ไปฟลอเร็นซ์ (4)/ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์
ไปฟลอเร็นซ์ (4)/ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 กุมภาพันธ์ 2552 15:12 น.
ในสัปดาห์ก่อน ผมเล่าเรื่อง Piazza della Signoria แห่งเมืองฟลอเร็นซ์ พลางอวดอ้างว่า นี่คือจัตุรัสเจ๋งเป็นอันดับสองของอิตาลี จึงมีคุณผู้อ่านสงสัย ส่งอีเมล์มาสอบถาม จัตุรัสเค้ามีการจัดอันดับกันด้วยเหรอคะ อาจารย์ ผมยืนยันว่า มีครับ จากหนังสือรวมมิตรจัตุรัสโลก จำนวน 3 เล่ม ที่ผมแอบนั่งอ่านในร้านหนังสือ (จากนั้นก็ไม่ซื้อ ความบันเทิงในยุคประหยัด) ข้อมูลล้วนชี้ตรงกัน สามสุดยอดจัตุรัสของอิตาลี ได้แก่ Piazza San Marco แห่งเวนิซ Piazza della Signoria แห่งฟลอเร็นซ์ และ Piazza del Campo แห่งเซียน่า ทั้งสามยังเป็นจัตุรัสเจ๋งติด 1 ใน 10 จัตุรัสโลก
เนื่องจากเดือนกุมภาพันธ์ยังเป็นเวลาแห่งความรัก อีกทั้งผมกะจะเขียนเรื่องชุดนี้ให้ยาวนิด จึงขอแทรกเรื่องสามจัตุรัสไว้ เมื่อไหร่ประเทศไทยหลุดพ้นภาวะผันผวนทางเศรษฐกิจ หนุ่มสาวมีตังค์เหลือพร้อมไปฮันนีมูนเมืองนอก อาจรับสามจัตุรัสของผมไว้พิจารณา
เริ่มต้นจากจัตุรัสอันดับสาม Piazza del Campo ถือเป็นจัตุรัสยุคกลางมีชื่อเสียงมากสุด ยุคกลางหรือ Medieval กินเวลายาวนานเกือบพันปี นับจากศตวรรษที่ 5 หลังจากจักรวรรดิโรมันตะวันตกล่มสลาย ต่อเนื่องมาถึงศตวรรษที่ 15 เมื่อเข้าสู่ยุคฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรม จัตุรัสแห่งเซียน่าเริ่มสร้างในค.ศ.1349 เป็นจัตุรัสยุคนี้แน่เชียว แต่ในยุคเดียวกัน มีอีกหลายพันจัตุรัส แล้วทำไมจัตุรัสแคมโปถึงเจ๋ง ?
ความดีงามของจัตุรัส จะเกี่ยวข้องกับเมืองที่ตั้ง เซียน่าเป็นเมืองน้อยในแคว้นทัสคานี ห่างจากฟลอเร็นซ์ลงมาทางใต้ ผมขับรถจากฟลอเร็นซ์ไปเซียน่า ใช้เวลาชั่วโมงเศษ ตัวเมืองเก่าตั้งอยู่บนยอดเนิน วิวรอบด้านเป็นทุ่งหญ้าและต้นสนแหลมเปี๊ยวตามสไตล์ทัสคานีแท้ แค่ตำแหน่งที่ตั้งของเมืองก็กินขาดไปหลายขุม ภายในเมืองยังสวยเนียนคลาสสิก เพราะเป็นแหล่งรวมของบ้านเก่าแก่อายุหลายร้อยปี หลังคากระเบื้องสีแดงซ้อนกันไปมา ทางเดินเป็นตรอกซอกซอย ใครชอบความโรแมนติกขรึมขลัง รับรองหลงรักเมืองนี้เจียนขาดใจ ถ้าคุณยังคิดภาพไม่ออก ขอให้ลองไปดูภาพยนต์หลายเรื่องที่ใช้เซียน่าเป็นฉาก เอาเรื่องล่าสุดก็ได้ครับ James Bond ภาคใหม่ Quantum of Solace เพิ่งฉายเมื่อปลายปีก่อน ฉากเปิดเรื่องพระเอกวิ่งไล่ผู้ร้ายไปตามหลังคา นั่นแหละเมืองเซียน่าล้วน ๆ ยังรวมถึงฉากที่มิสเตอร์บอนด์ตะลุยกลางฝูงชน มีม้าร้องฮี้คอยขัดขวาง นั่นคือเทศกาลแข่งม้า Palio งานใหญ่บนจัตุรัส จัดเป็นประจำปีละสองครั้ง
