ผมห่างหายจากการเขียนบล็อกไปเสียนาน ด้วยเพราะว่าท่องไปในโลกของข่าวสาร ถูกใจบ้างรำคาญบ้าง เกิดอกุศลจิต สุดท้ายต้องปล่อยวางหลายๆเรื่องไปบ้าง แล้วกลับมาอยู่กับตัวเอง หายใจลึกๆเรียกสติกลับคืนมา ให้มีความระลึกรู้ได้เร็วขึ้นว่ากำลังเผลอส่งจิตออกนอก
เช้าวันนี้ถือโอกาสไปสะสมเสบียงกรังสำหรับภพภูมิข้างหน้า เข้าไปในวัดเห็นพระท่านเตรียมโลงเย็นไว้สำหรับบรรจุศพ สอบถามจากญาติธรรมที่วัดได้ความว่าจะมีศพมาตั้งบำเพ็ญกุศล ก่อนถวายสังฆทานก็มีขบวนรถนำศพเข้ามาพอดี พระท่านจึงพูดธรรมะให้ผู้มาทำบุญซึ่งเป็นขาประจำทั้งนั้นฟัง ในเรื่องของการปฎิบัติธรรมเมื่อยังมีชีวิตอยู่ ว่า วันนี้มีการตั้งศพที่วัด (ปกติคนทางเหนือจะตั้งศพกันที่บ้าน ต่อเมื่อจะฌาปนกิจจึงนำไปที่ป่าช้า) คนส่วนใหญ่เมื่อยังไม่ตายก็ไม่ค่อยอยากจะเข้าวัด แต่พอรู้ตัวว่าจะมีอายุขัยอีกไม่นานก็บอกความประสงค์ให้ญาติพี่น้องนำร่างของตนเมื่อตายแล้วไปตั้งที่วัด หรือไม่ก็เป็นความต้องการของญาติเอง ด้วยเชื่อว่าถ้าได้อยู่ใกล้พระเจ้าพระสงฆ์ อาจนำให้ไปสู่โลกหน้าที่ดี ทำไมเราไม่เข้าวัดเสียตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ เข้ามาเมื่อมีแต่ร่างปราศจากวิญญาณนั้นไม่ได้ประโยชน์อันใดเลย ฟังพระเทศน์พระสวดก็ไม่รู้เรื่อง นำธรรมะไปปฎิบัติก็ไม่ได้ (การพูดว่าเข้าวัดเพื่อสร้างบุญกุศล ฟังธรรม ปฏิบัติธรรม เป็นการกล่าวถึงวัดในเชิงสัญลักษณ์ของการสร้างคุณงามความดี การอยู่ในศีลในธรรม) ดังนั้นญาติโยมควรสะสมบุญกุศลเสียแต่ยังมีชีวิตอยู่ ถ้าไม่เคยเข้าวัดเข้าวาเลยแม้จะมีพระอรหันตเจ้าเป็นร้อยเป็นพันองค์มาสวด มาเทศน์ ให้เมื่อตายแล้ว ก็ไม่อาจนำพาไปสู่สุคติภพได้( สุคติภพ มี พรหมโลก เทวโลก โลกมนุษย์) การไปอุบัติ(เกิด)ในภพภูมิใด ขึ้นอยู่กับกรรมที่เราทำไว้เมื่อยังมีชีวิตอยู่ พุทธศาสนาจึงสอนให้คนทำแต่กรรมดีละกรรมชั่ว ถ้าญาติโยมได้ทำกรรมดี สร้างบุญกุศล ปฏิบัติธรรม ไว้ดีแล้ว จะตั้งศพที่ไหน อย่างไร ก็ไม่สำคัญ จะมีพระอรหันต์มาสวดให้หรือไม่ สุคติภพก็เป็นที่หวังได้
สรุปได้ว่า ถ้ายังมีลมหายใจอยู่ ควรสร้างคุณงามความดี สร้างกรรมดี เข้าไว้ จะทำที่ไหนก็ได้ ที่วัดก็ดี และควรทำแต่เมื่อยังอยู่ในวัยที่สุขภาพยังดี ยังแข็งแรง ไม่ใช่เจ็บเจียนตายแล้วนิมนต์พระไปสวดมนต์บทนั้น บทนี้ให้ฟังแล้วจะทำให้ได้ไปเกิดใหม่เป็นมนุษย์ เป็นเทวดา เป็นพรหม ถ้าคนนั้นๆไม่เคยสั่งสมบุญบารมีมาก่อน ไม่เคยปฏิบัติธรรมมาก่อน ฟังธรรมอย่างไรก็คงไม่รู้เรื่อง อย่ารอครับอย่ารอ เดี๋ยวสายเกินไปครับ
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [
