|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
ความรัก....ความผิดหวัง....ครั้งแรก
บี "แทน...แทนเป็นคนดีนะ...และเป็นเพื่อนที่บีรักมากคนนึง สักวันแทนคงได้แฟนที่สวยและดีพร้อม..บียินดีล่วงหน้าด้วยนะจ๊ะ"
เรานิ่งไปชั่วครู่ "อืม...คับ.." ยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก ละสายตาจากใบหน้าหญิงสาว เหม่อมองไปที่แปลงสวนผักบุ้งผักคะน้าเบื้องหน้าไกลออกไป
เรา "หลังจากนี้ บีจะไปเรียนต่อที่ไหนหรอ..."
บี "คงจะเป็นที่ เบญจมราชาลัยอ่ะ พ่อเรารับส่งสะดวก ใกล้ที่ทำงานพ่อเรา.."
เรา "อืม...ดีจัง" นิ่งไปอีก สายตาจับอยู่ที่ละลอกน้ำในคลอง
บี "แล้วแทนล่ะ...จะไปเรียนต่อ ม.4 ที่ไหน"
เรา "เราจะลองไปสอบเตรียมอุดมกะไอ้เกียรติมันดู..." นิ่งไปเล็กน้อย "ถ้าไม่ได้ พ่อเราจะฝากเข้าวัดสระเกศ..พอจะมีคนรู้จักอยู่"
บี "อืม...แทนเรียนเก่ง ต้องสอบได้แน่นอน...บีเชื่อ"
เราฝืนยิ้ม "ก้อยังไม่แน่ใจเหมือนกัน..แต่ไม่ต้องห่วง เราเต็มที่อยู่แล้ว"
เราสองคนเงียบไปครู่ใหญ่ เสียงนกกระจิบสองสามตัวบนต้นฝรั่งทำลายความเงียบขึ้น
บี "แทน...แทนจะยังคิดถึงเราอยู่หรือป่าว อีกไม่นานก็จะไม่ได้เรียนด้วยกันแล้วนะ...ไม่รุว่าเมื่อไหร่เราจะได้พบกันอีก"บีจ้องมองลึกเข้าไปในสายตาเราที่เรียบเฉย เหมือนจะคาดคั้น
เรา "อืม" พยักหน้า ฝืนยิ้มมุมปากเล็กน้อย "เราจะคิดถึงบีนะ..จะคิดถึงบี..ตลอดไป"
นึกไม่ถึงว่าคำพูดวันนั้น....เราจะคิดถึงบีตลอดไป....จะยังคงวนเวียนอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจข้าพเจ้าตลอดเวลาจวบจนปัจจุบัน บีเป็นเพื่อนต่างเพศร่วมชั้นเดียวกันกับข้าพเจ้ามาตั้งแต่ ม.2 จิงๆแล้วบีเข้าเรียนชั้น ม.1 ด้วยกันแต่อยู่คนละห้อง จนเมื่อขึ้นชั้น ม.2 คุณครูก็จับห้องเรียนคละกัน วันแรกของการเปิดเทอม ข้าพเจ้าก็ได้รู้จักกับบี "ขอนั่งด้วยคนนะคะ" ข้าพเจ้าละสายตาจากหนังสือบนโต๊ะที่กำลังพลิกๆเปิดๆดูเนื้อหาการเรียนใหม่อยู่ เงยขึ้นจ้องตาสาวน้อยตรงหน้า "อ่า....คับๆ เชิญคับ" "เราชื่อบีนะ มาจากห้อง 7 คุณชื่อไรอ่ะ" "เออ...ผมชื่อ....คับ เรียกแทนก็ได้"
บีเป็นเด็กสาวที่น่ารัก คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ตากลมโต ผิวคมขำพูดจาสุภาพ นิสัยเรียบร้อย เรียกได้ว่า ครบถ้วนตามแบบฉบับหญิงงาม จึงไม่น่าแปลกที่ บีจะเป็นจุดสนใจและ popular มากๆทั้งในห้องและระดับชั้นเรียน เรียกได้ว่าเกือบจะทุกกิจกรรม เช่นถือพานไหว้ครู เชียร์ลีดเดอร์ ประกวดมารยาทงาม ฯลฯ ต้องมีบีเข้าเป็นตัวแทนอยู่ด้วยเสมอๆ ในเทอมแรกบีเลือกมานั่งคู่กับเรา ทำเอาเพื่อนๆเขม่นและล้อเลียน จนเดินไม่เป็นทางไปเหมือนกัน
