๑๕๘ - ชมรมคนมีสัมผัสพิเศษ 2 ตอน อยากได้ ใคร่มี ; อลินา -
ชมรมคนมีสัมผัสพิเศษ  2 ตอน  อยากได้  ใคร่มี

นวนิยายโดย : อลินา

สำนักพิมพ์ : ลูกองุ่น

รายละเอียด

นิทธันต์เริ่มยิ้ม ก่อนทำเสียงเหมือนนึกอะไรขึ้นได้

“เออ ผมบอกพี่หรือยังว่าลุงฌานพ่อยายนิดมองเห็นอนาคตได้”

“มีคนเห็นอนาคตได้ถมไป เขาเรียกว่าลางสังหรณ์ เป็นเรื่องคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในสมองทำงานไม่ผิดปกติอย่างหนึ่ง” เสียงปลายสายเหมือนไม่ใส่ใจ

“น้องผมคนหนึ่งรู้ว่าใครป่วยใครไม่ป่วย แค่ได้กลิ่นลมหายใจอีกฝ่าย” ชายหนุ่มแย็บต่อ

“น้องนายจมูกดี คงได้กลิ่นสารเคมีในร่างกายมนุษย์ที่เปลี่ยนเพราะโรคภัยไข้เจ็บ” จักรว่า แต่ได้ยินเสียงเหมือนเขากัดฟันกรอด ๆ อยู่ใกล้ ๆ

“น้องผมอีกคนคุยกับสัตว์ได้” นิทธันต์ปล่อยหมัดเด็ด โดยทำเป็นแกล้งลืมไปว่าอริสานั้นเคยคุยกับสัตว์ได้ตอนเด็ก ๆ เท่านั้น โตขึ้นพวกหมาแมวกระรอกกระแตก็ไม่ยอมพูดคุยกับหล่อนอีก เล่นเอาน้องสาวคนเล็กของเขาร้องไห้เสียใจอยู่เป็นเดือน

“ฉันต้องวางแล้ว” สารวัตรจักรตัดพบทันที

“เดี๋ยวสิครับ ผมยังไมได้เล่าถึงสมาชิกชมรมอีกคนเลย นายใหม่...คนนี้เด็ดสุด”

“เอาไว้เล่าทีหลัง ฉันต้องวางจริง ๆ แล้ว จู่ๆ ก็ปวดหัวขึ้นมาไม่รู้ทำไม เย็นนี้เจอกันที่วัดสักหกโมงเย็นนะ จะได้ประกาศเรื่องผลพิสูจน์หลักฐานพร้อมหน้าพร้อมตา ดูว่าใครมีพิรุธบ้าง”

“คร้าบผม” ชายหนุ่มยิ้มกว้างเมื่อวางสาย

พี่จักรเอ๋ยพี่จักร เสร็จเขาละทีนี้!

ชมรมคนมีสัมผัสพิเศษแห่งประเทศไทย

พนิตพร ญาติสนิทของชมรมคนมีสัมผัสพิเศษถูกฆาตกรรมพร้อมสามี ก่อนคนร้ายซึ่งก็คือลูกเลี้ยงสติแตกของหญิงสาวจะจบชีวิตตัวเองตามพ่อและแม่เลี้ยงไป คดีดูง่ายดาย คนร้ายก็ตายไปแล้ว แรงจูงใจเห็นได้ชัดเจน ไม่น่าจะมีอะไรซับซ้อน แต่ในงานศพของตัวเองคนร้ายกลับออกมาโวยวายว่า

“ไม่ได้ทำ”

นิทธันต์จะวางเฉยก็ใช้ที่ ต้องจำใจร่วมมือกับ ‘มือปราบผีกระเจิง’ คู่ปรับเก่าเพื่อสืบหาความจริงในการตายของคนทั้งสาม

งานนี้ระหว่าง ‘ผีบอก’ กับ ‘ผีกระเจิง’ ใครจะอยู่ใครจะไปคงได้รู้กัน

เรื่องย่อเพิ่มเติม

เอาล่ะสิ...มีเรื่องวุ่นวายให้เขาและชาวชมรมคนมีสัมผัสพิเศษอีกแล้ว... เมื่อ นิทธันต์ และชาวชมรมคนมีสัมผัสพิเศษทุกคน ได้ไปงานศพของ พนิตพร ลูกพี่ลูกน้องของนิทธันต์ และงานศพนี้ก็ไม่ได้มีเพียงศพของพนิตพร หากยังมีอีกสองศพที่จัดงานขึ้นพร้อมกันคือศพของ ธนา สามีของพนิตพร และ อภิวัฒน์ หรือ บอล ลูกชายคนเล็กของธนาที่เกิดจากภรรยาเก่า โดยคดีนั้นสรุปว่าเป็นฝีมือของอภิวัฒน์ที่ฆ่าแม่เลี้ยงตัวเอง ฆ่าพ่อตัวเอง และฆ่าตัวตายลงด้วยความคลุ้มคลั่งจากเหตุการณ์วุ่นวายในครอบครัว...

