา นี่เป็นความเสียใจดอกที่สองให้พี่ชายคนนั้นค่ะ คนกันเองแท้ๆ อุ้มเป็นคนเกลียดคนปากหวานก้นเปรี้ยวมากที่สุดว่าแล้วอุ้มก็ถึงบางอ้อเมื่อไปอ่านเจอที่ BLOG ของคุณกิ่งฟ้า อธิบายคำว่า "จุงเบย"ความหมายของ จุงเบย ในไทย จุงเบย เพี้ยนมาจาก จังเลย แสดงความแอ๊บแบ๊ว บางคนบอกว่าปัญญาอ่อนความหมายของ จุงเบย ในต่างประเทศ คำว่า จุงเบย ในภาษา คัสซาบลังกา หรือ คาซาบลังกา ( โมร็อกโก ) แปลว่า จักแร้เปียก ! เธอน่ารัก จุงเบย = เธอน่ารัก จักแร้เปียก (555555) ในภาษเขมร.. จุง แปลว่า จูง / เบย แปลว่า ควาย / จุงเบย แปลว่า จูงควาย น่ารักจุงเบย แปลว่า น่ารักเหมือนควายที่ถูกจูงแต่สำหรับอุ้มแล้ว "จุงเบย" ก็คือคำว่า "ดีจังเลย" อุ้มเห็นว่า จุงเบย ออกเสียงได้น่ารักดี เหมาะสำหรับ BLOG ที่น่ารัก เวลาอุ้มเข้าไปเม้นท์ที่บล็อกไหนน่ารัก ก็จะบอกว่า น่ารักจุงเบย แต่ถ้าตีความหมายออกมาว่า "จูงควายหรือรักแร้เปียกก็โอเคค่ะจะไม่เขียนใส่บล็อกใครอีกแล้วค่ะ ปล. อุ้มไม่ได้เสียความรู้สึกกับคุณกิ่งฟ้าเลยนะคะ กลับดีใจที่อธิบายให้อุ้มได้ทราบค่ะส่วนคำว่า "แหล่มค่ะแหล่ม / แหล่มเลย" หมายถึง "ยอดเยี่ยม สุดยอดเลยค่ะ" ซึ่งถ้าใครหลายคนเข้าใจเจตนาอุ้มผิด ก็ขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะสำหรับการก้าวย่างเข้าสู่ปีที่ 9 เพราะเราเป็นเพื่อนกันไม่คิดว่าอุ้มจะอยู่ทนทานมาถึงขนาดนี้ ขอบคุณทุกแรงใจ ขอบคุณพี่น้องผองเพื่อนที่โหวตให้อุ้ม Best Friendly 3 ปีติดต่อกันนะคะ ขอบคุณความปรารถนาดี ขอบคุณรอยยิ้ม ขอบคุณทุกๆ อย่างเลยค่ะ มิตรภาพที่ไร้ตัวตน มิตรภาพดีดีมีใน BLOGGANG เสมอ จะไม่ลืมสิ่งดีดีที่มีให้อุ้มค่ะขอขอบคุณ banner : คุณ no filling / กรอบ & BG : น้อง KungGuenter กล่องเขียนคอมเม้นท์ : คุณ lozocat / เพลง : ศรัทธา : วงหิน เหล็ก ไฟ (ค่าย RS) โค้ดแต่ง BLOG : ป้ามด & น้องดอกหญ้าเมืองเลย / ของแต่ง BLOG : คุณชมพร & น้องญามี่ & คุณเนยสีฟ้า
Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2556
106 comments
Last Update : 19 มกราคม 2557 10:36:39 น.
Counter : 3697 Pageviews.
แปดปีไวเหมือนโกหกค่ะ