ทุกๆวัน ข้าพเจ้าจะได้ยินเสียงใสๆพร้อมรอยยิ้มหวานๆ อยู่เสมอและมันทำให้หัวใจข้าพเจ้าพองโตเบิกบาน "แทน แทน...เลขข้อเนี่ยทำงัยอ่ะ....." "แทน...วันนี้พวกเธอไปเที่ยวไหนกันอ่ะ...ไปด้วยได้ป่าว" "แทน...แทน อย่าลืมพรุ่งนี้เอากระบี่มาด้วยนะ พรุ่งนี้มีเรียนพละ" "แทน...เธอว่า แม๊คห้อง 4 อ่ะ ดูดีมั๊ย แต่เราไม่ค่อยชอบอ่ะ เนี่ยตามเรามา 3 วันละ"
บีสนิทและห่วงใยกับข้าพเจ้าเช่นนี้ จากวันเป็นเดือน จากเดือนกลายเป็นเทอม สม่ำเสมอหยั่งงี้จนกลายเป็นความเคยชิน และก็ไอ้ความเคยชินตัวดีเลยก่อให้เกิดเป็นความรู้สึกมีใจและแอบรักบีไปโดยข้าพเจ้าไม่รู้สึกตัว
ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ ย่อมเป็นสัจจะที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ไม่เปลี่ยนแปรไปอย่างอื่น......ข้าพเจ้าสุขๆทุกข์ๆอยู่อย่างนั้นตั้งแต่ชั้น ม.2 จนถึง ม.3 สุขเมื่อได้ใกล้ชิดและพูดคุยกับหญิงสาวที่เราแอบรักอยู่ในใจ แต่ทุกข์ทุกครั้งที่หญิงสาวมาปรับทุกข์มาขอคำแนะนำเรื่องผู้ชายที่มาใส่ใจสนใจ เออหนอเธอไม่เคยรู้เลย ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย อย่าถามเรื่องคนอื่นให้ได้ยินเลย..เสียยังดีกว่า
ข้าพเจ้าแอบชอบบีและอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะบีก็ดูเหมือนว่าจะไม่รู้ ยังคงปฏิบัติตัวต่อข้าพเจ้าเช่นเดิมเรื่อยมา จนมาในช่วง ม. 3 เทอมปลายใกล้จะปิดภาคเรียนอยู่รอมร่อ ข้าพเจ้าก็ทนต่อสิ่งที่รุกเร้าอยู่ในใจไม่ไหว.............................
เมื่อเย็นวันศุกร์วันนึงมาถึง ข้าพเจ้าหาเรื่องกลบเกลื่อนแอบถามเพื่อนผู้หญิงที่สนิทกับบี ขอที่อยู่พร้อมทางไปบ้านบี บอกว่าจะเอาหนังสือที่บีลืมไว้ไปคืนให้ที่บ้านด่วนเผื่อจะรีบใช้ ได้มาเสร็จสรรพ คืนนั้นข้าพเจ้าตื่นเต้นนอนไม่หลับพลิกตัวไปมาทั้งคืนจวบจนรุ่งเช้า อาบน้ำอาบท่า ทานข้าวเช้า (จำไม่ได้แล้วว่าทานลงรึป่าว อิอิ)นั่งเล่นอยู่จนสายๆ ก็เอ่ยปากบอกกับแม่ว่าจะไปบ้านเพื่อน เข็นจักรยานคู่ใจออกจากบ้าน ปิดประตูรั้วแล้วถีบไปช้าๆตามทางที่ขอมาจากเพื่อน
บ้านของบีอยู่ย่านตลิ่งชัน ในขณะที่บ้านของข้าพเจ้าอยู่เลยไปทางถนนเพชรเกษม ต้องถือว่าค่อนข้างไกลกันมากทีเดียว ออกจากถนนใหญ่แล้วเลี้ยวเข้าซอย ข้ามทางรถไฟ ขี่ตรงไปเรื่อยๆ อากาศค่อนข้างแจ่มใส ลมพัดปะทะใบหน้าตลอดทาง ในสมัยนั้นยังเป็นทุ่งโล่ง กว้าง ต้นไม้ใหญ่ข้างทางเขียวครึ้ม คลองคูและแปลงสวนผักเรียงรายตลอดสองข้างทาง ดูแล้วสบายตายิ่งนัก
จวบจนตะวันเกือบจะเที่ยง ข้าพเจ้าก็ขี่จักรยานมาถึงบ้านบี บ้านบีเป็นเรือนไม้สองชั้นหลังใหญ่ ปลูกอยู่ใกล้ถนน เพียงแค่เดินลงจากถนนใหญ่ไปตามทางลูกรังไม่ถึง 50 ก้าวก็ถึงตัวเรือน เสียงสุนัขสองสามตัวเห่าเกรียวต้อนรับคนแปลกหน้า ข้าพเจ้าหยุดจักรยาน เอาขาตั้งลง แล้วรออยู่ด้านนอกสักพักใหญ่ ก็มีผู้หญิงสูงวัยโผล่หน้าชะเง้อมองมาที่ผู้มาเยือน........ "มาหาใครค้า..หนู" แม่ของบีเป็นแม่บ้านหญิงสาวคนไทยแท้ ผูกผมรัดเกล้า ดูอ่อนกว่าวัยและมีเค้าสวยหลงเหลือปรากฎให้เห็น
"เออ....สวัสดีคับคุณอา..บีอยู่มั๊ยคับ ผมเป็นเพื่อนที่โรงเรียน จะเอาหนังสือมาคืนให้บีอ่ะคับ..."
"อ้อ...จ๊ะๆๆๆ บีเค้านั่งเล่นอยู่หลังบ้านที่ท่าน้ำหน่ะ ตามสบายนะหนู เดินไปหาบีเค้าเองเลย...บี บี บีจ๊ะ มีเพื่อนมาหาหนูแน่ะ"
ตลอดทางเดินสู่ท่าน้ำหลังบ้าน ข้าพเจ้าหัวใจเต้นราวกับจะกระโดดออกมานอกอก มันไม่รุ บอกไม่ถูก แต่ละก้าวมันช่างยากเย็น เหงื่อเกาะจมูกพราว มือเย็นเฉียบ
เรา "บี เออ...เราเอง เราเอา..เออ..หนังสือมาให้ยืมอ่ะ เผื่อไว้ตอนสอบ...อ่านเล่มนี้..เออ...รับรองทำคะแนนได้ดีมากแน่ๆเลย" เสียงข้าพเจ้าตะกุกตะกักไม่เป็นท่า
บี "เฮ้ย...แทน เธอมาได้ไงเนี่ย รู้ได้ไงว่าบ้านเราอยู่นี่ ใครบอก...บอกมาดีดีนะ...เร็ว..บอกมา" บีคงประหลาดใจ เพราะข้าพเจ้าเวลานั้น กลับมาหวนคิดอีกครั้ง เราก็บ้าบิ่นไปจิงๆ
ท่าน้ำหลังบ้านบีช่างน่านั่งเล่นนอนเล่น น้ำในลำคลองใสสะอาดไหลช้าๆ มีแมลงปอบินโฉบเฉี่ยวไปมา ปลาเข็มหลายตัวว่ายทวนน้ำ บรรยากาศร่มรื่น สงบ สายลมพัดเอื่อยๆ เสียงโมบายที่ผูกไว้ตรงท่าน้ำดังกรุ๋งกริ๋งเป็นระยะๆ ถัดออกไปด้านหลังเป็นแถวต้นมะพร้าวเรียงราย และเรือกสวน แปลงผัก กว้างสุดตา
เรานั่งคุยกันที่ท่าน้ำอยู่อย่างนั้น หลายเรื่อง ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าเวลาทุกๆนาที ทุกชั่วโมงมันผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว รู้เพียงแต่ว่ามันช่างรวดเร็วและน้อยเสียเหลือเกินเมื่อเทียบกับความสุขความประทับใจที่ได้รับ จนตอนนึงของการสนทนา
"บี...เราถามเธอจิงๆ และเธอต้องตอบเราตรงๆข้อนึงได้มั๊ย" เราจ้องมองตาเธอแบบจริงจังและคาดคั้น
บี "หา....มีเรื่องไรหรอ แทน....เธอจะถามไรเรา..เอาสิ" เธอไม่รู้..เธอยังคงไม่รู้....เธอไม่เคยจะรู้อะไรเกี่ยวกับเราบ้างเลย หากเธอเข้าใจเราสักนิด เราคงไม่อึดอัดใจเท่านี้ดอกนะ
เรา "บี...เราอยากจะบอกว่า...เรา............"