ทว่า...วิญญาณของอภิวัฒน์ดันออกมาโวยวายให้นิทธันต์ได้รับรู้ว่าเขาไม่ได้ฆ่าแม่เลี้ยง ไม่ได้ฆ่าพ่อ และไม่ได้ฆ่าตัวตายด้วย นิทธันต์จึงจำต้องช่วยเรียกร้องความบริสุทธิ์ให้อภิวัฒน์ และตามสืบเพื่อให้คนร้ายตัวจริงมารับโทษ อีกทั้งหลายๆ คนก็คิดเช่นกันว่าคนอ่อนแอยังอภิวัฒน์ไม่มีทางลั่นปืนฆ่าใครได้แน่ ๆ

งานนี้ยิ่งวุ่นวายเข้าไปใหญ่ ตำรวจไทยมีเป็นแสนคน ทว่านิทธันต์กลับได้ร่วมงาน ร่วมไขความจริงในคดีนี้ไปกับ สารวัตรจักร เจ้าของฉายา “มือปราบผีกระเจิง” ผู้ไม่เชื่อเรื่องผี ทั้งยังไม่ชอบพวกที่อ้างตัวว่ามีสัมผัสพิเศษเป็นที่สุด ทำเอาการไขคดีนี้มีความวุ่นวายมากขึ้นไปอีก...เมื่ออดีตผู้หมวดอย่างนิทธันต์ ต้องมาเจอกับสารวัตรจักร...

ใครกัน ? ...ที่เป็นคนร้ายตัวจริง ที่ก่อเหตุฆาตกรรมบุคคลทั้งสาม...การก่อเหตุที่เกิดจากความ “อยากได้ ใคร่มี”

ความรู้สึกส่วนตัว...บันทึกหลังอ่าน

ยังอยู่ในโหมด “ชมรมคนมีสัมผัสพิเศษ” อยู่นะครับ โดยเล่มนี้เป็นตอนที่สอง มีชื่อตอนว่า “อยากได้ ใคร่มี” ซึ่งเป็นตอนล่าสุดของชุดนี้ ทั้งยังเป็นผลงานล่าสุดของพี่ปุ้ย อลินา (กิ่งฉัตร) อีกด้วย...แฟนคลับผู้เขียนตัวยงหลายท่านคงอ่านจบกันไปมากหลายแล้ว...

“ชมรมคนมีสัมผัสพิเศษ” ตอนที่สอง “อยากได้ ใคร่มี” นั้นเรื่องเริ่มต้นที่งานศพของ “พนิตพร” ญาติของชาวชมรมคนมีสัมผัสเศษ ที่เสียชีวิตคืนเดียวกันกับสามีและลูกเลี้ยง คดีสรุปลงว่า “อภิวัฒน์” ลูกเลี้ยงนั้นฆ่าพนิตพรและพ่อตัวเอง ก่อนที่จะฆ่าตัวตายตาม เรื่องราวคงจะจบด้วยดี หากวิญญาณอภิวัฒน์จะไม่มากทวงความยุติธรรมกับนิทธันต์...ว่าตนไม่ได้เป็นคนฆ่า นิทธันต์จึงจำต้องร่วมมือกับอดีตคู่ปรับอย่าง “สารวัตรจักร” ไปการค้นหาคนร้ายตัวจริง

มาถึงเล่มนี้ก็ยังคงความเป็นสืบสวนแบบสบายๆ เบาๆ อ่านแล้วรู้สึกอมยิ้มตลอดเรื่อง ไม่ได้มีความน่ากลัวพาหลอน เพราะผีที่ปรากฏในเรื่อง ซึ่งเป็นตัวหลักเลยอย่าง “อินทุภา” ก็ไม่ได้น่ากลัวแต่อย่างใด (ขนาดเธอเองยังกลัวผีด้วยกัน ๕๕๕.) ดังนั้นใครที่กลัวผีสามารถอ่านซีรีส์ชุดนี้ได้แน่นอนครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะหลอนนอนไม่หลับเลย...

ส่วนของคดีในตอนนี้นั้นก็จบในตอน ไม่ได้เกี่ยวพันกับคดีในตอนแรกแต่อย่างใด ดังนั้นสามารถอ่านเล่มนี้ก่อนก็ได้ หรือเลือกอ่านเล่มใดก่อนก็ได้ครับ แต่ถ้าอยากทำความรู้จักกับชาวชมรมคนมีสัมผัสพิเศษให้ดีแล้วละก็...ต้องเริ่มจากเล่มแรกก่อนเลยครับ (ตอนนี้ออกมาแค่สองเล่ม บางๆ ไม่หนามากครับ)

บทสนทนาที่อยู่ในคอลัมน์รายละเอียด (ปกหลัง) นั้นเป็นการปะทะคารมทางโทรศัพท์ระหว่างนิทธันต์ กับคู่ปรับ (เพื่อนร่วมงาน)ที่สมน้ำสมเนื้อของเขา...สำหรับเล่มนี้นั้น ก็มีตัวละครหลักๆ นอกเหนือจากเล่มแรก ที่ได้ใจอุ้มสมไปเต็มๆ เพิ่มเข้ามาอีกสอง...ชื่นชมผู้เขียนอีกครั้ง ที่สร้างตัวละครใหม่ๆ ได้มีเสน่ห์อยู่ตลอด จนไม่ยากเลยที่คนอ่านจะหลงรักตัวละครของเธอ

คนแรกคือ “สารวัตรจักร” นายตำรวจหนุ่มตงฉิน เข้ม ดุ ทั้งยังถือศีลห้าอยู่เป็นนิจ สารวัตรจักรเคยเป็นอดีตคู่ปรับกับนิทธันต์ พระเอกของเรา (สมัยนั้นนิทธันต์ยังเป็นตำรวจอยู่ ยังไม่ได้ออกจากราชการ) ด้วยความที่สารวัตรจักรมีปมฝังใจกับพวกหลอกหลวงว่าตนมีสัมผัสพิเศษ ทำให้พลอยมีอคติกับคนพวกนี้ ดังนั้นคนเก่งๆ อย่าง ผู้หมวดนิทธันต์ (ในตอนนั้น) และ ผู้หมวดจักร (ในตอนนั้น) ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ แต่มาคราวนี้ เมื่อทั้งสองต้องทำงานร่วมกันแล้ว ทั้ง โหด มัน ฮา อย่าบอกใครเลยละครับ ๕๕๕.

นิทธันต์นั้นมีฉายาว่า “มือปราบผีบอก” ในขณะที่สารวัตรจักรมีฉายาว่า “มือปราบผีกระเจิง” ด้วยความที่ผีทุกตัวล้วนแต่ไม่กล้าเข้าใกล้สารวัตรจักรของเรา แม้กระทั่งวิญญาณสาวแสนแสบอย่างอินทุภาเองก็ตาม...อ่านแล้วอาจจะหลงรักตำรวจไทยอีกคนก็เป็นได้

ด้วยความที่สารวัตรจักรได้สืบคดีร่วมกันกับนิทธันต์ ทำให้เขาได้พบกับ “นิจฉรา” ลูกพี่ลูกน้องของนิทธันต์ ผู้มีสัมผัสพิเศษเช่นกัน อุ้มสมจะขอยกตัวอย่างบทสนทนาที่นิจฉราได้คุยกับสารวัตรจักรมาให้นักอ่านได้อ่านกันครับ เพราะโดยส่วนตัวแล้วแม้ยังไม่เคยได้สัมผัสกับภูตผีวิญญาณก็ตาม แต่ก็มีความเชื่อในเรื่องพวกนี้อยู่บ้าง...

“รู้สึกถึงลมไหมคะ”

“แน่นอนครับ พัดออกแรงขนาดนั้น”

“เห็นลมไหมคะ”

“ใครจะไปเห็น” เขานิ่วหน้า

“มันก็เหมือนกันแหละค่ะ สิ่งบางสิ่งมีอยู่ แต่เราเองต่างหากที่มองไม่เห็น จับต้องไม่ได้ ฉะนั้นจะไปเหมาเอาว่า สิ่งที่เราไม่เห็นนั้นไม่มี...มันถูกต้องแล้วหรือคะ อีกอย่างเท่าที่นิดรู้มาอย่าง ไชยาไนด์นี่ กลิ่นมันจะเหมือนอัลมอนด์ใช่ไหมคะ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะได้กลิ่น เพราะประสาททางรับรู้ทางกรรมพันธุ์แตกต่างกัน ถ้าสารวัตรอยู่ในกลุ่มคนที่ไม่ได้กลิ่น สารวัตรจะพูดได้ไหมคะว่าไชยาไนด์ไม่มีกลิ่น คนที่ได้กลิ่นคือคนโกหก”

“เอ่อ...”

