|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
คนหรือผีกันแน่....ปริศนาที่ยังรอคำตอบ
ในความทรงจำเมื่อปฐมวัย ช่วงวัยรุ่นครั้งนึง มีเรื่องแปลกเกิดขึ้นแก่ข้าพเจ้าที่ยังเป็นปริศนาและรอคอยคำตอบมาจวบจนทุกวันนี้ เรื่องมันมีอยู่ว่า
หลังจากที่ข้าพเจ้าสอบต่อ ม.4 เตรียมอุดมไม่ติด คุณพ่อจึงได้ฝากเข้าเรียนที่โรงเรียนวัดแห่งนึงย่านแม้นศรี ในโควต้ารอบสอง อาจารย์ที่มาตั้งโต๊ะรับสมัครนักเรียนพลิกดูสมุดพกประจำตัวข้าพเจ้าผ่านๆ บอกว่าเรียนดีอย่างนี้ไม่มีปํญหา ข้าพเจ้าจึงได้กลายมาเป็นลูกศิษย์โรงเรียนวัดแห่งนี้ในที่สุด (โรงเรียนนี้โดดเด่นมาก เพราะมีภูเขาที่สูงที่สุดใน กทม ตั้งอยู่ในวัดด้วย หุหุหุ)
ในชั้น ม.4 นี้ ข้าพเจ้าเข้าเรียนในแผนก วิทย์-คณิต มีกลุ่มเพื่อนที่สนิทๆอยู่หลายคน กิน นอน เที่ยว วิ่งหนีโรงเรียนคู่อริด้วยกัน (เอาน่า โรงเรียนชายล้วน...ถึงเป็นเด็กเรียน ก้อต้องมีบางช่วงของชีวิต เฮไปกะเพื่อน เอาไหน เอากัน ลุยไหน ลุยกันบ้างล่ะน่า) ที่พอจำได้ก้อมี ไอ้ชาย ไอ้พล ไอ้เรือง ไอ้สัญญา ไอ้นวย และก็คนอื่นๆอีก (โทดทีเพื่อน กันจำได้ไม่หมด..ลืมๆชื่อไปบ้างแล้วแต่จำหน้าพวกแกได้ทุกคนนะ อิอิ)
สำหรับไอ้ชาย ข้าจำแกได้เป็นพิเศษเพราะนั่งโต๊ะคู่กัน และแกเป็นครูคนแรกที่แนะนำให้ข้ารู้จัก "กีต้าร์" สอนวิธีเล่น พาข้าไปถลุงเงินเก็บทั้งชีวิตไปเลือกซื้อหากีต้าร์คู่ใจตัวแรกแถวหลังกระทรวงกลาโหมฯ (เก็บเงินค่าขนม รับจ้างน้าเพื่อนบ้านสอนหนังสือลูกเค้าแทบตาย เหอเหอเหอ) โปรดรับรู้ไว้ว่า แกเป็นแรงบันดาลใจและทำให้ข้าค้นพบความละเอียดอ่อนและงดงามอีกด้านของดนตรีและศิลปะ (จุ๊ๆๆ อย่าเอ็ดไป อีกเหตุผลนึงคือเล่นกีต้าร์ไว้จีบสาวๆด้วยแหละ 555555555+)
หลังจากเริ่มต้นเทอมแรกของการเรียนไปได้ไม่นาน ชีวิตประจำวันหลังเลิกเรียนราวๆเที่ยง (มีสองรอบ ข้าพเจ้าเรียนรอบเช้า) หลังกินข้าวเที่ยงอิ่มหนำดีแล้ว โดยมากก็นั่งทำโจทย์ นั่งทำการบ้าน นั่งเล่นอยู่ตามม้านั่งหินใต้ต้นไม้รอบๆบริเวณโรงเรียน บางพวกก็เล่นฟุตบอล เล่นบาสอยู่ละแวกนั้นแหละ แต่มาวันนี้ เซ็งๆ ข้าพเจ้านั่งทำการบ้านฟิสิกส์เสร็จแล้ว พวกไฮยีน่า (55555+ เรียกเพื่อนแบบนี้ ถ้ามันรู้เข้าคงมีการเหนี่ยวกันเกิดขึ้น ไม่เป็งไร แซวกันแรงกว่านี้ยังมี แค่นี้ขำขำ อิอิ) ก็ลงทึ้งหมู่ นั่งลอกกันเป็นฝูงใหญ่อยู่แถวนั้นจนเสร็จเรียบร้อย นั่งมองตากันไปมา เออวันนี้ทำไรดีวะ ว่างแล้วหนิทำไรกันดี
ใครบางคนในกลุ่ม (คือไอ้สัญญานั่นล่ะ มันรู้จักคุ้นชินบริเวณแถวนี้เป็นอย่างดี เพราะมันเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ขึ้นมาจาก ม.3 โรงเรียนเดียวกันนี้แหละ) เสนอให้ลองท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ความตื่นเต้นสุดๆมุดถ้ำภูเขาทองกันมั๊ย