บี...บี....บี เสียงคุณแม่ดังแทรกมาจากข้างในบ้าน เราสองคนหันไปตามเสียง คุณแม่กำลังเดินออกมาจากตัวบ้าน "เนี่ยลูก..เอาข้าวเหนียวมะม่วงให้เพื่อนทานสิ..คราวนี้หวานนะ ข้าวเหนียวเจ้านี้เค้าอร่อย แม่ไปรอตั้งนาน คนเข้าคิวรอกัน...เต๊มมมม.." คุณแม่พูดพลางเดินถือจานข้าวเหนียวมะม่วงมาให้ถึงท่าน้ำ
"ขอบคุณค่ะแม่"...."ขอบคุณคับ.."...."อื้อ..แทน ทานสิ อร่อยนะ...หา..เมื่อกี้ แทนว่าไรนะ...." บีทำหน้าเหรอหรา ปากเคี้ยวมะม่วงหมุบหมับๆ
เรา "เออ....คือ....ไม่มีไร...เราแค่อยากจะถามว่า..หลังจากนี้ เธอจะไปเรียนต่อที่ไหนหรอ" ข้าพเจ้ายิ้มเล็กน้อย...กลืนลงคอไปแล้วไอ้คำถามที่อยากจะรู้คำตอบ ข้าพเจ้าเส มองหน้าบีแว๊บเดียวแล้วหรุบตาลงมองแมลงปอสองตัวบินวนเวียนไล่จับกันข้างหน้า...
เราคุยกันต่อไปเรื่อยหลายเรื่อง เรื่องที่บีมักถามความเห็นเราคือ เรื่องผู้ชายหลายๆคนที่มาชอบบีว่าคนนั้นเป็นไง คนนี้เป็นไง แล้วจนมาถึงคำถามนึง
บี "แทน...แทนชอบใครในห้องเป็นพิเศษบ้างป่าวอ่ะ" บีเอ่ยปากถามหลังจากเงียบไปสักพัก
ข้าพเจ้าตกใจ เหงื่อซึมที่มือ เอาไงดีเรา "เออ...คือ...เราไม่มีใครหรอก เราจะไปชอบใครได้..เอาแต่เรียนลูกเดียวกะเที่ยวกะเพื่อนอยู่อย่างเนี่ย สาวที่ไหนจะมาสนใจเรา หุหุหุ" แก้เก้อ หลบสายตาบีพลันวัน...ดู ดูมัน ในที่สุดมันก็ยังไม่กล้าอยู่นั่น....ไอ้แทนเอ้ย...ไอ้ผู้ร้ายปากแข็ง
บี "แทน...แทนเป็นคนดีนะ...และเป็นเพื่อนที่บีรักมากคนนึง สักวันแทนคงได้แฟนที่สวยและดีพร้อม..บียินดีล่วงหน้าด้วยนะจ๊ะ"
บี "แทน..แทนอย่าลืมเรานะ...สัญญานะ...แทนต้องคิดถึงเราบ้างนะ...ดูแลตัวเองด้วย อย่ามัวห่วงแต่คนอื่นจนลืมใส่ใจตัวเองล่ะ...สักวันเราคงได้พบกันอีก.." บียิ้มกว้างจิงใจ
ในที่สุดแม้เราจะสอบไล่ปลายภาคเสร็จ เรียนจนจบ ม.3 จนแล้วจนรอด ก็ไม่ได้เอ่ยปากสารภาพคำที่อยากจะบอกกับ บี สักที.........
