น่าสนุกจัง ยังไม่มีโอกาได้ไปเลย

น่าสนุกจัง ยังไม่มีโอกาสได้ไปเลย

น มิยฺยมานํ ธมฺมนฺเวติ กิญจิ
ทรัพย์สักนิดก็ติดตามคนตายไปไม่ได้

ขอเชิญปฏิบัติบูชาร่วมกันกับปอป้า..นะคะ

อากาศเริ่มร้อนเห็นสถานที่น้ำๆ แบบนี้สดชื่นดีนะคะ
วางแผนจะไปใต้ช่วงปิดเทอมเหมือนกันค่ะ
คงต้องหาข้อมูลจากบ้านนี้

ปล. เม้ท์ที่แปะไว้อ่านไม่ออกอะก๊าบบ

ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ ^^

ตามมาด้วยค่ะ

ไอติมมาส่งค่ะ ไว้คลายร้อน
ขอบคุณเนื้อหาดีๆ ที่เอามาแบ่งปันค่ะ

สวัสดีค่ะแวะมาเที่ยวเกาะลันตาด้วยคนนะคะเห็นธรรมชาติและท้องทะเลแล้วสดชื่นไปด้วยจริงๆค่ะ เกาะนี้เราเคยไปเมื่อสามปีที่แล้ว ธรรมชาติมากๆค่ะ สวย สงบดี แต่ค่าโรงแรมเราว่าจริงๆด้วยล่ะค่ะ อิอิ

สุขสันต์วันหยุดนะคะ

อยากตามไปเที่ยวด้วยคนจริงๆ ค่ะ เที่ยวที่ไหน ก็ไม่สุขใจเท่าเที่ยวบ้านเรานะคะ โดยเฉพาะรูปปลาหมึกย่าง น่าทานมว๊ากกก

สุขสันต์วันหยุด มีความสุขมากๆ นะคะ

สวัสดีวันหยุดครับ .....

ผมเคยคิดจะไปเที่ยวเกาะลันตาอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะประภาคารสวยๆ ตรงนั้น ถือเป็น location ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของเกาะลันตาเลยทีเดียว .....

ว่าแต่ว่าเส้นทางไปดูประภาคารนั่น เดี๋ยวนี้รถเก๋งไปได้หรือยังครับ ..... เห็นบางช่วงเป็นดินลูกรังแบบในภาพแล้วชักไม่แน่ใจ .....

ไม่ทราบว่าเมื่อไหร่จะได้ไปค่ะ น่าไปมาก

อากาศร้อน ๆ แบบนี้ไปเที่ยวทะเลก็ดีเนอะ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะคะ

ขอบคุณมากนะคะที่แวะไปเยี่ยม blog

ป.ล. รูปถ่ายสวยมากเลยค่ะ

น่าเที่ยว น่าหม่ำ (อาหาร) น่ารัก (คนคอยเท็คแคร์) ฮิๆ

มีของอร่อยก็ต้องแบ่งปันกันจ้า
ใครจะยอมอ้วนคนเดียว อิอิ..
วันนี้มีขนมปังลูกเกด พรุ่งนี้มีไก่ทอดจ้า
ถ้าว่างก็แวะมาชิมนะคะ

เป็นอีกหนึ่งเกาะที่เราอยากไปมากๆเลยค่ะ

XoXo อยากให้คนข้างๆเเพลนไปเที่ยวบ้างจัง ปกติเราเเพลนตลอดเลยอ่ะ

แวะมาเที่ยวและชมภาพทะเลไทยสวยๆอีกรอบค่ะ เห็นแล้วอยากกลับไปสูดอากาศแถวๆชายทะเลจังเลยค่ะ

เจนมาแย้ววว มารายงานตัวแล้วค่ะ

ตอนนี้อาการป่วยดีขึ้นมากๆๆๆๆ

ลายออกได้เหมือนเดิมแล้วค่ะ

ฮ่าๆๆๆ ออกช้อปปิ้งอีกแล้วววว

ขอบคุณมากๆๆน๊าาาา ที่ไปถามไถ่อาการป่วยของเจนเสมอเลย

ปล. เจนเพิ่งได้ ของใหม่ มา 2 อย่างค่ะ

ไปดูของสวยๆงามๆกันได้เล้ยยยย

รูปสุดท้ายสวยมากค่ะ น้ำใส หาดทรายสะอาด ไม่มีร้านค้ามาตั้งให้รกตา(อาจใช้คำแรงไปนิดแต่รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ค่ะ)

ขอบคุณสำหรับรูปสวยๆ นะคะ

อ้าว ไปเที่ยวกันมาแล้วเหรอคะ หวังว่าคงสนุกนะคะ

หากว่างๆก็มาเที่ยวอีกนะคะ ยินดีต้อนรับค่ะ หากอยากสอบถามข้อมูลใดๆ ก่อนที่จะมา ก็มาถามได้นะคะ หลังไมค์