"เฮ้ย กรูลองมาแล้ว มันส์ น่า...ไม่มีไรหรอก กรูเข้าไปแล้ว ตั้งหลายที แล้วเนี่ยเมิงดู ครบสามสิบสอง...รึพวกเมิงกัว กะต๊ากๆๆๆๆ" ดู ดูมันทำ ไอ้สัญญาพูดพลางทำหน้าหยันเสียเต็มประดา แถมยังกางแขนมือท้าวเอว ทำท่ากระพือปีกเป็นไก่เสียอีก
"โธ่....เด็กๆ กัวที่หน๋าย กรูเอาด้วย...ใครจะไปอีก ไหนคราย ว่าแต่เมิงต้องนำนะ กรูไม่รู้ทาง ไปไม่ถูก" ไอ้นวยเสริม
"เออ เออ กรูเอาด้วย" "กรูด้วย" "เอ้า....กรูไปด้วยคนดิ" เสียงตอบรับเพื่อนๆในกลุ่มแสดงความกล้าเซ็งแซ่ แบบไม่ยอมเสียหน้ากันอยู่แล้วเรื่องนี้..ไอ้สัญญาไปหาท่อนไม้ขนาดเหมาะมือมาได้ท่อนนึง พวกเพื่อนๆที่เหลือพากันไปรวบรวมถ้วยโค้กกระดาษ (สมัยนั้นถ้วยโค้กทำด้วยกระดาษเคลือบเทียนมันๆลื่นๆ หลายคนวัยใกล้แจ้งวัฒนะ ใกล้หลักสี่ คงเคยเห็น 555555+ เช็คอายุไปในตัว)
พอหาของได้ครบ พวกเราก็มารวมตัวหน้าปากถ้ำภูเขาทอง หลายคนคงเคยรู้จักภูเขาทองวัดสระเกศ และคงเคยขึ้นไปเที่ยว ไปสักการะ นมัสการพระพุทธรูปข้างบนมาบ้างแล้ว แต่หลายคนยังอาจไม่ทราบว่าที่ข้างใต้ฐานภูเขาทองมีถ้ำด้วย ทั้งหมดมีไอ้สัญญาคนนำทาง ไอ้เรือง ไอ้นวย ไอ้ชาย ไอ้พล และก็ข้าพเจ้า รวมเป็น 6 ชีวิต ยืนหน้าปากถ้ำพร้อมแล้วสำหรับการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น ไอ้สัญญาเอาถ้วยโค้กกระดาษมาบี้บี้ขยำรวมเป็นก้อนตรงปลายไม้ พอได้ที่แล้วจุดไฟแช๊คเผาสักครู่ ถ้วยกระดาษเริ่มติดไฟ เปลวไฟลามเลียถ้วยกระดาษอย่างรวดเร็วและไหวระริกอยู่บนปลายไม้
เข้าไปแล้ว เราเดินแถวเรียงหนึ่งทยอยเข้าไปคนแล้วคนเล่า เพราะปากถ้ำแคบมากขนาดพอลอดตัวผ่านเข้าไปได้ทีละคน พอพ้นปากถ้ำเข้าไปแล้ว ภายในเริ่มกว้างขึ้นบ้าง สามารถพอยืนกระจุกตัวเป็นกลุ่มเล็กๆได้ มีทางเดินคดเคี้ยวข้างในลัดเลาะไปเรื่อย เปลวไฟจากถ้วยกระดาษเต้นระริกในความมืดช่วยให้เห็นสภาพภายในถ้ำได้เป็นอย่างดี ข้างในเป็นผนังปูนเก่าๆ เต็มไปด้วยนั่งร้านไม้ เศษไม้ท่อนและวัสดุก่อสร้างระเกะระกะ คงเหลือทิ้งมาตั้งแต่สมัยเริ่มก่อสร้าง ข้าพเจ้าคิด
ผนังถ้ำด้านบน มีค้างคาวเกาะประปราย บางจุดก็แน่นขนัดไปด้วยค้างคาว ข้าพเจ้าเป็นคนเกลียดกลัวสัตว์ประเภทหน้าตาหนูๆ หรือเหมือนหนูเป็นที่สุด (ยกเว้นคนน่ารักๆที่ชื่อ หนู อิอิอิ) จึงแสยง ขนลุกขนพองปานจะบรรยาย ด้านข้างผนังก็มีหยากไย่ รกรุงรังติดผมติดเผ้า บรรยากาศวังเวง พื้นสกปรกเต็มไปด้วยเศษดินเศษหิน หากปราศจากแสงสว่างจากปลายไม้นำทาง คงต้องมีการล้มลุกคลุกคลาน หรือหัวร้างข้างแตกกันบ้าง
กลิ่นเหม็นอับโชยมาเตะจมูกเป็นระยะๆ ข้าพเจ้าเดินกับเพื่อนในกลุ่มมาได้สักพักใหญ่ๆ ก็เอ่ยขึ้นว่า