บางครั้ง โอกาส มันอาจเปรียบได้ดังสายน้ำในลำคลองที่ไหลผ่านตรงหน้าไป หากเราไม่เอื้อมมือไขว่คว้าไว้ สายน้ำนั้นก็ไหลผ่านเลยไปอย่างไม่มีวันกลับ
หลังจากนั้น บีได้เข้าเรียนต่อ ม.4 ที่เบญจมราชาลัยตามที่ต้องการ ส่วนเราไปลองสอบที่เตรียมอุดมตามที่ตั้งความหวังไว้แต่ไม่ติด จึงต้องไปเรียนที่วัดสระเกศแทน และไม่ได้ติดต่อกันและไม่ทราบข่าวบีอีกเลย
เราหวังว่า ทุกวันนี้เธอคงจะมีครอบครัวน่ารักๆที่อบอุ่นไปแล้ว บีเป็นคนดี พระเจ้าคงไม่ใจร้ายกับเธอนัก...อย่างไรก็ตาม โปรดจงรับรู้ไว้ว่า เรายังคงรักษาสัญญาระหว่างเราเสมอ....เรายังระลึกถึงเธอ....ตราตรึงอยู่ในความทรงจำ...และจะไม่มีวันลืมมิตรภาพของเรา.....ตลอดไป......เราชอบเธอนะ...บี
(ปล. เพลงใน BG ด้วยความเอื้อเฟื้อของคุณวิค เพื่อนที่แสนดีอีกแล้ว ขอบคุณอย่างจิงใจคับ)
Create Date : 20 มิถุนายน 2550 |
Last Update : 18 กรกฎาคม 2550 10:27:29 น. |
|
26 comments
|
Counter : 358 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Sirinut วันที่: 21 มิถุนายน 2550 เวลา:15:56:03 น. |
|
|
|
โดย: the Vicky วันที่: 21 มิถุนายน 2550 เวลา:21:17:19 น. |
|
|
|
โดย: ก็ตามใจตัวเองจนชิน (ลิงจ๊ากจ๊าก ) วันที่: 22 มิถุนายน 2550 เวลา:1:37:31 น. |
|
|
|
โดย: ประกายดาว วันที่: 22 มิถุนายน 2550 เวลา:8:38:55 น. |
|
|
|
โดย: seppun (ซึคายะ ) วันที่: 22 มิถุนายน 2550 เวลา:11:41:27 น. |
|
|
|
โดย: the Vicky วันที่: 22 มิถุนายน 2550 เวลา:17:18:34 น. |
|
|
|
โดย: pangz วันที่: 22 มิถุนายน 2550 เวลา:23:04:44 น. |
|
|
|
โดย: star on the beach (Sirinut ) วันที่: 23 มิถุนายน 2550 เวลา:16:34:40 น. |
|
|
|
โดย: akojajaa วันที่: 24 มิถุนายน 2550 เวลา:22:02:48 น. |
|
|
|
โดย: ผุ๋งผิ๋ง วันที่: 25 มิถุนายน 2550 เวลา:4:18:19 น. |
|
|
|
โดย: ประกายดาว วันที่: 25 มิถุนายน 2550 เวลา:8:45:18 น. |
|
|
|
โดย: the Vicky วันที่: 25 มิถุนายน 2550 เวลา:16:38:44 น. |
|
|
|
โดย: นู๋ญ่า (kayook ) วันที่: 25 มิถุนายน 2550 เวลา:20:15:21 น. |
|
|
|
โดย: ดาวทะเล วันที่: 25 มิถุนายน 2550 เวลา:20:48:19 น. |
|
|
|
โดย: the Vicky วันที่: 27 มิถุนายน 2550 เวลา:16:18:30 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
คนบางคนอยากมีเงินเท่าทะเล เขาจึงมีความทุกข์เท่าทะเล...... เพียงเพราะต้องดิ้นรน........ หาเงินให้เท่ากับทะเล
คนบางคนอยากมีเพียงเบ็ดสักคัน เพียงเพื่อหาปลาตัวนึง....จากทะเล กลับไปเป็นอาหารเย็น และมีความสุขกับ....การนอนนับดาว ยามค่ำคืนบนชายหาดที่สงบเงียบ
|
|
|
|
|
|
|
|
น่ารักจัง ความรักสมัย ม.ต้น
นึกถึงเวลาเหล่านั้นแล้วก็ยิ้มกว้างๆได้ทุกที
แล้วตอนนี้คุณแทนยังเป็นผู้ชายปากแข็งอยู่หรือเปล่าคะ
รักใคร ชอบใครก้บอกเค้าไปตรงๆเถอะนะ จะได้ไม่มาเสียดายภายหลังเนอะ
มีความสุขทุกๆวันนะคะ