ชื่อ อทิตยา มี ลูกชาย 1 ชื่อ อเล็กซานเดอร์............... มีหลานชาย ( เป็นลูกหมา ) 2 ตัวชื่อ โจอี้ กับ จูเนียร์............... เราทั้ง 4 ใช้นามสกุล เดียวกันว่า มังกร ................... มีบ้านอยู่ ใกล้คลอง เจ้าหญิง เมืองอัมสเตอร์ดัม.................. 2แม่ลูก แบกกระเป๋าเที่ยวบ่อย ทำนองว่า ทัศนศึกษา.................... เที่ยวไปมา แม่ติดลม แล้วก็มาติดบลอค บางที ก็ยกขโยงไปทั้ง4 เป็น มังกรแฟมิลี่ สัญจร ............................. รู้จักกัน พอเป็นกระสัย จะได้ ทักทายกัน พอสมควร เจ้า

ยลโบสถ์งาม “เมืองอัมสเตอร์ดัม” โดย : หมวยเกี๊ยะ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 ตุลาคม 2552 11:32 น.


โดย : หมวยเกี๊ยะ


วันนี้ อ่านเจอ พาเที่ยว อัมสเตอร์ดัม รีบลาก มาเก็บ ไว้ แบ่ง กัน อ่าน แบ่งกันชม นะคะ แล้ว จะ ไปตระเวณ เก็บรูปมาเพิ่มเติม โบสถ์ สวยๆ อยู่ห่างไป 3ซอย คลองเดียวกัน เลย ล่ะค่ะ





เริ่มจากโบสถ์แรกที่จะขอพาไปเที่ยวกันเป็นโบสถ์ที่ตั้งอยู่บนฝั่งของคลองเจ้าหญิง (Prinsengracht) โบสถ์แห่งนี้มีนามว่า “โบสถ์เวสเตอร์” (Wester Church) นับว่าเป็นโบสถ์ที่มีความสวยงามที่สุดในเมืองอัมสเตอร์ดัม


โบสถ์เวสเตอร์นี้ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ.1620 สร้างขึ้นตาม ตามแบบสถาปัตยกรรมเรอเนสซองส์บนยอดของหอระฆังสร้างเป็นรูปมงกุฎของจักรวรรดิออสเตรีย ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะกษัตริย์แม็กซิมิเลียน (Maximilian) แห่งออสเตรียได้เคยเสด็จเข้ามาพำนักรักษาตัวในอัมสเตอร์ดัม ก่อนที่จะเสด็จกลับประเทศได้พระราชทานเครื่องหมายของพระองค์นั่นคือมงกุฎ ให้เป็นที่ระลึกแก่อัมสเตอร์ดัม


โบสถ์เวสเตอร์นี้จึงมีหอระฆังสูงที่สุดในอัมสเตอร์ดัมและมีระฆังที่หนักที่สุดในเนเธอร์แลนด์อยู่บนหอระฆัง ซึ่งระฆังที่อยู่บนหอนี้มีน้ำหนักรวม 7,059 กิโลกรัม หรือ 7 ตันเศษ ตัวหอมีความสูงถึง 85 เมตร และความพิเศษของโบสถ์เวสเตอร์แห่งนี้กล่าวกันว่าศพของเรมบรันด์ถูกนำมาฝังที่นี่ แต่ไม่มีเครื่องหมายบอกว่าอยู่ตรงไหน







ความสวยงามภายในโบสถ์เก่า



จากโบสถ์เวสเตอร์ที่สวยงาม เดินทางมาชมความงดงามกันต่อที่ โบสถ์เก่า (Oude Kerk) ซึ่งโบสถ์แห่งนี้เป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดของอัมสเตอร์ดัม สร้างขึ้นในตอนต้นศตวรรษที่ 13 เพื่อเป็นที่สวดมนต์ให้กับเหล่านักเดินเรือที่เดินทางมายังอัมสเตอร์ดัม เดิมทีตัวโบสถ์สร้างด้วยไม้แต่เพิ่งจะมาสร้างเพิ่มเติมเป็นอย่างที่เห็นในปัจจุบันในตอนต้นศตวรรษที่ 16 ที่โบสถ์นี้จะมีนาฬิกาที่อยู่บนหอระฆัง ซึ่งว่ากันว่าเป็นนาฬิกาเรือนแรกของเนเธอร์แลนด์ และออร์แกน (เครื่องดนตรีชนิดหนึ่ง) ที่สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1724-1726 โดยคริสเตียน ฟาเตอร์ เป็นออร์แกนที่สวยที่สุดในประเทศ



