หลังจากอิ่มหนำสำราญใจแล้ว ก็ถึงคราวต้องเดินย่อยอาหารกันซักหน่อย แต่ปัญหามันอยู่ที่ เท้าทั้งสองของชั้นเริ่มจะไม่สามัคคีซะแล้ว เนื่องจากช่วงเช้าก็เดินร่วม 3 ชั่วโมงที่จตุรัสเทียนอันเหมิน กับ พระราชวังกู้กง

แต่พอเหลียวซ้ายและขวา สว.แต่ละท่านยังดูกระฉับกระเฉงกันดี แล้วชั้นจะทำตัวอ่อนแอได้เหรอ เสียหน้าแย่ ^^

บ่ายนี้ก็เราก็เลยไปตะลุยกันที่หอฟ้าเทียนถาน ข้อสังเกตุสถานที่ท่องเที่ยวของจีน นอกจากจะตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว สีและลักษณะบางอย่างก็สำคัญ

อย่างหลังคาของวัง กระเบื้องจะเป็นสีเหลือง และหากเป็นสถานที่ของกษัตริย์ ต้องมีลูกมังกรทั้งหมด 9 ตัว รวมทั้งมีสิงโต 2 ตัว หากหันหน้าเข้าหาวัง ตัวเมียจะอยู่ซ้ายมือ และตัวผู้จะอยู่ขวามือ โดยสังเกตุจากตัวผู้เหยียบลูกโลก ตัวเมียเหยียบลูก

สำหรับหลังคาของหอฟ้าเทียนถาน กระเบื้องเป็นสีน้ำเงิน และสร้างกำแพงลักษณะเป็นวงกลม 2 ชั้น ที่นี่เป็นที่สำหรับฮ่องเต้กราบไหว้ขอพรจากฟ้า ฟ้าเท่านั้นนะค่ะ ดินไม่เกี่ยว

เรามาตามกันดูบรรยากาศรอบ ๆ หอฟ้าเทียนถานกันเลยค่ะ

ประตูทางเข้า มี 3 ช่องทางเห็นมั๊ยค่ะ ชั้นบอกแล้วทุกที่ที่ฮ่องเต้ไป จะต้องมีทางเข้า 3 ช่องทาง แต่น่าแปลกที่ ที่นี่เปิดประตูตรงกลางให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเลย ทั้งที่ปกติจะต้องปิดไว้ และไกด์บอกว่าลานนี้แต่ก่อนไม่ให้จอดรถ แต่เดี๋ยวนี้รถจอดตรึม บรรยากาศเสียหมด (อันนี้ไกด์บ่นเองเลยน้า)

เดินผ่านประตูแรกเข้ามาแล้วนะค่ะ เห็นประตูที่ 2 อยู่ลิบ ๆ

บรรยากาศด้านซ้ายและขวามือ ขณะเดินมุ่งหน้าสู่ประตูชั้นที่ 2 เสียดายเราต้องเดินตามไกด์ ถ้ามาเที่ยวเอง ชั้นคงเถลไถลแถวนี้เป็นนานแน่ ๆ คนอื่นอาจคิดว่าไม่มีอะไร ต้นไม้ก็เหี่ยวๆแห้ง ๆ ไม่เห็นสวย แต่ถ้าคุณได้เดินตอนอากาศหนาว ๆ แล้วหล่ะก็ ขอบอกเลยว่าคนละอารมณ์กันเลยทีเดียว

คุณว่าคล้าย ๆ ตัวอะไรอ่ะ ............... ชั้นว่าเหมือนปีเซียะ เลยนะ

เข้ามาก็เจอลานโค้ง ๆ เลย ลานกว้างขนาดใหญ่

ยังไม่ถึงหอฟ้าเทียนถานนะจ้ะ อันนี้เป็นเพียงเรียกน้ำจิ้ม ตอนนี้ชั้นรู้สึกว่าทุกที่ในจีนถ่ายรูปยากเหลือเกิน อย่างที่คุณเห็น ใครว่ะติดมาเต็มรูปตรูไปหมด ซ้ำร้ายไกด์ก็เร่งจังวุ้ย จะหาช็อตเด็ดก็ไม่ได้ต้องรีบเล็ง รีบกด ให้สมสโลแกนหัวหน้าทัวร์ ช้อป แชะ ฉี่ หรือจะ ฉี่ ช้อป แชะ ได้ทั้งนั้นสำหรับพี่ไทย เธอมันส์กันจริง ๆ

และในที่สุดความพยายามของชั้นก็หมดลง เราไปดูข้างในกันเถอะ - -"

ขึ้นมาด้านบนแล้ว เก็บภาพรอบ ๆ หน่อยละกัน

แล้วไกด์ก็เร่งอีกแล้วครับท่าน มะใช่ด้วยคำพูด แต่สายตา เฮ้อปล่อยให้ผู้ใหญ่คอยมันมะดีนะ เสียมารยาทว่าแล้วก็จรลีลงมา

