ต้นไม้สอนคน
เมื่อวานเป็นวันพระได้ไปถวายภัตตาหารเช้าที่วัดแพร่ธรรมาราม เด่นชัย เข่นที่เคยปฏิบัติเป็นประจำ หลังจากไหว้พระ รับศีลและฟังธรรมแล้ว ก็ลงมาคอยตักอาหารต่อจากพระ ผ้าขาว((ผู้มาเตรียมตัวก่อนบวช) คุณแม่ชี อุบาสก อุบาสิกา ที่มาถือศีลแปดและอยู่วัด ระหว่างนั้นก็ฟังธรรมบรรยายจากแผ่นซีดี เป็นธรรมบรรยายของหลวงปู่ชา เรื่องพระมหาชนกกุมารจับเอาตอนที่เสด็จประพาสพระราชอุทยานแล้วทอดพระเนตรเห็นต้นมะม่วงที่เคยอุดมสมบูรณ์ด้วยกิ่งก้านสาขาและมีผลมากมาย แต่กลับทรุดโทรม กิ่งก้านที่เคยแข็งแรงถูกหักร้าง ใบร่วงหล่น และผลก็ถูกเด็ด ถูกสอยลงมากินจนเกือบไม่มีเหลือ กับอีกต้นหนึ่งที่ไม่สมบูรณ์ ไม่มีผล กลับอยู่ในสภาพปกติทุกอย่าง เรื่องนี้ทำให้พระองค์ได้ดวงตาเห็นธรรม เห็นความทุกข์ที่เกิดจากการมีทรัพย์สมบัติโภคผลต่างๆ ซึ่งต้องคอยดูแล ระวังรักษา ถ้าไม่มีสมบัติพัสถานให้ต้องห่วงต้องกังวล เหมือนต้นมะม่วงที่ไม่มีผลเสียแล้ว ก็จะไม่มีทุกข์ พระองค์จึงสละราชสมบัติเสด็จออกทรงผนวช เมื่อผนวชแล้วมีใครมาทูลถามพระองค์ท่านว่าใครเป็นอาจารย์ พระองค์ก็จะทรงตอบว่า ต้นมะม่วง ใครทูลถามว่าใครเป็นอุปัชฌาย์ พระองค์ทรงตอบว่า ต้นมะม่วง พระองค์ได้น้อมนำเอาธรรมะที่ทรงประจักษ์ต่อพระพักตร์น้อมเข้ามาสู่พระองค์ เป็น โอปนยิโก ไงครับ
พระพุทธรูปองค์ใหม่ ในศาลาฉัน
เรื่องพระชนกกุมารนี้ เป็นชาดกที่น่าศึกษานะครับ ถ้ายังจำกันได้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ตอนหนึ่งเมื่อหลายปีมาแล้ว เพื่อให้ผู้อ่านเห็นความสำคัญของความอดทน ความเพียร ลองไปค้นห้องหนังสือเอามาปัดฝุ่นอ่านกันก็ดีนะครับ แล้วมาสร้างวิริยบารมีให้เหมือนพระชนกกุมารกัน
สงบ ทั้งภายนอกภายใน
สงัด จากสิ่งแวดล้อมทั้งปวง