ประเด็น จชต.
- นายซูการ์โน มะทา น้องชายนายวัน นอร์ ผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทย จังหวัดยะลา กล่าวชี้นำประชาชนในภาคใต้ ให้ใช้กฏหมู่เหนือกฎหมายว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง แต่ไม่ได้เป็นรัฐบาล ก็ลองดูว่า ใครจะต้านพลังของประชาชนได้ พลังของประชาชนอยู่เหนือกว่าอาวุธ สามารถล้มล้างอาวุธได้ แล้วถ้าใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เราได้ 5 คนตามเป้า แล้วไม่ได้เป็นรัฐบาล ถ้าประชาชนลุกฮือขึ้นมาจะเป็นอย่างไร จะเหมือนการลุกขึ้นมาประท้วงรุนแรงอย่างในอดีตก็ได้
- ทักษิณ คุณพูดความจริงไม่หมดนี่ ที่เขาทำรัฐประหารเมื่อปี49 ก็เพราะผู้มีอำนาจให้อำนาจนอกเหนือประชาธิปไตย ส่วนเงินที่เขายึดทรัพย์เป็นเงินของแผ่นดินไม่ใช่คณะปฏิวัติ และทำไม่ไม่อธิบายประชาชนบ้างหละว่าศาลได้ตัดสินคดียึดทรัพย์เพราะหลักฐานมันปรากฏชัด แสดงว่าที่เขากล่าวหาว่าโกงก็เป็นความจริง เรื่องแค่นี้พรรคเพื่อไทยพูดเบี่ยงแบนประเด็นนี้มาตลอด ทุกวันนี้ประชาชนเขาตื่นตัวแล้ว หละท่าน ส่วนมหานครปัตตานี ท่านถามคนในพื้นที่แล้วหรือยัง ว่าพวกเขาต้องการไหม การปกครองขึ้นตรงกับใคร จะเป็นธงชาติไหมสัญลักษณ์นครปัตตานีหรือเปล่า มันไม่ง่ายอย่าที่พูดหรอกนะ หากประชาชนในพื้นที่เห็นต่างเป็นสองฝากหละ ท่านจะทำอย่างไรกับปัญหาที่เกิดขึ้น อย่าลืมหากมีการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างก็ต้องเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะกฎหมายที่ออกมาควบคุมนครปัตตานีที่ว่า คิดเล่นๆนะ แล้วชาวพุทธที่เขาอาศัยอยู่ด้วยเขาจะยอมรับกฎหมายอิสลามหรือเปล่า แค่คิดก็ปวดหัวแล้วหละท่าน ทางออกที่ดี ทุกคนเคารพกฎหมายปกครองของรัฐไทยแล้วมาแก้ไขปัญหาพร้อมๆกัน
- ช่วงการเลือกตั้ง 3 ก.ค.54 นี้ นักการเมือง จำเป็นต้องอิงกระแสมลายูเพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียงใน พื้นที่ ดังนั้นนโยบายการหาเสียงในเขตที่มีกลุ่มแบ่งแยกดินแดนจึงอาจเป็นไปในลักษณะ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการ หรืออาจจะหลับตาข้างหนึ่งขณะที่มีการก่อเหตุ” “การชูนโยบายหาเสียงด้วยเขตปกครองพิเศษจะยิ่งเข้าทางกลุ่มแบ่งแยกดินแดน เพราะบัญญัติสูงสุดของขบวนการเหล่านี้คือต้องให้ได้มาซึ่งการปกครองตนเอง ก่อน จากนั้นจึงจะสามารถประกาศเอกราชได้ในท้ายที่สุด
-รกรากของแนวคิดขบวนการแบ่งแยกดินแดน เริ่มต้นจากความแตกต่างระหว่าง ‘ชนชาติ’ ของผู้ปกครองกับผู้ถูกปกครอง กล่าวคือเมื่อ 190 ปีก่อน รัฐไทยเข้าปกครองรัฐปัตตานีในลักษณะเมืองประเทศราช โดยให้คนในพื้นที่ ‘ปกครองตนเอง’ แม้ขณะนั้นจะเกิดความขัดแย้งแต่ส่วนกลางก็ไม่ได้เข้าไปก้าวก่าย และด้วยวัฒนธรรมความเข้าใจของคนชนชาติเดียวจึงสามารถจัดการความขัดแย้งเอง ได้ โดยไม่มีการยกระดับสู่ความขัดแย้งกับรัฐผู้ปกครอง