อ้ะเกือบลืม คุณเห็นรั้วเหล็กเล็ก ๆ รอบกำแพงมั๊ย เค้าว่าถ้าคุณพูดที่กำแพงด้านหนึ่ง แล้วให้อีกคนอยู่อีกด้าน จะได้ยินสิ่งที่คุณพูด นั่นแปลว่าที่นี่จะมีเสียงสะท้อน มีทางเดินอยู่ตรงกลาง เค้าว่าหากยืนหินแผ่นแรกตบมือหนึ่งครั้งได้ยินเสียงสะท้อนหนึ่งครั้ง หินแผ่นสองตบมือหนึ่งครั้ง ได้ยินเป็นสอง หินแผ่นที่สามตบมือหนึ่งครั้ง ได้ยินเป็นสาม ส่วนแผ่นที่สี่ ไม่มีเสียงสะท้อนเลย ระหว่างนั้นมีไกด์วัยรุ่นสาธิตให้ดูพอดี อืม คุณคิดว่าผลลัพธ์เป็นงัยหล่ะ .......

ระหว่างที่ชั้นรีบหูตาตั้ง เพื่อนร่วมทริปบางคนยังไม่มา ชั้นจ้ะเอ๋กับสิ่งนี้ มีเหรอจะปล่อยเลยผ่าน สมัยก่อนคงมีแต่พุทธา เดี๋ยวนี้มีส้มด้วย ชั้นซื้อมาหนึ่งไม้ แบ่งกับเพื่อนกิน อยากรู้ว่ามันเป็นงัย มันคือผลไม้สดค่ะไม่ผ่านการหมักดองใด ๆ เลยมีรสเปรี้ยว แค่นำมาเคลือบน้ำตาล เอ่อน้ำตาลก็แข็ง ๆ กรอบ ๆ ด้วยนะ ทีแรกชั้นคิดว่ามันหนืด ๆ ชั้นไม่แน่ใจว่าสมัยก่อนเป็นงัย แต่ชั้นกินแล้วก็ว่าพอรับได้

เขียนบล็อกมาสองสามบล็อกในที่สุดชั้นก็คิดคำออก ซุ้มประตูนี่เอง ซุ้มประตูที่ 3 แล้วจ้า และประตูตรงกลางปิดสนิทเลยเห็นมะ เราต้องเดินเข้าไปทางประตูขวามือมีตรวจตั๋วด้วย โดยมาตั๋วทัวร์คือเป็นคณะ เพราะฉะนั้นเราต้องรอคนครบและเดินเรียงหนึ่งเข้าไปทีเดียวให้ครบทุกคน

ถึงแล้วจ้า เฮ้อ เมื่อยขาสุด ๆ เห็นบันไดตรงกลางมะ ฮ่องเต้นั่งเกี้ยว คนหามเดินขึ้นบันไดซ้ายขวา ทุกที่เหมือนมีแพ็ทเทิร์นเดียวกันหมด ชั้นลืมชี้ชวนดูตอนไปวังกู้กงซิเนอะ

ไปดูด้านในกันมั่งดีกว่านะ ที่นี่หากมีพิธี ก็จะมีการจัดการบูชา และวัวเป็นพาหนะที่นำมาบูชา มะใช่นำมาฆ่าเพื่อบูชาเน้อ แต่เป็นพาหนะ และก็มะใช่พาหะด้วย เข้าใจก่อ ^^

ได้เวลาพักขา ไปดูกายกรรมปักกิ่ง ที่นั่ง V.I.P เป็นของฝรั่ง ราคาตั๋วคงแพงสมกะวีไอพีนั่นหล่ะ ที่นั่งของชั้นคือแถวสุดท้ายของ V.I.P หัวหน้าทัวร์โม้ว่า ทางนี้(พี่จีน)เค้ารู้จักกะทางโน้น(น้องไทย) เพราะเค้าเคยนำโชว์ไปจัดที่ไทยเมื่อหลายปีก่อน

เอ่อ เดี๋ยวนี้เค้ามีโชว์เพิ่มเป็นมอเตอร์ไซด์ไต่ถังด้วยเหรอเนี่ย

อาหารมื้อค่ำ จิบชา ฟังเพลง ดูโชว์เปลี่ยนหน้ากาก พร้อมคีบเป็ดปักกิ่ง เอ่อรู้สึกจะสู้ที่ฮ่องกงมะได้อ่ะนะ เค้าว่ากัน แต่ส่วนตัวชั้นเกลียดหนังทุกชนิด ดังนั้นชั้นไม่รู้หรอกว่ามันเป็นยังงัย เพราะชั้นเขี่ยหนังทิ้งกินแต่เนื้อ ^^

ปล.สองวันนี้บล็อกล่ม เน็ตอืด ขณะที่ชั้นอัพบล็อกก็ใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ เวลาชั้นขยันก็มีเหตุให้อัพบล็อกมะได้ซะงั้น พอชั้นขี้เกียจบล็อกก็ใช้งานได้รวดเร็วทันใจดี หรือว่าพวกเราชาวบล็อกสามัคคีกันขยัน รึเปล่าอ่ะ ^^

Create Date : 04 เมษายน 2555
Last Update : 4 เมษายน 2555 17:05:55 น.		9 comments
Counter : 1529 Pageviews.
Share Tweet