“สิ่งที่ไม่เคยเห็นไม่เคยสัมผัส มันอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ ในโลกนี้มีอะไรมากมายที่เราไม่รู้หรือคาดไม่ถึง อย่าเพิ่งบอกว่าไม่มีไม่รู้ไม่เห็นนะคะ เพราะจะทำให้คนที่เขามีเขารู้เขาเห็นดูถูกเอาได้”

หลังจากเหตุการณ์นี้ก็ทำเอาสารวัตรจักรหลงรักนิจฉราทันที ขอบอกว่าสารวัตรจักรเริ่มน่ารักขึ้นเลยละครับ อุ้มสมแทบจะอมยิ้มกับสารพัดวิธีที่สารวัตรจักรจะตามจีบนิจฉรา ตั้งแต่ขอเบอร์โทร.จากนิทธันต์เลย ฮ่าๆๆ แต่มันจะทำให้อินมากกว่านี้ ถ้าผู้เขียนใส่รายละเอียดไปยิ่งขึ้น เพิ่มเหตุการณ์ระหว่างสารวัตรจักรกับนิจฉรามากกว่านี้อีกนิด เพราะมันดูไม่ค่อยสมเหตุสมผล ที่คนจริงจังอย่างสารวัตรจะมาหลงรักสาวเปรี้ยวอย่างนิจฉราด้วยเรื่องแค่นี้...ถ้าเพิ่มจุดนี้เข้าไปแล้วละก็จะอินและอมยิ้มยิ่งกว่าเดิมเลยครับ

ตัวละครใหม่ที่มีคาแรคเตอร์โดดเด่นอีกตัวก็คือ “ปวีร์” บทบาทเยอะพอสมควร แต่ไม่มากเท่าสารวัตรจักร ตัวละครตัวนี้มีเสน่ห์ในความเป็นนักเลง ความเป็นคนตรง ไม่อ้อมค้อม ไม่ตลบตะแลง พูดถึงได้มากมากครับสำหรับปวีร์ เพราะเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยเดี๋ยวจะสปอยล์เยอะเกินเสียเปล่าๆ แหะแหะ แอบจิ้นให้ปวีร์ได้คู่กับนิทธันต์เล็กน้อย ในตอนที่ทั้งคู่ปะทะคารมกัน (แต่ก็ยังเชียร์ให้นิทธันต์คู่กับอินทุภา หรือหนูอิน อิอิ)

เกือบลืมพูดถึงพระเอกของเรื่องไปได้ไงเนี่ย! “นิทธันต์” ในตอนนี้ ก็ยังมีบทบาทมากที่สุดในชมรมครับ โดยในเล่มแรกนิทธันต์ดวงซวยยังไง เล่มนี้ก็ยังซวยยังงั้นนี่ละครับ ทั้งยังตกเป็นหมาหัวเน่าอยู่บ่อยๆ ทั้งฮาทั้งสงสารเลยละ ๕๕๕. แต่ที่แอบขัดใจก็คือการที่นิทธันต์พยายามจะขัดขวางไม่ให้สารวัตรจักรจีบนิจฉรา รู้สึกว่าไม่ค่อยสมเหตุสมผล เหตุผลไม่แน่นพอ เป็นเรานะถ้าสารวัตรจักรเกลียดพวกคนมีสัมผัสพิเศษ จะยิ่งทำให้ได้แฟนเป็นคนมีสัมผัสพิเศษเลย ฮ่าๆๆ

มาพูดถึงคดีในตอนนี้บ้างละกัน เรื่องราวของ “อยากได้ ใคร่มี” นั้นก็เป็นคดีที่พบเห็นได้ในสังคมยุคนี้...ชื่นชมการมองโลกในหลากหลายแง่มุมของคนเขียนมากเลยครับ เหรียญย่อมมีสองด้านอยู่เสมอ คนเราส่วนใหญ่ฟังข่าวสารเพียงด้านเดียว จนบางทีเข้าใจความจริงผิดไป ดังเช่นตัวละครในเรื่องนี้ ที่ต่างพากันเชื่อว่าอภิวัฒน์เป็นฆาตกร ทั้งที่แท้จริงแล้ว เขาก็เป็น “เหยื่อ” คนหนึ่งเหมือนกัน