-เหตุใดการเรียกร้องของคนในพื้นที่เขต 3 จังหวัดชายแดนใต้ เรื่องเขตปกครองพิเศษหรือ (Autonomy) เช่นเดียวกับกรุงเทพฯ หรือพัทยาจึงไม่สามารถทำได้ ทั้งที่ทั้ง 2 เมืองก็เปรียบเสมือนการแยกประเทศเช่นกัน อยากให้ทุกคนมองทุกปัญหาในภาพรวมไม่ใช่มองแค่ความขัดแย้งด้านเดียว โดยอยากให้รัฐบาลย้อนกลับไปมองข้อเรียกร้องทั้ง 7 ข้อ ว่าเหมาะสมกับอัตลักษณ์ของประชากรในพื้นที่หรือไม่ ทั้งภาษา ศาสนาและวัฒนธรรมที่มายาวนาน โดยรัฐบาลต้องใช้หลักการในทำความเข้าใจอย่างแท้จริง และสร้างความกระจ่างในปัญหาดังกล่าว และควรมีการศึกษาเรื่องการจัดเขตปกครองพิเศษ หากพบว่าไม่ขัดกับความเป็นชาติไทยต้องพิจารณาว่ามีแนวโน้มที่จะนำไปใช้ในการปฏิบัติได้หรือไม่ มิใช่มองเพียงว่าหากดำเนินการดังกล่าวแล้วจะทำให้สถานการณ์ของ 3 จังหวัดชายแดนใต้แย่ลง หรือเกิดการแบ่งแยกดินแดน อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่ผมพบว่าชาวบ้านตื่นตัวกับปัญหาดังกล่าวมาก และจากการศึกษายังพบว่า ศาสนา การเมืองท้องถิ่น และการแบ่งแยกดินแดนไม่ใช่ปัญหาที่แท้จริง แต่ต้นตอที่สำคัญ คือ การสร้างประชาธิปไตยในเมืองไทย แม้จะลอกเลียนแบบจากสหรัฐอเมริกามา แต่ไทยก็ไม่มีกระบวนการเริ่มต้นอย่างแท้จริงเนื่องจากอเมริกามีการกำหนดกฎหมายจากประชาชนฐานล่างก่อนเสนอต่อรัฐบาลกลาง ระบบการปกครองท้องถิ่นของอเมริกาจึงมีความมั่นคงสูง แต่ประเทศไทย เมื่อมีการอุ้มฆ่านายหะยีสุหลงและพิจารณาข้อเรียกร้องทั้ง 7 อย่างเป็นธรรม เหตุการณ์ดังกล่าวจึงบานปลายกลายเป็นเงื่อนไขให้กลุ่มก่อความไม่สงบเคลื่อนไหวจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นหากเราสามารถแก้ปัญหาเรื่อง 3 จังหวัดชายแดนใต้ด้วยความเป็นประชาธิปไตยได้ เชื่อว่าเมืองไทยจะกลายเป็นประเทศที่มีประชาธิปไตยเต็มใบอย่างแน่นอน
- การแก้ไขปัญหาในภาคใต้นั้น คนที่สามารถแก้ปัญหาได้ดี คือ คนในพื้นที่เพราะรู้รากเหง้าของปัญหาดี รู้ถึงวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ซึ่งจะสามารถนำแนวทางแก้ปัญหามาบูรณาการให้เข้ากับวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ได้ ดังนั้นจึงควรแก้ด้วยการใช้แนวทางการเมืองนำการทหาร รวมถึงการใช้การบูรณาการความคิดของทุกฝ่ายเพื่อหาแนวทางแก้ไข และสิ่งที่สำคัญ คือ รัฐต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนในการแก้ปัญหาด้วย นอกจากนี้หากทุกคนน้อมนำพระราชดำรัสเรื่องเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ไปปฏิบัติ เชื่อว่าเหตุการณ์ภาคใต้จะดีขึ้น
- เราต้องปรองดองบนความเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น ไม่ใช่ปรองดองเพื่อรักษาสถานะเดิมของคนใดคนหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเอาไว้ ไม่อย่างนั้นระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาจะสูญไปอย่างน่าเสียดาย เพราะไม่มีอะไรดีๆ เกิดขึ้นเลย
- ไม่มีใครได้ 100% และไม่มีใครเสียทั้งหมด แต่คนที่จะได้มากที่สุดคือคนส่วนใหญ่ของประเทศที่กำลังอยู่ในฐานะลำบาก และลำบากมาหลายปีแล้ว ฉะนั้นวิธีมองปัญหาจะต้องเปลี่ยนไป ผมขอยกตัวอยางปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ การจะแก้ปัญหาให้สำเร็จต้องการการเปลี่ยนแปลงอีกเยอะ การคิดถึงการปกครองท้องถิ่นแบบพิเศษที่เหมาะสมภายใต้รัฐเดี่ยวตามรัฐธรรมนูญไทยต้องเกิดขึ้นได้ และต้องคิดอย่างจริงจังได้แล้ว ทั้งต้องเข้าใจด้วยว่าไม่ใช่การแบ่งแยกดินแดน"

การซื้อสินค้าโอน จัดส่งทั่วประเทศโทร085\\2486\\281//www.bdtsitbaharee.com/