นอกจากเมืองสวย จัตุรัสแคมโปยังมีดีของตัวเอง นับว่าผิดจากจัตุรัสเมืองอื่นเกือบทั้งโลก เพราะจัตุรัสหมายถึงสแควร์ หรือลานที่ควรมีทรงคล้ายสี่เหลี่ยม หรืออย่างเก่งก็อาจเป็นวงกลม แต่ที่นี่เป็นจัตุรัสรูปสามเหลี่ยม 9 อัน เรียงกันจนเหมือนพัด แถมยังลาดเอียงน้อย ๆ จากหมู่ตึกเรียงรายด้านนอก เข้าสู่จุดศูนย์กลางอันมีวังเก่าแก่ Palazzo Pubblico ตั้งตระหง่าน พร้อมหอยักษ์สูงเสียดฟ้า 102 เมตร เราขึ้นไปดูข้างบนได้ครับ แต่เจ้าบ่าวคงต้องรับบทหนัก อุ้มเจ้าสาวขึ้นบันได 505 ขั้น หรือคิดง่าย ๆ เหมือนเดินขึ้นตึก 35 ชั้น ถ้าใครไม่อยากนอนร้องโอดโอยเหมือนผม แนะนำให้ไปถ่ายภาพคู่ที่ Fonte Gaia ริมขอบจัตุรัส ถือเป็นน้ำพุประจำเมืองเซียน่า ไม่ผิดอะไรกับน้ำพุเทรวี่ที่กรุงโรม
ในเมืองเซียน่ายังมีที่เที่ยวอีกเยอะ เช่น โบสถ์ดูโอโม ใครชอบช้อปปิ้ง มีร้านค้าอยู่บ้าง แต่ไม่หรูหราเหมือนเมืองใหญ่ในอิตาลี ที่นี่จึงเหมาะสำหรับคนอารมณ์ติสต์ มาเดินในเซียน่าสักหนึ่งเย็นหนึ่งคืนหนึ่งเช้า เซียน่ามาถึงได้โดยรถไฟ แต่ถ้าให้สนุกปนหวาดเสียว ต้องขับรถเที่ยวเอง ดังเช่นที่ผมลองกระทำ มายเนมอีสบอนด์ยังขับได้นี่นา มายเนมอิสธรณ์จะขับไม่ได้ให้มันรู้ไป แล้วมันก็รู้ไปครับ เพราะผมวนเวียนอยู่ในเมืองชั่วโมงเศษ เพื่อหาโรงแรมลึกลับที่จองผ่านอินเตอร์เน็ต ถนนเมืองนี้ทั้งเล็กทั้งวันเวย์ทั้งคนเดิน ขนาดผมมี GPS ยังหาไม่เจอเลยครับ สุดท้ายต้องขอร้องนักศึกษาชาวไต้หวันที่ไปเรียนภาษาอิตาลีที่นั่นช่วยนำทาง จากนั้นก็หลงต่ออีกชั่วโมง เพราะเธอดันเพิ่งมาถึงเซียน่าได้ 4 วัน (แล้วทำไมคุณน้องไม่บอกก่อน อ๋อ
อยากนั่งรถพี่ใช่ไหมจ๊ะ)
จากเซียน่าข้ามฟ้าไปหลายร้อยกิโลเมตร เรามาถึงริมทะเลอะเดรียติก เป็นที่ตั้งของ Piazza San Marco แห่งเมืองเวนิซ คนส่วนใหญ่ยอมรับว่า นี่แหละจัตุรัสอันดับหนึ่งในโลกหล้า แม้จะเป็นทรงสี่เหลี่ยมธรรมดา พื้นก็ปูด้วยแผ่นคอนกรีต เนื่องจากน้ำท่วมบ่อย พื้นหินพังไปหมดแล้ว แต่อาคารโดยรอบเนียนตาสุดบรรยาย ผมอ้างคำพูดของนโปเลียนดีกว่า จอมทัพฝรั่งเศสรายนี้มายึดเมืองเวนิซโดยไม่เสียเลือดเนื้อ เพราะแค่ยกทัพมา ชาวเวนิซก็ยอมแล้วจ้า อย่าคิดว่าชาวเมืองขี้ขลาดนะครับ แต่เค้ารักบ้านห่วงเมือง กลัวรบกันแล้วตึกพัง แต่ละหลังสร้างมาตั้งหลายร้อยปี อีกอย่างรบไปก็แพ้ เพราะนโปเลียนยึดได้ทั้งยุโรป นับประสาอะไรกับเมืองเล็กนิดเดียว เมื่อนโปเลียนยึดเมืองได้ เขาเดินมาที่จัตุรัส มองไปรอบ ๆ แล้วประกาศว่า นี่คือห้องภาพสวยสุดของยุโรป เกิดแล้วตายอีกกี่ชาติก็คงไม่มีทางหาเจอ (ประโยคสุดท้ายผมเติมให้นโปเลียน)
นโปเลียนพูดแล้ว ธรณ์พูดบ้าง ในสายตาของผม นี่คือจัตุรัสสมบูรณ์แบบ เหตุผลอันดับแรกคือความงามของศิลปวัฒนธรรม อาคารรอบจัตุรัสซานมาร์โคมีศิลปะทุกยุคทุกสมัยจากทุกหนแห่ง เพราะเวนิซรุ่งเรืองเป็นตัวของตัวเอง อีกทั้งเป็นเมืองท่ากว่าพันปี จึงผสมผสานสารพันศิลปะทั่วยุโรป เฉพาะแค่โบสถ์เซนต์มาร์ค มีศิลปะแบบกรีกโรมันที่ประตูหน้าต่าง โมเสกทองคำแบบไบเซนไทน์ หลังคาโดมแบบอิสลาม และลวดลายละเอียดอ่อนแบบเรอเนสซองส์ ข้างโบสถ์คือวังของโดเจ่หรือเจ้าเมือง นอกจากสวยงามอร่ามอรู ที่นี่ยังมีตำนานบันลือโลกของนักรักนามคาสสาโนวา ผู้แหกคุกเวนิซได้เป็นรายแรก
ความเจ๋งอันดับสองคือบรรยากาศ หากเซียน่าเนียนตาด้วยตรอกซอกซอยเก่า เวนิซก็มีสิ่งที่ทุกเมืองในโลกไม่มี นั่นคือคลองและเรือกอนโดล่า ลองคิดภาพคุณนั่งข้างเคียงกันในเรือลำงาม เลาะเลียบคลองไปตามขอบจัตุรัส เสียงเพลงแว่วหวาน Torna a Surriento ดังแว่วมา (come back to Sorrento : https://www.youtube.com/watch?v=X_Hr_1zhjkM) แม้ซอเรนโตจะอยู่ห่างจากเวนิซเกือบพันกิโลเมตร แต่เพลงเพราะ ฟังที่ไหนก็เพราะ จนกลายเป็นหนึ่งในเพลงประจำใจของนักถ่อเรือใส่เสื้อลายขวาง
สองอย่างบวกกัน ซานมาร์โคเกือบกินขาด แล้วก็มากินขาดจริงจัง เมื่อบวกปัจจัยอันดับสาม โดนใจคนไทยเป็นพิเศษด้วยครับ เพราะเราชื่นชอบการจิบกาแฟกินขนม ยังชอบช้อปปิ้งถล่มเมือง (ไม่ได้ชวนให้คุณไปช้อปนะ แต่โลกจะถล่ม เลย์แมนจะล้ม สาวไทยก็ไม่เลิกช้อปหรอกครับ อย่างน้อยก็มีสาวข้างกายผมหนึ่งคนล่ะ) ริมจัตุรัสคือที่ตั้งของร้านกาแฟ Caff Florian รับรองเก่ากว่าทุกร้านกาแฟในกรุงเทพ เพราะที่นี่เปิดให้บริการมาแล้วเกือบสามร้อยปี ตั้งแต่สมัยที่กรุงเทพยังไม่เป็นเมืองหลวง น่าเสียดาย ปัจจุบัน เจ้าของร้านกลายเป็นอาม่า (จริงนะ ผมไปมาสองปี เจออาม่ายืนคุมร้านทุกครั้ง) อีกอย่าง กาแฟหรือเค้กแพงชะมัด สงสัยเค้าคงบวกอายุร้านเข้าไปในราคากาแฟ