"เฮ้ย....พอรึยังวะ ไม่เห็นมีอะไรเลย เหม็นก็เหม็น กรูนึกว่าสวยเหมือนในหนัง...กลับเหอะ"
"เออวะ.." "นั่นดิ..กรูชักเบื่อแระ..กลับไปเตะบอลกันเหอะ" เพื่อนในกลุ่มเสริมขึ้นมา
ยังไม่ทันที่ใครจะได้ขยับทำไร ไฟในมือไอ้สัญญาก็ดับพรึบ ฉิบ...ล่ะซิ
"เฮ้ย....เมิงทำไรวะ...ทำไมไฟดับวะเนี่ย" "เออ...เมิงอย่าเล่นพิเรนๆแบบนี้นะ...ไอ้อ่า" "เร็ว...จุดไฟเร็วๆเว้ย...กรูมองไม่เห็นนะเมิง" ทั้งกลุ่มร้องกันเสียงขร่ม สติแตกกระเจิง
"กรูปล่าวนะเว้ย....มันดับเอง...อย่าเร่งนักดิวะ กรูกะลังหาไฟแช๊คอยู่" ไอ้สัญญาละล่ำละลัก ถึงตอนนี้หัวใจข้าพเจ้าเต้นไม่เป็นส่ำ เพื่อนทั้งกลุ่มก็เริ่มเลิ่กลักๆ ความมืดและบรรยากาศที่น่าอึดอัดเข้าครอบงำ ข้าพเจ้าได้ยินเสียง "แกร๊ก....." แล้วมีเสียงกุกกักๆบนพื้น เอาแล้วไง ไอ้เวง ไอ้สัญญา ไอ้ทุเรศ เนี่ยเอ็งทำไฟแช๊คหล่นพื้นใช่มั๊ย ไอ้เลว........
"เฮ้ย....เด๋วกรูกะลังหาอยู่เนี่ย พวกเอ็งอย่าเบียดกรูได้มั๊ยวะ..โธ่เว้ย ไม่ถนัด" ไอ้สัญญาก้มลงพื้นคลำสะเปะสะปะ
เพื่อนในกลุ่มใจเสีย เสียงสั่นหมดแล้ว สักพักนึงได้ยินเสียงไอ้สัญญามันบอกขอบอกขอบใจ แล้วจุดไฟแช๊คในมือขึ้น ความสว่างของไฟที่จุดติดไหม้ถ้วยกระดาษที่ยังเหลืออยู่ ช่วยไล่ความมืดให้หมดไป ทางเดินในถ้ำปรากฏขึ้นให้เห็น ทุกคนเดินอย่างร้อนรน หน้าตาเลิ่กลักออกจากถ้ำ ชั่วอึดใจนึงทุกคนก็ออกมายืนอยู่หน้าปากถ้ำทั้งหมดอย่างทุลักทุเล เนื้อตัวสกปรกมอมแมม หยากไย่เกาะเสื้อผ้ารกรุงรัง ต่างคนต่างปัดเสื้อผ้า หาน้ำเช็ดล้างเนื้อตัวก่อนจะหัวเราะขำกลิ้งกันใหญ่
"เฮ้ย...ขอบใจวะ ไอ้เรือง ดีที่เมิงหาไฟแช๊คเจอนะ ม่ายงั้นไม่ได้ออกมาแน่" ไอ้สัญญาขอบอกขอบใจเพื่อนเป็นการใหญ่ที่หาเจอไฟแช๊คจนเจอและส่งให้
"เฮ้ย...ไอ้บ้า กรูป่าวส่งไฟแช๊คให้เมิงนะ อย่ามามั่ว" ไอ้เรืองปฏิเสธ
"อ้าว....แล้วใครส่งให้กรูอ่ะ...ไอ้นวยหรอ"
"ป่าว...กรูก็ไม่ได้ส่งให้เมิง กรูยืนสั่นอยู่ มีกะใจหาเหอไฟแช๊คให้เมิงหรอ" ไอ้นวยทำหน้าตาซีเรียส
"งั้นเมิงอ่ะสิ...ไอ้แทน" ข้าพเจ้าสั่นหน้าแทนคำปฏิเสธ ไอ้สัญญาคาดคั้นเพื่อนๆ ไล่ไปทีละคน แต่ละคนมองหน้ากันเลิ่กลัก ยืนยันปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้เป็นคนหาไฟแช๊คเจอแล้วให้มันสักคน "พวกเมิงอย่ามาอำกรูน่า เร็วบอกมา ใครหาเจอวะ" "กรูว่าเมิงนั่นแหละไอ้สัญญา อำพวกกรู หาเจอเองแล้วฟอร์มบอกว่าคนอื่นยื่นให้ สารภาพมาดีดีดีกว่า รึจาให้พวกกรูไล่เตะเมิงก่อน หา" แต่ไอ้สัญญายังคงเถียงคอเป็นเอ็นอยู่อย่างนั้น
ถึงตอนนี้ทุกคนหน้าซีด เหงื่อเม็ดเป้งๆผุดขึ้นตามใบหน้า ต่างคนต่างจ้องตามองลึกลงไปเหมือนจะค้นหาความจริงที่ซ่อนเร้นในสายตาแต่ละคน