และครั้นในปีค.ศ.1619 นาฬิกาได้ถูกเปลี่ยนและทำให้ดีขึ้นโดยเฮอโมนี (ผู้ประดิษฐ์นาฬิกาที่มีชื่อเสียงในสมัยศตวรรษที่ 16 มีชีวิตอยู่ระหว่างปีค.ศ. 1619-1680) เมื่อเข้ามาเที่ยวชมภายในโบสถ์จะได้พบกับ สถานที่ที่ใช้เป็นที่ฝังศพของจิตรกรและจินกวีที่สำคัญ เช่น ฟอนเดลส์ รวมถึงวีรบุรุษทางทะเล ยาคอบ ฟาน เฮมแกร์ก (ผู้ค้นพบช่องแคบยิบรอลตา) และปัจจุบันโบสถ์เก่าหลังนี้ยังใช้เป็นที่จัดแสดงคอนเสิร์ตและแสดงนิทรรศการภาพเขียนต่างๆ ของจิตรกรที่สำคัญๆ ด้วย ซึ่งจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมได้ทุกวัน





โบสถ์ใหม่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิกตอนปลาย



และเมื่อมีโบสถ์เก่าก็ย่อมต้องมีโบสถ์ใหม่ด้วยเช่นกัน โดย “โบสถ์ใหม่” (Nieuwe Kerk) แห่งนี้ใช้เป็นที่ประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกของกษัตริย์และราชินีของเนเธอร์แลนด์ และเป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาสำคัญๆ และรับเป็นวิหารหลวงมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าหลุยส์ โบนาปาร์ค กษัตริย์ฝรั่งเศสที่มาปกครองเนเธอร์แลนด์ในตอนต้นศตวรรษที่ 18




โบสถ์ใหม่ตั้งอยู่ข้างวังหลวง โดยถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1490 เมื่อชุมชนของอัมสเตอร์ดัมขยายตัวจากบริเวณรอบโบสถ์เก่า ตัวโบสถ์สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิกตอนปลาย แต่ได้ถูกไฟไหม้ถึง 3 ครั้ง ซึ่งภายหลังได้สร้างตกแต่งใหม่เป็นแบบผสมเรอเนซองส์ และได้ตกแต่งภายในและแท่นบูชารวมถึงออร์แกนอย่างสวยงามเป็นแบบโกธิก และโบสถ์นี้เป็นที่ฝังศพของคนสำคัญๆ ของชาติ เช่น เฮนดริก เดอ ไกเซอร์ นายพลเรือผู้เสียชีวิตในการบกับฝรั่งเศส




โบสถ์เซนต์นิโคลัส เป็นโบสถ์ของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก



สำหรับโบสถ์ต่อไป ที่จะพาไปชื่นชมความงดงามกันนั้น มีชื่อว่า “โบสถ์เซนต์นิโคลัส” (Sint Nicolaaskerk) เป็นโบสถ์ของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก แต่เดิมโบสถ์แห่งนี้ใช้เป็นที่ประกอบพิธีทางศาสนาของชาวเรือเพื่อขอพรก่อนจะเดินทางออกเดินทางสู่ทะเล



สถาปัตยกรรมของโบสถ์เซนต์นิโคลัสหลังนี้ บนยอดโบสถ์มีลักษณะเป็นทรงโดมมีไม้กางเขนขนาดใหญ่ ซึ่งในยุคนั้นจะติดไฟสีแดงทำหน้าที่เป็นประภาคาร โดยโบสถ์เซนนิโคลัสถูกออกแบบโดย AC Bleys สร้างแล้วสร็จในปีค.ศ. 1887 นับว่าเป็นโบสถ์ที่ใหม่มากเมื่อเทียบกับโบสถ์อื่นๆ ในใจกลางเมืองอัมสเตอร์ดัม





โบสถ์โปรตุเกสสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบบารอก



โบสถ์ต่อไปที่น่าเดินทางไปเที่ยวกันเพื่อดูความสวยงาม คือ “โบสถ์โปรตุเกส” (Mozes-en-Aaron Church) จากตลาดใหม่ ถ้าเดินตรงไปประมาณ 5 นาที จะพบโบสถ์โปรตุเกสสีขาวตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่ แต่เดิมนั้นบริเวณนี้เคยเป็นที่อยู่ของชาวยิว ซี่งเรียกตนเองว่าโปรตุเกสอิสราเอลิเตส เนื่องจากชาวยิวที่อยู่ในสเปน ได้ลี้ภัยเข้าไปอยู่ในประเทศโปรตุเกส เพราะถูกบีบบังคับไม่ให้ปฏิบัติภารกิจทางศาสนา และจากโปรตุเกส ชาวยิวจึงได้โยกย้ายเข้ามาในอัมสเตอร์ดัม


