♥ทริปอยุธยา กับพี่สาวจากเมืองผู้ดี (๒)♥
ไหว้พระ ๙ วัด
ดำเนินเรื่องมาตอนที่สองแล้วค่า คิดว่าจบทริปอยุธยานะบลอคนี้เลย
หลังจากเพลิดเพลินจากตลาดน้ำอโยธยาแล้วก็ออกเดินทางไปไหว้พระกันต่อ
วัดที่ ๔
บริเวณวัดนี้เคยเป็นพระราชวังในสมัยอโธยามาก่อน
เจดีย์ที่อยู่ด้านหลังพระอุโบสถ เป็นเจดีย์ที่เก่าแก่กว่าเจดีย์อื่นๆบนเกาะอยุธยา เป็นทรงลังกาแปดเหลี่ยม ซึ่งปัจจุบันก็เหลือโครงสร้างดังในรูปนี่แลค่า
พระประธานที่สร้างใหม่สวมทัพซากพระประธานเดิม นามว่า "หลวงพ่อศรีอโยธยา"
ด้านข้างพระอุโบสถ มีศาลสมเด็จพระนเรศวรฯด้วยนะคะ
ภายในวัดกว้างขวางดีค่ะ คนไม่ค่อยเยอะไม่เบียดเสียดกัน
วัดที่ ๕
เป็นอีกวัดที่มีความขลัง ดูจากสิ่งปลูกสร้างที่เหลืออยู่ อย่างเช่นพระเจดีย์ ที่มีสิงห์ล้อมรอบอยู่ ๕๒ ตัว
เข้าไปไหว้พระในโบสถ์ ซึ่งมีพระนอนองค์ใหญ่ และรอยพระพุทธบาทด้วย
กำลังพยายามตั้งเหรียญ พยายามอยู่นานก็ตั้งไม่ได้ กร๊ากก
และนี่คือผลงานของเราเอง หนึ่งเดียวในสามคนที่สามารถตั้งเหรียญได้ ภูมิใจ 555
ก่อนออกเดินทางต่อ พี่ปอนด์ขอให้หญ้าน้องวัว น้องควายก่อน เนื่องจากไม่เคยเจอควายตัวเป็นๆมาหลายปี 55
วัดที่ ๖
วัดนี้เป็นวัดเดียวในกรุงศรีอยุธยาที่ไม่ได้ถูกพม่าทำลายและยังคงปรากฏสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาอยู่ในสภาพสมบูรณ์มากที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และที่พิเศษอีกอย่างก็คืดพระอุโบสถไม่มีหน้าต่างอ่ะค่า
พระประธานในอุโบสถสร้างปลายสมัยอยุธยาเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ทรงเครื่องแบบกษัตราธิราช มีนามว่า พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ เชื่อกันว่าหากได้มาสักการะ จะบังเกิดความร่มเย็น ก่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่ และธุรกิจการค้า
ด้านหลังพระอุโบสถเราสามารถไปไหว้หลางพ่อเงินองค์ใหญ่ได้อีก เป็นพระพุทธรูปที่สวยงามแปลกตาดี เนื่องจากเป็นสีเงินทั้งองค์ ทั่วไปเราจะเห็นแต่สีทองเนาะ
วัดที่ ๗ วัดเชิงท่า ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเกาะเมืองริมฝั่งซ้ายของแม่น้ำลพบุรี ใกล้กับคูไม้ร้องซึ่งเป็นอู่เก็บเรือพระที่นั่ง ที่ตั้งวัดนี้อยู่ฝั่งตรงข้ามกับป้อมท้ายสนมและปากคลองท่อ ซึ่งเป็นท่าข้ามเรือของฝั่งเกาะเมืองมาขึ้นฝั่งที่วัดเชิงท่า
กว่าจะมาถึงวัดนี้ก็ปาเข้าไป ๕ โมงเย็นแล้วค่า ภายในวัดเงียบมากๆ แวะสักการะสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี มหาราช พร้อมกับยกช้างเสี่ยงทายกันหน่อย ก่อนเข้าไปไหว้พระประธานในอุโบสถ