หลังจากนั้น เรื่องนี้ก็ยังคงเอามาพูดกัน อำกันทุกครั้งที่นึกขึ้นมาได้ เถียงกันหน้าดำคร่ำเครียด จนจบ ม.6 ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปเรียนต่อ ก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าใครเป็นคนยื่นไฟแช๊คให้ไอ้สัญญามัน ถ้าจิงอย่างที่มันบอก.........................ใครล่ะ คนหรือผี?
(เอื้อเฟื้อความน่าขนหัวลุกโดยคุณวิค)
Create Date : 27 มิถุนายน 2550 |
Last Update : 18 กรกฎาคม 2550 10:25:26 น. |
|
25 comments
|
Counter : 416 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Sirinut วันที่: 27 มิถุนายน 2550 เวลา:11:25:43 น. |
|
|
|
โดย: Sirinut วันที่: 27 มิถุนายน 2550 เวลา:11:28:00 น. |
|
|
|
โดย: ประกายดาว วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:8:41:10 น. |
|
|
|
โดย: the Vicky วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:16:54:21 น. |
|
|
|
โดย: Sirinut วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:23:50:29 น. |
|
|
|
โดย: สันดานเสีย วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:0:32:46 น. |
|
|
|
โดย: the Vicky วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:8:16:35 น. |
|
|
|
โดย: ประกายดาว วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:9:22:27 น. |
|
|
|
โดย: Jaa+ (jajijaa ) วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:17:02:14 น. |
|
|
|
โดย: vintage วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:13:56:55 น. |
|
|
|
โดย: goodpeople วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:17:56:50 น. |
|
|
|
โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:23:21:12 น. |
|
|
|
โดย: ประกายดาว วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:46:50 น. |
|
|
|
โดย: Niobean วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:45:48 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
คนบางคนอยากมีเงินเท่าทะเล เขาจึงมีความทุกข์เท่าทะเล...... เพียงเพราะต้องดิ้นรน........ หาเงินให้เท่ากับทะเล
คนบางคนอยากมีเพียงเบ็ดสักคัน เพียงเพื่อหาปลาตัวนึง....จากทะเล กลับไปเป็นอาหารเย็น และมีความสุขกับ....การนอนนับดาว ยามค่ำคืนบนชายหาดที่สงบเงียบ
|
|
|
|
|
|
|
|
ดีนะที่ไฟดับ ไม่งั้นก็คงเห็นแล้ว ว่าเป็น คน หรือ ผี
โค้กแก้วกระดาษ เนี่ย เคยเห็นสมัยเรียนอยู่ประถมอ่ะนะ
ถ้ายังงั้น หนูคงต้องเรียก คุณแทน ว่า ลุง แล้วหละค่ะ อิอิ