ลูกแมวยั่วสวาท กับ ช้างไทย
ถ้าเอ่ยชื่อ บริจิตต์ บาร์โด แล้วละก็คนในยุคเบบี้บูมน่าจะรู้จักนะครับ นางเอกหนังฝรั่งเศสวัยรุ่นในยุคทศวรรษที่ ๕๐ไม่มีใครดังเกินบริจิตต์ บาร์โด เธอดังข้ามทวีปไปถึงฝั่งอเมริกา หนังสือพิมพ์ในสมัยนั้นถึงกับตั้งฉายว่า ลูกแมวยั่วสวาท ( sex kitten) เธอเล่นหนังอยู่หลายสิบเรื่อง เคยออกอัลบั้มเพลงก็มากในห้วงทศวรรษที่ ๖๐ และ๗๐ รวมทั้งเพลงดังอย่าง Je taime
. moi non plus (แต่เพลงนี้มาดังเอาจริงๆเมื่อ Jane Birkin นักร้องนักแสดงอังกฤษเอามาร้องในภายหลังอีกหนึ่งปีต่อมา) หลังจากลาวงการมายา ในปี ๑๙๗๓ แล้ว เธอก็ผันตัวเองมาเป็นนักกิจกรรมด้านการช่วยเหลือสัตว์ ต่อมาในปี ๑๙๘๖ เธอตั้ง มูลนิธิบริจิตต์ บาร์โดเพื่อการพิทักษ์และสงเคราะห์สัตว์ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือสัตว์ทั้งสัตว์เลี้ยงและสัตว์ป่าที่ถูกล่า หรือถูกทารุณกรรม เช่นต่อต้านการบริโภคเนื้อม้า การล่าแมวน้ำ การล่าเสือและแรดเพื่อเอาอวัยวะมาทำยาบำรุงกาม การช่วยเหลือสัตว์เร่ร่อน ฯลฯ รวมทั้งการช่วยเหลือช้างที่ถูกใช้งานหนัก และฆ่าเอางา เป็นต้น
นอกจากนี้ เธอยังเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองด้วย เช่น เป็นผู้ต่อต้านกระบวนการฆ่าแกะเพื่อพิธีกรรมทางศาสนาของบางศาสนา จนเลยเถิดไปถึงการต่อต้านศาสนานั้นในฝรั่งเศส ทำให้เธอมีปัญหากับกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านการถือผิวเผ่าพันธุ์ และกลุ่มสิทธิมนุษยชน
มูลนิธิของเธอมีเครือข่ายอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งไทยเราด้วย ในปี ๒๐๐๓ ได้ให้การสนับสนุน มูลนิธิเพื่อนช้าง องค์กรพิทักษ์สัตว์ซึ่งดำเนินงานโดย คุณ โซไรดา ซาลวาลา มูลนิธิเพื่อนช้างได้สร้างโรงพยาบาลช้างแห่งแรกของโลกขึ้นที่ ลำปาง และได้ดูแลรักษาช้างมาแล้วกว่า ๖๐๐เชือก ส่วนใหญ่ทุกข์ทรมาน จากการถูกใช้งานหนัก ทุพโภชนาการ และบาดเจ็บจากการเหยียบทุนระเบิด เป็นต้น มูลนิธิบริจิตต์ บาโด ได้เข้ามาช่วยเหลือด้านค่าอาหารสำหรับช้างและได้จัดส่งเจ้าหน้าที่มาประจำอยู่ที่โรงพยาบาลช้างแล้วถึง๕คน
เรื่องราวของ ลูกแมวยั่วสวาท บริจิตต์ บาร์โด ผู้นี้ยังมีอีกมากมาย ทั้งด้านลบและด้านบวก ผมนำด้านบวกบางเรื่องมาให้ชาว บล็อกเกอร์ ได้อ่านกันเพลินๆนะครับ พร้อมกับภาพของเธอเมื่อครั้งที่ยังสุดสาวสุดสวย เปรียบเทียบกับ ภาพในวัยที่ร่วงโรย เพื่อให้เป็นอุทาหรณ์ของพวกเราหลายๆคนครับ
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ สังขารา ทุกขา
สัพเพ ธัมมา อนัตตา