ถัดจากร้านกาแฟไปไม่ไกล คือ ร้านหรูแบรนด์เนมทุกร้านที่โลกนี้จะพึงมีได้ เรียงรายจนเจ้าบ่าวเห็นแล้วร้องโอ๊ก (หลายโอ๊กด้วยครับ ผมโอ๊กมาแล้ว) แต่ละร้านล้วนยวนยั่วใจด้วยสินค้าแปลกใหม่ หากใครชอบเทศกาล จัตุรัสแห่งนี้ก็มีครับ แจ๋วกว่างานแข่งม้าที่เซียน่าด้วยซ้ำ งานดังกล่าวมีในช่วงนี้แหละ เค้าเรียก Venice Carnival ผู้คนพากันสวมหน้ากากแต่งกายสุดหรูมาเดินกรีดกรายกันทั่ว
ด้วยความเจ๋งของจัตุรัสรูปพัดแห่งเซียน่า และด้วยความครบถ้วนกระบวนความของจัตุรัสใจกลางเวนิส ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นสุดยอด แล้วจัตุรัส Piazza della Signoria แห่งฟลอเร็นซ์จะสู้ได้ฉันใด สัปดาห์หน้า เรามาดูกันครับ
Come Back To Sorrento - Instrumental
Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2552 |
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2552 17:04:34 น. |
|
10 comments
|
Counter : 1533 Pageviews. |
|
|
|
โดย: เจยกกำลังสาม วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:19:39:23 น. |
|
|
|
โดย: chalawanman วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:41:49 น. |
|
|
|
โดย: แม่ซานเดอร์ IP: 80.56.136.93 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:0:22:41 น. |
|
|
|
โดย: แม่ซานเดอร์ วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:0:33:35 น. |
|
|
|
โดย: chalawanman วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:26:32 น. |
|
|
|
โดย: แม่ซานเดอร์ IP: 80.56.136.93 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:15:35:28 น. |
|
|
|
โดย: chalawanman วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:19:42:14 น. |
|
|
|
โดย: แม่ซานเดอร์ IP: 80.56.136.93 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:19:02 น. |
|
|
|
โดย: chalawanman วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:28:32 น. |
|
|
|
โดย: น้องมิ้นท์เมืองไทย IP: 110.164.117.213 วันที่: 22 ตุลาคม 2552 เวลา:15:40:53 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ได้ความรู้มากๆ ด้วย ทั้งๆ ที่เคยไปมาแล้ว แต่ไม่ได้ลึกซึ้ง
เหมือนที่อาจารย์อธิบาย ขอบคุณค่ะ