ในตอนต้นศตวรรษที่ 17 ชาวยิวเหล่านี้เป็นผู้ที่เชี่ยวชาญในการเจียระไนเพชรเป็นอย่างมาก ทำให้อัมสเตอร์ดัมมีชื่อเสียง และกลายเป็นศูนย์กลางในการเจียระไนเพชรของโลกในเวลาต่อมา ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 บ้านของชาวยิวที่อาศัยอยู่แถบนั้นได้ถูกรื้อถอนเพื่อนำไม้ไปใช้เป็นเชื้อเพลิง เนื่องจากความหนาวเย็น ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 มีชาวยิวอาศัยอยู่ในอัมสเตอร์ดัมทั้งหมด 140,000 คน แต่เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบลง มีชาวยิวเหลืออยู่เพียง 20,000 คนเท่านั้น




ความงดงามด้านในโบสถ์โปรตุเกส




โบสถ์หลังนี้ตั้งอยู่ในส่วนที่เรียกว่า วาเตอร์โลสแควร์ ใกล้กับที่ว่าการเมืองแห่งใหม่ สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1840 เป็นสถาปัตยกรรมแบบบารอก แต่ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ถูกทำลายเสียหายโดยทหารนาซี และได้ซ่อมแซมขึ้นใหม่ในปีค.ศ. 1970 เดิมใช้เป็นที่ประกอบพิธีทางศาสนาของพวกคาทอลิกในยุคที่โปรเตสแตนต์เรืองอำนาจ ภายหลังจึงตกเป็นสมบัติของพวกยิวและกลายเป็นโบสถ์ของยิวในที่สุด




โบสถ์เซาเดอร์ เป็นโบสถ์ของนิกายโปรเตสแตนต์ที่เก่าแก่


แล้วโบสถ์สุดท้ายที่จะขอพาไปเที่ยวชมกันคือ “โบสถ์เซาเดอร์” (Zuiderkerk) โบสถ์หลังนี้ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1614 โดยสถาปนิก เฮนดริก เดอ ไกเซอร์ เป็นโบสถ์ของนิกายโปรเตสแตนต์ที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในเนเธอร์แลนด์ แต่ไม่ได้ใช้เป็นโบสถ์มาตั้งแต่ปีค.ศ.1929 จนกระทั่งได้รับการบูรณะเมื่อปีค.ศ. 1988 และใช้เป็นที่ทำการของแผนกผังเมือง และทั้งหมดนี้คือโบสถ์ที่เก่าแก่และงดงามของเมืองอัมสเตอร์ ที่ถ้าหากใครมีโอกาสมาเที่ยวยังเมืองอัมสเตอร์ดัมแล้วขอบอกว่าอย่าพลาดการมาเที่ยวชมให้ได้น่ะ






 

Create Date : 05 ตุลาคม 2552
5 comments
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2552 15:34:26 น.
Counter : 2105 Pageviews.

 

คำอธิบาย รูปสุดท้าย สลับ รูปกัน นะคะ ไม่กล้า แก้ เกรง จะยิ่ง ผิด .............ขอสลับ รูป เจ้า

 

โดย: แม่ซานเดอร์ 5 ตุลาคม 2552 17:22:40 น.  

 

ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ

 

โดย: Thairabian 5 ตุลาคม 2552 20:12:10 น.  

 

สวยคาฟ

 

โดย: พระจันทร์สัญจร 5 ตุลาคม 2552 21:01:46 น.  

 

รายงานตัวในบล๊อคครับ

ขอบคุณคำแนะนำดีดีใน มัล ครับ

อยากไปเที่ยวเเวะน้าปู

นั่งกินข้าวหน้าร้านระฆังอีกจังเลยครับ

 

โดย: chalawanman 5 ตุลาคม 2552 23:25:25 น.  

 

แวะมาแอ่วเจ้า งามเนาะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 11 ตุลาคม 2552 15:00:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


แม่ซานเดอร์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
5 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แม่ซานเดอร์'s blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.