วัดที่ ๘
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ในสมัยกรุงศรีอยุธยา วัดพุทไธศวรรย์เป็นพระอารามหลวงที่ใหญ่โตและมีชื่อเสียงวัดหนึ่ง
ตอนที่เราไป มีการก่อสร้างและบูรณะโบสถ์อยู่ด้วย ก้เวยไม่ได้ภาพสวยๆมามากนัก
กษัตริย์สมัยกรุงอโยธยา
แวะลูบฆ้องขอพรก่อนกลับ
และแล้วภาระกิจไหว้พระ ทำบุญของเราก็มาถึงวัดสุดท้ายค่า วัดที่ ๙
จากหลักฐานที่กรมศิลปากรว่าสร้างในปี พ.ศ.๒๑๓๐ ผู้สร้างชื่อนางกุย เป็นผู้ที่มีทรัพย์สินเงินทอง จึงได้มาสร้างวัดนางกุยอยู่ทางด้านทิศใต้ของเกาะเมืองอยุธยา ที่มีแม่นำไหลผ่านวัดนี้ในอดีตเจริญรุ่งเรืองมาก
เกือบไม่ทันได้ไหว้พระแน่ะ เพราะเค้ากะลังจะปิดพระอุโบสถแล้วอ่ะ
ภายในพระอุโบสถ วัดนางกุย พระประธานอายุกว่า 400 ปี อาทิเช่น พระพุทธรูปศิลาปางสมาธิ สมัยทวารวดี พุทธศตวรรษที่11-
และมีหลวงพ่อยิ้ม เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่แกะสลักจากไม้สักทอง เป็นพระเก่าแก่อยู่คู่กับวัดมาช้านาน จากคำบอกกล่าวเล่าขานบอกว่า หลวงพ่อยิ้มได้ลอยมาตามแม่น้ำเจ้าพระยามาติดอยู่บริเวณหน้าวัด ทางเจ้าอาวาสและชาวบ้านได้อัญเชิญหลวงพ่อยิ้มไปประดิษฐาน ณ พระอุโบสถ
เหตุการณ์น้ำท่วมหนักที่อยุธยาเมื่อปีก่อน วัดนางกุยก็โดนน้ำท่วมด้วย เนื่องจากอยู่ริมแม่น้ำเลย จากรูปจะเห็นว่ามันท่วมมาสูงมาก ตรงขีดสีน้ำเงินคือระดับที่น้ำท่วมสูงสุด จากการที่เอาตัวเองไปยืนเทียบดู ก็น่าจะซักประมาณ 150 cm. ได้อ่ะ
ทริปนี้จะสมบูรณ์ไม่ได้ถ้าเราไม่ได้หม่ำกุ้งเผาที่อยุธยา หลังจากออกจากวัดนางกุยก็มุ่งหน้าสู่ตลาดกลางการเกษตร ซึ่งเป็นที่ประจำในการกินกุ้งเผาของเรา
หวังว่าทริปนี้คงทำให้พี่สาวได้อิ่มบุญแล้วก็สนุก หายเหงาไปได้บ้างเนื่องจากซะมีมาเกือบเดือน อ่ะเนาะ
และหวังว่าเราจะได้เจอกันอีก ไปเที่ยวด้วยกันอีกนะค้า รักนะ บุ๊จุ บุ๊จุ
ขอจบบลอคนี้ด้วยพระอาทิตย์ตกสีส้มแปร๊ดด ณ กรุงอโยธยาศรีรามเทพนคร
Create Date : 03 เมษายน 2554 |
|
21 comments |
Last Update : 3 เมษายน 2554 15:42:09 น. |
Counter : 4828 Pageviews. |
|
|
|
พยาบาลที่ศูนย์พยาบาลพิเศษศรีพัฒน์
สวย ๆ น่ารัก ๆ ทั้งนั้นเลย อิอิ
ไม่รู้พี่เต้ยแอบถ่ายไว้เยอะป่าว ฮี่ๆๆ
พี่ก็ยังมีปวดหน่วง ๆ อยู่อ่ะ
ผลจากแรงเบ่งอะ
ซ่าส์นัก รู้งี้ ผ่าคลอดก็ดี
แต่ก็ฟื้นไวนะ มีปวดหน่วงๆ แค่นั้นเอง
ตอนนี้ก็ทานยาที่หมอให้มาเรื่อย ๆ จ้า