ทั้งยังแรงจูงใจของคนร้ายที่มาจากความ “อยากได้ ใคร่มี” สมชื่อตอน...ความโลภนั้นไม่เข้าใครออกใคร อยากมีในสิ่งที่เราไม่มี ก่อเกิดแรงจูงใจให้กระทำสิ่งที่ผิด ในช่วงหลังที่เฉลยคนร้ายนั้นทำให้อุ้มสมลุ้นแทบวางไม่ลงเลยละ...แบบว่ามันส์มาก!!! ทั้งมือปราบผีบอก และ มือปราบผีกระเจิง สุดยอดมาก

อ่านจบแล้วแบบว่า...โหยหาตอนที่สามเลยทีเดียว! ลงแดงเป็นที่สุด ผู้เขียนทิ้งปมท้ายเรื่องไว้...น่าติดตามมาก ได้แต่ร้องเพลงรอกับตอนที่สามของชุดนี้...ดูท่าจะอีกนาน (น่าจะถึงปีเลยทีเดียว ผู้เขียนบอกไว้ในกลุ่มแฟนคลับ...) ใจร้ายมาก...ทำร้ายคนอ่านตาดำๆ ฮ่าๆๆ ...

เชียร์ให้อ่านกันครับ เล่มบางๆ อ่านสบายๆ คลายเครียด ชวนลุ้นไปกับตัวละคร

อุ้มสม

๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๖




Create Date : 17 ธันวาคม 2556
Last Update : 17 ธันวาคม 2556 19:43:01 น.
Counter : 2583 Pageviews.

8 comments
  
กะว่าปีหน้างานหนังสือจะไปสอยมา รอก่อน ยังไม่อ่านเพราะว่าไม่อยากลงแดง อิอิ
โดย: polyj วันที่: 17 ธันวาคม 2556 เวลา:20:30:43 น.
  
เล่มนี้ทิ้งท้ายได้ชวนลุ้นมากจ้า

รอเล่มต่อไปอยู่เลย
โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 17 ธันวาคม 2556 เวลา:21:38:22 น.
  
พี่จะเคลียร์กองดองรองานหนังสือปีหน้าไปพลางๆ น้องอุ้มสมรีวิวซะอยากอ่าน 5555
โดย: Sab Zab' วันที่: 17 ธันวาคม 2556 เวลา:22:06:44 น.
  
อยู่ในกอง ยังไม่ได้อ่านเลยค่ะ
โดย: Pdจิงกุเบล วันที่: 18 ธันวาคม 2556 เวลา:16:06:33 น.
  
ดีใจที่ยังไม่อยากอ่านแนวนี้
กองดองยังท่วมอยู่ค่ะ
โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 18 ธันวาคม 2556 เวลา:18:18:26 น.
  
เรื่องนี้จบได้ค้างคามากกกกก

คนเขียนใจร้ายยยยยยย !
โดย: Serverlus วันที่: 19 ธันวาคม 2556 เวลา:0:18:07 น.
  
คุณ polyj อ่านแล้วมาลงแดงกันนะคร้าบบ

คุณ: หวานเย็นผสมโซดา รอเหมือนกันครับพี่หวานเย็น

คุณ Sab Zab' เชิญชวนครับพี่ Sab Zab' ๕๕๕.

คุณ Pdจิงกุเบล แนะนำให้รีบนำมาอ่านทลายกองดองเลยครับ อิอิ

คุณ ~:พุดน้ำบุศย์:~ ถ้าอยากอ่านแนวนี้ก็อย่าลืมเรื่องนี้นะครับ อิอิ

คุณ Serverlus คนเขียนใจร้ายมากๆ จริงๆครับ ๕๕๕.
โดย: อุ้มสม วันที่: 20 ธันวาคม 2556 เวลา:17:55:47 น.
  
แวะมาอ่าน
โดย: Nat_NM วันที่: 20 ธันวาคม 2556 เวลา:18:14:32 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อุ้มสม
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 231 คน [?]



แฟนเพจ "อุ้มสม"
ธันวาคม 2556

2
3
4
6
7
8
9
10
12
13
15
16
18
19
21
23
25
27
29
30
 
 
All Blog