60  กรัม ไข่ขาว

35    กรัม น้ำตาลทรายเม็ดละเอียด ( caster sugar)

70    กรัม  เมล็ดฟักทอง

100  กรัม น้ำตาลไอซิ่ง 

สีตามชอบไม่จำเป็นต้องใส่ก็ได้ค่ะ ( gel or powder foodcoloring )

ก่อนจะทำควรจะเตรียมวัตถุดิบและอุปกรณ์ให้พร้อมโดยเฉพาะมือใหม่เพราะในขณะที่ทำจะได้ไม่ต้องมาลุกลี๊ลุกลนหาของค่ะ

ไข่แยกไว้แค่ 1 วันที่อุณหภูมิห้องไม่ได้เอาเข้าตู้เย็น

ในกรณีที่เราไม่ได้วางแผนล่วงหน้าเราจะใช้วิธีนี้ค่ะ

น้ำตาลไอซิ่ง/เมล็ดฟักทอง

วิธีทำ

1.นำเมล็ดฟักทองมาคั่วพอให้หอมๆ ใครจะเอาเข้าเตาอบก็ไม่ว่ากันค่ะแต่มันนิดเดียวไม่อยากเปิดๆปิดๆเตาอบ เปลืองพลังงานคั่วบนกะทะแบบดั้งเดิมนี่ล่ะสุดยอดแล้ว 

จากนั้นทิ้งไว้ซักแป๊ปพอให้หายร้อนแล้วเอามาบด เครื่องบดนี่สำคัญนะคะถ้าใครอยากจะบดอัลมอนต์เองเครื่องต้องแรงดี เพราะต้องใช้เวลาในการบดระยะสั้นๆเท่านั้นเพราะบดนานเมล็ดฟังทองหรืออัลมอนต์จะมีน้ำมันออกมาค่ะ

เราจะบดสองรอบค่ะ

รอบแรกจะบดเมล็ดฟักทองก่อนหลังจากนั้นจะเอาผสมกับน้ำตาลไอซิ่งแล้วบดต่ออีกรอบเพื่อต้องการให้ได้วัตถุดิบที่เนียนสวยพอบดออกมาได้ลักษณะเหมือนรูปด้านซ้าย ก็เตรียมไว้เลยค่ะ

ระยะหลังๆเราข้ามขั้นตอนการกรองไปเพราะเครื่องบดเราค่อนข้างแรงมักจะไม่มีเศษใหญ่ๆหลงเหลือเลยประหยัดเวลาไป 1 ขั้นตอน 

2.นำไข่ขาวและน้ำตาล caster sugar ใส่ลงในชามผสมที่ปราศจากไขมันและต้องแห้งสนิท 

ค่อยเริ่มตีจากสปีดต่ำไล่ไปยังสปีดสูงใช้เวลาประมาณ 6-9 นาที 3 จังหวะ ต่ำ กลาง สูง ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความแรงของเครื่องที่ใช้ด้วยนะ 

**อย่ายึดติดกับเวลามากนักค่ะเพราะอุปกรณ์และวิธีการของแต่ล่ะคนไม่เหมือนกัน การทำขนมต้องรู้จักการสังเกตุด้วตัวเองค่ะ 

ถ้าต้องการจะใส่สีก็ให้หยุดเครื่องแล้วใส่ตอนที่ตั้งยอดอ่อนค่ะ

3.พอได้ส่วนเมอร์แรงค์ซึ่งตีจนตั้งยอดแข็งก็นำส่วนของแห้งมาผสมกันตอนแรกใช้พายยางตะล่อมเร็วๆหลังจากนั้นก็ตะล่อมแบบใช้พายยางช้อนลงให้ถึงก้นโถแล้วใช้พายยางบี้ส่วนผสมเบาๆข้างโถผสมแล้วก็ตะล่อมช้อนลงไปให้ถึงก้นโถอีก ทำแบบนี้จนเห็นว่า batter ไหลลงเหมือนลาวา เงาๆ สวยงาม

4.เอาใส่ถุงพร้อมหัวบีบแบบกลมขนาดกลางไม่เกิน 1 ซ.ม.บีบลงบนแผ่นsilpatหรือแผ่นรองอบที่เตรียมไว้ทิ้งระยะห่างนิดหน่อยอย่าบีบกันจนแน่นไปเพราะจะเป็นการสร้างความชื้นในเตาอบ 

5.พักผิวจนกระทั่งผิวหน้าแห้งนิดๆไม่ได้แห้งมากแค่เวลาเอานิ้วแตะแล้วไม่ติดมือประมาณ30 นาทีหรือขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ

6 อบไฟ-บน ล่างถ้าเราอบที่ กรุงเทพเราไม่เปิดพัดลมเพราะไม่มีแต่ถ้าอบที่ซิดนีย์จะเปิดเพราะเตาอบที่ซิดนีย์ความร้อนกระจายไม่ค่อยดีเท่าที่ควรจะมี hot spot หลายจุดเวลาอบแล้วไม่เปิดขนมจะเอียงๆเบี้ยวๆพิลึก 130-160 องศาประมาณ 12-15 นาทีขึ้นอยู่กับขนาดและเตาอบ

ช่วงระยะนาทีที่ 8-9 เราจะเปิดเตาแล้วนับ 123 ปิดเตาระบายไอน้ำออกซักนิดค่ะจะเห็นว่ามี steam ออกมาเลยล่ะ

** เรื่องเตาอบบ้านใครบ้านมันสังเกตุกันเอาเองค่ะ เตาอบที่บ้านซิดนีย์จะคายไอน้ำออกขณะที่อบ ( smeg )เตาอบที่กรุงเทพไม่มีไอน้ำออกมาเลยซึ่งเราชอบมาก อบไฟนิ่งสม่ำเสมอ อบสีอ่อนๆได้เป๊ะ คราวหน้าถ้าเราต้องเปลี่ยนเตาอบเราจะเปลี่ยนไปใช้ siemens เหมือนที่กรุงเทพ

ทิ้งไว้ให้อุ่นๆซะหน่อยค่อยแกะออก